ใบความรู้ 2.1 เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรายงาน Flipbook PDF

ใบความรู้ 2.1 เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรายงาน

48 downloads 103 Views 8MB Size

Recommend Stories


Porque. PDF Created with deskpdf PDF Writer - Trial ::
Porque tu hogar empieza desde adentro. www.avilainteriores.com PDF Created with deskPDF PDF Writer - Trial :: http://www.docudesk.com Avila Interi

EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF
Get Instant Access to eBook Empresas Headhunters Chile PDF at Our Huge Library EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF ==> Download: EMPRESAS HEADHUNTERS CHIL

Story Transcript

ความรู้เบื่้อ บื่้ งต้น ต้ เกี่ยกี่ วกับ กั การเขียขี นรายงาน


ใบความรู้ 2.1 เรื่อ รื่ ง ความรู้เบื้อ บื้ งต้น ต้ เกี่ย กี่ วกับ กั รายงาน จุด จุ ประสงค์ 1. อธิบ ธิ ายการรวบรวมข้อมูล มู สารสนเทศ และเขีย ขี นบัน บั ทึก ทึ ข้อมูล มู สารสนเทศได้ ความหมายของรายงาน คำ ว่า “รายงาน” เป็นคำ นาม แปลว่าเรื่อ รื่ งราวที่ไป ศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้าแล้วนำ มาเสนอที่ประชุม ชุ ครูอ รู าจารย์หรือ รื ผู้ บัง บั คับ คั บัญ บั ชา เป็นต้น ต้ เป็นคำ กริย ริ า แปลว่า บอกเรื่อ รื่ ง ราวของการงาน เช่นรายงานให้ผู้ ห้ ผู้ บั ผู้ ง บั คับ คั บัญ บั ชาทราบ (อำ ไพวรรณ ทัพ ทั เป็นไทย อ้างถึง ถึในพจนานุก นุ รม ฉบับ บั ราชบัณ บั ฑิต ฑิ ยสถาน พ.ศ. 2542 , 2546 : 953) รายงาน (report) เป็นเอกสารทางวิชวิ าการที่ นัก นั ศึก ศึ ษารวบรวมและเรียรี บเรียรี งขึ้น ขึ้ จากการศึก ศึ ษา ค้น ค้ คว้าเรื่อ รื่ งใดเรื่อ รื่ งหนึ่งเพื่อให้เสริม ริ ความรู้แ รู้ ละ ทัก ทั ษะในรายวิชวิ าที่กำ ลัง ลั ศึก ศึ ษาอยู่ (พูล พู สุข สุ เอกไทย เจริญ ริ , 2539 : 2)


สรุป รุ ได้ว่ารายงานเป็นการนำ เสนอเรื่อ รื่ งราวทางวิชวิ าการ ซึ่งเป็นผลจากการศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้าเรื่อ รื่ งใดเรื่อ รื่ งหนึ่งอย่างมี ระบบ มีก มี ารวิเ วิ คราะห์อย่างมีเ มี หตุผ ตุ ล และอ้างอิง อิ หลัก ลั ฐานที่มาอย่าง มีห มี ลัก ลั เกณฑ์แล้วนำ มาเรียรี บเรียรี งอย่างมี ขั้น ขั้ ตอน และเขีย ขี นหรือ รื พิมพ์ให้ถูก ถู ต้องตามแบบแผนที่ กำ หนดถือ ถื ว่ารายงานเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผล การศึก ศึ ษา ประเภทของรายงาน รายงานโดยทั่ว ทั่ ๆ ไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ คื 1. รายงานทั่ว ทั่ ไป 2. รายงานทางวิชวิ าการ 1. รายงานทั่ว ทั่ ไป เป็นรายงานที่เสนอข้อเท็จ ท็ จริง ริ ใน เรื่อ รื่ งต่างๆ ที่เกี่ย กี่ วกับ กั องค์การสถาบัน บั หรือ รื ข้อคิด คิ เห็นของ บุค บุ คล ความเคลื่อ ลื่ นไหวของเหตุก ตุ ารณ์ สถานการณ์ อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งได้ดำ ด้ ดำเนินการไปแล้ว หรือ รื กำ ลัง ลั ดำ เนินการอยู่ หรือ รื จะดำ เนินการต่อไปเพื่อให้ผู้ ห้ ผู้ เกี่ย กี่ วข้องทราบ ได้แ ด้ ก่ 1.1 รายงานในโอกาสต่างๆ เช่น รายงานแสดงผล งาน เป็นรายงานซึ่งพนัก นั งานเจ้าหน้าที่รายงานผลการ ปฏิบั ฏิ ติ บั ง ติ านต่อผู้บั ผู้ ง บั คับ คั บัญ บั ชา ผู้ร่ ผู้ ร่ วมงานหรือ รื ผู้ส ผู้ นใจ ทราบ ข้อเขีย ขี นที่เป็นคำ กล่าวรายงานในพิธีเ ธี ปิด-ปิด การอบรมสัม สั มนา การแข่งขัน ขั กีฬกี า การประกวด ฯลฯ


เป็นการรายงานให้ท ห้ ราบถึง ถึ ความเป็นมาของงาน การดำ เนินงาน ผู้ร่วมงาน กำ หนดระยะเวลาของงาน และลงท้ายด้วยการเชิญประธานในพิธีก ธี ล่าวเปิดหรือ รื ปิดงาน 1.2 รายงานการประชุม ชุ เป็นคำ นามแปลว่า ราย ละเอียอี ดหรือ รื สาระของการประชุม ชุ ที่ จดไว้เป็นทางการ (พจนานุก นุ รมฉบับ บั ราชบัณ บั ฑิต ฑิ ยสถาน พ.ศ. 2542 , 2546 : 953) เป็นการบัน บั ทึก ทึ เรื่อ รื่ งราวต่างๆ ที่องค์ประชุม ชุ กล่าวถึง ถึ ตั้ง ตั้ แต่เริ่ม ริ่ ประชุม ชุ จนสิ้นสุด สุ การประชุม ชุ และต้องนำ รายงานนี้เสนอให้ที่ ห้ ที่ประชุม ชุ รับ รั รองในการประชุม ชุ ครั้ง รั้ ต่อไป รายงานการประชุม ชุ เป็นเอกสารที่ใช้อ้างอิง อิ ได้จึง จึ ต้องใช้ภาษาเป็นทางการ กระชับ ชั รัด รั กุม กุ และชัด ชั เจน 1.3 รายงานข่าว คือ คื การรายงานโดยใช้วิธี วิ เ ธี ขีย ขี นหรือ รื พูด พู เพื่อรายงานเรื่อ รื่ งราวหรือ รื เหตุก ตุ ารณ์ที่เกิด กิ ขึ้น ขึ้ ผู้ รายงานได้แ ด้ ก่ นัก นั หนัง นั สือพิมพ์ นัก นั จัด จั รายการวิท วิ ยุ ผู้ ประกาศข่าวทางโทรทัศ ทั น์ ฯลฯ


1.4 รายงานเหตุก ตุ ารณ์ เป็นรายงานซึ่งเจ้าพนัก นั งานผู้ มีห มี น้าที่รับ รั ผิดชอบเป็นผู้ร ผู้ ายงานเพื่อบอกเรื่อ รื่ งราว เหตุก ตุ ารณ์หรือ รื สถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นอยู่ห ยู่ รือ รื เกิด กิ ขึ้น ขึ้ ในขณะนั้น นั้ เสนอต่อผู้บั ผู้ ง บั คับ คั บัญ บั ชาหรือ รื ผู้เกี่ย กี่ วข้องทราบ ได้แ ด้ ก่ รายงานการอยู่เวรรัก รั ษาการณ์ รายงาน อุบั อุ ติ บั เ ติ หตุร ตุ ถชนกัน กั รายงานเกิด กิ เหตุเ ตุ พลิง ลิ ไหม้ เป็นต้น ต้ ซึ่งส่วนมากเป็นการเขีย ขี นรายงานอย่างสั้น สั้ เป็นการเขีย ขี นที่เน้นข้อเท็จ ท็ จริง ริ และความถูก ถู ต้องของ ข้อมูล มู ภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาทางการหรือ รื ถูก ถู ต้อง ตามหลัก ลั ไวยากรณ์ กะทัด ทั รัด รั ชัด ชั เจน ตรงประเด็น ด็ และคงเส้นคงวา 2. รายงานทางวิชวิ าการ คือ คื รายงานผลของการศึก ศึ ษา ค้น ค้ คว้าวิจั วิ ย จั เกี่ย กี่ วกับ กั เรื่อ รื่ งใดเรื่อ รื่ งหนึ่งมุ่งเสนอผลที่ได้ ตามความเป็นจริง ริ ซึ่งต้องทำ ตามขั้น ขั้ ตอน มีร มี ะบบ มี ระเบีย บี บแบบแผนที่เป็นสากล โดยมีห มี ลัก ลั ฐานและการ อ้างอิง อิ ประกอบแล้วเขีย ขี นหรือ รื พิมพ์ให้ถูก ถู ต้องตามรูป รู แบบที่สถาบัน บั นั้น นั้ ๆ กำ หนด และถือ ถื ว่ารายงานเป็น ส่วนหนึ่งของการประเมินผลการเรียรี นการสอน ของวิชวิ านั้น นั้ ๆ ด้วย


วัต วั ถุป ถุ ระสงค์ และความสำ คัญ คั ของรายงานทาง วิชวิ าการ รายงานมีค มี วามสำ คัญ คั ต่อผู้ศึ ผู้ ก ศึ ษา ดัง ดั ต่อไปนี้ 1. ส่งเสริม ริ สนับ นั สนุน นุ ให้ผู้ ห้ ผู้ เรียรี นรู้จัก จั วิธี วิ ก ธี ารค้น ค้ คว้า หาความรู้ด้ รู้ ด้ วยตนเอง ในเรื่อ รื่ งที่ สนใจได้อย่างกว้าง ขวางลึก ลึซึ้ง 2. ช่วยให้ผู้ ห้ ผู้ เรียรี นรู้จัก จั แหล่งข้อมูล มู ต่างๆ และเกิด กิ ทัก ทั ษะรู้วิธี วิ ก ธี ารค้น ค้ คว้ารวบรวมข้อมูล มู จากแหล่งข้อมูล มู นั้น นั้ ๆ ได้อย่างถูก ถู วิธี วิ ธี 3. ช่วยฝึกทัก ทั ษะด้านการอ่าน โดยอ่านได้เร็ว ร็ อ่าน แล้วสามารถจับ จั ใจความของเรื่อ รื่ งที่อ่านได้ สามารถ สรุป รุ ได้ วิเ วิ คราะห์ได้ และจดบัน บั ทึก ทึ ได้ 4. ช่วยฝึกทัก ทั ษะทางด้านการเขีย ขี น สามารถสื่อความ หมายโดยการเขีย ขี นได้อย่างมีปมี ระสิทธิภ ธิ าพรู้ขั้น ขั้ ตอน รู้รู รู้ ป รู แบบของการเขีย ขี นรายงานแล้วนำ เอาหลัก ลั การ และแบบแผนในการเขีย ขี นรายงานไปปรับ รั ใช้ในการ เขีย ขี นงานทางวิชวิ าการอื่น อื่ ๆ ได้ เช่น ภาคนิพนธ์ สาร นิพนธ์ วิท วิ ยานิพนธ์ ตำ ราเป็นต้น ต้


5. ช่วยฝึกทัก ทั ษะทางด้านการคิด คิ คือ คื สามารถคิด คิ วิเ วิ คราะห์เรื่อ รื่ งราวต่างๆ ได้ โดยใช้ วิจ วิ ารณญาณของ ตนเองแสดงความคิด คิ เห็นอย่างมีเ มี หตุผลโดยมีห มี ลัก ลั ฐานอ้างอิง อิ แล้วรวบรวมเรียรี บเรียรี ง ข้อมูลความคิด คิ ที่ ได้ให้เป็นเรื่อ รื่ งราวได้อย่างมีขั้ มี น ขั้ ตอน มีร มี ะบบ เป็น ระเบีย บี บ 6. สามารถเขีย ขี นรายงานประกอบการเรียรี นได้อย่าง ถูกต้องตามแบบแผน และเป็นพื้นฐานใน การ ศึก ศึ ษาขั้น ขั้ สูงต่อไป 7. ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลของแต่ละวิชวิ า สำ หรับ รั ความยาวของรายงานและกำ หนดเวลาทำ จะ แตกต่างกัน กั ไปขึ้น ขึ้ อยู่กั ยู่ บ กั ขอบเขตของหัว หั ข้อรายงานและ การตกลงกัน กั ระหว่างผู้ส ผู้ อนและผู้เรียรี น โดยทั่ว ทั่ ไปใช้ เวลาน้อยกว่า 1 ภาคเรียรี น 1.2 ภาคนิพนธ์ หรือ รื รายงานประจำ ภาค (Term paper) มีลั มี ก ลั ษณะเช่นเดียดี วกับ กั รายงานเพียงแต่เรื่อ รื่ งที่ ใช้ทำ ภาคนิพนธ์จะมีข มี อบเขตกว้างและลึก ลึซึ้งกว่า ใช้ เวลาค้น ค้ คว้ามากกว่าความยาวของเนื้อหามากกว่า ดัง ดั นั้น นั้ ผู้เรียรี นจึง จึ มัก มั จะได้รั ด้ บ รั มอบหมายให้ทำ ห้ ทำเพียงเรื่อ รื่ ง เดียดี วในแต่ละรายวิชวิ าต่อภาคการศึก ศึ ษา


ประเภทของรายงานทางวิชวิ าการ รายงานวิชวิ าการแบ่งประเภทใหญ่ๆ ได้ดั ด้ ง ดั นี้ 1. รายงานการค้น ค้ คว้าทั่ว ทั่ ไป แบ่งได้เป็น 1.1 รายงาน (Report) เป็นผลการศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้าในเรื่อ รื่ ง ใดเรื่อ รื่ งหนึ่งโดยมีจุ มี ด จุ มุ่งหมายเพื่อประกอบการเรียรี นใน รายวิชวิ า (ในรายวิชวิ าหนึ่งอาจมีร มี ายงานได้ห ด้ ลายเรื่อ รื่ ง) รายงานในวิชวิ าใดจะมีเ มี นื้อหาอยู่ใยู่ นขอบข่ายวิชวิ านั้น นั้ โดยอาจใช้วิธี วิ ก ธี ารศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้าวิธี วิ ใธี ดวิธี วิ ห ธี นึ่งหรือ รื หลาย วิธี วิ ปธี ระกอบกัน กั เช่น การศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้าจากเอกสาร การ สัง สั เกต การทดลอง เป็นต้น ต้ ในแง่การจัด จั ทาอาจเป็น รายงานเดี่ย ดี่ วหรือ รื รายงานกลุ่ม ลุ่ 2. รายงานการค้น ค้ คว้า ว้ วิจัวิย จั แบ่ง บ่ ได้เ ด้ป็น ป็ 2.1 รายงานการวิจั วิ ย จั (Research Report) เป็นการนำ เสนอผลการศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้าและวิจั วิ ย จั ในเรื่อ รื่ งหรือ รื ปัญ ปั หา เฉพาะที่ต้องการคำ ตอบหรือ รื ความรู้เพิ่มเติม ติ ต้องมีค มี วาม รู้ใรู้ หม่ที่ ม่ ที่ ยัง ยั ไม่เคยมีก มี ารศึก ศึ ษาวิจั วิ ย จั มาก่อน มีวิ มี ธี วิ ดำ ธี ดำเนิน การอย่างมีร มี ะเบีย บี บ มีจุ มี ด จุ มุ่งหมายที่แน่นอนเพื่อให้ได้ม ด้ า ซึ่งความจริง ริ หรือ รื หลัก ลั การบางอย่าง


2.2 วิท วิ ยานิพนธ์ หรือ รื ปริญ ริ ญานิพนธ์ (Thesis or Dissertation) มีลั มี ก ลั ษณะเช่นเดียดี วกับ กั รายงานการวิจั วิ ย จั และถือ ถื เป็นส่วนหนึ่งของการศึก ศึ ษาตามหลัก ลั สูตร ปริญ ริ ญามหาบัณ บั ฑิต ฑิ เรียรี กว่า วิท วิ ยานิพนธ์ (Thesis) และปริญ ริ ญาดุษฎีบัณ บั ฑิต ฑิ เรียรี กว่า ปริญ ริ ญานิพนธ์หรือ รื ดุษฎีนิพนธ์ หรือ รื สาระนิพนธ์ (Dissertation) เป็น เรื่อ รื่ งทำ เฉพาะบุคคลกำ หนดเวลาทำ ไม่เกิน กิ ระยะเวลา เรียรี นของหลัก ลั สูตรนั้น นั้ ลัก ลั ษณะของรายงานที่ดี ที่ ดี 1. มีก มี ารนำ หลัก ลั การและ/หรือ รื ทฤษฎีมาใช้อย่างเหมาะ สมเนื่องจากในการศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้า จะต้องมีก มี ารวิเ วิ คราะห์ เนื้อหา โดยมีห มี ลัก ลั การหรือ รื ทฤษฎีมารองรับ รั อย่างเหมาะ สม หลัก ลั การหรือ รื ทฤษฎีดัง ดั กล่าวควรเป็นที่ยอมรับ รั ใน แวดวงสาขาวิชวิ าการนั้น นั้ ๆ พอควรและตรงกับ กั เรื่อ รื่ งที่ ศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้า


2. มีก มี ารแสดงความคิด คิ ริเ ริ ริ่ม ริ่ สร้างสรรค์อย่างเหมาะสม เช่น เสนอแนวทางการแก้ปัญ ปั หาที่ไม่เคยมีผู้ มี ผู้ ทำ ผู้ ทำมาก่อน หรือ รื เคยมีผู้ มี ผู้ ทำ ผู้ ทำแต่ไม่ชั ม่ ด ชั เจนเพียงพอ 3. ความสมบูร บู ณ์และความถูก ถู ต้องของเนื้อหาสาระ เนื้อหาสาระต้องสมบูร บู ณ์ตามชื่อเรื่อ รื่ งที่กำ หนด และถูก ถู ต้องในข้อเท็จ ท็ จริง ริ การอ้างอิง อิ ที่มาหรือ รื แหล่งค้น ค้ คว้าต้อง ถูก ถู ต้องเพื่อแสดงจรรยามารยาทของผู้เขีย ขี น และเป็น แหล่งชี้แ ชี้ นะให้ผู้ ห้ ผู้ ส ผู้ นใจได้ติ ด้ ด ติ ตามศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้าต่อไป การค้น ค้ คว้าควรศึก ศึ ษามาจากหลายแหล่ง 4. ความชัด ชั เจนของการเขีย ขี นรายงานจะต้องมีค มี วาม ชัด ชั เจนในด้านลำ ดับ ดั การเสนอเรื่อ รื่ งมีค มี วามสามารถใน การใช้ภาษา และการนำ เสนอตาราง แผนภูมิ ภู มิ/ภาพ ประกอบทั้ง ทั้ นี้เพื่อให้การนำ เสนอเนื้อหาชัด ชั เจน เข้าใจ ง่าย เป็นระเบีย บี บไม่ซ้ำม่ ซ้ำ ซ้อนสับ สั สน


การใช้ภาษาในการเขียขี นรายงาน 1. ควรใช้ภาษาหรือ รื สำ นวนโวหารเป็นของตนเองที่ เข้าใจง่ายและถูก ถู ต้อง 2. ใช้ประโยคสั้น สั้ ๆ ให้ได้ใจความชัด ชั เจน สมบูร บู ณ์ ตรงไปตรงมาไม่วกวน 3. ใช้ภาษาที่เป็นทางการไม่ใม่ ช้ภาษาพูด พู คำ ผวน คำ แสลง อัก อั ษรย่อ ย่ คำ ย่อ ย่ 4. ใช้คำ ที่มีค มี วามหมายชัด ชั เจน ละเว้น ว้ การใช้ภาษา ฟุ่มเฟือย การเล่น ล่ สำ นวน 5. ระมัด มั ระวัง วั ในเรื่อ รื่ งการสะกดคำ การแบ่งวรรคตอน 6. ระมัด มั ระวัง วั การแยกคำ ด้วยเหตุที่ ตุ ที่ เนื้อที่ในบรรทัด ทั ไม่ พอหรือ รื หมดเนื้อที่ในหน้าที่นั้น นั้ เสียก่อน เช่น ไม่แ ม่ ยก คำ ว่า “ละเอียอี ด” ออกเป็น “ละ” ในบรรทัด ทั หนึ่งส่วน “ละเอียอี ด” อยู่อี ยู่ ก อี บรรทัด ทั ต่อไปหรือ รื หน้าต่อไป 7. ให้เขีย ขี นเป็นภาษาไทยไม่ต้ ม่ ต้ องมีคำ มี คำภาษาอัง อั กฤษ กำ กับ กั ถ้าเป็นคำ ใหม่ห ม่ รือ รื ศัพ ศั ท์วิชวิ าการในการเขีย ขี น ครั้ง รั้ แรกให้กำ กับ กั ภาษาอัง อั กฤษไว้ในวงเล็บ ล็ ครั้ง รั้ ต่อๆ ไปไม่ต้ ม่ ต้ องกำ กับ กั ภาษาอัง อั กฤษ


หลัก ลั การเขียขี นรายงานทางวิชวิ าการ 1. หลัก ลั การเขีย ขี นรายงานทางวิชวิ าการ ส่วนประกอบของรายงานทางวิชวิ าการ มีลั มี ก ลั ษณะ ดัง ดั นี้ 1.1 ส่วนประกอบตอนต้น ต้ มีส่มี ส่ วนประกอบตามลำ ดับ ดั ดัง ดั นี้ 1.1.1 หน้าปก (ปกนอก) 1.1.2. หน้าชื่อเรื่อ รื่ ง (ปกใน) 1.1.3. คำ นำ (กิต กิ ติก ติ รรมประกาศ) 1.1.4. สารบัญ บั 1.1.5. สารบัญ บั ตาราง 1.1.6. สารบัญ บั ภาพประกอบ 1.2 ส่วนประกอบตอนกลาง (เนื้อเรื่อ รื่ ง) เป็นส่วน สำ คัญ คั ที่สุด สุ ของรายงาน แบ่งแยกเนื้อหาที่เขีย ขี นเป็น บทอย่างมีร มี ะบบระเบีย บี บ ตามลำ ดับ ดั รายงานทางวิชวิ าการมีโมี ครงสร้างมาตรฐาน 5 บท คือ คื บทที่ 1 บทนำ บทที่ 2 เอกสารและรายงานการศึก ศึ ษาที่เกี่ย กี่ วข้อง บทที่ 3 วิธี วิ ดำ ธี ดำเนินการศึก ศึ ษา บทที่ 4 ผลการศึก ศึ ษา บทที่ 5 สรุป รุ ผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ


นอกจากนี้ ยัง ยั มีส่มี ส่ วนประกอบ ที่สำ คัญ คั ของเนื้อเรื่อ รื่ ง ได้แ ด้ ก่ การอ้างอิง อิ จากการศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้า แบบเชิงอรรถ ท้ายหน้า หรือ รื อ้างอิง อิ แทรกในเนื้อหา (นามปี) ข้อมูล มู สารสนเทศตารางประกอบ แผนภูมิ ภู มิ ภาพประกอบ 1.3 ส่วนประกอบท้าย ส่วนประกอบท้าย ได้แ ด้ ก่ บรรณานุก นุ รม ภาคผนวก และอภิธานศัพ ศั ท์ เป็นราย ละเอียอี ดเพิ่มเติม ติ จากเนื้อเรื่อ รื่ ง เช่น การอ้างอิง อิ ที่ได้ร ด้ ะบุ ไว้ในเชิงอรรถ ก็นำ ก็ นำมาระบุไ บุ ว้ในบรรณานุก นุ รมท้ายเล่ม ล่ รายละเอียอี ดต่าง ๆ เช่น ตารางข้อมูล มู แผนงาน โครงการ บัน บั ทึก ทึประจำ วัน วั สำ หรับ รั ผู้ส ผู้ นใจรายละเอียอี ด 2. การใช้ภาษาในการเขีย ขี นรายงาน การใช้ภาษาในการเขีย ขี นรายงาน รายงานมีลั มี ก ลั ษณะ ต่อไปนี้ -เป็นงานเขีย ขี นที่เป็นงานเป็นการ ค่อนข้างจริง ริ จัง จั หนัก นั แน่น -การให้ความคิด คิ ความรู้ มากกว่าเรียรี งความทั่ว ทั่ ไป -เป็นความเรียรี งร้อยแก้ว ใช้ภาษาเขีย ขี นถูก ถู ต้องตาม หลัก ลั วิชวิ าการ -มีห มี ลัก ลั ฐาน ข้อเท็จ ท็ จริง ริ อ้างอิง อิ ประกอบ -ไม่ต้ ม่ ต้ องใช้สำ นวนโวหารให้ไพเราะเพราะไม่ใม่ ช่งาน ประพัน พั ธ์


-มีค มี วามกระชับ ชั รัด รั กุม กะทัด ทั รัด รั ชัด ชั เจน ตามที่นิยม กัน กั ตามปกติ -ไม่ใม่ ช้คำ ที่อาจมีค มี วามหมายได้ห ด้ ลายประการ -หลีก ลี เลี่ย ลี่ ง การใช้ภาษาพูด ภาษาแสลง หรือ รื ภาษา ตลาด -ควรหลีก ลี เลี่ย ลี่ งการใช้ภาษาท้อ ท้ งถิ่น -ตัว ตั สะกดการัน รั ต์ถูกต้องตามพจนานุกรมฉบับ บั ราชบัณ บั ฑิต ฑิ ยสถาน -การใช้คำ ศัพ ศั ท์ เช่น การใช้คำ สุภาพ คำ ราชาศัพ ศั ท์ คำ ที่ใช้กับ กั ภิกษุ ล้วนต้องเลือ ลื กใช้ให้ ถูกต้อง ตามหลัก ลั การใช้ภาษา และความนิยมใน ปัจ ปั จุบัน บั ตัว ตั อย่างการใช้คำ ศัพ ศั ท์ เช่น -สไลด์ เปลี่ย ลี่ นใช้ ภาพเลื่อ ลื่ น ให้ถูกต้องตาม ศัพ ศั ท์บัญ บั ญัติ ญั ติ -ตรรกวิท วิ ยา (Logic) มีว มี งเล็บ ล็ ภาษาอัง อั กฤษต่อ ท้าย -ร้อยละ ไม่ต้ ม่ ต้ องวงเล็บ ล็ (Percent) เพราะใช้ กัน กั แพร่หลายแล้ว


-ไม่ค ม่ วรใช้ ศธ. หรือ รื เขีย ขี นย่อ ย่ ว่า กระทรวงศึก ศึ ษา ฯ แทน ” กระทรวงศึก ศึ ษาธิก ธิ าร ” -ไม่ค ม่ วรใช้ ร.ร. แทน โรงเรียรี น ยกเว้น ว้ กรณีที่ นิยมใช้แบบย่อ ย่ กัน กั แพร่หลายแล้ว เช่น พ.ศ. ส่วน คำ ที่เป็นชื่อเฉพาะ ให้เขีย ขี นสะกด การัน รั ต์ ตามของ เดิม ดิ จะถือ ถื อัก อั ขรวิธี วิ ใธี นการเขีย ขี นคำ ทั่ว ทั่ ไปเป็นหลัก ลั ไม่ ได้ เช่น นางสาวจิต จิ ต์ ไม่ต้ ม่ ต้ องแก้เป็น นางสาวจิต จิ -การใช้คำ กับ กั แด่ แต่ ต่อ ให้ถูกต้อง ตัว ตั อย่าง เช่น กับ กั ใช้กับ กั สิ่งของหรือ รื คนที่ทำ กริย ริ า เดียดี วกัน กั เช่น ครูกับ กั นัก นั เรียรี นอ่านเอกสาร เด็ก ด็ เล่น ล่ กับ กั ผู้ใหญ่ , แด่ ต่อ ใช้กับ กั กริย ริ า ให้ รับ รั บอก ถวาย ต่อบุคคลที่สมควร เช่น กล่าวรายงานต่อ ประธานถวายของแด่พ ด่ ระสงฆ์ , แก่ ใช้เช่นเดียดี ว กับ กั แด่ ต่อ แต่ใช้กับ กั บุคคลทั่ว ทั่ ไป เช่น พระราชทานแก่ ให้แก่ บอกแก่แจ้งแก่ -เขีย ขี นเนื้อหาให้แจ่ม จ่ แจ้งชัด ชั เจน มีก มี ารเน้น เนื้อหา ที่สำ คัญ คั โดยใช้ คำ วลี และข้อความที่สำ คัญ คั ขึ้น ขึ้ ต้น ต้ ประโยค หรือ รื จบประโยค กล่าวซ้ำ เพื่อให้ความ สำ คัญ คั กับ กั คำ ที่กล่าวซ้ำ เปรียรี บเทีย ที บ


-เพื่อให้ข้อความชัด ชั เจน และให้รายละเอียอี ดเป็น ตัว ตั อย่าง รูปภาพประกอบ ทำ ให้ชัด ชั เจน เข้าใจง่าย และถ้าต้องการให้มี ห้ ผ มี ลในทางปฏิบั ฏิ ติ บั ติ จะต้องใช้ ตัว ตั อย่าง ข้อความ สนับ นั สนุนหลัก ลั การแนวคิด คิ ที่เสนอ ให้ชัด ชั เจนอย่างมีศิมี ล ศิ ปะในการเขีย ขี น -มีเ มี อกภาพ ในการเสนอเนื้อหาทุกส่วนของรายงาน เพื่อตอบสนองวัต วั ถุประสงค์ของการเขีย ขี น -มีสัมี ม สั พัน พั ธภาพ ในการจัด จั ลำ ดับ ดั เนื้อหา คือ คื เขีย ขี นให้ สัม สั พัน พั ธ์กัน กั เช่น ตามลำ ดับ ดั เวลา ตามลำ ดับ ดั เหตุ และผล จัด จั ลำ ดับ ดั ระหว่าง หัว หั ข้อใหญ่ หัว หั ข้อย่อ ย่ ย ระหว่างย่อ ย่ หน้า เรียรี งตามความสำ คัญ คั หัว หั ข้อที่สำ คัญ คั เท่ากัน กั หรือ รื ระดับ ดั เดียดี วกัน กั เขีย ขี นให้ย่อ ย่ หน้าเท่ากัน กั ตรงกัน กั ย่อ ย่ หน้าหนึ่งควรมีใมี จความสำ คัญ คั เดียดี ว -รายงานทางวิชวิ าการ เน้นความจริง ริ ความถูกต้อง ไม่ค ม่ วรเขีย ขี นเกิน กิ ความจริง ริ ที่ปรากฏ -รายงานตามข้อมูลที่พบ ไม่ค ม่ วรเขีย ขี นคำ คุณศัพ ศั ท์ เช่น ดีม ดี าก ดีที่ ดี ที่สุด เหมาะสม ดี โดยไม่มี ม่ ข้ มี ข้ อมูล หลัก ลั เกณฑ์ชัด ชั เจน แสดงถึง ถึ การวินิ วิ นิ จฉัย ฉั ประเมิน ค่าเกิน กิ จริง ริ


-คุณ คุ สมบัติ บั ข ติ องผู้เขีย ขี นรายงาน ที่จะช่วยให้รายงานมี คุณ คุ ค่า ได้แ ด้ ก่ความรู้ทั่ รู้ ทั่ ว ทั่ ไปในเรื่อ รื่ งที่เขีย ขี น จะทำ ให้ เตรียรี มการอย่างรอบคอบ เขีย ขี นได้ค ด้ รอบคลุม ลุ ต่อ เนื่อง ชัด ชั เจน มีค มี วามสามารถในการวิเ วิ คราะห์ ให้ คุณ คุ ค่าข้อมูล มู อย่างแม่น ม่ ตรงมีวิ มี จ วิ ารณญาณในการเลือ ลื ก เสนอสิ่งที่สำ คัญ คั สามารถใช้เทคนิคผสมผสานความรู้ ประสบการณ์ ออกมาเป็นความคิด คิ แล้วถ่ายทอด ออกมาเป็นภาษาเขีย ขี น 3. การรวบรวมข้อมูล มู เพื่อเขีย ขี นรายงาน หากแบ่งตามลัก ลั ษณะข้อมูล มู จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ คื ข้อมูล มู เอกสารและข้อมูล มู สนาม 1) ข้อมูล มู เอกสาร เป็นข้อมูล มู ที่อยู่ใยู่ นรูป รู เอกสาร และ หลัก ลั ฐานต่างๆ เป็นข้อมูล มู ที่มีผู้ มี ผู้ ค้ ผู้ น ค้ คว้าและบัน บั ทึก ทึ ไว้แล้ว โดยทั่ว ทั่ ไปหนัง นั สือแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ คื หนัง นั สือ อ้างอิง อิ และหนัง นั สือประเภททั่ว ทั่ ไป หนัง นั สืออ้างอิง อิ มีดั มี ง ดั นี้ - พจนานุก นุ รม - สารานุก นุ รม


- อัก อั ขรานุก นุ รม - หนัง นั สือประจำ ปี - นามานุก นุ รม - ดรรชนี - บรรณานุก นุ รม หนัง นั สือทั่ว ทั่ ไป เป็นหนัง นั สือประเภทตำ ราหรือ รื เอกสารที่ ใช่เอกสารอ้างอิง อิ หนัง นั สือประเภทนี้มีอ มี ยู่เป็นจำ นวน มาก วิธี วิ ง่ ธี ง่ ายที่สุด สุ ในการเลือ ลื กคือ คื อ่านสารบัญ บั ว่าหนัง นั สือ เล่ม ล่ นั้น นั้ มีปมี ระเด็น ด็ ใดบ้าง ที่ตรงกับ กั เนื้อหาที่ตน ต้องการ 2) ข้อมูล มู สนาม เป็นข้อมูล มู ที่ได้จากการรวบรวมเอง โดยตรง ทำ ได้ห ด้ ลายวิธี วิ ธี เช่น การสัม สั ภาษณ์ การ สัง สั เกต การให้กลุ่ม ลุ่ เป้าหมายตอบแบบสอบถาม การ ทดลอง ฯลฯ ผู้ทำ ผู้ ทำรายงานควรพิจารณาเองว่าวิธี วิ ใธี ด เหมาะสมที่สุด สุ สำ หรับ รั รายงานเรื่อ รื่ งนั้น นั้ ๆ


ตัว ตั อย่างโครงเรื่อ รื่ ง “ ขยะมูล มู ฝอย ” ๑. ความหมายและความสำ คัญ คั ของขยะมูล มู ฝอย ๒. ประเภทของขยะมูล มู ฝอย - จำ แนกตามลัก ลั ษณะส่วนประกอบ - จำ แนกตามลัก ลั ษณะการเผาไหม้ ๓. แหล่งกำ เนิดขยะมูล มู ฝอย ๔. ผลกระทบของขยะมูล มู ฝอยต่อสภาพแวดล้อม ๕. กรรมวิธี วิ กำ ธี กำจัด จั ขยะมูล มู ฝอย - เทกองกลางแจ้ง - การเผา - การฝังดิน ดิ - การหมัก มั ๖. การแปรสภาพขยะมูล มู ฝอยมาใช้ประโยชน์ใหม่ ๗. การป้องกัน กั และการแก้ไขปัญ ปั หาขยะมูล มู ฝอย


ใบงาน 2.1 เรื่อ รื่ ง การเลือ ลื กเรื่อ รื่ ง และ การเขีย ขี นโครง เรื่อ รื่ ง รายงานเชิงวิชวิ าการ กลุ่ม ลุ่ ที่.......................................เลขที่........................ชั้น ชั้.......................................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................


Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.