โครงงานการศึกษาปูนปั้นจากเปลือกมังคุด จัดทำโดย นางสาวสุพิชชา เพ็งสอนบุตร เลขที่ 24 นางสาวเพ็ชรธิดา ตติยะรัตน์

เลขที่ 33

นางสาววนิดา

คำธารา

เลขที่ 34

นางสาวอินทิรา

แจ่มศรี

เลขที่ 35

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 เสนอ คุณครูอารยา บัววัฒน์ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการสื่อสารและการนำเสนอ รหัสวิชา I30202 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒

ก

กิตติกรรมประกาศ โครงงานฉบับสำเร็จอย่างสมบูรณ์ได้ด้วยความช่วยเหลืออย่างยิ่งจาก คุณครูอารยา บัววัฒน์ คุณครูที่ปรึกษา ที่ได้ให้คำแนะนำ และให้ข้อมูลต่างๆ ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง ณ โอกาสนี้ ขอขอบพระคุณคุณครู โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ ที่ได้ให้คำแนะนำตลอดจน ตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ในโครงงาน อนึ่ง ผู้วิจัยหวังว่า โครงงานฉบับนี้จะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย จึงขอมอบส่วนดีทั้งหมดนี้ให้แก่ เหล่าอาจารย์ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาจนทำให้ผลงานวิจัยเป็นประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องและขอมอบ ความกตัญญูกตเวทิตาคุณแด่ บิดา มารดา และผู้มีพระคุณทุกท่านตลอดจนเพื่อนๆ ที่คอยให้ความ ช่วยเหลือและกำลังใจ คณะผู้จัดทำ

ข

บทคัดย่อ โครงงานเรื่อง ปูนปั้นจากเปลือกมังคุด มีจุดประสงค์เพื่อ (1)นำเปลือกมังคุดที่ท้งิ แล้วนำมาใช้ให้ เกิดประโยชน์ (2)ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ (3)ประหยัดค่าใช้จ่าย ในการทำผลิตภัณฑ์ปูนปั้นจากเปลือกมังคุด คณะผู้จัดทำได้ใช้อุปกรณ์ในการทำโดย ประกอบด้วย (1)เปลือกมังคุด (2)แป้งข้าวโพด (3)กะละมัง (4)กระป๋องพ่นสี โดยมีวิธีการทำดังนี้ (1)โดย นำเปลือกมังคุดที่เหลือ ๆ มาเด็ดขั้วที่เป็นจุกด้านบนออก ล้างทำความสะอาด แล้วนำมาหัก บิด ให้แตก เป็นชิ้นเล็ก ๆ (2)จากนั้นก็เอาไปตำให้ละเอียดโดยไม่ใช้น้ำ (3)หาภาชนะ ที่สามารถล้างทำความสะอาด ง่ายมาใส่ (4)โรยแป้งอเนกประสงค์ ในอัตราส่วน เปลือก 2 ส่วน ต่อ แป้ง 1 ส่วนแล้วเอามือชุบแป้งมัน เพื่อป้องกันไม่ให้เปลือกติดมือ (5)ใช้มือขยำ นวด ให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวเติมน้ำบ้างนิดหน่อยโดย สังเกตเอาว่าแห้งไปหรือไม่ เนื้อเนียนพอจะปั้นได้รึยัง (6)พอได้ที่แล้วก็เอาพัก โดยใส่ถุงพลาสติก หรือ ภาชนะมีฝาปิดมิดชิด (7)จากนั้นก็นำมาปั้นระหว่างปั้นถ้าวัสดุปั้นติดมือก็เอามือจุ่มน้ำเป็นครั้งคราว เพื่อ จะได้ทำงานสะดวกขึ้น จากการศึกษารวบรวมข้อมูลส่วนผสมต่างๆและวิธีการทำรวมถึงความเป็นมาของวัตถุดิบที่ใช้ พบว่าปูนปั้นจากเปลือกมังคุดสามารถนำมาใช้ได้จริงและใส่ของต่างๆสามารถเก็บของได้เหมือนที่เก็บ ของทั่วไป

ค

สารบัญ หน้า บทคัดย่อ

ก

กิตติกรรมประกาศ

ข

สารบัญ

ค

บทที่ 1 บทนำ

1

บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง

2

บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ

9

บทที่ 4ผลการทดลอง

17

บทที่ 5 สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ

22

บรรณานุกรม

23

ภาคผนวก

24

บทที่ 1 บทนำ 1.1 ทีม่ าและความสำคัญของโครงงาน เนื่องจากในปัจจุบันปูนจากสารเคมีที่ใช้ในการปั้นเครื่องใช้ นั้นมีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งอาจทำให้ ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นการใช้ปูนปั้นที่ทำจากเปลือกมังคุดนั้นเป็นทางเลือกที่ดีและนับเป็นภูมิ ปัญญาที่สืบทอดกันมาแต่ในอดีตโดยกระบวนการปั้นสามารถหาปูนปั้นได้จากวัสดุธรรมชาติที่มีใน ท้องถิ่น ซึ่งเป็นเศษวัสดุเหลือใช้มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งยังนำของที่เหลือใช้มา สร้างมูลค่าเพิ่มทางคณะผู้จัดทำจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้ปูนปั้นจากเปลือกมังคุดแทนการใช้ ปูนจากสารเคมีทั้งนี้จึงเลือกใช้เศษวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติ ได้แก่ เปลือกมังคุด ซึ่งมังคุดได้ชื่อว่าเป็น ราชินีผลไม้ประจำจังหวัดจันทบุรีเปลือกมังคุดจึงหาได้ง่ายในท้องถิ่น เป็นการเพิ่มมูลค่าให้วัสดุเหลือใช้ ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

1.2 วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1.2.1 นำเปลือกมังคุดที่ทิ้งแล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 1.2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 1.2.3 ประหยัดค่าใช้จ่าย

1.3 ขอบเขตของการศึกษา 1.3.1 นำเปลือกผลไม้มังคุดที่ทิ้งแล้วนำมาสร้างประโยชน์ 1.3.2 ประหยัดต้นทุนในการผลิตเครื่องปั้น

1.4 สมมติฐานของการศึกษา 1.4.1 ปูนปั้นจากเปลือกมังคุดมีคุณภาพทีด่ ีและใช้ทดแทนปูนปั้นจากสารเคมีแทนได้ 1.4.2 ปูนปั้นจากเปลือกมังคุดช่วยประหยัดต้นทุน

1.5 ตัวแปรที่ศึกษาค้นคว้า 1.5.1 ตัวแปรต้น - เปลือกมังคุด 1.5.2 ตัวแปรตาม - คุณภาพในการใช้งานของปูนปั้นจากเปลือกมังคุด 1.5.3 ตัวแปรควบคุม - จำนวนของเปลือกมังคุดที่นำมาตำ - ปริมาณของแป้งและน้ำ

2

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในปัจจุบันเปลือกมังคุดได้ใช้ในหลายๆโอกาส เช่น เรื่องสุขภาพและผิวพรรณ ทำสบู่ และยาฆ่า แมลงจึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเปลือกมังคุดมากขึ้น รวมไปถึงได้พัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ ดียิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

หัวข้อที่ศึกษามีดังนี้ 1.มังคุด 2.แป้งข้าวโพด

มังคุด th.wikipedia.org/wiki/มังคุด (2565) มังคุด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Garcinia mangostana Linn.) เป็นพันธุ์ไม้ไม่ผลัดใบเขตร้อนชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หมู่เกาะซุนดาและหมู่เกาะโมลุกกะ แพร่กระจายพันธุ์ไปสู่หมู่เกาะอินดีส ตะวันตกเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 24 แล้วจึงไปสู่ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส ปานามา เอกวาดอร์ ไปจนถึง ฮาวาย ในประเทศไทยมีการปลูกมังคุดมานานแล้วเช่นกัน เพราะมีกล่าวถึงในพระราชนิพนธ์เรื่ อง รามเกียรติ์ในสมัยรัชกาลที่ 1 นอกจากนั้น ในบริเวณโรงพยาบาลศิริราชยังเคยเป็นที่ตั้งของวังที่มีชื่อว่า "วังสวนมังคุด" ในจดหมายเหตุของราชทูตจากศรีลังกาที่เข้ามาขอพระสงฆ์ไทย ได้กล่าวว่ามังคุดเป็นหนึ่ง ในผลไม้ที่นำออกมารับรองคณะทูต 1) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ มังคุดเป็นไม้ยืนต้น สูง 10-12 เมตร ทุกส่วนมียางสีเหลือง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูป วงรีแกมขอบขนาน กว้าง 6-11 ซม. ยาว 15-25 ซม. เนื้อใบหนาและค่อนข้างเหนียวคล้ายหนัง หลังใบสี เขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบสีอ่อนกว่า ดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง สมบูรณ์เพศหรือแยก เพศ กลีบเลี้ยงสี เขียวอมเหลืองติดอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสีแดง ฉ่ำน้ำ ผลเป็นผลสด ค่อนข้างกลม เปลือกนอกค่อนข้างแข็ง แก่เต็มที่มีสีม่วงแดง ยางสีเหลือง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร เนื้อในมี สีขาวฉ่ำน้ำ อาจมีเมล็ดอยู่ในเนื้อผลได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของผล จำนวนกลีบของเนื้อ จะเท่ากับ จำนวนกลีบ ดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือก เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร เมล็ดไม่ส ามารถใช้ รับประทานได้ ส่วนของเนื้อผลที่กินได้ของมังคุดเป็นชั้นเอนโดคาร์ป ซึ่งพัฒนามาจากเปลือกหุ้มเมล็ดเรียกว่า aril มีสีขาว มีกลิ่นหอมสารระเหยได้ส่วนใหญ่คือ hexyl acetate, hexenolและ α-copaene ส่วน ล่างสุดของผลที่เป็นแถบสีเข้มที่ติดอยู่เรียงเป็นวงพัฒนามาจากปลายยอดเกสรตัวเมีย (stigma)มีจำนวน เท่ากับจำนวนเมล็ดภายในผล เมล็ดมังคุดเพาะยากและต้องได้รับความชื้นจนกว่าจะงอก เมล็ดมังคุดเกิด จากชั้นนิวเซลลาร์ ไม่ได้มาจากการปฏิสนธิ เมล็ดจะงอกได้ทันทีเมื่อออกจากผลแต่จะตายทันทีที่แห้ง

3

มังคุดมีพันธุ์พื้นเมืองเพียงพันธุ์เดียว แต่ถ้าปลูกต่างบริเวณกันอาจมีความผันแปรไปได้บ้าง ใน ประเทศไทยจะพบความแตกต่างได้ระหว่างมังคุดในแถบภาคกลางหรือมังคุดเมืองนนท์ ที่ผลเล็ก ขั้วยาว เปลือกบาง กับมังคุดปักษ์ใต้ที่ ผลใหญ่กว่า ขั้วผลสั้น เปลือกหนา ปัจจุบันมีการเพาะปลูกและขายบน เกาะบางเกาะในหมู่เกาะฮาวาย ต้นมังคุดต้องปลูกในสภาพอากาศอบอุ่น หากอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 4 °C จะทำให้ต้นมังคุดตายได้ 2) การใช้ประโยชน์ มังคุดเป็นผลไม้จากเอเชียที่ได้รับความนิยมมาก มังคุดได้รับขนานนามว่ าเป็น "ราชินีของผลไม้" อาจเป็นเพราะด้วยลักษณะภายนอกของผลที่มีกลีบเลี้ยงติด อยู่ที่หัวขั้วของผลคล้ายมงกุฎของพระราชินี ส่วนเนื้อในก็มีสีขาวสะอาด มีรสชาติที่แสนหวาน อร่อยอย่างยากที่จะหาผลไม้อื่นมาเทียบได้ มีการนำ มังคุดมาประกอบอาหารบ้างทั้งอาหารคาว เช่น แกง ยำ และอาหารหวาน เช่น มังคุดลอยแก้ว แยม มังคุด มังคุดกวน มังคุดแช่อิ่ม ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีการทำมังคุดคัด ด้วยการแกะเนื้อมังคุดห่าม ออกมาเสียบไม้รับประทาน ในขณะที่ส่วนใหญ่จะนิยมรับประทางมังคุดสุกเป็นผลไม้ ซึ่งมีประโยชน์ใน การช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการ เกิดริ้วรอย และยังมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอีกด้วย เนื้อมังคุดมีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะโพแทสเซียม โปรตีน สารเยื่อใย วิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียมและแมกนีเซียม จากการ ตรวจวิเคราะห์พบว่าในน้ำมังคุด 100 มิลลิลิตร ประกอบด้วยโพแทสเซียมปริมาณสูงถึง 87.14 มิลลิกรัม แคลเซียม 34.53 มิลลิกรัม และแมกนีเซียม 111.22 มิลลิกรัม เปลือกของมังคุดมีสารให้รสฝาด คือแทนนิน แซนโทน (โดยเฉพาะแมงโกสติน) แทนนินมีฤทธิ์ ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็ว มังคุดช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง ได้ดี ในทางยาสมุนไพร ใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้ำหรือย่างไฟ ฝนกับน้ำปูนใส แก้ท้องเสีย เปลือก แห้งฝนกับน้ำปูนใส ใช้รักษาอาการน้ำกัดเท้า แผลเปื่อย เปลือกมังคุด มีสารป้องกันเชื้อราเหมาะแก่การ หมักปุ๋ย ชาวโอรังอัซลีในรัฐเปรัก มาเลเซียใช้เปลือกผลแห้งรักษาแผลเปิด ยางมังคุด มีประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมหลายประเภท เนื่องจากยางมังคุดใช้เป็น วัตถุดิบในการสกัดสารกลุ่มแซนโทน ซึ่งแต่ละชนิดที่มีฤทธิ์ทางยาที่แตกต่างกัน รวมทั้งมีประโยชน์ต่อ อุตสาหกรรมพลาสติก นอกจากนั้นยางมังคุดยังเข้ามามีบทบาทในการใช้เป็นสารเจือปนในอาหาร เพราะมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อStaphylococcus Aureus ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ 3) การแปรรูปมังคุด มังคุดสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ได้หลายชนิดเช่น 3.1) น้ำส้มสายชูมังคุด เป็นการหมักเนื้อมังคุดด้วยเชื้อ Gluconobacter Oxydans จะได้ ปริมาณกรดน้ำส้มอยู่ระหว่าง 4 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ คุณภาพของน้ำส้มสายชูที่ได้จะมีสีตามธรรมชาติ มี กลิ่นหอมของกรดน้ำส้ม มีลักษณะใส ไม่มีหนอนน้ำส้ม สิ่งสกปรกหรือสิ่งเจือปนอันใด ไม่มีตะกอนจาก ตะกอนที่เกิดโดยธรรมชาติของน้ำส้มสายชูหมัก ผลิตภัณฑ์น้ำส้มสายชูมังคุดเพื่อสุขภาพ อุดมด้วย โพแทสเซียม ปริมาณ 97.8 มิลลิกรัม แคลเซียม 3.3มิลลิกรัม แมกนีเซียม 13.7 ต่อ 100 กรัม และ ปริมาณกรดน้ำส้ม 4.68 เปอร์เซ็นต์

4

3.2) มังคุดไซเดอร์ ไซเดอร์เป็นเครื่องดื่มผลไม้ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ การผลิตไซเดอร์สามารถผลิต ได้ 2 วิธี คือ แบบดั้งเดิมซึ่งเป็นการผลิตจากการหมักผลไม้ตามธรรมชาติโดยไม่มีการเติมยีสต์ อีกวิธีหนึ่ง คือ การหมักผลไม้และเติมยีสต์เข้าไปเพื่อเร่งปฏิกิริยา การผลิตไซเดอร์จากมังคุดโดยวิธี การแบบดั้งเดิม คือหมักมังคุดตามธรรมชาติ คุณภาพของไซเดอร์จะขึ้นอยู่กับสี ความขุ่น ความเปรี้ยวความหวาน ความ ขม ความเค็มและกลิ่นรสผลไม้ รวมทั้งกลิ่นรสต่างๆ ที่เกิดจากการหมักด้วยเชื้อยีสต์ คุณลักษณะเหล่านี้ มีผลทำให้ไซเดอร์เป็นที่นิยมของผู้บริโภค นอกเหนือจากการมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ไซ เดอร์จากน้ำมังคุด ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงประกอบด้วยโพแทสเซียมสูงถึง 871 มิลลิกรัมต่อลิตร 3.3) มังคุดสำเร็จรูปชนิดเกล็ด เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์จาก มังคุด เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการใช้เ นื้อมังคุดที่บดละเอียดมาทำการอบแห้งและแช่แข็งที่อุณหภูมิ ต่ำ (Freeze Dry) การทำผลิตภัณฑ์แช่แข็งอบแห้ง จะยังคงคุณค่าทางโภชนาการของมังคุดไว้อย่าง ครบถ้วน ประกอบด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียมในปริมาณสูงเมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ ชนิดอื่น รวมทั้งคุณประโยชน์ที่ ได้จากใยอาหารและคุณค่าที่ได้จากสารประกอบกลุ่มแซนโทนโดย ธรรมชาติจากเนื้อมังคุดล้วนในปริมาณที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายผลิตภัณฑ์มังคุดเกล็ด สามารถชง ละลายได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นในปริมาณถ้วยละ 2 หรือ 3 ช้อนชา ชงดื่มมังคุดเกล็ด 1 ซอง (60 กรัม) จะได้คุณค่าครบถ้วนของมุงคุดสด 300 กรัม 4) มังคุดในประเทศไทย ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกมังคุดมากเป็นอันดับต้นๆของโลก ไปสู่ในหลายๆประเทศทั่ว โลกเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ โดยมีมูลค่าการส่งออกปีละมากกว่า 1 ,500 ล้าน บาท มังคุดที่ถูกส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศมีทั้งในรูปของผลสดและมังคุดแปรรูป ภาคใต้จัดเป็น แหล่งปลูกมังคุดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถผลิตมังคุดที่มีคุณภาพดีและมีรสชาติดีเมื่อเทียบกับ มังคุดในภูมิภาคอื่นของประเทศ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จากการที่มังคุดมีเอกลักษณ์ทั้งใน รู ป ร่ า งของผลที ่ ส วยงาม และมี ร สชาติ ท ี ่ ห วานอมเปรี ้ ย ว เป็ น ที ่ ช ื ่ น ชอบของทั ้ ง ชาวไทยและชาว ต่างประเทศจนได้รับฉายาว่า “Queen of Fruits” ในปัจจุบันมังคุดจึงจัดเป็นผลไม้ที่มีศักยภาพสูงใน การส่ ง ออกของประเทศไทย และในอนาคตมี แ นวโน้ ม ว่ า มั ง คุ ด จะมี ค วามสำคั ญ มากขึ ้ น อี ก ด้ ว ย เนื่องจากว่าประเทศไทยได้ทำการขยายตลาดการส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนซึ่งมี ประชากรสูง ก็ให้ความสนใจกับไม้ผลชนิดนี้ด้วย sanook.com/health/24517/ (2564) ประโยชน์ของ “มังคุด” 1) มังคุดมีวิตามินซีที่ช่วยย่นระยะเวลาในการเป็นไข้หวัดให้หายเร็วขึ้น เสริมสร้ างภูมิคุ้มกันโรค ให้กับร่างกาย และลดความเสี่ยงโรคลักปิดลักเปิด (เลือดออกตามไรฟัน) 2) มังคุดมีวิตามินบีคอมเพล็กซ์ (บี 1 ไนอะซิน) ที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน และช่วยให้ ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น 3) มังคุดมีโฟเลตที่ดีต่อหญิงตั้งครรภ์ เพราะช่วยป้องกันการพิการแต่กำเนิดในทารก ช่วยในการ สร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอด และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย

5

4) มังคุดมีใยอาหารจำนวนมาก ที่ช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย และลดความเสี่ยงของโรคที่ เกีย่ วกับลำไส้ต่างๆ 5) งานวิจัยพบว่า สารสกัดจากมังคุดมีฤทธิ์ต้านการลุกลามของมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อม ลูกหมาก 6) เปลือกมังคุดก็ยังอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมีแซนโทน (Xanthone) จึงมักมีผลิตภัณฑ์ที่สกัด จากเปลือกมังคุดผสมอยู่ในอาหารและเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ 7) มังคุดมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยต้านการอักเสบ

แป้งข้าวโพด hellokhunmor.com/โภชนาการเพื่อสุขภาพ/ข้อมูลโภชนาการ/แป้งข้าวโพด-แป้งประกอบ อาหาร-ประโยชน์และโทษ/ 1) ทำความรู้จัก แป้งข้าวโพด แป้งสำหรับทำอาหาร ข้าวโพดเป็นธัญพืชที่มีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนคือ จมูกข้าวโพด รำ และเอนโดสเปิร์ม รำ คือส่วนที่เปลือกด้านนอกที่แข็งๆ รำของข้าวโพดเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ จมูกข้าวโพด จมูก ข้าวโพดเป็นส่วนกลางของเมล็ด ที่สามารถงอกเป็นต้นข้าวโพดได้ จมู กข้าวโพดเป็นส่วนที่อุดมไปด้วย ไขมัน เอนโดสเปิร์ม แป้ง ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตนั้นส่วนใหญ่แล้วได้มาจากส่วนนี้ การทำแป้งข้าวโพดนั้น จะทำการแยกรำ จมูกข้าวโพดและเอนโดสเปิร์มของเมล็ดข้าวโพดก่อน จากนั้นแป้งจากเอนโดสเปิร์มของเมล็ดข้าวโพดจะถูกสกัดด้วยกระบวนการที่เรียกว่า การบดเปียก (Wet milling) โดยเริ่มจากการนำเมล็ดข้าวโพดไปแช่น้ำก่อน แล้วทำการแยกเมล็ดพืชออกเป็นส่วนๆ ทำให้ได้ แป้งข้าวโพด น้ำมันข้าวโพด และน้ำเชื่อมข้าวโพด 2) คุณค่าทางโภชนาการของแป้งข้าวโพด แป้งข้าวโพดเป็นแป้งที่มีแคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตสูง แต่ขาดสารอาหารที่ส ำคัญอย่าง โปรตีน ไฟเบอร์ วิตามินและแร่ธาตุ แป้งข้าวโพดหนึ่งถ้วย ประมาณ 128 กรัม มีสารอาหาร ดังนี้ แคลอรี่ 488 โปรตีน 0.5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 117 กรัม ไฟเบอร์ 1 กรัม ทองแดง ร้อยละ 7 ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน ซีลีเนียม ร้อยละ 7 ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน

6

เหล็ก ร้อยละ 3 ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน แมงกานีส ร้อยละ 3 ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน 3) ประโยชน์ของแป้งข้าวโพด สารอาหารส่ ว นใหญ่ ใ นข้ า วโพดนั ้ น มั ก จะพบได้ ท ี ่ รำและจมู ก ข้ า วโพด แต่ ด ้ ว ยขั ้ น ตอน กระบวนการผลิตแป้งข้าวโพดทำให้ไม่มีทั้งรำและจมูกข้าวโพด ทำให้แป้งข้าวโพดเป็นแป้งที่มีปริมาณ แคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตที่สูง และไม่มีสารอาหารอย่างไฟเบอร์ ไขมัน หรือวิตามินที่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้ ทำให้แป้งข้าวโพดเป็นแป้งที่มีประโยชน์อย่างจำกัด หากคุณเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวที่ต่ำกว่าเกณฑ์ การ รับประทานแป้งข้าวโพดจะช่วยเพิ่มน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้แป้งข้าวโพดยังให้พลังงานแก่ ร่างกายของคุณได้เร็ว ประโยชน์อีกอย่างของแป้งข้าวโพดคือปราศจากกลูเตน สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ กลูเตน แป้งข้าวโพดก็ถือเป็นตัวเลือกอีกชนิดหนึ่ง 4) ข้อเสียของการใช้แป้งข้าวโพด 4.1) เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด แป้งข้าวโพดอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและค่าดัชนีน้ำตาล ซึ่งอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงเมื่อ รับประทานไปแล้ว ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้แป้งข้าวโพดยังมีไฟ เบอร์ต่ำ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้แป้งข้าวโพดถูก ย่อยอย่างรวดเร็วและอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นแป้งข้าวโพดจึงไม่ใช่ตัวเลือก ที่ดีหากคุณเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 หรือต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 4.2) อันตรายต่อสุขภาพหัวใจ แป้งข้าวโพดถือเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการกลั่น ซึ่งหมายความว่าได้ผ่านกระบวนการแปรรูปที่ และถูกตัดสารอาหารออก จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต กลั่น เช่น แป้งข้าวโพดเป็นประจำอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจได้ นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่ อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง อาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอด เลือดหัวใจ โรคอ้วน โรคเบาหวานประเภท 2 และความดันโลหิตสูงได้ การบริโภคแป้งข้าวโพดในปริมาณที่สูงเป็นประจำนั้น อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่ง ส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจ อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้แป้งข้าวโพดในการประกอบอาหารได้ แต่ควรใช้ ในปริมาณที่พอเหมาะ และควรจับคู่กับอาหารที่ ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อให้ ได้สารอาหาร วิตามิน เกลือแร่อื่นๆ ที่ในแป้งข้าวโพดไม่มี gurubaan.com/ประโยชน์ของแป้งข้าวโพด/gurubaan.com/ (2560) ประโยชน์ของแป้งข้าวโพด 1) ใช้ทำความสะอาดคราบน้ำมันบนผ้า หมดกังวลไปได้เลยหากคุณทำเสื้อผ้าเลอะน้ำมันทอดอาหาร ให้ลงแป้งข้าวโพดทิ้งไว้บนจุดที่เปื้อน ประมาณ 1 คืน เพื่อให้มันดูดซับความมันและความชื้น จากนั้นจึงซักล้างตามขั้นตอนปกติ จะเห็นได้ว่า

7

ความมันบนเสื้อหายหมด สะอาดเหมือนเสื้อไม่เคยเปื้อนมาก่อน หรือถ้าคุณทำอาหารแล้วน้ำมันเกิดหก หรือหล่นใส่พรม จนทำให้เกิดคราบน้ำมันเลอะเทอะทั่วบริเวณพรม ไม่ต้องนั่งเศร้าเสียใจคิดจะซื้ อพรม ใหม่ให้เปลืองเงิน เพียงคุณใช้แป้งข้าวโพดใส่ลงบนบริเวณที่เปื้อน ทิ้งไว้ 20-30 นาที จากนั้นใช้เครื่องดูด ฝุ่นดูดออก จะช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดไปได้เยอะ ไม่ต้องเสียเงินซื้อพรมใหม่อย่างแน่นอน 2) ใช้ทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบ หากรองเท้าของคุณเปียก แฉะ อับชื้น มีกลิ่นเหม็น ให้โรยแป้งความโพดทิ้งไว้ทั้งคืน แล้วปัด ออกในตอนเช้า จะช่วยให้ความชื้นที่อยู่ในรองเท้าลดลงไปได้ ที่สำคัญยังช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ออกไปได้อีกด้วย 3) ป้องกันกลิ่นตัวไม่ต้องฉีดน้ำหอมราคาแพง หรือใช้โคโลญให้รู้สึกเฉอะแฉะผิวกาย สามารถใช้แป้งข้าวโพดผสมกลิ่นหอมจาก เอสเซนเชียล ออยล์ และนำมาทาบริเวณใต้วงแขน ก็สามารถช่วยระงับกลิ่นกายของคุณได้ค่ะ 4) ลดความมันบนใบหน้า ปัญหาความมันบนใบหน้า ยังคงเป็นเรื่องที่สาวๆ หลายคนรู้สึกรำคาญใจ แต่เราสามารถใช้แป้ง ข้าวโพดช่วยได้ เพียงแค่ผสมแป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ กับ ดินขาว แล้วนำมาทาลงบนผิวที่มัน ด้วย คุณสมบัติของแป้งข้าวโพด จะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินในผิวหนัง ทำให้หน้าเรียบเนียน ปลอดจาก ความมันได้มากขึ้น 5) ขัดเงาเครื่องเงิน เพียงนำแป้งข้าวโพดลงไปละลายน้ำให้ข้นสักหน่อย จากนั้ นนำไปทาบนเครื่องเงิน หรือโลหะ ที่ คุณต้องการจะขัดให้เงางาม ทิ้งไว้จนแห้ง แล้วใช้ผ้าหนาขัดทำความสะอาดอย่างรื่นเริงบันเทิงใจ เพียง เท่านี้เครื่องเงินของคุณก็จะกลับมาเงางามขึ้นเหมือนซื้อใหม่เลยล่ะค่ะ 6) ทำความสะอาดหน้าต่าง หากหน้าต่างบ้านคุณกำลังเขรอะมัว ให้เตรี ยมน้ำส้มสายชู และน้ำเปล่า อย่างละครึ่งถ้วย แป้ง ข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วนำไปใส่ขวดหัวสเปรย์ เพียงแค่นี้ คุณก็จะได้น้ำยาทำความสะอาดกระจกที่มีประสิทธิภาพ ไร้สารเคมี มาใช้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ ประหยัด เข้าไปอีกนะเออ 7) ทำแป้งทาตัว คุณจะเสียเงินซื้อแป้งกระป๋องไปทำไม ในเมื่อคุณสามารถทำแป้งใช้เองได้ แถมยังให้ความสดชื่น ไม่แพ้กัน วิธีทำก็คือ นำแป้งข้าวโพดประมาณ 1 ถ้วย มาผสมกับ เอสเซนเซียล ออยล์ สักสองสามหยด แล้วเขย่าให้เข้ากัน เท่านี้คุณก็ได้แป้งทาตัวใช้แบบสบายๆ แล้วค่ะ

8

8) ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ดูเหมือนของใหม่ เพียงแค่ผสมแป้งข้าวโพดเข้ากับน้ำให้เกิดความข้น นำไปทาบนพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ ต้องการ ใช้ผ้าเปียกขัดวน ทิ้งไว้สักพัก แล้วจึงใช้ผ้าแห้งปัดออก รับรองเลยว่าเหมือนได้ของใหม่ แบบไม่ ต้องเสียเงิน 9) ใช้แต่งหน้าแฟนซีในงานปาร์ตี้ คุณสามารถนำแป้งข้าวโพดมาผสมกับสีผสมอาหาร แล้วใช้ตกแต่งหน้าแทนเครื่องสำอางแฟนซี ได้เลย จะเสียเงินซื้อแป้งแต่งหน้าราคาแพงไปทำไม 10) ช่วยบรรเทาอาการจากแมลงกัดต่อย ผสมแป้งข้าวโพดเข้ากับน้ำ และยาสีฟัน ทาลงบริเวณที่ปวดแสบปวดร้อน อาการจะดีขึ้น โดยวิธี นี้สามารถใช้รักษาอาการแสบร้อนจากแสงแดดแผดเผาได้ด้วยนะคะ

9

บทที่ 3 วิธีดำเนินการทดลอง การศึกษาค้น คว้าเรื่องปูน ปั้นจากเปลือ กมัง คุดเป็น การศึ กษาค้นคว้าที่ มุ่งศึ กษาเกี่ ย วกั บ การศึกษาคุณภาพของปูนปั้นจากเปลือกมังคุด 4 ด้านดังนี้ 1) ด้านความมั่นคงคงทนของปูนปั้นจาก เปลือกมังคุด 2) ด้านรูปร่างรูปทรงปูนปั้นจากเปลือกมังคุด 3) ด้านความปลอดภัยของชิ้นงาน 4) ด้าน คุณภาพการใช้งานของปูนปั้นจากเปลือกมังคุด โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลการประเมินความพึงพอใจ จากความคิดเห็นของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนนวมินทราชินูทิศสตรีวิทยา ๒ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต2 ทางแก้ไขปรับปรุงพัฒนาในจุดบกพร่องของปู นปั้นจาก เปลือกมังคุดเพื่อให้ปูนปั้นจากเปลือกมังคุดที่จัด ทำมีคุณภาพมากที่สุดทำการศึกษาค้าคว้าโดยมีวิธีการ และขั้นตอนตามลำดับดังนี้ 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 2. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล 4. การวิเคราะห์ข้อมูล 5. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ 6. วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ

1.ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียน นวมินท ราชินูทิศสตรีวิทยา ๒ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต2 กรุงเทพมหานคร จำนวน 53 คน

2. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า วิธีการสร้างเครื่องมือในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ผู้ศึกษาได้ใช้แบบสอบถามที่ผู้ศึกษาจัดทำขึ้นเป็น เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งผู้ศึกษาได้สร้างแบบสอบถามให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์องค์การ ศึกษา และขอบเขตของการศึกษาซึ่งประกอบด้วยคำถาม 2 ส่วนดังนี้ ส่วนที่ 1 เป็นแบบสอบถาม เกี่ยวกับข้อมูลปัจจัย ด้านบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม มีลักษณะคำถามเป็นแบบสอบถามปลายปิด (Close Ended Response question) ส่วนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับคุณภาพของปูนปั้ นจาก เปลือกมังคุด ตามความเห็นของ นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรี วิทยา ๒ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2 กรุงเทพมหานคร มีลักษณะคำถามเป็น คำถามมาตรส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับตามวิธีของเคิร์ท (Likert) คือ น้อยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก และมากที่สุด โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนและเกณฑ์การให้คะแนนและเกณฑ์การจัด ระดับ ดังนี้

10

ระดับความคิดเห็น น้อยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด

ค่าน้ำหนักคะแนนของตัวเลือกตอบ กำหนดค่าเท่ากับ 1 คะแนน กำหนดค่าเท่ากับ 2 คะแนน กำหนดค่าเท่ากับ 3 คะแนน กำหนดค่าเท่ากับ 4 คะแนน กำหนดค่าเท่ากับ 5 คะแนน

เกณฑ์ในการแปลความหมายค่าร้ อยละของคะแนนระดับ ความเห็น เพื่ อจัดระดับคะแนน การศึกษา สภาพการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ กำหนดเป็นช่วงคะแนนดังต่อไปนี้ ช่วงคะแนนร้อยละ 80 คะแนนขึ้นไป = ดีมาก ช่วงคะแนนร้อยละ 70-79 คะแนน = ดี ช่วงคะแนนร้อยละ 60-69 คะแนน = ปานกลาง ช่วงคะแนนร้อยละ 50-59 คะแนน = พอใช้ ช่วงคะแนนร้อยละ 40-49 คะแนน = ปรับปรุง

3. เก็บรวบรวมข้อมูล ในการดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลในครั้งนี้ผู้ศึกษาได้ดำเนินการตามลำดับขั้นตอน ดังนี้ ขอความร่วมมือจากนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2 กรุงเทพมหานคร ในการทำแบบสอบถามเพื่อการ จัดเก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคลากรทางสถานศึกษาโรงเรียนในสังกัด ผู้ศึกษานำแบบสอบถามไปแจกด้วยตนเองผ่าน Google form ในระหว่างวันที่ 12-19 กันยายน 2565 ทั้งหมดจำนวน 53 ชุด เมื่อถึงกำหนดวันนัดหมายผู้ศึกษาได้ปิดรับการตอบกลับทาง Google form พร้อมตรวจสอบ ความถูกต้อง ความเรียบร้อย สมบูรณ์ของข้อมูลในการตอบแบบสอบถามในแต่ละชุดและจำนวนข้อมูลที่ ได้รับจจำนวน 53 ชุด ผู้ศึกษานำแบบสอบถามหรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมในแต่ละสถานศึกษาเพื่อนําไปวิ เคราะห์และ แปลผลข้อมูล

11

4. การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ศึกษาค้นคว้าดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับและผู้ ศึกษา ค้นคว้านำข้อมูลมาประมวลผลและวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติโดยใช้สถิติวิเคราะห์ ดังนี้การวิเคราะห์ที่ 1 สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามโดยใช้ความถี่ร้อยละ ตอนที่ 2 ระดับความ คิดเห็นเกี่ยวกับปูนปั้นจากเปลือกมังคุด จำแนกตามสถานภาพ ได้แก่ นักเรียน และเพศ ได้แก่ชาย หญิง

5. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ศึกษาค้นคว้าได้วิเคราะห์และประมวลผลโดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูปด้วย ระบบคอมพิวเตอร์สถิติที่ใช้ คือ สถิติพรรณนาการหาค่าความถี่ร้อยละเฉลี่ยและเบี่ยงเบนมาตรฐานการหาค่าความถี่โดยวิธีนับ คำนวณ สูตรการหาค่าร้อยละ =

𝑋∗100 𝑛

12

6. วัสดุและเครื่องมือ 6.1.1 อุปกรณ์และเครื่องมือหลักที่ต้องใช้

ชนิดอุปกรณ์

จำนวน

ครกและสาก

1 ใบ

กะละมัง

1 ใบ

กระป๋องสี

1 ขวด

6.2.2 วัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องจัดหา

ชนิดอุปกรณ์

จำนวน

เปลือกมังคุด

1 กิโลกรัม

แป้งข้าวโพด

1 ถุง

น้ำ

3 ช้อนโต๊ะ

13

วิธีการทดลอง 1. นำเปลือกมังคุดที่เหลือๆมาเด็ดขั้วที่จุกด้านบนออก ล้างทำความสะอาด แล้วนำมาหัก บิด ให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ

2. นำเปลือกมังคุดมาใส่ในครกและตำให้ละเอียดโดยใส่น้ำนิดหน่อย

14

3. นำเปลือกมังคุดที่ตำแล้วมาใส่กะละมังและโรยแป้งข้าวโพดลงไปผสมกัน

4. ใช้มือขยำ นวดให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกันเติมน้ำบ้างนิดหน่อย

15

5. นำมาพักในภาชนะ

6. ปั้นและตกแต่งตามรูปแบบที่ต้องการ

16

ผลการทดลอง 1. ผลการศึกษาปูนปั้นจากเปลือกมังคุด ตารางที่ 1 ลักษณะทางกายภาพของปูนปั้นจากเปลือกมังคุด ปูนปั้น

ลักษณะผิวเนื้อ

สี

กลิ่น

ความมันวาว

เปลือกมังคุด

ขรุขระ

ม่วง

หอม

มันวาว

ตารางที่ 2 การเปรียบเทียบประสิทธิภาพจากผลิตภัณฑ์ ปูนปั้นจากเปลือกมังคุดและปูนปั้นใน ท้องตลาด ประสิทธิภาพ

ชนิดผลิตภัณฑ์ปูนปั้น เปลือกผลไม้

เปลือกมังคุด

ปูนปั้นในท้องตลาด

ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์

หลังใช้ผลิตภัณฑ์

ไม่คงทน

คงทน

แข็งแรงเท่ากับใน ท้องตลาด

คงทน

17

บทที่4 ผลการทดลอง การศึกษาค้นคว้าการทำปูนปั้นจากเปลือกมังคุด คณะผู้จัดทําได้นําเปลือกผลไม้เหล่านี้มาแปร รูปเพื่อให้คนในชุมชนเห็นคุณค่า เห็นคุณค่าของเปลือกผลไม้ที่นำมาใช้การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาและ รวบรวมข้อมูลซึ่งเป็นโครงงาน ประเภทสิ่งประดิษฐ์โดยหลังจากทำผลิตภัณฑ์เสร็จสมบู รณ์แล้วจึงให้ บุคคลากรและนักเรียนภายใน โรงเรียนได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้และทำแบบประเมินความพึงพอใจและ ร่วมกันเสนอข้อเสนอแนะ จำนวนทั้งหมด 53 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ในการสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล มีหัวข้อดังต่อไปนี้ 4.1 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ 4.2 วิเคราะห์คะแนนความพึงพอใจต่อปูนปั้นจากเปลือกมังคุดของนักเรียนและบุคลากรใน โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒

18

4.1 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ ตารางที่ 4.1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ

เพศ

อายุ

ข้อมูลส่วนตัว

จำนวน

ร้อยละ

ชาย

21

39.62

หญิง

32

60.38

รวมทั้งสิ้น

53

100

ต่ำกว่า 10 ปี

0

0

10-14 ปี

0

0

15-19 ปี

46

86.79

20-24 ปี

4

7.55

25-29 ปี

1

1.89

มากกว่า 29 ปี

2

3.77

รวมทั้งสิ้น

53

100

19

จากตารางที่ 1 พบว่าข้อมูลพื้นฐานของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียน มีดังนี้ 1. เพศ ผู้ทำแบบสอบถามส่วนมากเป็นเพศหญิง ร้อยละ 60.38 รองลงมาคือ เพศชาย ร้อยละ 39.62 2. อายุ ผู้ทำแบบสอบถามส่วนมากมีอายุ 15-19 ปี ร้อยละ 86.79 รองลงมาคือ 20-24 ปี ร้อยละ 7.55 รองลงมาคือ มากกว่า 29 ปี ร้อยละ 3.77 และลำดับสุดท้ายคือ 25-29 ปี ร้อยละ 1.89

20

4.2 วิเคราะห์คะแนนความพึงพอใจต่อปูนปั้นจากเปลือกมังคุดของนักเรียนและบุคลากร ในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ ตารางที่ 4.2 การวิเคราะห์ผลความพึงพอใจต่อปูนปั้นจากเปลือกมังคุด

ลำดับ

รายการประเมิน

ดีมาก (5)

ดี (4)

ปานกลาง (3)

พอใช้ (2)

ปรับปรุง (1)

ร้อยละ

แปลผล

ระดับความพึงพอใจ

1

ความคงทนของผลิตภัณฑ์

42

8

3

0

0

94.71

ดีมาก

2

ความสวยงามของผลิตภัณฑ์

10

41

1

1

0

82.64

ดีมาก

3

ความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์

42

9

2

0

0

95.09

ดีมาก

4

คุณภาพการใช้งานของผลิตภัณฑ์

10

40

2

1

0

82.26

ดีมาก

5

ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

42

9

2

0

0

95.09

ดีมาก

6

ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์

12

38

2

1

0

83.01

ดีมาก

7

ผลิตภัณฑ์ใช้งานได้จริง

40

10

3

0

0

93.96

ดีมาก

8

ความสร้างสรรค์ของผลิตภัณฑ์

14

38

1

0

0

84.90

ดีมาก

9

การสร้างรายได้เสริมจากผลิตภัณฑ์

40

10

2

1

0

93.58

ดีมาก

10

การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

17

35

1

0

0

86.03

ดีมาก

89.13

ดีมาก

รวม

21

เกณฑ์การให้คะแนน ช่วงคะแนนร้อยละ 80 คะแนนขึ้นไป = ดีมาก ช่วงคะแนนร้อยละ 70-79 คะแนน = ดี ช่วงคะแนนร้อยละ 60-69 คะแนน = ปานกลาง ช่วงคะแนนร้อยละ 50-59 คะแนน = พอใช้ ช่วงคะแนนร้อยละ 40-49 คะแนน = ปรับปรุง จากตารางการวิเคราะห์ผลความพึงพอใจต่อ ปูนปั้นจากเปลือกมังคุด ทั้ง 10 ข้อ พบว่าภาพรวม ของ ผลิตภัณฑ์อยู่ในเกณฑ์ โดยด้านที่มีคะแนนมากที่สุด คือ ความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์ และ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย มีค่าร้อยละ 95.09 รองลงมา คือ ความคงทนของผลิตภัณฑ์ มีค่าร้อยละ 94.71 และด้านที่เหลืออยู่ในระดับดีมากโดยมีคะแนนรองลงมา

22

บทที่ 5 สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ การศึกษาการทำปูนปั้นจากเปลือกมังคุด มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ คือ (1)นำเปลือกมังคุดที่ทิ้งแล้ว นำมาใช้ให้เกิด ประโยชน์สูงสุด (2)ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ (3)ประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถ ประมวลผลได้ ดังนี้ กลุ่มเป้าหมายที่เราใช้ในศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ และ บุคลากรภายในโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบสอบถามความคิดเห็นความพึงพอใจใน ปูน ปั้นจากเปลือกมังคุดโดยแบบสอบถามคือ Google Form ซึ่งเรานั้นให้สแกน QR Code โดยมี คําถาม สํารวจจำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติที่ใช้ในการศึกษา ครั้งนี้ คือการหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

สรุปผลการทดลอง จากการศึกษาทดลองการทำปูนปั้นจากเปลือกมังคุดสามารถสรุปได้ว่า ปูนปั้นจากเปลือกมังคุด นั้นมีความอดทนสวยงาม และสามารถใส่ของต่างๆเพื่อเก็บของประหยัดพื้นที่ได้มากกว่าที่เก็บของใหญ่ๆ

อภิปราย จากการศึกษาค้นคว้าเรื่องการทำปูนปั้นจากเปลือกมังคุด ตามความคิดเห็นจากนักเรียนและ บุคลากรภายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สามารถอภิปรายได้ดังนี้ จากการสอบถามความคิดเห็นรวมถึงความพึงพอใจของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียน นวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ ในเรื่องการทำปูนปั้นจากเปลือกมังคุดพบว่าอยูใ่ นระดับดีมาก

ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลจากผลการสํารวจมีข้อเสนอแนะดังนี้ 1.ควรมีขนาดที่เก็บใหญ่กว่านี้นิดนึงเพื่อบรรจุของได้มากขึ้น

23

บรรณานุกรม ระพีพรรณ ใจภักดี.(2544).ผลไม้ชุดที่ 1.พิมพ์ครั้งที่ 2.กรุงเทพฯ: แสงแดดเพื่อนเด็ก. นฤมล แซ่หุ้น.(2536).คู่มือประดิษฐ์ข้าวโพด.กรุงเทพฯ: ต้นอ้อ. ศิรินยา.(2545).พืชผักรักษาโรค.[ม.ป.ท.]:[ม.ป.พ.]. มังคุด.(2565).[ออนไลน์].ได้จาก: https://th.wikipedia.org/wiki/มังคุด [สืบค้น 30 มิถุนายน 2565] ประโยชน์ของ "มังคุด" ราชินีผลไม้ ต้านมะเร็งลำไส้-ต่อมลูกหมาก.(2564).[ออนไลน์].ได้จาก: https://sanook.com/health/24517/ [สืบค้น 30 มิถุนายน 2565] แป้งข้าวโพด-แป้งประกอบอาหาร-ประโยชน์และโทษ.(2563).[ออนไลน์].ได้จาก: https://hellokhunmor.com/โภชนาการเพื่อสุขภาพ/ข้อมูลโภชนาการ/แป้งข้าวโพด-แป้ง ประกอบอาหาร-ประโยชน์และโทษ/ [สืบค้น 7 กรกฎาคม 2565] ประโยชน์ของแป้งข้าวโพด.(2560).[ออนไลน์].ได้จาก: https://wwwgurubaan.com/ประโยชน์ของ แป้ง ข้าวโพด/ [สืบค้น 10 กรกฎาคม 2565]

24

ภาคผนวก

25

ภาพที่ 1 เตรียมมังคุดโดยการนำเปลือกมังคุดมาเด็ดขั้วที่จุกด้านบนออก ล้างทำความสะอาด แล้วนำมาหัก บิด ให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ

ภาพที่ 2 นำเปลือกมังคุดมาใส่ในครกและตำให้ละเอียดโดยใส่น้ำนิดหน่อย

26

ภาพที่ 3 นำเปลือกมังคุดที่ตำแล้วมาใส่กะละมังทีโ่ รยแป้งข้าวโพดและผสมกัน

ภาพที่ 4 ใช้มือขยำ นวดมังคุดที่ตำแล้วกับแป้งข้าวโพดให้เข้ากันและเติมน้ำบ้างนิดหน่อย

27

ภาพที่ 5 นำมาพักในภาชนะ

ภาพที่ 6 ปั้นเป็นรูปภาชนะและตกแต่งด้วยการพ่นสีเขียว

28

ภาพที่ 7 ตัวอย่าง Google Form แบบสอบถามความพึงพอใจ

29

ประวัติผู้ศึกษาค้นคว้า ชื่อ-นามสกุล

นางสาวสุพิชชา เพ็งสอนบุตร

วันเดือนปีเกิด

4 มีนาคม 2549

ที่อยู่ปัจจุบัน

54 นิมิตใหม่56 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

ตำแหน่งหน้าที่การงาน

นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒

สถานที่ศึกษาปัจจุบัน

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมเขต2

ประวัติการศึกษา ระดับประถม

โรงเรียนสุเหร่าสามวา

ระดับมัธยม

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒

30

ประวัติผู้ศึกษาค้นคว้า ชื่อ-นามสกุล

นางสาวเพ็ชรธิดา ตติยะรัตน์

วันเดือนปีเกิด

11 กรกฎาคม 2549

ที่อยู่ปัจจุบัน

31/32 ม.ฟ้าทอฟัน ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา ปทุมธานี 12150

ตำแหน่งหน้าที่การงาน

นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒

สถานที่ศึกษาปัจจุบัน

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมเขต2

ประวัติการศึกษา ระดับประถม

โรงเรียนเฟื่องฟ้าวิทยา

ระดับมัธยม

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒

31

ประวัติผู้ศึกษาค้นคว้า ชื่อ-นามสกุล

นางสาววนิดา คำธารา

วันเดือนปีเกิด

17 กันยายน 2548

ที่อยู่ปัจจุบัน

78/33 เขตคลองสามวา แขวงบางชัน เขตคลอง สามวา กรุงเทพมหานคร 10510

ตำแหน่งหน้าที่การงาน

นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒

สถานที่ศึกษาปัจจุบัน

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมเขต2

ประวัติการศึกษา ระดับประถม

โรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์)

ระดับมัธยม

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒

32

ประวัติผู้ศึกษาค้นคว้า ชื่อ-นามสกุล

นางสาวอินทิรา แจ่มศรี

วันเดือนปีเกิด

17 กรกฎาคม 2548

ที่อยู่ปัจจุบัน

52 นิมิตใหม่56 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

ตำแหน่งหน้าที่การงาน

นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒

สถานที่ศึกษาปัจจุบัน

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมเขต2

ประวัติการศึกษา ระดับประถม

โรงเรียนสุเหร่าสามวา

ระดับมัธยม

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒