แบบ12 Flipbook PDF

แบบ12

20 downloads 116 Views 2MB Size

Recommend Stories


Porque. PDF Created with deskpdf PDF Writer - Trial ::
Porque tu hogar empieza desde adentro. www.avilainteriores.com PDF Created with deskPDF PDF Writer - Trial :: http://www.docudesk.com Avila Interi

EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF
Get Instant Access to eBook Empresas Headhunters Chile PDF at Our Huge Library EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF ==> Download: EMPRESAS HEADHUNTERS CHIL

Story Transcript

แผนธุรกิจชุมชน CBMC

☺️ สวัสดีค่ะ ชื่ อ นางวิลาสิ นี อ้ วนคา สิ นค้ า ข้ าวหมากสุ ขภาพ กลุ่มที่ 7 จังหวัดเลย

ห้ องเรี ยนที่ 7

โปรไฟล์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

บรรยาย 1.1 ทาความรู้จกั : แผนเพิ่มรายได้ ขยายกิจการ : เรี ยกง่ายๆว่า แผน 9 ข้ อ 5 ช่อง ซึง่ จริ งๆ คือ แผนธุรกิจเพื่อชุมชน ภาษาอังกฤษ คือ Community Business Model Canvas ชื ้อย่อ คือ CBMC นันเอง ้

9 ประกอกด้ วย แนวทางการตลาด 4 ข้ อ cbmc ข้ อ 1-4 หรื อ "ทาอย่างไรให้ ขายได้ ขายดี มีลกู ค้ าประจาที่ติดใจซื ้อซ ้าบอกต่อ แบบแฟนคลับ" แนวการเพิ่มรายได้ ขยายกิจการ 1 ข้ อ คือ cbmc ข้ อที่ 5 หรื อ "จะมีกินมีใช้ อย่างไรให้ ผาสุกยัง่ ยืน"

แนวทางการจัดทาแผนดาเนินงาน (Operation Plan) 5 ช่อง จานวน 4 ข้ อ คือ ข้ อ 6-ข้ อ 9

5 ช่อง ได้ แก่ ทาอะไร อย่างไร เสร็จเมื่อไร ใครรับผิดชอบ บริ หารทุนอย่างไรลักษณะเฉพาะของ ลักษณะเฉพาะของ cbmc ลักษณะเฉพาะของ cbmc 1.ชาวบ้ าน "ทาได้ ใช้ เป็ น เห็นผล"ผลที่ว่าคือ "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายกิจการ" 2.ใช้ สิ่งรอบตัวหรื อจุดแข็งของความเป็ นบ้ านนอก มาทาเป็ นสินค้ าและบริ การ เพื่อเพิ่มรายได้ ขยายกิจการ (cbmc ข้ อ5 ข้ อ7 และ 8) 3.ใช้ โทรศัพท์มือถือ ให้ เกิดประโยชน์ (cbmc ข้ อ 1-4) 4.ใช้ หนึง่ สมองสองมือ การร่วมแรงร่ วมใจ เป็ นการลดรายจ่าย ขยายกิจการ (cbmc ข้ อ 7 และ 8) 5.มีแผน5 ช่อง เป็ นตัวกากับ ให้ เกิดการบริ หารแบบมืออาชีพ 6.เหมาะสาหรับคนที่ เอาจริ ง ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่ท้อแท้ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง ใส่ใจความผาสุกร่วมกันถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน 7.ทัง้ 9 ข้ อ กับ 5 ช่อง ทุกข้ อล้ วนสัมพันธ์กนั อย่างต่อเนื่อง ถ้ าติดกระดุมเม็ดแรกผิด ก็จะเหมือนรถไฟตกราง

ก่อนจะถึงบันได4 ขันการตลาดเรามาดู ้ กนั ก่อนว่า การตลาดสาหรับการทามาหากินทามาค้ าขาย แบบบ้ านนอกอย่างเราเรานี ้จะได้ ตงั ค์เยอะๆได้ อย่างไร? ลูกค้ าคือผุ้จ่ายตังค์ เราทาของมาขาย ก็คงอยากขายได้ เยอะๆ ขายได้ สม่าเสมอ ขายได้ ตลอดไป จะขายได้ เยอะๆ ก็ต้องมี'ลูกค้ าเยอะๆ' จะขายได้ สม่าเสมอก็ต้องมี'ลูกค้ าประจา' ดังนันถ้ ้ าจะขายได้ เยอะๆ ขายได้ สม่าเสมอขายได้ ตลอดไป ก็ต้องมี 'ลูกค้ าประจาเยอะๆ'ลูกค้ าประจาเยอะๆนี่แหละ คือ หัวใจของการ "เพิ่มรายได้ ขยายกิจการ" แล้ วเราจะหาลูกค้ าประจาเยอะๆได้ อย่างไร? วิธีง่ายๆก็คือ ลองย้ อนดูตวั เราเองเคยไหมเรา"ติดใจ"สินค้ า หรื อบริ การของ ร้ านใดร้ านหนึง่ เช่น ร้ านก๋วยเตี๋ยว ร้ านส้ มตา เราก็มกั กลับไป "ซื ้อซ ้า" ร้ านนี ้ประจา แถมยัง 'บอกต่อ' ให้ คนอื่นมาซื ้ออีกด้ วย! แสดงว่า เรา 'ติดใจ' เรา 'ซื ้อซ ้า' เรา 'บอกต่อ' = เราเป็ น ลูกค้ าประจา# ของร้ านนี ้ไปแล้ ว

เช่นกัน เราเป็ นผู้ขาย ถ้ าเราทาให้ ลกู ค้ า "ติดใจ ซื ้อซ ้า บอกต่อ สินค้ าของเราได้ "ก็เท่ากับ เราหาลูกค้ าประจาได้ แล้ วเช่นกัน ลูกค้ าประจาคือลูกค้ าที่ 1.เขาติดใจเราแล้ ว 2.เชื่อถือเราแล้ ว เรามีสินค้ าอื่นๆ เขาก็มกั จะเลือกซื ้อสินค้ าอื่นๆดังกล่าว จากร้ านเราก่อนร้ านอื่น เท่ากับว่า ถ้ าเรามีแผนที่ดีในการที่จะทาให้ เกิดกลุม่ ลูกค้ าประจาเพิ่มขึ ้นเรื่ อย คล้ ายๆเป็ นแฟนคลับนอกจากเราจะขายสินค้ าตัวเอกได้ มากขึ ้น เรื่ อยแล้ ว สินค้ าตัวอื่นๆของเราก็ยงั จะขายให้ ลกู ค้ าประจา กลุม่ นี ้ได้ อีก รายได้ ก็เพิ่ม กิจการก็ขยาย…..

บรรยาย 1.2 แนวทางการตลาด บันได 4 ขันสู ้ ่ "ติดใจ ซื ้อซ ้า บอกต่อ" (cbmc ข้ อ 1-4) เรื่ องเล่า ก่อนเข้ าเรื่ อง การเป็ นสาวคูแ่ ฝดหน้ าตาดี ไปไหนใครเห็น ก็โดดเด่นสะดุดตา คนพี่นิสยั ออกหวานๆเรี ยบร้ อย คนน้ องออกไปทางสาวเปรี ย้ ว คนพี่มี 'ความอ่อนหวาน' เป็ นเสน่ห์ คนน้ องมี 'ความเปรี ย้ ว'เป็ นเสน่ห์ ความมีเสน่ห์ที่ "แตกต่าง" กันนี ้เอง ย่อม'โดนใจ' ชายหนุ่มที่มี'รสนิยมต่างกัน'กลุม่ หนึง่ ชอบสาวหวาน อีกกลุม่ ชอบสาวเปรี ย้ ว ผู้ชายกลุม่ ที่ชอบสาวหวาน ก็มี สเปค (spec) แบบหนึง่ เช่น ทางานoffice ชอบอ่านหนังสือ เป็ น familyman อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับสาวหวาน ฯลฯ ผู้ชายที่ชอบสาวเปรี ย้ วก็มี สเปกเป็ นอีกแบบหนึง่ เช่น ชอบเที่ยว ชอบดนตรี แต่งตัวตามแฟชัน่ ออกเจ้ าชู้ อายุ 20 - 60 (เฒ่าหัวงู) ฯลฯ จะเห็นว่า 1.สองสาวโดดเด่นเหมือนกัน 2.แต่เสน่ห์ 'แตกต่าง' กันชัดเจน

3.จึง 'โดนใจ'กลุม่ เป้าหมาย ที่มีรสนิยม ต่างกัน ความมีเสน่ห์ที่แตกต่างกาหนด 'ความโดนใจ' ต่อกลุม่ ชายหนุ่มที่มีรสนิยมแตกต่างกันตามไปด้ วย ถ้ าเป็ นสินค้ า ก็เรี ยกว่า 'กลุม่ ลูกค้ าเป้าหมายคนละกลุม่ กัน' ถ้ าเราค้ นหาจนเจอว่า สินค้ าตัวเด่นหรื อตัวเอกของเรา มีเสน่ห์ที่แตกต่างจากสินค้ า แบบเดียวกันของร้ านอื่นอย่างไร และเราค้ นจนเจอความแตกต่างนันอย่ ้ างละเอียด เท่ากับ เราได้ ล ้าหน้ าคูแ่ ข่งไปก้ าวหนึง่ โอกาสที่ลกู ค้ าจะสนใจเรามากกว่าร้ านอื่นจึงสูง แต่..แต่ ! ถ้ าลืมนึกว่า เสน่ห์คนละแบบย่อม โดนใจกลุม่ ลูกค้ า คนละกลุ่ม ถ้ าเผลอเอาสินค้ าเสน่ห์สาวหวาน ไปขายให้ กลุม่ ลูกค้ าที่ชอบเสน่ห์แบบสาวเปรี ย้ ว แบบนี ้ก็คงตกม้ าตาย แต่ถ้าเอาสินค้ าเสน่ห์สาวเปรี ย้ วเสนอขายกลุม่ ลูกค้ าที่ชอบเสน่ห์สาวเปรี ย้ ว แบบนี ้ เจอปุ๊ บ ซื ้อปั๊ บ แน่นอน

การค้ นหา เสน่ห์ที่แตกต่างของสินค้ า 'อย่างละเอียด'และ การค้ นหารสนิยมเฉพาะ 'อย่างละเอียด'ของกลุม่ ลูกค้ าเป้าหมาย จึงเป็ นสองจุดเริ่ มต้ น ของความสาเร็จที่สาคัญ ของกิจการเล็กๆแบบบ้ านนอกอย่างเราเรา

แนวทางการตลาด cbmc มีบนั ได 4 ขันเพื ้ ่อผูกใจให้ เกิดกลุม่ ลูกค้ าประจาเพิ่มขึ ้นๆ ขันที ้ ่1 ค้ นหาเสน่ห์สินค้ าตัวเอกของเรา เพื่อดึงดูดกลุม่ ลูกค้ าเป้าหมายมาเป็ นลูกค้ าประจา (cbmc ข้ อที่ 1) ขันที ้ ่2 ค้ นหาสเปคของกลุม่ ลูกค้ าเป้าหมาย เพื่อเจอปุ๊ บซื ้อปั๊ บ (cbmc ข้ อที่ 2) ขันที ้ ่3 ช่องทางสื่อสารถึงกลุม่ ลูกค้ าเป้าหมายให้ สนใจเสน่ห์สินค้ าตัวเอก เปิ ดการขาย ปิ ดการขาย (cbmc ข้ อที่3) ขันที ้ ่4 บริ การประทับใจ ก่อนและหลังการขาย เพื่อได้ ใจกลุม่ ลูกค้ าเป้าหมาย ให้ มาเป็ นลูกค้ าประจาหรื อแฟนคลับแบบ 'ติดใจ ซื ้อซ ้า บอกต่อ'

(cbmc ข้ อที่ 4)

การบ้ าน ข้ อที่ (1) ชื่ อ นางวิลาสิ นี อ้ วนคา สิ นค้ า ข้ าวหมากสุ ขภาพ กลุ่มที่ 7 จังหวัดเลย การบ้ าน(1). (1) เสน่ ห์สินค้ าของเราคือ: เป็ นข้ าวหมากเพื่อสุขภาพที่มีสารโปรไบโอติกส์ ช่ วยระบบย่ อยอาหารที่ดี มากมีผ้ ูสนใจบริโภคกันมากขึน้ การบ้ าน(1). (2) ลูกค้ าแบบไหน: ที่เห็นสินค้ าของเราแล้ วน่ าจะมีอาการ "เห็นปุ๊ บอยากซือ้ ปั๊ บ"

ตอบ

ผูท้ ี ร่ ักสุขภาพต้ องการบริโภคเพื่อสุขภาพและยังเป็ นอาหารว่างที่อร่อยมีประโยชน์ตอ่ สุขภาพ

การบ้ าน (1). (3) พวกเขาอยู่ท่ ไี หนได้ บ้าง? ตอบ

บ้ านแม่รีสอร์ ทที่เชียงคาน เลยและสัง่ ซื ้อได้ ทางออนไลน์

จะหาพวกเขาเจอได้ อย่างไร? ตอบ

เพจข้ าวหมากสุขภาพเชียงคาน

เจอแล้ ว จะแนะนาให้ ร้ ูจกั เสน่ห์ของสินค้ าเราได้ อย่างไร ? ตอบ

มีสินค้ าตัวอย่างให้ ดแู ละมีผลิตภัณฑ์ให้ ชิม

การบ้ าน (1). (4) ส่ งของอย่ างไรให้ ประทับใจ ตอบ

ส่งตรงเวลาและสินค้ าอยูใ่ นสภาพที่สมบูรณ์ที่สดุ

จ่ายเงินอย่างไรให้ สะดวกสบาย ตอบ

สามารถชาระได้ ทกุ ช่องทาง ไม่วา่ เป็ นเงินสด โอน เก็บปลายทาง

บริการก่อนและหลังการขายอย่างไรให้ ติดใจ ซื ้อซ ้า บอกต่อ ตอบ

สินค้ าดีมีคณ ุ ภาพ บริ การดี มีบริการหลังการขายโดยการสอบถามและฟั งเสียงตอบรับจากลูกค้ า

💡ข้ อคิดชวนคุย 1 "เรามีของดี ที่ทาให้ คนอื่นรวย" สินค้ าและบริ การที่มีจาหน่ายในโลกนี ้ ล้ วนแต่มีจดุ ตังต้ ้ นมาจากดิน น ้า ฟ้า อากาศ ทังสิ ้ ้น หรื อจะกล่าวว่า ธรรมชาติเป็ นแหล่งกาเนิด ของกิน ของใช้ สินค้ าและบริ การทังมวลก็ ้ น่าจะกล่าวได้ ใครที่สามารถนาไปดัดแปลงใช้ ได้ มากกว่ามีประสิทธิภาพกว่า ก็ได้ ประโยชน์มากกว่า บ้ านนอกคือที่ที่มี แหล่งกาเนิดของของกินของใช้ สินค้ าและบริ การมากที่สดุ ของประเทศ ก็คือ คนบ้ านนอกมีแหล่งกาเนิดสินค้ าและบริ การ หรื อธรรมชาติ มหาศาลอยู่ ในมือ ส่วนนักธุรกิจมีแหล่งกาเนิดของกินของใช้ น้อยกว่าคนบ้ านนอกมาก แต่มีความสามารถในการ ดึงดูดและดัดแปลงแหล่งกาเนิดของกินของใช้ ไปเป็ นสินค้ าและบริ การได้ เก่งกว่า จึงร่ าจึงรวยกว่า ด้ วยการรู้จกั ใช้ แหล่งกาเนิดของกินของใช้ ที่คน บ้ านนอกมีนี ้ไปหาประโยชน์ "เรามี เขาใช้ เป็ น เขาได้ ประโยชน์ เราจึงจนลงทุกวัน" วงจร…..เราเกิดมาพร้ อมธรรมชาติรอบตัว เราจึงได้ เรี ยนรู้ในการอยู่กบั ธรรมชาติและชาวบ้ านด้ วยกัน นัน่ คือเรามีภมู ิปัญญาเฉพาะถิ่นติดตัวมา ตังแต่ ้ เกิด เรามีของกินของใช้ จากการดัดแปลงธรรมชาติมาใช้ อย่างพอเพียง และถ้ ามีมากเราก็ขายตามเท่าที่ทาได้ เราเก่งในการใช้ ชีวิตอยู่กบั ธรรมชาติ ด้ วยภูมิปัญญาเฉพาะถิ่น ผู้ประกอบการในเมืองและนอกประเทศ ดึงดูด ธรรมชาติออกไปจากเรา นาไปดัดแปลงเป็ นสินค้ าและบริ การ ด้ วยปั ญญาสมัยใหม่ แล้ วส่งกลับมาขายเราในรูปสินค้ าและบริ การที่ทนั สมัยในราคาที่ สูงกว่า เท่ากับ ความสามารถในการดัดแปลงด้ วยปั ญญา สมัยใหม่ มีราคาค่างวดสูงกว่า ราคาของแหล่งกาเนิดสินค้ าที่ถกู ดัดแปลงเบื ้องต้ นด้ วยปั ญญาเฉพาะถิ่นของชาวบ้ านหลายเท่า เรา ธรรมชาติ+ ปั ญญาเฉพาะถิ่น +แรงกาย =>วัตถุดิบ

…….ธุรกิจเอกชน

วัตถุดิบ =>สินค้ าและบริ การ เท่ากับ เราเป็ นผู้ซื ้อของกินของใช้ ที่เราเป็ นผู้ทาวัตถุดิบ มาใช้ ในรูปของสินค้ าและบริ การในราคาที่สงู ส่วนต่าง ราคาสินค้ า ลบด้ วย ธรรมชาติ+ภูมิปัญญา+แรงงานเรา เท่ากับกาไรของผู้ประกอบการภายนอก กลับกัน ถ้ าวันนี ้ เรามีแผนธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ 9 ข้ อ 5 ช่อง ที่สามารถใช้ ทงั ้ ภูมิปัญญาเฉพาะถิ่นดัดแปลงแหล่งกาเนิดสินค้ าและบริ การที่อยู่ข้างตัวเรา อย่างมีปัญญาสากล ผ่านมือถือและภาคี(ทุนข้ อที่ 8 ) มาเป็ นเครื่ องมือ เราน่าจะพลิกฟื น้ คืนชีวิตที่ผาสุกให้ ครอบครัว และชุมชนเราได้ ดีขึ ้นไหม? เป็ นคาถามที่ท้าทาย ลองติดตามอ่าน ชวนคิดชวนคุย ชุดต่อไปอาจช่วยให้ มีคาตอบ

💡ชวนคิดชวนคุย 2 ทาไมต้ องมีแผนทามาหากิน ทามาค้ าขายแบบลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายกิจการ หรื อทาไมต้ องมีแผนธุรกิจเฉพาะสาหรับชาวบ้ าน? ธุรกิจชุมชนต่างกับธุรกิจเอกชน อย่างไร? ธุรกิจชุมชนที่มีแผน 9 ข้ อ 5 ช่อง คือการทามาหากินทามาค้ าขายแบบเก่งการใช้ ภมู ิปัญญา รู้จกั นาปั ญญาสากลโดยเฉพาะ 4G 5G มาเป็ น เครื่ องมือ เก่งลงมือทา เก่งร่วมมือเป็ นเครื อข่าย มี ()หัวใจอยู่ที่ร้ ูจกั ใช้ จดุ แข็งของบ้ านนอกเป็ นฐาน สาคัญในการดาเนินการ ธุรกิจเพื่อชุมชนมีเป้าหมาย เพื่อความผาสุกร่วมกันทังครอบครั ้ ว ชุมชน โลก ที่คานึงถึงความผาสุกร่วมกันจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน(คานึงถึงความยัง่ ยืน) โดยจาเป็ นต้ องลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายกิจการ จึงจะลืมตาอ้ าปากได้ 🏡ธุรกิจเอกชน มุ่งกาไรสูงสุด ใช้ เงินต่อเงิน มีการประกอบการอย่างเป็ นระบบ มีประสิทธิภาพ ใช้ เงินเป็ นตัวตัง้ ต้ องใช้ เงินซื ้อปั จจัยทางการผลิต 4 M คือ ซื ้อวัตถุดิบ เครื่ องจักรเทคโนโลยี จ้ างแรงงาน จ้ างมืออาชีพมา บริ หารจัดการ กู้เงินมาลงทุน มีเครื่ องมือบริ หารที่สาคัญที่มีประสิทธิภาพสูงเรี ยกว่า Business Model Canvas เรี ยกย่อๆว่า BMC เป็ นอาวุธ เรี ยกได้ ว่าภาคเอกชนมี BMC เป็ นอาวุธหรื อกระบองของยักษ์ ก็ได้ BMC ถ้ าไม่มีเงินทาไม่ได้ แต่ภาคเอกชน ต้ องพึง่ พา การซื ้อวัตถุดิบราคาถูก จ้ างแรงงานราคาถูกจากบ้ านนอก ไปเข้ ากระบวนการประกอบการ แล้ วเปลี่ยนเป็ นสินค้ าราคาแพงออกมาขาย ซึง่ บ้ านนอกเราก็ต้องซื ้อสินค้ าราคาแพงเท่าคนเมือง กลายเป็ นซื ้อของถูกจากบ้ านนอก แล้ วก็นา กลับมาขายให้ บ้านนอกในราคาที่แพง เป็ นการดูดเอามูลค่าส่วนเกินจากบ้ านนอก ไปเลี ้ยงดูความมัง่ คัง่ ให้ คนเมือง จะเห็นว่า ถ้ าชาวบ้ านจะทา ธุรกิจ แบบเดียวกับภาคเอกชน คือใช้ เงินลงทุนทุกอย่าง แล้ วผลิตแบบมากๆ ขายปริ มาณมากๆ (mass market) เราไม่มีทางสู้เขาได้

การที่ชาวบ้ านจะเอากระบองยักษ์ ไปสู้กบั ยักษ์ แค่เราแบกกระบองก็ยงั แบกไม่ไหวแล้ ว ก็มีแต่แพ้ กบั แพ้ ดังนัน้ เราหันมาดูว่าเรามีอะไรจะสู้กบั ยักษ์ ได้ ในชนบทมีจดุ แข็งคือ มีธรรมชาติที่มาคูก่ บั ภูมิปัญญาเฉพาะถิ่น คือคนเกิดริ มคลองก็มีภมู ิปัญญาแบบชาวคลอง เช่น ว่ายน ้า พายเรื อเก่ง คนเกิดในป่ าก็มีภมู ิปัญญาใน เรื่ องการใช้ ชีวิตอยู่กบั ป่ า ฯลฯ ธรรมชาติจะฝึ กให้ เราเก่งในการดารงชีพในบริ บทนันๆ ้ เรี ยกว่าเก่งในการทามาหากินทามาค้ าขายต ามบริ บ ทพื ้นที่ ความเก่งนี ้นี่แหละ เรี ยกว่า ภูมิปัญญาเฉพาะถิ่น ภูมิปัญญาเฉพาะถิ่น ทาให้ เกิด อัตลักษณ์และเป็ นที่มาของอัตลักษณ์สินค้ าและบริ การเฉพาะถิ่นที่โดดเด่น แตกต่างกันไป ภาษาการตลาดเรี ยกว่า จุดขาย ภาษา cbmc เรี ยกว่า เสน่ห์ มีมือถือให้ นาปั ญญา 5 G มาใช้ มีโครงการของรัฐมากมายมาสนับสนุน ที่สาคัญมีวิถีความร่ วมคิดร่วมทาของชาวบ้ าน เราคงผลิตสินค้ าแบบภาคธุรกิจเอกชน หรื อเห็นช้ างขี ้ ขี ้ตามช้ างคงไม่ได้ ถ้ าเราผลิตมากก็ต้องขายผ่านพ่อค้ าคนกลาง เท่ากับผลิตมากกาไรน้ อย ก็ จนเหมือนเดิม ดังนันเราจึ ้ งต้ อง 1.ใช้ จดุ แข็งของบ้ านนอกมาทดแทนเงิน เพื่อ ลดต้ นทุน 2. ผลิตน้ อยกาไรมาก ที่เรี ยกว่า "ตลาดลูกค้ ารสนิยมเฉพาะ" (niche market -สร้ างแฟนคลับ) เป็ นการเพิ่มรายได้ ขยายกิจการ 3.ดัดแปลง กระบองของยักษ์ คือ BMC มาเป็ นอาวุธที่เหมาะมือชาวบ้ านนอกจึงเกิดขึ ้น เรี ยกว่า CBMC ย่อมาจาก Community Business Model Canvas หรื อ แผนธุรกิจเพื่อชุมชน โดยทีมครูพี่เลี ้ยงของท่านทีมนี ้แหละ เป็ นผู้ร่วมกันพัฒนา cbmcขึ ้นเมื่อ 5 ปี ที่แล้ ว เราตังชื ้ ่อพวกเราว่า "กลุม่ หนึง่ สมองสองมือ" โดยพัฒนามาตังแต่ ้ 2560 จนมาสอนทางonline 6 วันนี ้ แผน 9 ข้ อ 5 ช่อง ก็คือแผนการเพิ่มลูกค้ าประจา การที่เราสามารถลดการใช้ เงินหรื อ "ลงเงินต่า" แต่ผลิตสินค้ าคุณภาพดี เป็ นอีกหัวใจ() ที่ทาให้ เราขายสินค้ าคุณภาพดีในราคาที่แข่งขันได้ ของดี ราคาหมาะสมมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น บริ การดีมีน ้าใจ เป็ นจุดขายที่ทาให้ ใครๆก็อยากซื ้อ อยากมาเป็ นลูกค้ าประจาของเรา แผน 9 ข้ อ 5 ช่องก็จึงเป็ นทัง้ แผนลดรายจ่าย และแผนเพิ่ม รายได้ ขยายกิจการ ในแผนเดียวกัน งันมาท ้ าความรู้จกั แผน 9 ข้ อ กับ 5 ช่องกันดีกว่าว่ามันเป็ นอย่างไร 9 ข้ อ คือ แนวการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายกิจการ โดยมุ่งลูกค้ าประจา มีอยู่ 9 เรื่ อง เรี ยกสันๆว่ ้ า 9 ข้ อ แบ่งออกเป็ น 2 ชุด 5 ข้ อแรก เรี ยกว่า แนวทางการตลาด บันได4ขัน้ (cbmc ข้ อที่ 1-4 ) และแนวทางการเพิ่มรายได้ ขยายกิจการ (cbmc ข้ อที่ 5) 4 ข้ อหลัง เรี ยกว่า แนวทางการจัดทาแผนดาเนินงาน 6 เดือน/1ปี /3ปี

ประกอบด้ วย cbmc ข้ อที่ 6 คือ กิจกรรมหมวดสาคัญๆที่ต้องทาให้ เกิดรายได้ ขยายกิจการ และกิจกรรมย่อย เพื่อจัดทาแผน 5 ช่อง(แผน 3 เดือน 6 เดือน.....) cbmc ข้ อที่ 7-9 คือ กิจกรรมการบริ หารทุนให้ ใช้ เงินน้ อยที่สดุ เพื่อลดรายจ่ายอย่างได้ คณ ุ ภาพ คาว่า "5 ช่อง" คือตารางที่บอกว่า ต้ องทาอะไร ใครรับผิดชอบ เสร็จเมื่อไร บริ หารทุนอย่างไร เรี ยกเป็ นภาษาธุรกิจว่า แผนดาเนินงาน ถ้ าชุมชนใช้ แผน 9 ข้ อ 5 ช่องได้ เก่ง นาจุดแข็งของชุมชนมาใช้ เป็ น ก็สามารถพลิกฟื น้ เศรษฐกิจครัวเรื อน เศรษฐกิจชุมชน ให้ เป็ นฐานค ้ายันเศรษฐกิจ ประเทศให้ มนั่ คงยัง่ ยืนได้ ก็จะเกิดความผาสุกร่วมกันถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน หรื อการพัฒนาที่มีเป้าหมายสูค่ วามยัง่ ยืน ที่องค์การสหประชาชาติเรี ยกว่า Sustainable Development Goals;SDGsนัน่ เอง

💡ชวนคิดชวนคุย 3 "จุดขาย ในสายตาผู้ซื ้อ มักจะต่างจาก จุดขายที่ผ้ ขู ายส่วนใหญ่ มักจินตนาการเอาเองว่า ของเราดีอย่างนัน้ ดีอย่างนี ้ แต่ขายไม่ออก" เวลาให้ บอกถึง เสน่ห์หรื อจุดขายของสินค้ า ผู้ขายมักจะธิบายในสิ่งที่ "เรารู้อยู่คนเดียว" หรื อ "เราว่าของเราดี"ในโลกแห่งความเป็ นจริ ง เรา เป็ นผู้ เสนอขายสินค้ าและบริ การ แต่ผ้ ตู ดั สินใจจ่ายตังค์ซื ้อ คือลูกค้ า แน่นอน เราอยากขาย แต่ถ้าผู้ซื ้อไม่ร้ ูสึกว่า "โดนใจ" เขาก็ไม่ซื ้อ ดังนัน้ "การคิดเอง เออเอง" น่าจะ ไม่รุ่ง การค้ นหาเสน่ห์ของสินค้ าและบริ การ จึงควรมองจากมุมผู้ซื ้อ เป็ นสาคัญ คือมองว่า สินค้ า แบบนี ้ 1.ควรโดนใจคนกลุ่มไหน? 2.คนกลุม่ นี ้ มีรสนิยมอย่างไร 3.และมีอะไรที่แตกต่างจากสินค้ าประเภทเดียวกันบ้ างที่จะทาให้ วินค้ าของเราโดนใจกว่า เอาง่ายๆ เวลาเราจะจ่ายตังค์ซื ้อของ เรารู้สกึ แบบนี ้ไหม? 1.อยากได้ อยากกิน สินค้ าและบริ การ ตัวนี ้จากแม่ค้าเจ้ านี ้ คือ รู้สกึ "โดน" 2. ราคาคุ้มค่า คือไม่จาเป็ นต้ องราคาถูก packaging เริ ด คือซื ้อแล้ วจ่ายตังค์แล้ วมีความสุข สบายใจ ใช้ ดี อยากมาซื ้ออีก จนบางทีอยากบอกให้ เพื่อนๆมาซื ้อเจ้ านี ้ ถ้ าใช่!

และกลับไปมองเสน่ห์สินค้ าตัวเอกที่เราเขียนพรรณนามาอย่างเริ ด มันโดนใจคนรสนิยมแบบไหน มีอะไรที่แตกต่างกว่าเจ้ าอื่นจน ผู้ซื ้อต้ องเลือกซื ้อ จากเรา และอาจจะเป็ น แฟนคลับ หรื อลูกค้ าประจาที่ ทัง้ ติดใจ กลับมาซื ้อซ ้า และอาจบอกต่อให้ คนอื่นมาซื ้อด้ วย อันตราย ไม่ควรมองจากผู้ผลิตหรื อผู้ขายเป็ นสาคัญ เพราอาจจะทาให้ "ฝั นค้ าง" "เราว่าของของเราดี ้ดี แล้ วทาไมคนไม่ซื ้อ 💡ข้ อคิดชวนคุย 4 (1) เราย้ อนไปอ่านบรรยาย 1.1 และ 1.2 อีกรอบ (2)ให้ เราย้ อนไปอ่านข้ อคิดชวนคุย อีกรอบ (ส่องกระจกบานที่ 4) 📑อ่าน คาตอบการบ้ านของเพื่อนๆ ในห้ อง(ส่องกระจกบานที่ 2) 📝ลองนาข้ อแนะนาของครูพี่เลี ้ยง มาพิจารณา(กระจกบานที่ 3) เอาข้ อสนทนากับเพื่อนๆ ตอน 1 ทุ่มมาทบทวน 💡เราอาจเลือกสินค้ าและบริ การตัวใหม่ ที่ตวั เรารู้สกึ ปิ๊ ง!กว่าตัวเดิมที่โดนกว่า หรื อ ปรับแก้ การบ้ านที่เขียนเมื่อวานใหม่ 🔸ลอง ↩️ถอยไปทาตาม 2 ข้ อ ข้ างต้ น แล้ วจะรู้สกึ ได้ เองว่า .........ทาไม นักกีฬากระโดดไกล ถึงถอยหนึง่ ก้ าว แล้ ว กระโดดไปได้ ไกลจัง! 💡ชวนคิดชวนคุย 5 กลยุทธ์การตลาดสาหรับปลาเล็ก เราลงมือเขียนแนวทางการตลาด 4 ขัน้ และวันนี ้ เรากาลังทาแนวทางการเพิ่มรายได้ ขยายกิจการ แอบมีคาถามในใจ เล็กๆซ่อนอยู่ไหมครับ"จะ ขายได้ อย่างดีตามที่คิดและเขียนไว้ ไหมหนอ?" เราลองมาทบทวนชีวิตจริ งของเราดูกนั ไหม(?) ว่า ทาไมเราขายอะไรมันก็ไม่รุ่ง พอหน่วยงานมาสนับสนุน ก็พอขายได้ พอเขาถอนตัวเราก็ 'ร่วง' หนึง่ ในความไม่รุ่งของพวกเรา คือคาว่า "ตลาดหรื อเปล่า?" เราคงคุ้นกับเสียงบ่น "ไม่มีตลาดๆ...."หน่วยงานก็ออกเงินออกทองให้ เรา ขนของไปขายที่โน่นที่นี่ พอกลับมาบ้ านก็ได้ ยินเสียงเดิมไม่มีตลาดๆ ของก็ กองอยู่เต็มบ้ าน หรื อแท้ จริ ง ตลาด มันมี แต่ไม่ใช่ตลาดของธุรกิจเพื่อชุมชน อย่างเราเรา? เอาละ! ลองมาอ่านต่อดูครับ อาจมีคาตอบ!

ตลาดมี 2 แบบ 1.ขายให้ กบั คนทัว่ ไป เอาปริ มาณมากๆไว้ ก่อน เรี ยกว่า mass market หรื อกลุม่ ลูกค้ าทัว่ ไป การตลาดแบบนี ้ ธุรกิจเอกชนทัว่ ไปเก่ง ชาวบ้ าน อย่างพวกเราก็ค้ นุ ชิน ถ้ านึกถึงคาว่า 'ตลาด' เราก็จะนึกว่า ตลาดมีแบบนี ้แบบเดียว ที่สาคัญ เราก็ถกู สอนให้ ทาตลาดแบบนี ้มาตลอด ( ?) Mass market ภาคเอกชนใหญ่เขาจะรู้ว่า คนส่วนใหญ่ต้องการอะไรก็ผลิตทีละมากๆมาขาย ต้ นทุนเขาก็ถกู ราคาก็จงู ใจกว่า พวกเราชาวบ้ านเบี ้ยน้ อยหอยน้ อย แต่อยากรวยก็ทาตามผลิตตาม "เห็นช้ างขี ้ ก็ขี ้ตามช้ าง" อะไรทานองนัน้ ก็แพ้ แน่นอน และแพ้ พงั มาตลอด เช่น ทายาสระผม สบู่ น ้ายาล้ างจาน ฯลฯ มารู้จกั ตลาดอีกแบบ กันครับ ตลาดอีกแบบ เรี ยกว่า "ตลาดเฉพาะกลุม่ " เรี ยกว่า Niche Market ก็น่าจะได้ 'ตลาดลูกค้ าเฉพาะกลุม่ ตาม รสนิยม'คือรู้ว่า ลูกค้ ากลุม่ นี ้ยม รสนิยมแบบไหน ชอบอะไร เราก็ผลิตสินค้ าที่มีเสน่ห์ตรงกับความต้ องการตามรสนิยมของกลุม่ ลูกค้ าเป้าหมายดังกล่าวนี ้ เรี ยกง่ายๆว่า ตลาดแบบ แฟนคลับ ทาไมcbmc ถึงเรี ยกว่า ตลาดแบบแฟนคลับ ขอยกตัวอย่า คนชอบเพลงลูกทุ่งก็จะเป็ นแฟนคลับของนักร้ องลูกทุง่ ที่ตนชอบ บางคนถึงกับหลงไหล (ติดใจ) นักร้ องคนนี ้ทาอะไรที่ไหนอย่างไรรู้หมด(ซื ้อซ ้า) แถมยังไปบอกไปเล่าไปชวนให้ มาเป็ นแฟนคลับเพิ่มอีก(บอกต่อ) แบบนี ้ ภาษาตลาดเรี ยกได้ ว่าลูกค้ าคนนี ้ "ภักดีตอ่ brand (brand royalty)"สังเกตดีดี นักร้ องเหล่านี ้ จะ"ดัง"มาจากเพลงเดียวก่อน (เหมือน สินค้ าตัวเอกที่เรานามาเรี ยน)

เมื่อแฟนเพลงติดใจเพลงนัน้ ก็จะอยากฟั งเพลงอื่นๆของนักร้ องคนนี ้ (สินค้ าตัวรอง) และเมื่อรู้ว่าแฟนเพลงกลุม่ นี ้ชอบเพลง styleไหนก็จะผลิต เพลงใหม่ที่โดนใจออกมาขายเรา(ทาสินค้ าใหม่) และนาผลงานของนักร้ องในเครื อมาขายควบได้ ด้วย(เอาของเพื่อนมาช่วยขาย) ข้ างต้ นคือ การบ้ าน ที่เรากาลังทาวันนี ้ กิจการของชาวบ้ านมีขนาดเล็ก จึงควรคิดว่า ผลิตน้ อย ขายได้ ราคาดี จะต้ องทาอย่างไร ไม่ต้องผลิตจานวน มากๆ ไม่ต้องยิงปื นทาตลาดแบบสะเปะสะปะ คือ (#)ยิงนัดเดียวเข้ าเป้าเลย # กิจการเล็กๆแบบชาวบ้ าน มีลกั ษณะเฉพาะถิ่น (รัก)ทาให้ สินค้ ามีความโดดเด่นแตกต่างตามไปด้ วย บ้ านนอกมีอธั ยาศัยไมตรี ทาให้ เด่นเรื่ องการบริ การ เมื่อนาภูมิปัญญาพื ้นถิ่น ซึง่ แน่นอนว่าต่างจากถิ่นอื่นมาใช้ ก็สามารถสร้ างความแตกต่าง เฉพาะลงไปได้ อีก มีโทรศัพท์มือถือ นาความรู้สากลมาเพิ่มเสน่ห์ สินค้ าพื ้นถิ่นได้ มีหน่วยงานมากมายมาส่งเสริ มด้ านเทคนิควิทยาการที่หลากหลาย เหล่านี ้ คือจุดแข็งของบ้ านนอก ตลาดเฉพาะกลุม่ จึงเป็ นช่องทางชนะของธุรกิจเพื่อ ชุมชน Cbmc จึงเน้ น ผลิตสินค้ าที่ "เราถนัด ขายให้ กบั กลุม่ ลูกค้ าขาประจาเป็ นสาคัญ "โดยเน้ นเสน่ห์ที่ตอบโจทย์ตอบใจรสนิยมเฉพาะของกลุม่ ลูกค้ า เป้าหมาย ทังลู ้ กค้ าปั นจุบนั

การบ้ าน 2 # 26 ก.พ. 65 ชื่ อ นางวิลาสิ นี อ้ วนคา ผลิตภัณฑ์ ตัวเอก ข้ าวหมากสุ ขภาพ กลุ่ม ที่ 7 จังหวัดเลย ให้ ท่านตอบคาถามต่ อไปนี ้ (1)จะทาสินค้ าตัวเอกให้ โดดเด่ น แตกต่ าง โดนใจยิ่งขึน้ ได้ อย่ างไร?

ตอบ เราคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคณ ุ ภาพเป็ นข้ าเหนียวที่ปลูกระบบอินทรี ย์อินทรี ย์ปลอดสารพิษ

คุณค่าทางอาหาร มีสารโปรไบโอติกส์ทีเกิดจากธรรมชาติสงู เพื่อช่วยระบบการย่อยอาหารสร้ างภูมิค้ มุ กันของร่างกาย และ เหมาะกับเป็ นอาหารว่างเพราะ มีรสชาติหวาน เปรี ย้ วนิดๆกลมกล่อมเหมาะสาหรับคนมีปัญหาสุขภาพเช่นระบบขับถ่าย สามารถทานได้ (2)เมื่อลูกค้ าเชื่อถือสินค้ าตัวเอกและบริการของเราแล้ ว เราจะทาให้ ลูกค้ ากลุ่มนี ้ ซือ้ สินค้ าตัวอื่นของเราที่มีอยู่ได้ อย่ างไร ? (ระบุช่ ือสินค้ าถ้ ามี )

ตอบ ควรทาโปรโมชัน่ โดยการซื ้อสินค้ าตัวเอกแถมสินค้ าทดลองตัวอื่นเพิ่มเติมไปกับสินค้ าตัวเอกเพื่อให้ ลกู ค้ าได้ ทดลอง สินค้ าและรู้จกั สินค้ าตัวอื่นเพิ่มขึ ้น (3)เรารู้ รสนิยมของลูกค้ ากลุ่มนีแ้ ล้ วว่ า ชอบสินค้ าแบบไหน เราควรจะ "ทาสินค้ าตัวใหม่ " มาขายดีไหม?อย่ างไร? (ระบุช่ ือสินค้ าถ้ ามีในใจ)

ตอบ ทาผลิตภัณฑ์ตวั อื่นเพิ่มเติมเช่นสาโท เป็ นต้ น (4)เราจะเอาสินค้ าดีดีท่ โี ดนใจลูกค้ ากลุ่มนี ้ จากเพื่อนๆมาขายด้ วยจะดีไหม? อย่ างไร?

ตอบ ดีเป็ นการช่วยเหลือเพื่อนๆในกลุม่ อื่นให้ กระจายสินค้ าได้ เพิ่มขึ ้นแต่ต้องดูราคาและคุณภาพของสินค้ าเพื่อให้ ตรงกับ ความต้ องการของลูกค้ าในกลุม่ นันๆ ้

🔛เปิ ดเรี ยนวันที่ (3)📂 วันที่ 26 ก.พ.65 บรรยาย (3) แปลงแนวคิด 2 วันที่ผ่านมาเป็ นกิจกรรมย่อยเพื่อจัดทาแผนปฏิบตั ิงาน 5 ช่อง (cbmcข้ อที่ 6) ชวนท่านลองทบทวน (')ความคิด(') เรื่ องการทามาหากินทามาค้ าขาย 2 วันที่ผ่านมาของตัวท่าน เป็ นคล้ ายๆแบบนี ้ไหม? ก่อนมาเรี ยน cbmc (ลูกศร)"คิด"อะไรได้ ก็ทาไปตามนัน้ แบบมวยวัด จบเรี ยนวันแรก (ลูกศร)เริ่ม"คิด"เป็ นขันเป็ ้ นตอน จับต้ นชนปลายเรื่ องบันได 4 ขันการตลาดได้ ้ เรี ยนวันที่ สอง ก็ได้ คิดเป็ นขันเป็ ้ น ตอนยิ่งขึ ้นว่า จะค้ าจะขายมีรายได้ เพิ่ม มีกิจการที่ขยายตัวออกไป (ลูกศร)ต้ อง"คิด" 4 เรื่ อง จะสังเกตเห็นการ "คิด"ของตัวเรา ก่อนเรี ยน (ลูกศร)"คิด" แบบหนึง่ เรี ยนวันแรก (ลูกศร)"คิด" เป็ นขันเป็ ้ นตอน เรี ยนวันที่ สอง (ลูกศร)"คิด"เป็ นขันเป็ ้ นตอนยิ่งขึ ้น ถ้ าท่านสังเกต จะพบว่า วันที่ 1 ก็เป็ น"ความคิด" วันที 2 ก็เป็ น "ความคิด"

ความคิดนันเป็ ้ นนามธรรม จึงต้ องแปลงความคิดเป็ นรูปธรรมก่อนถึงจะนาไปลงมือทาได้ แปลงความคิด ซึง่ เป็ นนามธรรม ให้ เป็ นกิจกรรม ซึง่ เป็ นรูปธรรม เอาละ! วันนี ้ แต่ละท่านจะได้ มาแปลง(ลูกศร)ความคิดที่เรี ยนมา2 วันให้ ออกมาเป็ น ตัวกิจกรรมเพื่อที่เรานาไปปฏิบตั ิได้ จากความคิดวันแรกและวันที่สอง เราจัดเป็ นหมวดหมูก่ ิจกรรมได้ 5 หมวดคือ กิจกรรมการตลาด บันได 4 ขัน้ "ใช้ เสน่ห์ดงึ ดูดใจให้ เกิดลูกค้ าประจาเพิ่ม" กิจกรรมการเพิ่มเสน่ห์สินค้ าตัวเอก "ให้ ลกู ค้ ายิ่งเป็ นแฟนคลับที่เหนียวแน่น ยิ่งติดใจซื ้อซ ้าบอกต่อ" กิจกรรมการขายสินค้ าตัวรอง "ให้ กบั ลูกค้ าประจา" กิจกรรมการทาสินค้ าใหม่มาขาย "ตามรสนิยมของลูกค้ าประจา"

กิจกรรมการนาสินค้ าดีดีของเพื่อนมาขาย"ตามรสนิยมของลูกค้ าประจา" ถึงตอนนี ้ เราก็ได้ กิจกรรมสาคัญ 5 หมวดแล้ ว ลองจินตนาการตามนะครับ น ้ามี 3 สถานะ หรื อ 3 หมวดคือ ไอน ้า น ้า น ้าแข็ง คิดก่อนเรี ยน "เหมือนเมฆหมอกละอองน ้า" สาผัสได้ แต่จบั ต้ องไม่ได้ เรี ยนวันที่ 1 เริ่มจับต้ องได้ เหมือนหยดน ้า เรี ยนวันที่ 2 จับต้ องได้ มากขึ ้น เหมือนน ้าใน โอ่ง วันนี ้ น ้าจาก 5 โอ่ง ถูกทาเป็ นน ้าแข็ง 5 ก้ อนได้ แล้ วข้ างต้ น และท่านกาลังจะนาน ้าแข็งแต่ก้อน มาทุบย่อยให้ พอดีคา เพื่อกินได้ ง่าย ขึ ้น ต่อไปนี ้ เชิญแต่ละท่านมาทาน ้าแข็ง พอดีคากันครับ ทาอย่างไร เพียงตอบคาถามว่า กิจกรรมหมวดที่ 1 ต้ องทากิจกรรมย่อยอะไรบ้ าง กิจกรรมหมวดที่ 2-5 ต้ องทากิจกรรมย่อยอะไรบ้ าง ตามการบ้ าน (3) ต่อไปนี ้ 💡ข้ อคิดชวนคุย (6) "คิด 🔺ทาฝันให้ เป็ นจริง🔺 ได้ ทาไม่ได้ คิดร้ อย ทาได้ สิบ" ชีวิตจริง เราพบกับเรื่ องราวทานองนี ้บ่อยๆ คงมีปัจจัยหลากหลายที่ทาให้ ช่องว่างระหว่างการคิดกับการทาห่างถี่กนั ที่นี ้จะไป พิจารณา 🔸เฉพาะเรื่ อง การเรี ยน 6 วันนี ้ 2 วันที่ผ่านมา เชื่อว่าแต่ละท่านคงรู้สกึ ว่า "ความคิดเรื่ องการตลาดกับเรื่ องเพิ่มรายได้ ขยายกิจการ" ที่ทา่ นเขียนการบ้ านมันก็ นัน่ ก็สขุ ใจไปส่วนหนึง่ ที่คิดได้ ทะลุขึ ้น

ถ้ าเราจบแค่เมื่อวาน ก็น่าจะได้ ประโยชน์แล้ ว เรื่ องคิดใหัทะลุนนจะว่ ั ้ ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย แต่เรื่ องที่ยากกว่าคือการทา แนวคิดของ 2 วันนันให้ ้ เป็ นจริงอย่างมีประสิทธิภาพ คือ แปลงฝันให้ เป็ นจริง หรื อจะเรี ยกว่า แปลงความคิดให้ เป็ นตังค์ ก็ได้ นี่คือ สิง่ ที่เราจะลงมือในวันพรุ่งนี ้เป็ นต้ นไป ความคิดมันฟุง้ เหมือน 'หมอก' หมอกเราเห็นได้ จางๆ สัมผัสได้ แต่ จับต้ องไม่ได้ ความคิดก็เหมือนกัน จับต้ องไม่ได้ ถ้ าจะทาให้ ความคิดจับต้ องได้ ต้ องแปลง ความคิดเป็ นกิจกรรมให้ ได้ ก่อน (=) คล้ ายๆ ทาให้ หมอก กลัน่ ตัวเป็ นหยดน ้าให้ ได้ ก่อน เมื่อเป็ นหยดน ้าแล้ ว เราก็จบั ต้ องได้ ง่าย ขึ ้น ตักมาใช้ ได้ ถ้ าความคิดเหมือนหมอก หยดน ้าก็เหมือนกิจกรรม เมื่อเราเอาหยดน ้ามาใส่รวมกันในตุม่ เราก็จะตักน ้ามาใช้ ได้ ง่ายขึ ้น 📝ก่อนเรี ยน ความคิดเรื่ องทามาหากินทามาค้ าขายน่าจะฟุง้ กระจาย เมื่อลงมือใช้ กระจก4 บานมา2 วัน ความคิดน่าจะเป็ น กลุม่ ก้ อนคล้ ายก้ อนเมฆแล้ ว🌫️ เพียงรอตกเป็ นฝนลงไปอยูใ่ นตุม่ น ้า ในตุม่ เราใช้ ประโยชน์ได้ ดีกว่าที่เป็ นเมฆหมอก แต่จะให้ หยิบจับได้ ก็ต้องแปลงให้ เป็ นก้ อนน ้าแข็ง และถ้ าจะเอามาใช้ ก็ทบุ ให้ เป็ นก้ อนเล็กๆตามต้ องการ เราก็ใช้ งาน เมฆหมอก ที่เคยฟุง้ ๆ ได้ ง่ายขึ ้นเมื่อมันแปลงเป็ นน ้าแข็งก้ อนเล็กๆตามต้ องการ เอาความคิดมาเป็ นน ้าแข็งก้ อน มันใช้ ง่ายกว่าตอนที่เป็ นละอองหมอก

⏳เมื่อเราทาความคิดให้ จบั ต้ องได้ (=)เราก็ลงมือทาความคิดให้ เกิดเป็ นตังค์ได้ ง่ายขึ ้นนัน่ เอง วันพรุ่งนี ้ ทางทีมครูพี่เลี ้ยงได้ ทาบล๊ อค สาหรับบรรจุความคิด ของ 2 วันแรกมาเป็ นบล๊ อก 5 บล็อก เพื่อให้ ทา่ นนาความคิดของ 2 วัน มาใส่ทาให้ เป็ นน ้าแข็ง หลังจากนันท่ ้ านก็ทบุ น ้าแข็งแต่ละก้ อนให้ เล็กย่อยพอดีคาตามต้ องการ น ้าแข็งที่ทบุ เป็ นก้ อนย่อย เรี ยกว่ากิจกรรมย่อยของแต่ ละหมวด ทีนี ้แหละ ท่านก็สามารถหยิบความคิดมาทาทีละก้ อนๆอย่างมีขนมี ั ้ ตอนได้ ในวันพรุ่งนี ้ ความคิดของท่านทังสองวั ้ น แรก ก็แปลงสูก่ ารปฏิบตั ิได้ แบบ ไม่ตกหล่น ระเหยหายน้ อยที่สดุ ดังนัน้ คิดได้ 100 ทาได้ ใกล้ 100 ก็จะค่อยๆเป็ นจริง นับตังแต่ ้ วันพรุ่งนี ้เป็ นต้ นไป ความคิดดีดีสองวันก่อน กับตังค์ก็จะค่อยๆอยูส่ นิทชิดใกล้ กนั แค่เอื ้อมเอง

💡ข้ อคิดชวนคุย (7) 🔺เรี ยนอย่างไร ได้ ตงั ค์จริ ง🔺 📝การเรี ยนจากชีวิตจริง ทามาหากินจริง ด้ วยการ มีแผนการเพิ่มรายได้ ที่ทาได้ จริง และลงมือทาตามแผนนันอย่ ้ างจริงจัง สตางค์ก็เพื่มพูนแต่แผนการทามาหากินที่ทาให้ ได้ ตงั ค์ ต้ องเกิดจากการไตร่ตรองที่รอบคอบรอบด้ านและมีขนมี ั ้ ตอนที่ทาได้ จริง 📍ขันตอนที ้ ่ทาได้ จริง ก็คือขันตอนที ้ ่เราลงมือเขียนแผนด้ วยตัวเอง ️การเขียนแผนด้ วยตัวเอง จะเป็ นแผนที่ตรงใจเรา เพราะ เรารู้จกั ความรู้ความสามารถของเรา เรารู้จกั สินค้ าของเรา เรารู้จกั บริบทหรื อความเป็ นจริงรอบบ้ านเรา แต่จะรอบคอบรอบด้ าน ไหม ? อันนี ้ถ้ ามี กัลยาณมิตรมาเป็ นเพื่อนคูค่ ิดมิตรคูใ่ จ เราก็จะมีความรอบด้ านขึ ้น ดังคากล่าว "หลายหัวดีกว่าหัวเดียว" การจัดให้ เพื่อนมาเรี ยนทาแผนครัง้ นี ้ จึงใช้ กระจก 4 บาน มาเป็ นเพื่อนคูค่ ิดมิตรคูใ่ จ ให้ ไตร่ตรองรอบคอบรอบด้ านขึ ้น (เอ๊ ะ) รอบคอบรอบด้ านอย่างไรฤา (เอ๊ ะ) มาดูกนั ครูใหญ่ แนะนาหลักสูตร 6 วันว่าเรี ยนอะไร อย่างไร แล้ วทุก 6 โมงเช้ าที่ห้องกลางนี ้ ครูใหญ่ก็จะมาเขียนคาบรรยายตามหัวข้ อ ที่จะเรี ยนในแต่ละวันพร้ อมให้ โจทย์การบ้ าน และจะเขียนข้ อติดชวนคุยเป็ นระยะๆ ตามที่ครูใหญ่ได้ เข้ าไปดูบรรยากาศการเรี ยนของทัง้ 10 ห้ องว่า ขณะนันๆ ้ ควรเพิ่มเติม (เอ๊ ะ)ข้ อคิดชวนคุยอะไรที่จะช่วยให้ บรรยากาศของผู้เรี ยน ปิ๊ ง (!)และเดินไปข้ างหน้ าได้ ดี คือ 👉ครูใหญ่ต้องเดินไปแอบดูทกุ ห้ องทังวั ้ น จึงจะรู้วา่ ควรเติมอะไร เมื่อไร จึงจะถูกเรื่ อง ถูกที่ ถูกเวลา และทุก 2ทุ่มครึ่ง ครูใหญ่ และครูพี่เลี ้ยงทัง้ 60 กว่า ชีวิต

จาก 10 ห้ องเรี ยนก็จะมาประเมินร่วมกันว่าต้ องปรับปรุงอะไรเพื่อให้ ผู้เรี ยนเขียนแผนที่นาไปใช้ ได้ จริงและเห็นผล นี่เป็ นบทบาท ของ เพื่อนคูค่ ิดที่ เรี ยกว่า กระจกบานที่ 4 � ขณะที่ในห้ องเรี ยนครูพี่เลี ้ยงอาสา กลุม่ ละ 7-10 คนจะมีห้องพักครูของแต่ละห้ องคอยหารื อกันเพื่อทาให้ บรรยากาศการเรี ยน เอื ้อต่อ การให้ แต่ละคนทาแผนที่รอบคอบรอบด้ านที่สดุ มุกท่านคงสัมผัสได้ จากในห้ องเรี ยนของท่านแล้ ว 👤ครูพี่เลี ้ยงตื่นแต่เช้ า มาเปิ ดห้ อง เตรี ยมพร้ อมสาหรัยผู้เรี ยน แตะมือกัน ดูแลผู้เรี ยนทังหน้ ้ าห้ อง หลังห้ อง โทรตามผู้เรี ยน คอยแนะนาในข้ อติดขัดต่างๆ ฯลฯ ขณะเดียวกันครูพี่เลี ้ยงแต่ละคนก็ต้องแบ่งเวลาไปทามาหากินเลี ้ยง ปากเลี ้ยงท้ อง ที่สาคัญแต่ละคนก็ มีงานกิจกรรมสาธารณะในหมูบ่ ้ านในชุมชนเยอะอีกตะหาก ตอนค่า ก็เปิ ดเวทีพดู คุยกับผู้เรี ยนในห้ อง 1-2 ชม. สองทุม่ ครึ่ง ก็สรุปงานร่วมกันทัง้ 60 กว่าคน ที่ห้องครูพี่เลี ้ยงรวม การจัดระบบกันเองของครูพี่เลี ้ยงแต่ละห้ อง จึงมีสว่ นช่วยให้ ผู้เรี ยนเรี ยนรู้อย่างไม่สะดุด นี่คือ �กระจกบานที่ 3 ....ทังบานที ้ ่ 3 และ 4 เป็ นคนนอก มีภารกิจคอยช่วยประคับประคองให้ ผ้ เู รี ยนเขียนแผนชีวิตจริ งที่ดีที่สดุ เท่าที่ทาได้ ✴️บทสาคัญอยูท่ ี่👉 คนเรี ยน คือ �กระจกบานที่ 1 ถ้ ากระจกบานที่ 1 เป็ นนกระจกบานที่ใส ไม่หลอกตัวเอง คือเขียนแผนตามขันตามตอนตามจริ ้ ง ก็จะบรรลุความสาเร็จแน่นอน จะเป็ นกระจกที่ใสก็ต้อง 🔸1. ทาความเข้ าใจ ว่า 6 วันเราจะเรี ยนเขียนแผนแบบไตร่ตรองรอบคอบรอบด้ านใช้ ได้ จริง ได้ ตงั ค์ ต้ องทาอะไร อย่างไร 🔸2. อ่านบรรยาย ตีโจทย์การบ้ านให้ แตก (*)อ่านชวนคิดชวนคุยประกอบ (*)อ่านการบ้ านของเพื่อนที่สง่ เข้ ามาในกลุม่ ให้ มากๆ (*)ลงมือเขียนแบบสบายๆตามจริง ส่งเข้ าหีองเรี ยนให้ เพื่อนและครูพี่เลี ้ยงอ่าน

นามาปรับแก้ เมื่อปิ๊ ง (!)ไอดียจากการได้ อา่ นของเพื่อนๆ ค่าๆ เข้ าวงคุย มาทบทวนและเขียนคาตอบที่ดีที่สดุ ไว้ ใช้ กบั ตัวเอง นี่คือกระจกบานสาคัญที่สดุ คือบานที่ 1 ส่วน�กระจกบานที่ 2 ก็คือ ข้ อเขียนคาตอบของเพื่อนๆทังหมดในกลุ ้ ม่ รวมทัง้ วงคุยตอนค่า ถ้ าทาได้ ตามนี ้ 6 วันท่านก็จะได้ แผนที่นาไปทาได้ ในชีวิตจริง และทาตังค์ให้ ครอบครัว ชุมชน มีเศรษฐกิจที่พงึ่ ตนเองได้ ยัง่ ยืน ผาสุกร่วมกันถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน หรื อที่ องค์การสหประชาชาติเรี ยกว่า การพัฒนาที่มีเป้าหมายสูค่ วามยัง่ ยืนนัน่ เอง เอาละ!..ได้ ร้ ู แล้ วว่า ทาไม เรี ยนทาแผนต้ องใช้ การไตร่ตรองสูง ทีนี ้มาดู ทาไม ถึงใช้ การเรี ยน 6 วันทาง กลุม่ line 1.ทุกคนเรี ยนได้ พร้ อมกัน โดยใช้ เวลาช่วงไหนของวันก็ได้ ในการเรี ยน เพราะข้ อความต่างๆจะอยูร่ อให้ เราหาอ่านได้ ตลอดวัน 2.มีเวลาไตร่ตรอง แก้ ไข อ่านเพิ่มเติมได้ ตลอด ปั ญญาจึงบรรเจิด 3. ฝึ กการใช้ 5 g หรื อ social mediaในการทามาหากินไปในตัว เรี ยกว่า เกิดการผสาน ภูมิปัญญาที่ติดตัวเรามากับ ปั ญญาสากลไปในตัว ขอแถมด้ วยอีก นิดว่า การอ่าน การเขียน สาคัญต่อการทาแผนที่ รอบคอบรอบด้ าน ใช้ ได้ จริง ได้ ตงั ค์อย่างไร (?) 👉สุ จิ ปุ ลิ 👈 ฟั ง 👂

คิด 🌫

อ่าน (อ่าน) เขียน (เขียยน) "พูดไม่คิด" เรามักจะได้ ยินคานี ้บ่อยมาก ฟั งไม่คิด นี่ก็บอ่ ย อ่านไม่คิด นี่น่าจะน้ อยกว่า เขียนไม่คิดน่าจะน้ อยที่สดุ จึงมีเวลาคิด 📖การอ่าน มีเวลาอยูก่ บั ตัวเองมากกว่าการฟั ง และไตร่ตรองมากกว่า ️การเขียนก็เช่นเดียวกับการอ่านคือมีเวลาคิด เวลาไตร่ตรองมากกว่าการพูด การอ่านและการเขียนจึงให้ อิสระ ปลดปล่อยมากกว่า การฟั งบรรยายและการพูด cbmcเป็ นกระบวนการเรี ยนรู้เพื่อให้ ชาวบ้ านนอกได้ ปรับเปลี่ยนความคิด และพฤติกรรม (mindset) การทามาหากินทามาค้ าขายที่เคยทาแบบมวยวัดให้ มา เป็ นแบบมวยอาชีพ

🔺การคิด

🔺การไตร่ตรอง จึงสาคัญ

ดังนัน้ การอ่านและการเขียน จึงเป็ นเครื่ องมือที่ เอื ้อต่อผู้เรี ยนให้ ทา แผน9ข้ อ5ช่องได้ ใน 6 วัน การได้ คิดได้ ไตร่ตรองเอง การได้ มีโอกาสเลือกหยิบจับประสบการณ์ของเพื่อนๆที่เหมาะกับตนเองมาปรับใช้ การได้ เขียนเองจากสินค้ าของตัวเอง ย่อมนาไปใช้ ได้ จริงเพราะเป็ นเรื่ องปากเรื่ องท้ องที่ดีกว่าเดิมของครอบครัว ของกลุม่ ตนเอง ของย้ นเกิดเมืองนอนของตนเอง เรี ยกว่า เรี ยนครัง้ นี ้ มุง่ ทาได้ ใช้ เป็ น เห็นผล cbmcจึงเขียนบรรยายให้ อา่ นตอน 6 โมงเช้ า และฝากคาถามเป็ นการบ้ านไว้ แต่ เช้ า ผู้เรี ยนสะดวกเวลาไหน ก็คิดก็ไตร่ตรอง ได้ ทงวั ั้ น เมื่อได้ คาตอบที่พอใจก็ลงมือเขียน สิ่งที่ได้ ผ่านการไตร่ตรองนันส่ ้ งให้ เพื่อนอ่านในกลุม่ เขียนแล้ วก็ยงั มีโอกาสได้ เลือกอ่าน กระจกบานที่ 2 ของเพื่อนๆ อ่านข้ อแนะนาของครูพี่เลี ้ยง (บานที่ 3) อ่านข้ อคิดชวนคุย �(บานที่ 4) ก็ยิ่งได้ ไตร่ตรองให้ รอบ ครอบรอบด้ านขึ ้นอีก ค่าๆ ก็ให้ มาคุยความรู้สกึ นึกคิดกันสัก ครึ่ง- หนึง่ ชัว่ โมง เพื่อคลายใจ (นี่คือคาตอบว่า ทาไม cbmcจึงใช้ ♥️'หัวใจนักปราชญ์ ' ในการสร้ างกระบวนการเรี ยนรู้ ให้ ชาวบ้ านนอกทาแผนลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ขยายกิจการด้ วยตัวคน บ้ านนอกเอง

การบ้ าน (3) ชื่อ วิลาสินี อ้ วนคา สินค้ า ข้ าวหมากสุขภาพ จังหวัดเลย แปลงแนวคิด เป็ นกิจกรรม เพื่อทาแผน (เขียนกิจกรรมย่ อยให้ มากข้ อ เพื่อให้ ครอบคลุมมากที่สุด) (1) กิจกรรมการตลาด ต้ องทากิจกรรมย่ อยๆ อะไรบ้ าง?

ตอบ 1.1.การวางแผนที่งานให้ เป็ นระบบ 1.2.เลือกกลุม่ เป้าหมาย 1.3.มองหาจุดขาย 1.4..เพิ่มสินค้ าเพิ่มรายได้ 1.5.มองหาช่องทางการตลาด (2)กิจกรรมการเพิ่มเสน่ ห์สินค้ าตัวเอก ต้ องทากิจกรรมย่ อยๆอะไรบ้ าง?

ตอบ 2.1 .การบริ การคือหัวใจของงาน 2.2.มีโปรโมชัน่ สัง่ 10ห่อขึ ้นแถม5 2.3.การเอาใจใส่ลกู ค้ าหลังการบริการ 2..4..สร้ างความมัน่ ใจให้ ลกู ค้ าและเอาใส่ใจ (3)กิจกรรมการนาสินค้ าตัวรองๆที่เราทาขายอยู่แล้ ว มาเสนอขายกับกลุ่มลูกค้ าประจา ต้ องทากิจกรรมย่ อยๆอะไรบ้ าง?

ตอบ 3.1.นาเสนอสินค้ าและสรรพคุณ 3.2.โชว์สินค้ าและแนะนา 3.3.ให้ ลกู ค้ าเห็นประโยชน์ใช้ สอย 3.4.ลูกค้ าถูกใจ (4)กิจกรรม ผลิตสินค้ าตัวใหม่ ท่ เี รารู้ ใจลูกค้ าขาประจาว่ า ถ้ าทาขึน้ มาแล้ ว ซือ้ แน่ ๆ ต้ องทากิจกรรมย่ อย ๆ อะไรบ้ าง?

ตอบ 4.1.ดูดีมีคณ ุ ค่า 4.2.มีประโยชน์ตอ่ สุขภาพ 4.3.ใช้ ได้ ทงครอบครั ั้ ว 4..4. ราคาหย่อมเยาว์ (5)กิจกรรม หาสินค้ าดีดีจากเพื่อนเครื อข่ ายมาขายลูกค้ าประจาของเรา ต้ องทาอะไรบ้ าง?

ตอบ 5.1.มองหาในกลุม่ cbmc 5.2.กลุม่ สินค้ าที่สอดคล้ องกับความต้ องการของเราและของลูกค้ า 5.3.ติดต่อพูดคุยกับเพื่อน 54..มองหาและเลือกสรรสินค้ าดูดี

📙การบ้ าน (4) 📝ทาตาราง 5 ช่อง กิจการของท่าน 🌫️วิธีการ ดูตวั อย่างตาราง 5 ช่องตามที่สง่ มา ทาตาราง 5 ช่องตามตัวอย่างด้ านล่าง เพื่อนามา กรอกข้ อความ กรอกคาว่า กิจกรรมการตลาดในช่องที่ 1 กรอกกิจกรรมย่อย การตลาดจากการบ้ านที่ทา่ นทาไว้ เมื่อวาน ลงในช่องที่ 2 เรี ยงทีละข้ อๆ จนครบ ใส่ชื่อผู้รับผิดชอบในช่องที่ 3 ล้ อกับกิจกรรมย่อยจนครบ ใส่ วันที่ เดือน ปี ที่กาหนดเสร็จ ล้ อกับกิจกรรมย่อยจนครบ อ่านบรรยาย 4.1เพื่อทาความเข้ าใจ เรื่ องทุน และใส่เลข 7 8 หรื อ 9 ในช่องที่ 5 ล้ อกับกิจกรรมย่อยจนครบ ย้ อนกลับมาช่องที่ 1 ดาเนินการกิจกรรมหมวดที่ 2 ถึง 5 ตามขันตอนจนครบ ้ ได้ ตะเกียงวิเศษที่มียกั ษ์ บรรจุอยูค่ รึ่งหนึง่ แล้ ว

💡ชวนคิดชวนคุย (9) เรี ยนแบบไหน ได้ กาไร แบบไหนขาดทุน 6 วันนี ้เหมือนท่านได้ รับตัว๋ เข้ าดูหนัง คนละใบ ถ้ าท่านเข้ าโรงหนังช้ า หนังฉายไปแล้ ว เข้ าไปก็นอนหลับ เข้ าไปก็มวั แต่คยุ เล่น กัน เข้ าไปแล้ วไม่สนใจดู หนังจบ ท่านย่อมได้ ประโยชน์น้อยกว่า คนที่ตงใจดู ั้ การเรี ยน 6 วัน ด้ วยกระบวนการ กระจก 4 บาน ก็เหมือนหนังรอบนี ้ที่ทา่ นได้ ตวั๋ ฟรี นี ้มา ถ้ าท่าน เข้ าห้ องเรี ยน ไม่อา่ นบรรยาย ไม่สง่ การบ้ าน ไม่อา่ นของเพื่อน ลองเทียบดูกบั คนที่ 1 อ่านบรรยายทุกเช้ า และทาความเข้ าใจโจทย์การบ้ านอย่างดี (ส่องกระจกบานที่ 4) 2.ลงมือเขียน (กระจกบานที่ 1) 3.อ่านที่เพื่อนๆเขียนเพื่อหาเก็บideaดีดีจากเพื่อนๆ (บานที่ 2) มาปรับแก้ ของเราใหม่(บานที่ 1) ส่งให้ ครูพี่เลี ้ยงให้ ข้อคิดเห็น (บานที่ 3) ปรับแก้ (บานที่ 1) อ่านข้ อคิดชวนคุยจากห้ องกลาง(บานที่ 4) นามาเขียนปรับใหม่ให้ ดีที่สดุ (บานที่ 1) หนังจบ ใครจะทาแผนธุรกิจเพื่อ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายกิจการได้ ดีกว่ากัน ? 250 กว่าคน ได้ ตวั๋ คนละใบเท่ากัน เวลา 6 วันเท่ากัน ทีมครู พี่เลี ้ยง 60 กว่าคนชุดเดียวกัน ครูพี่เลี ้ยงระดมมาจากภาคใต้ อีสาน กลาง เหนือ อาสามาร่วมด้ วยช่วยกันแบบไม่มีคา่ ตอบแทน (รัก) ตัว๋ ใบนี ้ในมือท่าน เรี ยกว่า ตัว๋ VIP จะเรี ยนแบบขาดทุน หรื อกาไร จึงอยูท่ ี่ ความมุง่ มัน่ ตังใจของท่ ้ านแต่ละคน ใครจะทาได้ ใช้ เป็ น เห็นผลใน 3 เดือน 6 เดือน ใครจะเก่งคิด เก่งเครื่ องมือ เก่งทา เก่งเพื่อน อยูท่ ี่ทา่ นใช้ ตวั๋ vip ใบนี ้ได้ ค้ มุ ค่าแค่ไหน! หมายเหตุ ผู้ที่ใช้ Cbmc ได้ ผล มักไม่เป็ นแบบนี ้ ชาล้ นถ้ วย ผัดวันประกันพรุ่ง ท้ อ กลัวการเปลี่ยนแปลง ขี ้เกียจ

แผนดาเนินงาน (Business Plan) 6 เดือน/1 ปี /3 ปี ชื่ อ นาง วิลาสิ นี อ้วนคา จังหวัดเลย ผลิตภัณฑ์ /สิ นค้ า/บริการ ข้ าวหมากเพื่อสุขภาพ กลุ่ม 7

กิจกรรมจาก Cbmc ข้ อ 6 1. การตลาด

กิจกรรมย่อย

7/9

นางวิลาสิ นี อ้วนคา

14 มี.ค.2565

7 / 9

3. 4. 5.

จะสร้าง Story telling ให้กบั ตัวเองว่ามาทาข้าวหมากสมุนไพรเพื่อสุ ขภาพนี้ได้ อย่างไร เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับส่ วนผสมเช่นสี ธรรมชาติที่ผสมได้จากพืชผักและมีประโยชน์อย่างไร กับร่ างกาย ทาโลโก้ให้ดูดีเด่นเป็ นที่จดจาง่ายเมื่อลูกค้าดูแล้วต้องบอกว่าเป็ นของแบรนด์เราแน่นอน ทา packaging ให้ดูสวยหรู ดูพรี เมี่ยมน่าซื้ อใช้น่าซื้ อฝาก ทาสิ นค้าของเราให้เป็ นสิ นค้าที่แทนความห่วงใยดูแลสุ ขภาพเหมาะกับผูร้ ับ

1. 2.

ทาแบบแจกฟรี ไปก่อนในช่วงแรกเพื่อให้ลูกค้ารู ้จกั จัดเซ็ตสิ นค้าในราคาที่เหมาะสม

นางวิลาสิ นีอว้ นคา

14 มี.ค 2565

7 / 9

1.

ให้ลูกค้าทดลองกินฟรี ก่อนถูกใจรสชาดดีแล้วให้กลับมาซื้ อและแนะนาบอกต่อหรื อซื้ อ เป็ นของฝาก

นางวิลาสิ นีอว้ นคา

4 เม.ย. 2565

7 / 9

1. 2. 3.

ติดต่อเพื่อนเครื อข่ายว่าเราจะนาสิ นค้าเข้ามาขาย ขอข้อมูลของสิ นค้านั้นๆว่าเป็ นอย่างไรคุณสมบัติ อย่างไร เขาจะส่ งให้เราในราคาทุนเท่าไหร่ แบบเขาก็ได้เราก็ได้เพื่อให้เกิดความพอใจทั้งสองฝ่ าย ค่ะเพื่อที่เราจะได้เป็ นเครื อข่ายผูป้ ระกอบการด้วยกันตลอดไปแบบมีความสุ ขค่ะ

นางวิลาสิ นีอว้ นคา

10 เม.ย 2565

7 / 9

4. 5.

1. 2.

4. ทาสิ นค้าตัวใหม่ขายลูกค้าประจา

5. นาสิ นค้าจากเพื่อนเครื อข่าย มาขายลูกค้าประจา

ใช้ ทุนข้ อ 7 /8 /9

7 มี.ค.2565

3.

3. นาสิ นค้าตัวรองๆ ที่เราทาขายอยูแ่ ล้วเสนอขาย กับกลุ่มลูกค้าประจา

วันทากิจรรมเสร็จ (ระบุ วันเดือนปี )

นางวิลาสิ นี อ้วนคา

1.

2.

2. เพิ่มเสน่ห์ สิ นค้าตัวเอก

ผู้รับผิดชอบ (ระบุชื่อ สกุล)

โพสสิ นค้าและส่ วนผสมของ สิ นค้าของเราหลายๆรู ปภาพและตกแต่งภาพให้สวยงาม น่าซื้ อลง Facebook IG LINE ทุกวันวันละ 3-4 ครั้งเพื่อสร้างภาพให้ลูกค้า จดจา โพสต์คลิปวีดีโอวิธีการทาข้าวหมากสมุนไพร เพื่อสุ ขภาพลงช่อง YouTube ติ๊ กต๊อกทุกวันวันละ 1-2 คลิปเพื่อให้ลูกค้าจดจาเราและสิ นค้าแบรนด์ของเรา ทาวีดีโอสาธิตการทาข้าวหมากสมุนไพรเพื่อสุ ขภาพ จัดชุดข้าวหมากสมุนไพรเป็ นแพ็คเกจของฝากของแทนความห่วงใยจากผูใ้ ห้ไปยังผูร้ ับ เพื่อเพิ่มความต้องการซื้ อของลูกค้า จัดโปรโมชัน่ ทุกๆอาทิตย์ให้ลูกค้าเช่นคูปองส่ วนลดซื้ อครบ 200 บาทได้รับส่ วนลด 50 บาทหรื อโปรโมชัน่ ซื้ อครบ 500 บาทได้สินค้าฟรี 3 ชิ้น หรื อถ้าลูกค้าเก่าแนะนา เพื่อนมาซื้ อสิ นค้ากับทางเราทางร้านจะให้ค่าแนะนาลูกค้า 100 บาทไปแบบฟรี ๆหรื อ โปรโมชัน่ แบบ 3 เดือน 3 เหมือนกับ shopee Lazada

📙การบ้ าน (5) 📝วิธีการทาตาราง 9 ข้ อ 📖อ่านทบทวน การบ้ านของท่านแต่ละข้ อแล้ ว คิดให้ คมชัดลึก 📍แล้ ว️เขียนสันๆได้ ้ ใจความครอบคลุม ลงในตาราง 9 ข้ อ ที่ทีมงานพี่เลี ้ยงเตรี ยมไว้ 🔸เช่น ข้ อที่ 1 เสน่ห์สินค้ า ให้ ท่านคิด ประโยคหรื อวลีสนๆ ั ้ ที่คนอ่านปุ๊ บ รู้ปั๊บว่า นี่แหละเสน่ห์สินค้ าของเรา เช่น หิวเมื่อไรก็แวะ มา เราจะนึกถึง 7-11 ความสุขที่ดื่มได้ จะนึกถึงเบียร์ ยี่ห้อหนึง่ รี เจนซี่บรั่นดีไทย จะนึกถึง บรั่นดีไทยยี่ห้อหนึง่ ทุเรี ยนภูเขาไฟ คุ้มค่า..ทุกนาที...ดูทีวี ช่องไหนครับ ฯลฯ สร้ างคาสันๆกระชั ้ บจับใส่ลงในตารางข้ อที่ 1 ส่วน ช่องที่ 7 8 และ 9 ให้ นาทุนที่ใช้ จากตาราง ช่องที่ 5 ซึง่ ข้ อ 7 คือ ทุนทาเอง ข้ อ 8 คือ ทุนร่วมมือภาคี ข้ อ 9 คือ ทุนเงิน ่่ ่่่่่่่่ โดยรวบรวมกิจกรรมที่เป็ นเลข 7 ทังหมดมาใส่ ้ ช่องตารางนี ้ รวบรวมกิจกรรมที่เป็ นเลข 8 ทังหมดมาใส่ ้ ช่องตาราง "ร่วมมือภาคี" พร้ อมชื่อย่อ หน่วยงาน ดูเลข 9 รวบรวมกิจกรรมและตัวเงินที่ใช้ ทงหมด ั้ มาใส่ช่องตาราง "ใช้ เงินลงทุน" 🔎ท่านก็จะเห็น

1.กิจกรรมทังหมดที ้ ่เราทาเอง 2.กิจกรรมที่ต้องร่วมมือกับหน่วยงาน และร่วมมือกับหน่วยงานไหนบ้ าง 3.ใช้ ตงั ค์ทงหมดเท่ ั้ าไร 🔺นี่คือ การบริ หารทุนเพื่อลดรายจ่าย ใช้ เงินน้ อย คือจุดเด่นทามาหากินทามาค้ าขายแบบ 9 ข้ อ 5 ช่อง ($)ใช้ เงินน้ อย ความเสี่ยงก็น้อย (>)ใช้ เงินน้ อย เราก็ขายของคุณภาพดี ราคาสู้คแู่ ข่งได้ ของดีราคาถูกใจ บริการประทับใจ 🌫 เราก็จะมี แฟนคลับ หรื อลูกค้ าประจาที่ติดใจ ซื ้อซ ้า บอกต่อ เมื่อมีแฟนคลับเราก็ขายได้ ตลอด ขายสินค้ ารองได้ ขายสินค้ าตัว ใหม่ถกู ใจลูกค้ าได้ ขายสินค้ าดีดีของเพื่อนได้ แบบนี ้แหละ "ขายน้ อยได้ มาก" แบบนี ้แหละ ความผาสุกของครอบครัว ชุมชน บ้ านนอกเราจะอยูค่ ลู่ กู คูห่ ลาน แบบนี ้แหละที่ เรี ยกว่า ธุรกิจเพื่อชุมชน ........ ลงตารางเสร็จ ท่านก็จะได้ Community Business Model Canvas (>)cbmc คล้ ายๆได้ โฉนด หรื อแผนที่ บอกขอบเขต ขนาดของกิจการของเรา ใช้ สาหรับกากับทิศทางการทามาหากินทามาค้ าขายของเรา ให้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายกิจการได้ จริง ไม่ต้องหลงทางเข้ าสูว่ งจรอุบาท ขายมากได้ เงินน้ อย มีของแต่ขายไม่ได้ เหนื่อยแทบตายได้ หนี ้ท่วมตัว 🔰 การได้ ตาราง 9 ข้ อและตาราง 5 ช่องก็เหมือนว่า ท่านได้ สร้ างตะเกียงวิเศษที่มียกั ษ์ ใจดีแอบอยูใ่ นตะเกียง คอยช่วยท่านทา มาหากินทามาค้ าขายแบบมืออาชีพได้ ด้วยตัวท่านเอง นัน่ เอง แบบนี ้แหละที่แผนธุรกิจเพื่อชุมชน 9 ข้ อ 5 ช่อง ช่วยให้ บ้านนอก ยังคงเป็ นสวรรค์บนดินได้ ตอ่ ไป เรามาสร้ างตะเกียงวิเศษต่อจากเมื่อวานกันเถอะ 🌍🌐🌫️💱

💡ข้ อคิดชวนคุย ( 10 ) ^∆เรามีของดี ที่ทาให้ คนอื่นรวย∆^

💱สินค้ า และบริ การ ที่มีจาหน่ายในโลกนี ้ ล้ วนแต่มีจดุ ตังต้ ้ นมาจาก ดิน น ้า ฟ้า อากาศ ทังสิ ้ ้น หรื อ จะกล่าวว่า ธรรมชาติเป็ น แหล่งกาเนิดของกิน ของใช้ สินค้ า และบริการทังมวลก็ ้ น่าจะกล่าวได้ ใครที่สามารถนาไปดัดแปลงใช้ ได้ มากกว่ามีประสิทธิภาพ

กว่า ก็ได้ ประโยชน์มากกว่า บ้ านนอก คือ ที่ที่มีแหล่งกาเนิดของของกินของใช้ สินค้ า และบริการมากที่สดุ ของประเทศ ก็คือ คน บ้ านนอกมีแหล่งกาเนิดสินค้ า และบริการ หรื อ ธรรมชาติ มหาศาลอยูใ่ นมือ ส่วนนักธุรกิจมีแหล่งกาเนิดของกินของใช้ น้อยกว่าคนบ้ านนอกมาก แต่มีความสามารถในการดึงดูด และดัดแปลงแหล่งกาเนิด ของกินของใช้ ไปเป็ นสินค้ า และบริการได้ เก่งกว่า จึงร่ าจึงรวยกว่า & ด้ วยการรู้จกั ใช้ แหล่งกาเนิดของกินของใช้ ที่คนบ้ านนอก มีนี ้ไปหาประโยชน์ เรามี เขาใช้ เป็ น เขาได้ ประโยชน์ เราจึงจนลงทุกวัน" ........ วงจร เราเกิดมาพร้ อมธรรมชาติรอบตัว เราจึงได้ เรี ยนรู้ในการอยูก่ บั ธรรมชาติ และชาวบ้ านด้ วยกัน นัน่ คือเรามีภมู ิปัญญาเฉพาะถิ่น ติดตัวมาตังแต่ ้ เกิด เรามีของกินของใช้ จากการดัดแปลงธรรมชาติมาใช้ อย่างพอเพียง และถ้ ามีมากเราก็ขายตามเท่าที่ทาได้ เรา เก่งในการใช้ ชีวิตอยูก่ บั ธรรมชาติ ด้ วยภูมิปัญญาเฉพาะถิ่น ผู้ประกอบการในเมืองและนอกประเทศ ดึงดูด ธรรมชาติออกไปจากเรา นาไปดัดแปลงเป็ นสินค้ าและบริการด้ วยปั ญญา สมัยใหม่ แล้ วส่งกลับมาขายเราในรูปสินค้ าและบริการที่ทนั สมัยในราคาที่ สูงกว่า เท่ากับ ความสามารถในการดัดแปลงด้ วยปั ญญาสมัยใหม่ มีราคาค่างวดสูงกว่า ราคาของแหล่งกาเนิดสินค้ าที่ถกู ดัดแปลง เบื ้องต้ นด้ วยปั ญญาเฉพาะถิ่นของชาวบ้ านหลายเท่า เรา ธรรมชาติ+ปั ญญาเฉพาะถิ่น +แรงกาย =>วัตถุดิบ ธุรกิจเอกชน วัตถุดิบ =>สินค้ าและบริการ เท่ากับ $ เราเป็ นผู้ซื ้อของกินของใช้ ที่เราเป็ นผู้ทาวัตถุดิบ มาใช้ ในรูปของสินค้ าและบริการในราคาที่สงู $ ส่วนต่าง ราคาสินค้ า ด้ วย ธรรมชาติ+ภูมิปัญญา+แรงงานเรา =เท่ากับกาไรของผู้ประกอบการภายนอก กลับกัน

ถ้ าวันนี ้ เรามีแผนธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ 9 ข้ อ 5 ช่อง ที่สามารถใช้ ทงั ้ ภูมิปัญญาเฉพาะถิ่นดัดแปลงแหล่งกาเนิดสินค้ าและ บริการที่อยูข่ ้ างตัวเราอย่างมีปัญญาสากล ผ่านมือถือ และภาคี (ทุนข้ อที่ 8 ) มาเป็ นเครื่ องมือ เราน่าจะพลิกฟื น้ คืนชีวิตที่ผาสุก ให้ ครอบครัว และชุมชนเราได้ ดีขึ ้นไหม (?) เป็ นคาถามที่ท้าทาย ลองติดตามอ่าน ชวนคิดชวนคุย ชุดต่อไปอาจช่วยให้ มีคาตอบ

💡ข้ อคิดชวนคุย 11 (>)ความสาเร็จ ความไม่สาเร็จ (

Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.