สารบัญ (1) Flipbook PDF

สารบัญ (1)

2 downloads 117 Views 5MB Size

Recommend Stories


Porque. PDF Created with deskpdf PDF Writer - Trial ::
Porque tu hogar empieza desde adentro. www.avilainteriores.com PDF Created with deskPDF PDF Writer - Trial :: http://www.docudesk.com Avila Interi

EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF
Get Instant Access to eBook Empresas Headhunters Chile PDF at Our Huge Library EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF ==> Download: EMPRESAS HEADHUNTERS CHIL

Story Transcript

Covid-19



จัดทำโดย ด.ญ.ธมนวรรณ นภาศรีสว่าง เลขที่18 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/7

เสนอ อาจารย์ สิริลักษณ์ รัตนีย์ศรีบัณฑิต

สารบัญ

ต้นกำเนิดของไวรัส

ภูมิคุ้มกัน





อาการ

การแพร่เชื้อ

การรักษา

ลักษณะของโรค

กลุ่มเสี่ยง

มาตรการตามสาธารณะสุ

ผลกระทบทางเศรษฐกิจของสังคม

ต้นกำเนิดของไวรัส •ต้นตอของไวรัสน่าจะมาจากการที่ไวรัสจากสัตว์ตัวกลาง ระบาดมาสู่คน •ผู้ป่วยรายแรกเท่าที่ทราบกันเริ่มมีอาการตั้งแต่วัน ที่1ธันวาคมและไม่มีความเชื่อมโยงกับตลาดต้องสงสัยใน เมืองอู่ฮั่นประเทศจีนแต่ผู้ป่วยหลายรายอาจมีมาตั้งแต่ ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนหรือก่อนหน้ านั้น •มีการเก็บตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อมในตลาดไปส่งตรวจ และพบเชื้อไวรัสและพบมากที่สุดในบริเวณที่ค้าสัตว์ป่า และสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม •ตลาดอาจเป็นต้นกําเนิดของไวรัส หรืออาจมีบทบาทใน การขยายวงของการระบาดในระยะเริ่มแรก https://www.who.int/docs/defaultsource/searo/thailand/update-28-covid-19what-we-know---june2020---thai.pdf? sfvrsn=724d2ce3_0

ภูมิคุ้มกัน ระยะสั้น •ลดลงอย่างต่อเนื่อง •ผู้ป่วยอาจยังแพร่เชื้อได้แม้มีอาการดีขึ้นสิ่งนี้นัยสำคัญ ต่อการควบคุมป้ องกันโรคในบริบทสถานพยาบาลและ ในการจำหน่ายผู้ป่วยผู้ป่วยบางรายยังคงต้องแยกกักตัว เองต่อที่บ้านหลังจากได้รับการจำหน่ายแล้ว ระยะยาว •ขณนี้ยังยังไม่หลักฐานเพียงพอเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือ ระยะเวลาของภูมิคุ้มกันที่สร้างจากสารแอนติบอดี้ที่จะรับ ประกันความเที่ยงตรงของสิ่งที่เรียกว่า"พาสปอร์ต ภูมิคุ้มกัน"หรือ"ใบรับประกันว่าไม่มีความเสี่ยง" •มีข้อกังวลว่าผู้คนอาจเข้าใจว่าตนเองมีภูมิคุ้มกันต่อการติด เชื้อครั้งที่สองและละเลยการปฏิบัติตามคำแนะนำทาง สุขภาพซึ่งอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการระบาดต่อ เนื่อง https://www.who.int/docs/defaultsource/searo/thailand/update-28covid-19-what-we-know---june2020--thai.pdf?sfvrsn=724d2ce3_0

อาการ อาการทั่วไป •มีไข้ •ไอ •อ่อนเพลีย •สูญเสียความสามารถใน การดมกลิ่นและรับรส



อาการรุนแรง •หายใจลำบากหรือ หายใจถี่ •สูญเสียความสามารถ ในการพูดหรือ เคลื่ อนไหว หรือมึนงง •เจ็บหน้ าอก

อาการที่พบไม่บ่ อยนัก •เจ็บคอ •ปวดศีรษะ •ปวดเมื่ อยเนื้ อตั ว •ท้องเสีย •มีผื่ นบนผิวหนั ง หรือนิ้วมือนิ้ว เท้าเปลี่ยนสี •ตาแดงหรือระค ายเคืองตา

https://www.who.int/docs/defaultsource/searo/thailand/update-28-covid19-what-we-know---june2020---thai.pdf? sfvrsn=724d2ce3_0

ลักษณะของโรค ก่อนมีการตั้งชื่อ โควิด-19 (COVID-19) มีการเรียกตามอาการว่า โรคปอดบวมอู่ฮั่น ที่มา จากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สำหรับประเทศไทย ได้ประกาศเป็น โรคติดต่ออันตราย การ ประกาศเป็น โรคติดต่ออันตราย ของ โรคโควิด 19 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรุนแรงโรค รุนแรงขึ้น หรือสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น การประกาศดังกล่าว เพื่อช่วยให้เจ้าหน้ าที่ สาธารณสุขทำงานในการควบคุมโรคได้ง่ายขึ้น.เพราะมีกฎหมายรองรับ
ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า ไม่ได้ประกาศเป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรง ก็ได้รับความร่วมมือกับประชาชนทั่วไปอยู่ แล้ว เช่น การขอตรวจ เพื่อการวินิจฉัยโรค การกักกันโรค 14 วัน ประชาชนทุกคน ให้ ความร่วมมือ ถ้าไม่มีประกาศ ประชาชนจะไม่ร่วมมือก็ได้ ไม่ผิดกฎหมาย แต่เมื่อมีการ ประกาศแล้ว ถ้าไม่ร่วมมือ จะถือว่าผิดกฎหมาย มีบทลงโทษ ตัวอย่างในเกาหลี การขอ ตรวจวินิจฉัย ถ้าผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมให้ตรวจ จะทำให้เกิด การแพร่กระจาย ของโรคอย่างมาก ที่เรียกว่า super spread จากคนคนเดียว (super spreader) แพร่โรค ไปได้มากมาย ซึ่งอาจสร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงได้ ในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทย เคยมีการประกาศโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงหลายครั้ง เช่นการระบาดของโรค SARS, MERS, Ebola, ประเทศไทยก็ผ่านมามาได้ด้วยดีเกือบทุกโรค โรค โควิด 19 เป็นโรคเกี่ยวกับไวรัสที่ติดเชื้อในทางเดินหายใจ ปกติโรคที่เกี่ยวกับทางเดิน หายใจมีเป็นจำนวนมากและพบได้บ่อย เช่น หวัดตามฤดูกาล และมักจะเป็นปัญหาในเด็ก ที่ ทำให้เกิดหวัด หลอดลมอักเสบ เจ็บคอ ถ้าไม่ได้ตรวจก็จะไม่รู้เลยว่าเป็นไวรัสตัวไหน เราก็ จะรักษาตามอาการ เด็กก็จะมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น และ จะป้ องกันการติดเชื้อในผู้ใหญ่ ทำให้ผู้ใหญ่เป็นโรคได้น้ อยกว่าในเด็ก โรคทางเดินหายใจที่พบในหลายโรค มักมีอาการไม่รุนแรง และไม่ค่อยมีผู้ใดให้ความสนใจ เพราะรู้ว่า จะหายเอง แต่ โควิด 19 นี้ อาจดูรุนแรงมากกว่าหวัดใหญ่ แต่น้ อยกว่าเมื่อ เปรียบเทียบกับ SARS และ MERS จึงสามารถระบาดไปได้กว้างและรวดเร็ว และต้อง ยอมรับว่า การป้ องกันการแพร่ระบาดจะทำได้ยากกว่า โรค SARS จากการระบาดของโค วิด 19 ที่ผ่านมาเพียง 2-3 เดือนแรก จำนวนผู้ป่วยที่รายงานยืนยันการตรวจเชื้อ โควิด 19 ก็มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ SARS ในอดีตมากแล้ว โควิด 19 จึงระบาดไปทั่วโลก

https://learningcovid.ku.ac .th/course/?c=2&l=1

การแพร่เชื้อ •โรคโควิด19นี้โดยหลักแล้วแพร่จากคนสู่คนผ่านทางฝอยละอองจากจมูกหรือ ปากซึ่งขับออกมาเมื่อผู้ป่วยไอหรือจามเรารับเชื้อได้จากการหายใจเอาฝอย ละอองเข้าไปจากผู้ป่วยหรือจากการเอามือไปจับพื้นผิวที่มีฝอยละอองเหล่านั้น แล้วมาจับตามใบหน้ า •ระยะเวลานับจากการติดเชื้อและการแสดงอาการ(ระยะฟักตัว)มีตั้งแต่่114วันและมีค่าเฉลี่ยใอยู่ที่5-6วันเกิน97%ของผู้ป่วยเริ่มมีอาการภายใน14วัน

•การเพิ่มจำนวนของไวรัสเกิดขึ้นในระบบทางเดินหายใจส่วนบน และในปอดมีงานวิจัยในช่วงแหกระบุว่าการเพิ่มจำนวนของไวรัสได้ ในระบบทางเดินอาหารยังไม่เป็นที่ยืนยัน •ช่วงพีคของการแพร่เชื้อน่าจะเกิดขึ้นในช่วงแรกที่แสดงอาการและ ลดลงหลังจากนั้น •การแพร่เชื้อก่อนแสดงอาการอาจเกิดขึ้นได้อย่างไรก็ตามหากไม่มี อาการไอ(กลไกหลักในการขับไวรัสออกมา)อาจกำจัดการแพร่เชื้อใน ช่วงนั้น

https://www.who.int/docs/defaultsource/searo/thailand/update-28covid-19-what-we-know---june2020--thai.pdf?sfvrsn=724d2ce3_0

กลุ่มเสี่ยง เสี่ยงต่ำ งานวิจัยระบุว่าเด็กและคนหนุ่ม สาวติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ อย่างไรก็ตามเด็กมักไม่มีอาการ รุนแรง เสี่ยงสูง ความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงของ โรคเพิ่มขึ้นตามอายุและในผู้ที่มี โรคประจำตัวเช่น ความดันโลหิต สูง โรคเบาหวาน โรคหลอด

เลือดหัวใจ โรคระบบทางเดิน หายใจเรื้อรังและโรคมะเร็ง

https://www.who.int/docs/ defaultsource/searo/thailand/upd ate-28-covid-19-what-weknow---june2020--thai.pdf? sfvrsn=724d2ce3_0

การรักษา ผู้ป่วยสีเขียว

คือผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อแต่ไม่มีอาการใดๆ หรือมีอาการไม่รุนแรง กล่าวคือ มีไข้ ไอ มี น้ำมูก ตาแดง ผื่นขึ้น และไม่มีโรคประจำ ตัวอื่นๆ ร่วม และภาพถ่ายรังสีปอดปกติ แนะนำให้กักตัวที่บ้าน (Home Isolation) หรือพักที่โรงพยาบาลสนามหรือ Hospitel เป็นเวลา 14 วัน โดยระหว่างนี้อาจจะได้ รับยาตามอาการ หรือยา Favipiravir ตาม ดุลยพินิจของแพทตย์

ผู้ป่วยสีเหลือง

ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีอาการเหนื่อย หอบ หายใจเร็ว มีปัจจัยเสี่ยงอาการรุนแรง หรือโรคร่วม เช่น อายุมากกว่า 60 ปี โรค ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรังอื่นๆ ไต เรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจแต่ กำเนิด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่คุม ไม่ได้ ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม ตับแข็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ และเม็ดเลือดขาวน้ อย กว่า 1000 ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรเข้ารับการรักษาในโรง พยาบาลเป็นระยะเวลาอย่างน้ อย 14 วัน แพทย์อาจมีการให้ยา Favipiravir ร่วมกับยา Corticosteroid ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ แพทย์

ผู้ป่วยสีแดง

คือผู้ป่วยที่มีอาการหอบเหนื่อย หายใจ ลำบาก เอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง มี ภาวะปอดบวม ความอิ่มตัวของเลือดน้ อย กว่า 96% หรือการลดลงของออกซิเจน มากกว่า 3% หลังออกแรงของค่าที่วัดได้ใน ครั้งแรกที่ออกแรง ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะต้องได้ รับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ในผู้ป่วยสีแดง แพทย์จะให้ Favipiravir เป็นเวลา 5-10 วัน โดยอาจให้ร่วมกับ Lopinavir/Ritonavir เป็นเวลา 5-10 วัน ร่วมกับ Corticosteroid ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรง แพทย์ อาจจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ (HighFlow Nasal Cannula) รวมถึงเครื่องมือ เพื่อประคับประคองการทำงานของอวัยวะ ต่างๆ ในผู้ป่วยวิกฤติ

https://www.doctorraksa. com/th-TH/blog/covid19.html

มาตรการตามสาธารณะสุข •การกักกันคือการกำจัดกิจกรรมต่างๆหรือการแยก ผู้ที่ไม่ป่วยแต่อาจมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย โควิด19จุดประสงค์คือเพื่อป้ องกันการแพร่ระบาด ของโรคในห้วงเวลาที่คนเริ่มมีอาการ •การแยกกักหมายถึงการแยกผู้ป่วยที่มีอาการของ โรคโควิด19และอาจแพร่เชื้อได้จึงทำเพื่อป้ องการ ป้ องกันการเเพร่ระบาดของโรค •การเว้นระยะคือการอยู่ห่างกันและกันองค์การ อนามัยโลกแนะนำให้เว้นระยะอย่างน้ อย1เมตร จากผู้อื่นส่วนนี้เป็นมาตรการทั่วไปที่ทุกคนควรทำ ถึงแม้ว่าจะแข็งแรงดี •การติดตามผู้สัมผัสโรคทำเพื่อระบุหาคนที่อาจมี ประวัติสัมผัสโรคเพื่อที่จะแยกกักออกไปโดยเร็ว



https://www.who.int/docs/defaultsource/searo/thailand/update-28covid-19-what-we-know---june2020--thai.pdf?sfvrsn=724d2ce3_0

ผลกระทบทางเศรษฐกิจของสังคม •การระบาดไปทั่วในวงกว้างของโรคโควิด19และ วิกฤตทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์นี้ทำให้ เกิดความท้าทายใหญ่หลวงในระดับโลกและระดับท้อง ถิ่น •ผลกระทบทางสุขภาพเศรษฐกิจและสังคมเกิดขึ้นกับ กลุ่มคนทุกกลุ่มแต่บ่อนทำลายกลุ่มประชากรเปราะ บางมากที่สุดซึ่งรวมถึงคนยาจก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เยาวชนและกลุ่มคนชาติพันธุ์ •วิกฤตทางโรคระบาดและเศรษฐกิจกระทบต่อกลุ่ม ประชากรเปราะบางอย่างไม่เป็นธรรมซึ่งอาจจุดชนวน ให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันและความยากจนมากขึ้น •วิกฤตโลกในครั้งนี้ต้องการการประสานงานความเป็น อันหนึ่งอันเดียวกันและนโยบายทางเศรษฐกิจสังคม และสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ

https://www.who.int/docs/defaultsource/searo/thailand/update-28covid-19-what-we-know--june2020---thai.pdf? sfvrsn=724d2ce3_0

Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.