พื้นฐานชีวิต 7 Flipbook PDF


48 downloads 117 Views 4MB Size

Recommend Stories


Porque. PDF Created with deskpdf PDF Writer - Trial ::
Porque tu hogar empieza desde adentro. www.avilainteriores.com PDF Created with deskPDF PDF Writer - Trial :: http://www.docudesk.com Avila Interi

EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF
Get Instant Access to eBook Empresas Headhunters Chile PDF at Our Huge Library EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF ==> Download: EMPRESAS HEADHUNTERS CHIL

Story Transcript

พื้นฐานชีวติ 7 ผูเ้ รียบเรียงรุน่ หลัง65 05/08/2565 10.57น.

สารบัญ เต๋า

26

ห้าธาตุกบั การเสริมข่ม (生克) การข่มซา้ (乘) และการย้อนข่ม (侮) ความสัมพันธ์ระหว่างธาตุทงั้ ห้ากับอวัยวะภายในและอื่น ๆ

35

桃花煞ถ่อฮวยสัวะ (ดาวเสน่หค์ วามรัก)

68

ตาราฝังเข็มฉบับสมบูรณ์ (針灸學) ภาคทฤษฎี บทที่ 4 ปรัชญาอวัยวะภายใน (ตอนที่1) ห้าอวัยวะอิน หกอวัยวะหยางและอวัยวะหยางนิจพิเศษ

117

บทที่ 4 (ตอนที่ 2) ปรัชญาอวัยวะภายในกับการวินิจฉัยโรค

131

บทที่ 4 (ตอนที่ 3) ห้าอวัยวะอิน

143

53

หัวข้อตามวิชาจีนโบราณ (ตามความเข้าใจของผูเ้ รี ยบเรี ยงฯ)

ฟ้า

คน

ดิน

หยิน-หยาง

ปฏิกิริยา5ธาตุกับดิถี

5ธาตุจีน

ปฏิกิรยิ านักษัตรกับดิถี

ฤดูกาล

ปฏิกิรยิ าระหว่างนักษัตร

ลักษณะการผันแปร 1

ลักษณะการผันแปร 2

https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551

ลักษณะการผันแปร 3

https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551

จาแนกพลังตามลักษณะของการทางาน ๑. พลังงานศักย์ (Potential Energy) เป็ นพลังงานที่เกิดขึน้ เมื่อวัตถุถกู วางอยูใ่ นตาแหน่งที่สามารถเคลื่อนที่ได้ ไม่วา่ จากแรงโน้มถ่วง หรือแรงดึงดูดจากแม่เหล็ก เช่น ก้อนหินที่วางอยูบ่ นขอบที่สงู

๒. พลังงานจลน์ (Kinetic Energy) เป็ นพลังงานที่เกิดขึน้ เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ เช่น รถที่กาลังวิ่ง ธนูท่ีพงุ่ ออกจากแหล่ง จักรยานที่กาลังเคลื่อนที่ เป็ นต้น

๓. พลังงานสะสม (Stored Energy) เป็ นพลังงานที่เก็บสะสมในวัสดุหรือสิ่งของต่างๆ เช่น พลังงานเคมีท่ีเก็บสะสมไว้ในอาหาร ในก้อนถ่านหิน นา้ มัน หรือไม้ฟืน ซึง่ พลังงานดังกล่าว จะถูกเก็บไว้ในรูปขององค์ประกอบทางเคมีหรือของวัสดุหรือ สิ่งของนัน้ ๆ และจะถูกปล่อยออกมา เมื่อวัสดุหรือสิ่งของดังกล่าวมีการเปลี่ยนรูป เช่น การเผาไม้ฟืนจะให้พลังงานความร้อน

ลักษณะอาการของพลัง องค์ประกอบข้างในพลังมีดงั นี ้ ๑. ถูกผลัก (ชง)

๒. ถูกดึง (ฮะ) ๓. ระเบิด ปะทะ เสียดสี (เฮ้ง, ไห่, ผัวะ)

๔. กดดัน (คัก/ขัก/เก๋อ)

ฤดูรอ้ น

ฤดูใบไม้รว่ ง

ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูหนาว

พลังงาน

หมวด

นักษัตรจีน

นักษัตรไทย

ศักย์

ความรัก,ของสวยงาม (แม่ธาตุ)

子午卯酉

ชวด มะเมีย เถาะ ระกา

จลน์

อานาจ (พาหะ)

寅申巳亥

ขาล วอก มะเส็ง กุน

สะสม

เงินทอง (คลังขุมทรัพย์)

辰戌丑未

มะโรง จอ ฉลู มะแม

แผนผังสี่ สตั ว์เทพ N

ผังภาพจาลองท้องฟ้าอย่างย่อ

https://bit.ly/3OC2Kjo

นาฬิกาจีนโบราณ

https://bit.ly/3zrljm1

• เมือ่ ถึงสมัยฉินและฮั่น สัตว์เทพทัง้ สี่ ก็เป็ นทีย่ อมรับกันทั่วไป ในฐานะตัวแทนของฤดูกาลและสีสันทัง้ สี่

ฤดูกาลและสี สันทั้งสี่

ฤดูกาลจีนทั้ง ๔

เซียนเทียนปากว้า (先天八卦) และโฮ่วเทียนปากว้า (后天八卦)

https://www.facebook.com/udeeland/posts/650998372005210/

แผนภูมิกาเนิดปากว้า ที่มา เครื่ องหมาย และชื่อเรี ยก

โฮ่วเทียนปากว้า (后天八卦) ผังหลังฟ้า กับ บุคคล

ภูมิสวรรค์ (60กะจื้อ)

ลักษณะการผันแปร

https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551

เต๋ า • ในโลกนีม้ ีสจั ธรรมอยูอ่ ย่างหนึ่งที่เป็ นพืน้ ฐานของทุกสิ่ง นั่นก็คือเป็ นพืน้ ฐานของนา้ เป็ นพืน้ ฐานของดิน เป็ นพืน้ ฐานของดวงดาว เป็ นพืน้ ฐานของนา้ ครา เป็ นพืน้ ฐานของอุจจาระปั สสาวะ และก็เป็ นพืน้ ฐานของอื่น ๆ อีกมากมายบนโลกใบนี ้ โดยสรุปก็คือ สัจธรรมที่วา่ นีเ้ ป็ นพืน้ ฐานของทุกสรรพสิ่ง และมีความคงอยูต่ ลอดเวลา สิ่งนีไ้ ม่เกิดไม่ดบั ไร้รูปไร้กลิ่น ไม่เพิ่มไม่ลด เหลาจื่อ เรียกสิ่งนีว้ า่ “เต๋า”

https://www.blockdit.com/posts/5d8567c45864930cc84a41fc?id=5d8567c45864930cc84a41fc&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

• เต๋า เป็ นต้นกาเนิดของ อินหยาง อินหยาง เป็ นต้นกาเนิดของห้าธาตุ และห้าธาตุ เป็ นต้นกาเนิดของสรรพสิ่ง

ดังนัน้ สรรพสิ่งทัง้ หลายจึงอยูภ่ ายใต้กฎแห่งอินหยาง อยูภ่ ายใต้กระบวนการของห้าธาตุ และทัง้ หมดล้วนอยู่ภายใต้ การให้กาเนิดแห่งเต๋านั่นเอง •

https://www.blockdit.com/posts/5d8567c45864930cc84a41fc?id=5d8567c45864930cc84a41fc&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

นักปราชญ์แต่โบราณ ได้สงั เกตเห็นซึ่งความจริ งเหล่านี้ • ดังนัน้ แม้จกั รวาลนี ้ จะมีความสลับซับซ้อนอย่างไร แต่โดยแท้แล้วมีจดุ เริม่ ต้นมาจากความเรียบง่าย นั่นก็คือทุกสรรพสิ่งในโลกนี ้ ล้วนสามารถจัดออกเป็ นห้าหมวดหมู่

โดยเราได้ตงั้ ชื่อให้กบั หมวดหมู่เหล่านี ้ ตามคุณลักษณะประจาหมวดเป็ นธาตุตา่ ง ๆ

• โดยมีบางหมวด มีลกั ษณะที่แข็งแกร่งและแหลมคม เราจึงตัง้ ชื่อให้กบั หมวดนีว้ า่ ธาตุทอง

บางหมวดมีคณ ุ ลักษณะที่ให้กาเนิดและแข็งกระด้าง เราจึงตัง้ ชื่อให้กบั หมวดนีว้ า่ ธาตุไม้ บางหมวดมีคณ ุ ลักษณะที่เย็นฉ่าและพลิว้ ไหว เราจึงตัง้ ชื่อให้กบั หมวดนีว้ า่ ธาตุนา้

• บางหมวดมีคณ ุ ลักษณะที่ร้อนแรงและรวดเร็ว เราจึงตัง้ ชื่อให้กบั หมวดนีว้ า่ ธาตุไฟ บางหมวดมีคณ ุ ลักษณะที่หนักแน่นและเทีย่ งตรง เราจึงตัง้ ชื่อให้กบั หมวดนีว้ า่ ธาตุดิน

• ในหมวดแต่ละหมวดหรือธาตุแต่ละธาตุเหล่านี ้ ยังมีลกั ษณะที่สมั พันธ์กนั อย่างแนบแน่น นั่นก็คือ มีความสัมพันธ์แบบเสริม (生) และข่ม (克) ซึง่ กันและกัน

• โดยธาตุทองให้กาเนิดธาตุนา้ ธาตุนา้ ให้กาเนิดธาตุไม้ ธาตุไม้ให้กาเนิดธาตุไฟ ธาตุไฟให้กาเนิดธาตุดิน ธาตุดินให้กาเนิดธาตุทอง

• ในทางตรงกันข้าม เมื่อมีการให้กาเนิดหรือเสริมให้สงู ขึน้ แน่นอนว่าก็ตอ้ งมีการข่มให้ลดลง เช่นนีจ้ งึ จะทาให้เกิดความสมดุลขึน้ นั่นก็คือ ธาตุทองข่มธาตุไม้ ธาตุไม้ข่มธาตุดิน ธาตุดินข่มธาตุนา้ ธาตุนา้ ข่มธาตุไฟ ธาตุไฟข่มธาตุทอง

ฝ่ ายหนึ่งคือการเสริม และอีกฝ่ ายคือการข่ม การเสริมและข่มทีเ่ สมอกัน จึงจะทาให้เกิดเป็ นภาวะสมดุลของธาตุทงั้ ห้านัน่ เอง

ห้าธาตุกบั การเสริ มข่ม (生克) การข่มซ้ า (乘) และการย้อนข่ม (侮)

ด้วยคุณลักษณะของการเสริ มและการข่มของธาตุท้ งั ห้า ดังนั้นจึงทาให้เกิดเป็ นความสัมพันธ์เชิงแม่ลูก (母子) ขึ้น • ซึง่ ก็คือธาตุทองเป็ นแม่ของธาตุนา้ และธาตุนา้ คือลูกของธาตุทอง ธาตุนา้ คือแม่ของธาตุไม้ และธาตุไม้คือลูกของธาตุนา้ ธาตุไม้คือแม่ของธาตุไฟ และธาตุไฟคือลูกของธาตุไม้ ธาตุไฟคือแม่ของธาตุดิน และธาตุดินคือลูกของธาตุไฟ ธาตุดินคือแม่ของธาตุทอง และธาตุทองคือลูกของธาตุดิน

ดังนั้นหากมีธาตุใดธาตุหนึ่งพร่ อง หรื อมีธาตุใดธาตุหนึ่งแกร่ งเกินไป • ในตาราแพทย์จีน จึงมีวิธีการปรับสมดุล ด้วยคาพูดเพียงประโยคเดียวว่า

“หากพร่องก็บารุงที่แม่ หากแกร่งก็ระบายที่ลกู (虛則補其母,實則瀉其子.)”

ดิถี แม่

ลูก

• ยกตัวอย่างเช่น หากธาตุทองพร่อง ยามนีก้ ็ควรทาการบารุงที่ธาตุดนิ

เมื่อธาตุดิน ซึง่ เป็ นแม่ของธาตุทอง มีกาลังขึน้ ก็จะให้กาเนิดลูกซึง่ เป็ นธาตุทอง ให้มีกาลังขึน้ นั่นเอง

ดิถีทอง

แม่ดิน

• ในทางตรงกันข้าม หากธาตุทองแกร่ง ยามนีค้ วรระบายที่ธาตุนา้

เพราะเมื่อธาตุนา้ ถูกระบายให้นอ้ ยลง ยามนัน้ ธาตุทองซึง่ เป็ นแม่ก็จะให้กาเนิดลูกคือธาตุนา้ ต่อ ซึง่ ก็จะบรรลุสวู่ ตั ถุประสงค์แห่งการทาให้ธาตุทองอ่อนลงได้

ดิถีทอง ลูกนา้

หลานไม้

• แม้ธาตุทงั้ ห้า จะมีการเสริมและข่มตามกฎธรรมชาติก็จริง แต่ในบางครัง้ ก็อาจจะไม่แน่นอนเสมอไป เพราะบางที ธาตุท่ีทาหน้าที่ข่มเขา กลับกลายเป็ นว่าถูกข่มกลับเสียเอง

• ยกตัวอย่างเช่น ปกติธาตุทองข่มธาตุไม้ แต่หากธาตุทองพร่อง หรือ ธาตุไม้แกร่ง ไม่วา่ จะเป็ นลักษณะใดก็ตาม ยามนัน้ ธาตุทองก็จะถูกธาตุไม้ยอ้ นข่มกลับเสียเอง ด้วยเพราะธาตุบางธาตุ อาจจะเกิดเหตุการณ์แกร่งหรือพร่องอย่างผิดปกติ

ดังนัน้ จึงทาให้เกิดสองปรากฏการณ์ขนึ้ นัน่ ก็คอื ปรากฏการณ์ข่มซ้า (乘) และปรากฏการณ์ยอ้ นข่ม (侮)

ดิถีดิน ทอง

ไม้

• ยกตัวอย่างเช่น ธาตุไม้ท่ีข่มธาตุดินและถูกธาตุทองข่ม นี่คือเหตุการณ์ปกติ แต่เมื่อธาตุไม้แกร่งขึน้ ยามนัน้ ธาตุไม้ก็จะเกิดการข่มซา้ (乘) ที่ธาตุดินมากกว่าเก่า ขณะเดียวกัน แทนที่ธาตุไม้จะถูกธาตุทองข่ม แต่เนื่องจากธาตุไม้มีอาการแกร่งมากขึน้ ดังนัน้ กลับกลายเป็ นธาตุทองถูกธาตุไม้ยอ้ นข่ม (侮) กลับเสียเอง โดยจะสามารถสรุปได้ดงั รู ป 3.3

หรื อธาตุไม้ที่ปกติจะทาหน้าที่ข่มธาตุดิน และถูกธาตุทองข่ม นี่คือธาตุไม้ที่อยูใ่ นภาวะปกติ • แต่เมื่อธาตุไม้ออ่ นกาลังลง แทนที่ธาตุไม้จะทาหน้าที่ข่มธาตุดิน แต่กลับกลายเป็ นธาตุไม้ได้ถกู ธาตุดินย้อนข่ม (侮) เข้าเสียเอง • ส่วนปกติท่ีธาตุไม้จะถูกธาตุทองข่ม แต่เนื่องจากธาตุไม้ขาดพลังลง ดังนัน้ ในยามนีจ้ งึ ถูกธาตุทองข่มซา้ (乘) มากขึน้ อีก ดังจะขอสรุปได้ดงั รูป 3.4

ปรากฏการณ์ข่มซ้ าและย้อนข่มนี้ ในทางอักษรจีนได้สื่อความหมายที่น่าสนใจเป็ นอย่างยิง่ • กล่าวคือ ภาษาจีนของปรากฏการณ์ข่มซา้ คือ 乘 [chéng] มีความหมายว่า ฉวยโอกาสหรือทวีคูณ หมายความว่าแต่เดิมมีอานาจเหนือเขาอยูแ่ ล้ว แต่เมื่อมีกาลังมากขึน้ ก็ฉวยโอกาสซา้ เติมเขาให้หนักหนาสาหัสมากขึน้ กว่าเก่า

• ส่วนภาษาจีนของปรากฏการณ์ยอ้ นข่มนัน้ คือ 侮 [wǔ] มีความหมายว่า ลบหลู่ อัปยศ

หมายความว่า แต่เดิมมีอานาจด้อยกว่าเขา แต่เมื่อวันหนึ่งเขาอ่อนกาลังลง จึงได้ถือโอกาสลบหลูเ่ ขาให้เกิดความอัปยศนั่นเอง •

https://www.blockdit.com/posts/5d86b13bf1f1db0cd4587b19?id=5d86b13bf1f1db0cd4587b19&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

ความสัมพันธ์ระหว่างธาตุท้ งั ห้า กับอวัยวะภายในและอื่น ๆ • ในเมื่อเราสามารถจัดความซับซ้อนของจักรวาล ออกเป็ นหมวดหมู่ ได้หา้ หมูจ่ ากคุณลักษณะที่เป็ นอยูไ่ ด้

แน่นอนว่าอวัยวะภายในที่เป็ นส่วนหนึ่งของจักรวาล ก็ยอ่ มจะสามารถแบ่งออกเป็ นหมวดหมูข่ องห้าธาตุ เช่นเดียวกับจักรวาลนีไ้ ด้อย่างแน่นอน

โดยปอดคือธาตุทอง ตับคือธาตุไม้ ไตคือธาตุน้ า หัวใจคือธาตุไฟ ม้ามคือธาตุดิน

ทั้งนี้ เนื่องจากอวัยวะหยาง ที่มีความสัมพันธ์กบั อวัยวะอินแบบนอกและใน จะมีคุณลักษณะของธาตุที่เหมือนกัน • ดังนัน้ ลาไส้ใหญ่ท่ีมีความสัมพันธ์เชิงนอกในกับปอดก็จะเป็ นธาตุทอง ถุงนา้ ดีท่ีมีความสัมพันธ์เชิงนอกในกับตับก็จะเป็ นธาตุไม้ กระเพาะปั สสาวะที่มีความสัมพันธ์เชิงนอกในกับไตก็จะเป็ นธาตุนา้ ลาไส้เล็กที่มีความสัมพันธ์เชิงนอกในกับหัวใจก็จะเป็ นธาตุไฟ และกระเพาะอาหารที่มีความสัมพันธ์เชิงนอกในกับม้ามก็จะเป็ นธาตุดิน

นอกจากนี้กย็ งั มี เยือ่ หุม้ หัวใจ และ ซันเจียว อีกสองอวัยวะ • เนื่องจาก เยื่อหุม้ หัวใจ ทาหน้าที่ในการปกป้องผลกระทบใด ๆ ที่จะเกิดกับ หัวใจ

ดังนัน้ เยือ่ หุ้มหัวใจ จึงเป็ นธาตุไฟ ส่วน ซันเจียว ซึง่ มีความสัมพันธ์เชิงนอกในกับ เยื่อหุม้ หัวใจ ก็จะมีคณ ุ ลักษณะที่เป็ นธาตุไฟด้วยเช่นกัน

• ปรัชญาห้าธาตุ นอกจากจะสามารถจัดหมวดหมูใ่ ห้กบั อวัยวะภายในได้แล้ว ทัง้ นีย้ งั สามารถจัดหมวดหมู่ ให้กบั สิ่งอื่น ๆ ในธรรมชาติของเราได้อีกด้วย ดังจะขอสรุปเป็ นตารางดังต่อไปนี ้

https://www.blockdit.com/posts/5d86b13bf1f1db0cd4587b19?id=5d86b13bf1f1db0cd4587b19&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

การประยุกต์ปรัชญาห้าธาตุ การเสริ มข่ม และอวัยวะภายในในทางการแพทย์แผนจีน • เมื่อประยุกต์ปรัชญาห้าธาตุ การเสริมข่มและอวัยวะภายในเข้าด้วยกันแล้ว เราก็จะสามารถนามาประยุกต์ใช้ ให้เข้ากับการรักษาในทางการแพทย์แผนจีนได้แล้ว ยกตัวอย่างเช่นตับ ตับคือธาตุไม้ อวัยวะที่ข่มตับคือปอด อวัยวะที่ถกู ตับข่มคือม้ามกระเพาะ อวัยวะที่ตบั เสริมคือหัวใจ และอวัยวะที่เสริมตับคือไต ส่วนที่เหลือก็สามารถปฏิบตั ิตามหลักการเช่นนีไ้ ด้เรื่อยไป

ตับคือธาตุไม้

• การทีอ่ วัยวะแต่และอวัยวะ สามารถส่งผลกระทบซึ่งกันและกันเช่นนีไ้ ด้ สาเหตุเพราะแต่ละอวัยวะจะมีเส้นทางทีเ่ ชือ่ มต่อซึ่งกันและกัน เส้นทางทีว่ ่านีก้ ค็ อื เส้นลมปราณ โดยเส้นตับจะเชือ่ มเข้ากับหัวใจ เส้นถุงนา้ ดีเชือ่ มเข้ากับหัวใจ เส้นตับขนาบกระเพาะ

• กระเพาะกับม้าม ก็ยงั มีการเชื่อมโยงในเชิงนอก-ใน ดังนัน้ อวัยวะทัง้ หมดเหล่านี ้ จึงมีผลกระทบซึง่ กันและกันไปหมด

• นอกจากนี ้ เส้นไตยังเชือ่ มกับตับ เส้นตับเชือ่ มกับปอด และเส้นไตก็ยังมีการเชือ่ มกับปอดอีกด้วย จึงเห็นได้วา่ อวัยวะภายในทัง้ หมด สามารถส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน อย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้

เนื่องจากอวัยวะแต่ละอวัยวะ มีการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน • ดังนัน้ เมือ่ อวัยวะหนึ่งมีปัญหา ก็ยอ่ มจะกระทบถึงอวัยวะอืน่ ๆ ทีม่ คี วามเกีย่ วข้องกัน

โดยจะเป็ นการส่งผลกระทบในทางข่ม หรือส่งผลกระทบในทางเสริมนั่นเอง

การส่ งผลกระทบในทางข่ม • ในจุดนีจ้ ะรวมถึงการข่มซา้ หรือการย้อนข่ม ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตับแกร่ง ปกติตบั ก็ข่มม้ามกระเพาะอยูแ่ ล้ว แต่เมื่อตับแกร่งมากกว่าปกติ ตับก็จะทาการข่มซา้ ที่กระเพาะม้ามมากขึน้ เป็ นทวี

ขณะเดียวกัน แทนที่ตบั จะถูกปอดข่ม แต่ตบั ที่แกร่งขึน้ ก็ยงั จะย้อนข่มกลับไปที่ปอดอีกด้วย

ตับคือธาตุไม้

การส่ งผลกระทบในทางเสริ ม • จุดนีจ้ ะมีปรากฏการณ์แม่ป่วยกระทบลูก และลูกป่ วยกระทบแม่ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตับพร่องหรือตับแกร่งก็จะกระทบถึงหัวใจ นี่คือแม่ป่วยกระทบลูก ขณะเดียวกัน หากตับป่ วย ไม่วา่ จะเป็ นแบบตับพร่องหรือตับแกร่ง ก็จะส่งผลกระทบถึงไต นี่คือลูกป่ วยกระทบแม่น่นั เอง

桃花煞ถ่อฮวยสัวะ ดาวเสน่ห์ความรัก • 桃花 ถ่อฮวยคือดาวดอกท้อ เป็ นคนมีเสน่ห ์ มีความสาพันธ์ท่ีดีกบั คนรอบตัว มีคนรักใคร่ เชื่อถือ ไม่วา่ ชายหรือหญิง ปี จรเข้ามาก็มีผลเช่นกัน

หากให้คุณ • แปลว่าได้คคู่ รองดี มีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีช่ือเสียง เป็ นที่นิยมของผูค้ น เหมาะกับงานพิธีกร งานแสดง

ราศีที่เป็ นถ่อฮวย 子 เหนือ นา้



ตก

ออก

ทอง

ไม้

ใต้ ไฟ





ราศีที่เป็ นถ่อฮวย คือ กลุ่มแม่ธาตุ 四正 สี่ เจี่ย พลังหยิน • ตัวแทนประจาทิศทัง้ สี่ 子午卯酉 ที่เป็ นพลังงานบริสทุ ธิ์และแข็งแกร่ง แสดงถึงความประพฤติท่ีไม่มีขอ้ จากัด หรือความมีสติ • และยังเป็ นพลังถ่อฮวยสัวะ ดังนัน้ จึงเป็ นเรื่องปกติท่ีจะมีข่าวคราวเรื่องทางเพศตามมา

ฤดูรอ้ น

ฤดูใบไม้รว่ ง

ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูหนาว

พลังงาน

หมวด

นักษัตรจีน

นักษัตรไทย

ศักย์

ความรัก,ของสวยงาม (แม่ธาตุ)

子午卯酉

ชวด มะเมีย เถาะ ระกา

จลน์

อานาจ (พาหะ)

寅申巳亥

ขาล วอก มะเส็ง กุน

สะสม

เงินทอง (คลังขุมทรัพย์)

辰戌丑未

มะโรง จอ ฉลู มะแม

กลุ่มแม่ธาตุ 四正 สี่ เจี่ย พลังหยิน • เป็ นคนหน้าตาดี • รูปร่างสมส่วน สันทัด • บุคลิกดูดี สวยงาม • แต่งตัวเป็ นรูก้ าลเทศะ

การหาดาวถ่อฮวย 桃花 จะใช้ราศีลา่ งฐานวันและปี เทียบไปยังราศีลา่ งในพืน้ ดวงและวัยจร ปี จร เช่น - ฐานวันเป็ น 申子辰 จะมีทองอิว้ 酉 เป็ น 桃花 - ฐานวันเป็ น 亥卯未 จะมีนา้ จือ้ 子 เป็ น 桃花 - ฐานวันเป็ น 寅午戌 จะมีไม้เบ้า 卯 เป็ น 桃花 - ฐานวันเป็ น 巳酉丑 จะมีไฟโง่ว 午 เป็ น 桃花

สู ตร桃花 = พาหะไตรภาคี + 1 ตามเข็มนาฬิกา • 12 นักษัตร คือ ชวด ฉลู ขาล ... 子丑寅卯辰巳午未申酉戌亥 ขอยกตัวอย่างเช่น ไตรภาคีไฟ เรียงลาดับดังนี ้ ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง ... 寅卯辰巳午未申酉戌亥子丑 สูตร桃花 = พาหะไตรภาคี + 1 ตามเข็มนาฬิกา เพราะฉะนัน้ 桃花 = ขาล+ 1 ตามเข็มนาฬิกา = เถาะ คือตาแหน่ง ดาว มกยก ในเรื่อง 12 เชี่ยงแซ หรือ 12 ภพ

12 ภพ

https://www.facebook.com/modern.bazi/photos/pcb.203301630437968/20326820044131 1/

จะใช้ราศีล่างฐานวันและปี • เทียบไปยังราศีลา่ งในพืน้ ดวงและวัยจร ปี จร ตัวอย่าง 1

ยาม

วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถี

ราศีล่าง (ก้านดิน)

จุดสังเกต

เดือน

ปี

เดือน

ปี

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ตัวอย่าง 2 ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ยาม

วัน ดิถี

จุดสังเกต

ดอกท้อในรั้ว • ถ่อฮวย 桃花 อยูฐ่ านปี และฐานเดือน เรียกว่า ดอกท้อในรัว้ สามีภรรยารักใคร่สามัคคี ดูแลกันและกัน อยูใ่ นกรอบ ตัวอย่าง 1

ยาม

วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถี

ราศีล่าง (ก้านดิน)

จุดสังเกต

เดือน

ปี ดอกท้อในรัว้

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ตัวอย่าง 2 ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ยาม

วัน

เดือน

ปี

ดอกท้อในรัว้

จุดสังเกต

ดิถี

ดอกท้อนอกรั้ว • ถ่อฮวย 桃花 อยูฐ่ านยาม เรียกว่า ดอกท้อนอกรัว้ มักเป็ นคนเจ้าชู้ มีความรักรายทาง โปรยเสน่หไ์ ปทั่ว ตัวอย่าง 1

ยาม

ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน)

วัน

เดือน

ปี

เดือน

ปี

ดิถี ดอกท้อนอกรัว้

จุดสังเกต

ยาม

วัน

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ตัวอย่าง 2 ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ดิถี ดอกท้อนอกรัว้

จุดสังเกต

ตาแหน่งคู่ครอง • ถ่อฮวย 桃花 อยูฐ่ านวันคือ ตาแหน่งคูค่ รอง จะมีเสน่หต์ อ่ เพศตรงข้าม จะได้แฟนหน้าตาดี ตัวอย่าง 1

ยาม

วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถีชาย

ราศีล่าง (ก้านดิน)

ดาวดอกท้อ

เดือน

ปี จุดสังเกต

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ตัวอย่าง 2

ยาม

วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถีหญิง

ราศีล่าง (ก้านดิน)

ดาวดอกท้อ

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

เดือน

ปี จุดสังเกต

วัยจร ปี จร • การเดินวัยจร ปี จร พบถ่อฮวย 桃花 จะเป็ นช่วงที่ดาวถ่อฮวยมีพลัง ถ้ายังไม่ได้แต่งงาน ก็จะได้แฟน คูค่ รอง แต่ถา้ แต่งงานแล้ว ก็จะมีความสัมพันธ์แบบไม่ตงั้ ใจ อารมณ์จะพาไปหากไม่มีสติ

ชง ปะทะ • ถ่อฮวย หาก ถูก ชง ปะทะ จะทาให้เสียชื่อเสียง หรือถึงฆาตเพราะความรัก ตัวอย่าง 1

ยาม

วัน

เดือน

ปี

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถี

ราศีล่าง (ก้านดิน)

ดาวดอกท้อ

ชง

จุดสังเกต

วัน

เดือน

ปี

ดาวดอกท้อ

ชง

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ตัวอย่าง 2

ยาม

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถี

ราศีล่าง (ก้านดิน)

จุดสังเกต

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ดาวโชคลาภ • ถ่อฮวยที่เป็ นดาวไช้ 財 เรียกว่า 桃花財 ถ่อฮวยไช้ ดวงชายจะมีคคู่ รองหน้าตาดีมีเสน่ห ์ หรือมีพอ่ เจ้าชู้ ตัวอย่าง 1

ยาม

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

วัน

เดือน

ปี

ดาวดอกท้อ และดาวโชคลาภ

จุดสังเกต

เดือน

ปี

ดิถี

ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ตัวอย่าง 2

ยาม

ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

วัน ดิถี

ดาวดอกท้อ และดาวโชคลาภ

จุดสังเกต

ดวงเพศชาย (ดาวโชคลาภคือภรรยา)

ดวงเพศชาย

ตัวอย่าง

วัยจร

ปี จร

ดาวดอกท้อ และดาวโชคลาภ

ดาวดอกท้อ และดาวโชคลาภ

ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

• ดวงชายเดินวัยจร ปี จรเข้ามา เป็ น ถ่อฮวยไช้ จะได้แต่งงาน ตัวอย่าง ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ยาม

วัน ดิถีชาย

เดือน

ปี

ดวงเพศหญิง (ดาวอานาจคือสามี)

ดาวนักรบ หรื อดาวขุนนางแฝง • ถ่อฮวยที่เป็ น ดาวชิกสัวะ 杀 เรียกว่า 桃花杀 ถ่อฮวยสัวะ จะควบคุมตนเองไม่ได้ ลุม่ หลงอยูใ่ นอบายมุข การเจ็บป่ วยจากความรัก เสียทรัพย์ คดีความ ดวงหญิงจะมีภยั จากผูช้ าย ตัวอย่าง

ยาม

ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

วัน ดิถีหญิง

ดาวดอกท้อ และดาวนักรบ

จุดสังเกต

เดือน

ปี

ดวงเพศหญิง • ดวงหญิง พืน้ ดวงมีดาวสามี เจี่ยกัว นั่งบน ถ่อฮวย สัวะ 桃花杀 จะได้แต่งงานกับคนเจ้าชู้

ดวงเพศหญิง

ดิถี

• ดวงหญิง พืน้ ดวงมีดาวสามี เจี่ยกัว นั่งบน ถ่อฮวย สัวะ 桃花杀 จะได้แต่งงานกับคนเจ้าชู้

เจียกัว

ตัวอย่าง

ยาม

วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดาวสามี

ดิถีหญิง

ราศีล่าง (ก้านดิน)

ดาวดอกท้อ และดาวนักรบ

จุดสังเกต

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

เดือน

ปี

กลุ่มว่านอนสอนง่าย ดิถี

หรูหรา

ความรู ้

ขยัน รับผิดชอบ

https://www.facebook.com/modern.bazi/

กลุ่มว่านอนสอนยาก เพื่อนกิน

กล้าหาญ

มองการณ์ ไกล

สัญชาตญาณ

นักรบ https://www.facebook.com/modern.bazi/

ดาวขุนนาง (ดาวรับผิดชอบ) ดิถี

• ถ่อฮวย ที่เป็ น ดาวเจีย่ กัว 官 เรียกว่า 桃花官 ถ่อฮวย กัว ดวงชาย หาก ถ่อฮวยกัว เป็ นดาวดี เป็ นคนสุภาพ พูดตรง มีช่ือเสียงดี ตัวอย่าง

ยาม

เจียกัว วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถีชาย

ราศีล่าง (ก้านดิน)

จุดสังเกต

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

เดือน ดาวดอกท้อ และดาวขุนนาง

ปี

ดวงเพศหญิง ดิถี

• ดวงหญิง ที่มีดาวเจี่ยกัว 官 นั่งบน ถ่อฮวย กัว จะได้คคู่ รองหน้าตาดี มีเสน่ห ์ และมีความสาเร็จในชีวิตการงาน พบสุขมีวาสนา ตัวอย่าง ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ยาม

เจียกัว

วัน

เดือน

ดิถีหญิง

ดาวสามี ดาวดอกท้อ และดาวขุนนาง

ปี จุดสังเกต

ดาวก่อเกิด ส่ งเสริ ม ความรู ้ ดิถี

อิ่ง

ดิถี

ดาวก่อเกิด ส่ งเสริ ม

อิ่ง

• ถ่อฮวย ที่เป็ นดาวอิ่ง เรียกว่า 桃花印 ถ่อฮวย อิง่ หากอยูใ่ นพืน้ ดวงจะมีช่ือเสียงเป็ นที่รูจ้ กั หาก ถูกชง จะถูกใส่รา้ ย ทาให้เสียชื่อเสียง ลาบากและเหนื่อย ตัวอย่าง

ยาม

วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถี

ราศีล่าง (ก้านดิน)

จุดสังเกต

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

เดือน

ปี

ดาวดอกท้อ และดาวตราตัง้

ชง

ดาวตราตั้ง • ดาวเจี่ยอิ่ง 印 นั่งบน ถ่อฮวย จะเป็ นคนซื่อสัตย์สจุ ริต ตัวอย่าง 1

ยาม

วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดาวตราตัง้

ดิถี

ราศีล่าง (ก้านดิน)

ดาวดอกท้อ

เดือน

ปี

จุดสังเกต

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน) วัน

เดือน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถี

ดาวตราตัง้

ราศีล่าง (ก้านดิน)

จุดสังเกต

ดาวดอกท้อ

ตัวอย่าง 2

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ยาม

ปี

• ดาวอิ่ง 印 เป็ นถ่อฮวย จะมีแม่เป็ นคนสวย ดวงชายจะได้คคู่ รองดี เอาใจเก่ง ตัวอย่าง 1

ยาม

วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถีชาย

ราศีล่าง (ก้านดิน)

ดาวดอกท้อ และดาวตราตัง้

เดือน

ปี

จุดสังเกต

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ตัวอย่าง 2

ยาม

วัน

ราศีบน (กิ่งฟ้า)

ดิถี

ราศีล่าง (ก้านดิน)

จุดสังเกต

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

เดือน ดาวดอกท้อ และดาวตราตัง้

ปี

ตัวอย่าง วัยจร

ช่วงวัยผูใ้ หญ่

ช่วงกลางคน

ช่วงวัยรุน่

ช่วงวัยเด็ก

ดาวดอกท้อ และดาวตราตัง้

ดาวดอกท้อ และดาวตราตัง้

ดาวดอกท้อ และดาวตราตัง้

ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

• ดิถีน่งั บน ถ่อฮวย อิ่ง หาก วัยจร เดินดาวอิ่ง 印 ยาวนานจะไม่เฮง พ่อแม่ตามใจมากจนเสีย ตัวอย่าง ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน) ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ยาม

วัน ดิถี

เดือน

ปี

คูธ่ าตุ

คู่ธาตุ (ดาวพวกพ้อง) • ถ่อฮวย ที่เป็ น ดาว ปี่ เกียบ 比刧 เรียกว่า 桃花刧 ถ่อฮวย เกียบ ดิถีจะเสียทรัพย์ ใช้จ่ายสุรุย่ สุรา่ ย เพราะถูกหลอกลวงจากเพศตรงข้าม ส่วนดวงหญิง อาจถูกล่อลวงได้ ตัวอย่าง ราศีบน (กิ่งฟ้า) ราศีล่าง (ก้านดิน)

ราศีแฝง (กิ่งซ่อน)

ยาม

วัน

เดือน

ปี

ดาวดอกท้อ และคู่ธาตุ

จุดสังเกต

ดิถี

ดาว 10 จับซิ้ง

ซาฮะ • พืน้ ดวงที่มีถ่อฮวยและเป็ นไตรภาคี และมีภาคีทร่ี าศีบน จะเป็ นคนปากหวาน เข้ากับคนง่าย พูดเก่ง มีเสน่หต์ อ่ เพศตรงข้าม

ไตรภาคี (ครึ่ งไตรภาคี)

http://tiantek.blogspot.com/p/blog-page_22.html

วงจรไฟฟ้า (อุดมคติ)

ต่อตรง

หรือ

ไตรภาคี (ซาฮะ)

ราศีบน

http://tiantek.blogspot.com/p/blog-page_22.html

ภาคีราศีบน

http://tiantek.blogspot.com/p/blog-page_22.html

ข้อสังเกต • ในแต่ละคูจ่ ะเป็ นธาตุท่ีพิฆาตกัน ตัวหนึ่งจะเป็ นพลัง เอีย๊ ง และอีกตัวหนึ่งจะเป็ น พลัง อิม อาจเรียกว่า เป็ นคู่ ”พิฆาตต่างพลัง” • ผลจากการรวมธาตุในแต่ละคู่ เราจะไม่สนใจว่า ธาตุใหม่ นัน้ เป็ น อิม หรือ เอีย๊ ง

1,2

9,10

3,4

5,6

7,8

ภาคีราศีบน 1+

2-

3+

45+

6-

=

ดิน

+

7+

=

ทอง

+

8-

=

นา้

+

+ +

9+

=

10-

=

ไม้ ไฟ

ตาราฝังเข็มฉบับสมบูรณ์ (針灸學) ภาคทฤษฎี บทที่ 4 ปรัชญาอวัยวะภายใน (ตอนที่1) ห้าอวัยวะอิน หกอวัยวะหยางและอวัยวะหยางนิจพิเศษ • สารพัดปั ญหาของโรคภัยไข้เจ็บ ความจริงล้วนมีตน้ เหตุมาจากอวัยวะภายในทัง้ สิน้ https://www.blockdit.com/posts/5d917744d74c050cd77cb113?id=5d917744d74c050cd77cb113&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

• อวัยวะภายในมีอยูห่ ลายอย่าง แต่ปราชญ์ทางการแพทย์ในสมัยก่อน ก็ยงั สามารถทาการสังเกต ทาการจัดระบบ และทาการจัดกลุม่ อวัยวะภายใน ออกเป็ นสองกลุม่ ใหญ่คือ กลุ่มอวัยวะอินและกลุ่มอวัยวะหยาง

อิน •ตัน

หยาง •กลวง

โดยอวัยวะอิน จะมีลกั ษณะทางโครงสร้างที่เป็ นแบบตัน ทาหน้าที่ในการผลักดันและสะสมสารจาเป็ นต่าง ๆ ของร่างกาย • ในทางตรงกันข้าม อวัยวะหยางจะมีลกั ษณะทางโครงสร้างที่เป็ นแบบกลวง ทาหน้าที่ในการย่อยสลายและดูดซึม

https://www.blockdit.com/posts/5d917744d74c050cd77cb113?id=5d917744d74c050cd77cb113&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

• ทัง้ นี ้ อวัยวะอินและหยาง ก็ยงั มีความสัมพันธ์เชื่อมโยง ตามคุณลักษณะประจาธาตุ กันอย่างแนบแน่นอีกด้วย

โดยอวัยวะอินประกอบด้วย หัวใจ ม้าม ปอด ไต และตับ นอกจากนี ้ ก็ยงั มี เยือ่ หุ้มหัวใจ ที่ถกู จัดให้อยูใ่ นส่วนของอวัยวะอินอีกต่างหาก

นอกจากหัวใจ ม้าม ปอด ไต และตับที่ถกู จัดให้อยูใ่ นส่วนของอวัยวะอินแล้ว • ในส่วนของอวัยวะหยาง ก็จะประกอบด้วย ลาไส้เล็ก กระเพาะอาหาร ลาไส้ใหญ่ ถุงนา้ ดี กระเพาะปั สสาวะ และซันเจียว

ลักษณะการผันแปร

https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551

• นอกจากอวัยวะอินและหยาง จะสามารถแบ่งตามลักษณะเชิงกายภาพ ที่เป็ นแบบกลวงและตันได้แล้ว • แพทย์จีน ก็ยงั ทาการแบ่งตามลักษณะของประสิทธิภาพอีกด้วย โดยอวัยวะอินจะทาหน้าที่ในการสะสมสารจิง (精) ลมปราณ (氣) โลหิต (血) สารจินเยี่ย (津液) ซึง่ เป็ นสารจาเป็ นต่าง ๆ ของร่างกาย

• ขณะเดียวกัน อวัยวะหยาง ก็จะทาหน้าที่ในการรับอาหารและนา้ แปรสภาพอาหารและนา้ และทาการขับถ่ายกากใย ของเสียที่เกิดจากการแปรสภาพอาหารและนา้ ออกไป

ดังนั้นอวัยวะทั้งสอง จึงต้องมีกายภาพที่แตกต่างกัน • คืออวัยวะอิน จะต้องเป็ นลักษณะเต็ม เพื่อทาหน้าที่ในการสะสมสารจาเป็ นของร่างกาย • ส่วนอวัยวะหยาง จะต้องกลวง เพื่อทาหน้าที่ในการรับอาหารและนา้ มาทาการย่อยสลายและแปรสภาพ จากนัน้ จึงจะขับถ่าย ส่วนของกากที่เกิดจากการย่อยสลายออกนอกร่างกาย และผลผลิตที่ได้จากกระบวนการนี ้ ก็คือสารจาเป็ นสาหรับร่างกายนั่นเอง

• นอกจาก 12 อวัยวะทีก่ ล่าวถึงข้างต้นแล้ว ก็ยงั มีอวัยวะอืน่ ๆ ทีไ่ ม่สามารถจัดให้อยู่ ในหมวดของอวัยวะอินและอวัยวะหยาง ได้อย่างเด็ดขาด

• เพราะอวัยวะเหล่านีจ้ ะมีลกั ษณะกลวง ซึง่ เป็ นคุณลักษณะของอวัยวะหยาง แต่อวัยวะเหล่านี ้ กลับมีหน้าที่ในการเก็บสะสมสารจิง ที่เป็ นคุณลักษณะของอวัยวะอิน

ด้ วยเพราะอวัยวะเหล่ านี ้ มีคุณลักษณะทั้งอินและหยางในคราวเดียวกัน • ปราชญ์แพทย์จีนโบราณ จึงจัดอวัยวะเหล่านี ้ ให้อยูอ่ ีกหมวดหนึ่ง

และตัง้ ชื่อให้กบั อวัยวะเหล่านีว้ า่ อวัยวะหยางนิจพิเศษ (奇恆之腑) อันประกอบด้วย “สมอง ไขกระดูก กระดูก เส้นโลหิต ถุงนา้ ดี และมดลูก”

บทที่ 4 (ตอนที่ 2) ปรัชญาอวัยวะภายในกับการวินิจฉัยโรค • ปรัชญาของอวัยวะอินและหยาง เป็ นปรัชญาการแพทย์ ที่เกิดจากการศึกษาในทางชีวภาพ กายภาพ และพยาธิสภาพของร่างกาย • https://www.blockdit.com/posts/5d92cfb948b81b25c9f45a7e?series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

• โดยลักษณะอาการและการทางานต่าง ๆ ของอวัยวะ จะสะท้อนไปที่ภายนอกของร่างกาย ดังนัน้ แพทย์จีน จึงสามารถดูลกั ษณะภายนอกของร่างกายแล้ว นาไปสูก่ ารวินิจฉัยอาการ ของอวัยวะภายในได้

ทั้งนี้ เนื่องด้วยอวัยวะภายใน มีการเคลื่อนไหวอยูต่ ลอดเวลา • ดังนัน้ การเคลือ่ นไหวของอวัยวะ จึงทาให้เกิดเป็ นคลื่น ที่สง่ ผ่านตัวกลางต่าง ๆ

เช่น ส่งผ่านกระดูก เส้นเอ็น เส้นผม เส้นเลือด เป็ นต้น

แต่ตวั กลาง ที่คลื่นจะสามารถส่ งผ่านได้ดีที่สุด ก็คือโลหิ ต • โลหิตทีไ่ ด้รบั กระแสคลืน่ ทีเ่ กิดจากการเคลือ่ นไหวของอวัยวะ ก็จะสัน่ สะเทือนไปตามเส้นโลหิตอย่างเป็ นจังหวะเฉพาะ ดังนัน้ แพทย์จีน จึงใช้วิธีการจับชีพจร เพือ่ สังเกตดูลักษณะการสั่นของคลืน่ ทีเ่ กิดจากการเคลือ่ นไหวของอวัยวะภายใน

ในยามที่อวัยวะภายในปกติ อวัยวะก็จะมีการเคลื่อนไหวอย่างหนึ่ง • แต่ยามที่อวัยวะภายใน ไม่ปกติ อวัยวะก็จะมีการเคลื่อนไหวอีกแบบหนึ่ง

และการเคลื่อนไหวที่แตกต่าง ก็ยอ่ มจะสร้างเป็ นกระแสคลื่นที่แตกต่าง และกระแสคลื่นเหล่านี ้ ก็จะส่งผ่านไปตามตัวกลางต่าง ๆ เช่น โลหิต เป็ นต้น

• โลหิตที่ได้รบั กระแสคลื่นเหล่านี ้ ก็จะส่งผ่านไปตามเส้นโลหิต และสุดท้ายจึงสะท้อนออกเป็ น จังหวะการเต้นของชีพจร • แพทย์ผชู้ าญฉลาด จึงพบว่า ยามทีร่ ่างกายป่ วยด้วยโรคอย่างนี้

การเต้นของชีพจรทีเ่ กิดจากคลืน่ ทีส่ ่งออกมาจากอวัยวะภายใน ก็จะเต้นแบบนี้

• เมื่อทาการสังเกตจนมั่นใจแล้ว ก็จะทาการจดจาและบันทึก สุดท้ายจึงกลายเป็ น ศาสตร์แห่งการวินิจฉัยโรค ทีม่ คี วามแม่นยาโดยไม่จาเป็ นต้องเปิ ดช่องร่างกาย ไม่จาเป็ นต้องอาศัยเครือ่ งมือ เพียงแค่มอื เปล่าและประสบการณ์ ก็จะสามารถทราบอาการของร่างกายได้แล้ว

https://www.blockdit.com/posts/5d92cfb948b81b25c9f45a7e?series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

จุดจับชีพจร

หัวใจ ลาไส้เล็ก ตับ ถุงนา้ ดี ไต กระเพาะปั สสาวะ

ปอด ลาไส้ใหญ่ ม้าม กระเพาะอาหาร ไต ซานเจียว

จึงสรุ ปได้วา่ ปรัชญาของอวัยวะอินและอวัยวะหยางนัน้ เกิดจากการสังเกตและสั่งสมประสบการณ์มาเป็ นเวลานาน โดยมีพืน้ ฐานจากการสังเกต ในสามด้านด้วยกันคือ • หนึ่ง สังเกตในทางกายภาพ เช่นอวัยวะภายในมีรูปร่างลักษณะเป็ นแบบกลวงหรือแบบตันเป็ นต้น • สอง สังเกตในทางชีวภาพและพยาธิสภาพ เช่น เมื่อร่างกายได้รบั ความเย็นและเป็ นหวัด ร่างกายก็จะมีอาการคัดจมูก นา้ มูกไหล กลัวหนาว ตัวร้อน ด้วยเหตุนี ้ จึงทาให้แพทย์จีนพบว่า ผิวหนัง จมูก และปอดมีความเกี่ยวพันกัน เป็ นต้น

• สาม สังเกตจากประสบการณ์การรักษาทางคลินิก เช่น ใช้วิธีการบารุงไต จะมีสว่ นช่วยในการรักษาอาการกระดูกหัก ให้สมานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึน้ จึงรูไ้ ด้วา่ ไตมีสว่ นเกี่ยวข้องกับกระดูก เป็ นต้น

ไตและกระดูก

บทที่ 4 (ตอนที่ 3) ห้าอวัยวะอิน หัวใจและเยื่อหุม้ หัวใจ • หัวใจ มีตาแหน่งอยูท่ ่ีกลาง อก เส้นหัวใจจะเชื่อมกับเส้นลาไส้เล็ก ในลักษณะนอกใน (表裡) เป็ นธาตุไฟ มีหน้าที่ท่ีควบคุมเส้นโลหิต (主血脈) ความสมบูรณ์ปรากฏที่ใบหน้า (其華在面) เป็ นที่สถิตแห่งจิตใจ (主藏神) และมีทวารเปิ ดทีล่ นิ้ (開竅於舌)

https://www.blockdit.com/posts/5d958cae367c9d1b80eb1716?series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

1.หน้าที่ควบคุมเส้นโลหิ ตและมีความสมบูรณ์ ปรากฏที่ใบหน้า (主血脈 其華在面) • การที่หวั ใจดูแลเรื่องเส้นโลหิต สาเหตุเพราะหัวใจ เป็ นต้นกาเนิดของแรงขับเคลื่อนโลหิตทัง้ ร่างกาย

กว้า หลี

https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b

• ยามที่หวั ใจมีการบีบเต้นดี เส้นโลหิตก็จะมีพลัง หากหัวใจมีการบีบเต้นอ่อน เส้นโลหิตก็จะมีพลังอ่อน

และการที่หวั ใจสามารถผลักดันการโคจรโลหิตของทัง้ ร่างกาย นั่นก็เพราะ หัวใจมีพลังแห่งหัวใจ (心氣)

• หากพลังหัวใจดีพอ หัวใจก็จะสามารถบีบเต้น และส่งโลหิตไปทัง้ ร่างกายได้อย่างเพียงพอ

ดังนัน้ เมื่อโลหิต สามารถถูกส่งไปหล่อเลีย้ งอวัยวะทัง้ หมดของร่างกาย ชีพจรการเต้นก็จะมีพลังและไม่รวั เร็ว ใบหน้าก็จะดูมีความสดใสแดงเรื่อ แต่หากพลังหัวใจอ่อนลง ชีพจรก็จะอ่อนเล็ก ใบหน้าจะไม่มีความสดใส

2.เป็ นที่สถิตแห่งจิตใจ (主藏神) • คาว่า จิตใจ (神) สามารถอธิบายได้สองลักษณะ คือเป็ นคานิยามแบบกว้างและคานิยามแบบแคบ • ในด้านคานิยามแบบกว้างนัน้ คาว่า จิตใจ หมายถึง กิรยิ าท่าทาง หรือบุคลิกทีแ่ สดงออกทีภ่ ายนอก ในด้านคานิยามแบบแคบนัน้ จะหมายถึง เรือ่ งของกระบวนการความคิดทัง้ หมด

ในทางปรัชญาการแพทย์จีน • จะบอกว่าเรื่องของความคิด มีความเกี่ยวข้องกับอวัยวะภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออวัยวะหัวใจ

ดังนัน้ ไม่วา่ จะเป็ นเรื่องของกาลังใจ ความคิดอ่าน ความจา การนอน ทัง้ หมดล้วนมีความเกี่ยวข้องกับหัวใจ ที่ทาหน้าที่ในการเป็ นทีส่ ถิตแห่งจิตใจ ได้ทงั้ สิน้

3.มีทวารเปิ ดที่ลิ้น (開竅於舌) • คาว่า “เปิ ดทวารที่” คานี ้ หมายถึงว่าอวัยวะที่กล่าวถึงนี ้ จะมีความเกี่ยวพันกับอวัยวะอีกอวัยวะหนึ่ง

เช่น หัวใจมีทวารเปิ ดที่ลิ้น • หมายความว่า หัวใจมีความเกีย่ วข้องอย่างแนบแน่นกับลิน้ โดย ลิน้ มีความเชือ่ มโยงกับ เส้นโลหิต ควบคุมเรื่องของรสชาติและการพูดจา หัวใจจะดีหรือไม่ดี ก็จะสะท้อนออกมาที่สภาพการทางานของลิน้ อีกทางหนึ่ง เป็ นต้นว่า ลิน้ มีเนือ้ ลิน้ สวยงามไหม สัมผัสรสชาติได้ดีไหม การพูดจาคล่องแคล่วไหม ลิน้ มีความอ่อนนุ่มและเคลื่อนไหวอย่างไม่ติดขัดไหมดีไหม

และหากหัวใจป่ วย • อาการทางหัวใจ ก็จะสะท้อนออกมาที่ลนิ ้ ได้อย่างชัดเจน เป็ นต้นว่า เมือ่ เลือดไม่เพียงพอ ลิน้ ก็จะมีสซี ีด เมือ่ ไฟในหัวใจแรง ลิน้ ก็จะเป็ นแผลพุพอง ปลายลิน้ แดงจัด

• เมือ่ เลือดมีการอุดอัน้ เนือ้ ลิน้ จะมีลกั ษณะเป็ นสีม่วงหรือมีจุดจ้าเลือด และก็ดว้ ยเพราะหัวใจมีความเกีย่ วพันกับลิน้ ดังนัน้ โบราณจึงกล่าวว่า “หัวใจมีทวารเปิ ดที่ลนิ ้ (開竅於舌)” และ “ลิน้ เป็ นต้นกล้าแห่งหัวใจ (舌為心之苗)”

4.เยือ่ หุม้ หัวใจ (心包) • เยื่อหุม้ หัวใจ เป็ นอวัยวะที่มีลกั ษณะเป็ นเยื่อที่หอ่ หุม้ หัวใจเอาไว้ มีเส้นลมปราณที่เชื่อมโยงกับอวัยวะซันเจียว มีความสัมพันธ์กบั ซันเจียว ในลักษณะนอกใน (表裡) เยือ่ หุม้ หัวใจ จะทาหน้าทีใ่ นการคุม้ ครองหัวใจเอาไว้

ดังนั้นเมื่อมีพลังร้ายเข้ากระทบต่อหัวใจ พลังนั้นก็จะกระทบต่อเยือ่ หุ ม้ หัวใจก่อนเป็ นอันดับต้น • และเมื่อเยื่อหุม้ หัวใจเกิดปั ญหา ก็จะแสดงอาการเหมือนดั่งว่าหัวใจก็เกิดปั ญหาด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีพิษอุน่ ร้อนเข้าสูภ่ ายใน ก็จะมีอาการสลึมสลือ พูดจาเพ้อเจ้อ เป็ นต้น

• แต่ความเป็ นจริงแล้ว เมือ่ เยือ่ หุ้มหัวใจป่ วยก็จะเสมือนหนึ่งว่าหัวใจป่ วย เพียงแต่การที่เยื่อหุม้ หัวใจป่ วย เยื่อหุม้ หัวใจจะหน้าที่เป็ นหนังหน้าไฟรับผลกระทบนัน้ ก่อน จะไม่ยอมให้หวั ใจ ซึง่ เป็ นส่วนสาคัญที่สดุ ของร่างกาย ต้องถูกทาร้ายก่อนนั่นเอง

https://www.blockdit.com/posts/5d958cae367c9d1b80eb1716?series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378

Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.