การฝึกอบรม หัดดูพระสมเด็จ พระเบญจภาคี Flipbook PDF

การฝึกอบรม หัดดูพระสมเด็จ พระเบญจภาคี

96 downloads 106 Views 18MB Size

Recommend Stories


Porque. PDF Created with deskpdf PDF Writer - Trial ::
Porque tu hogar empieza desde adentro. www.avilainteriores.com PDF Created with deskPDF PDF Writer - Trial :: http://www.docudesk.com Avila Interi

EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF
Get Instant Access to eBook Empresas Headhunters Chile PDF at Our Huge Library EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF ==> Download: EMPRESAS HEADHUNTERS CHIL

Story Transcript

พระสมเด็จ วัดระฆัง (วัดบางหว้าใหญ่) - พิมพ์ใหญ่ แบบต่างๆ - พระสมเด็จ สองคลองพิมพ์ต่างๆ โดย ศ ุ ภช ั ย สาย ั ณห ์ นิว เมืองชล และ คณะ ใช ้ประกอบการฝึ กอบรมด ู พระสมเด ็ จ พระเบญจภาคี ครั้งที่2/2565 เล่มที่ 3


ค าน า คณะผู้จัดงานฝึ กอบรมดู พระสมเด็จฯ พระเบญจภาคีและพระส าคัญอื่นๆ เพื่อมุ่งหวังจะให้ผู้สนใจใน เรื่องพระสมเดจ็ฯและพระอื่นไดร้ับความรู้ที่ถูกตอ้งตามความเป็นจริง เพราะในปัจจุบนัน้ีวงการพระโดยทวั่ๆไป ยังมีผู้ไม่เข้าใจและเก็บสะสมบูชาไม่ถูกทาง โดยเฉพาะพระสมเด็จฯและพระเบญจภาคีรวมท้งัพระยอดนิยมที่มี ราคาแพงๆ เป็นเหตุให้พวกมิจฉาชีพหลอกลวงเอาเป็นจ านวนมากไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในการฝึกอบรมคร้งัน้ีผูเ้ขา้ร่วมงานจะไดห้ยิบจบัพระแทๆ้ ส่องดูนบัเป็นการเริ่มตน้อย่างถูกตอ้งทสีุ่ด และคณะผู้จัดงานได้รวบรวมจัดท าเอกสารหรือต าราเป็น E-BOOK ใช้ประกอบการฝึกอบรมคร้งัที่2/2565 ส าหรับผู้เข้าอบรมและผู้ใฝ่ รู้สามารถน าไปใช้ประกอบการศึกษาได้เป็นอย่างดี จึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อ ผูส้นใจทวั่ ไปครับ คณะผู้จัดงาน 20 พ.ย. 2565


การฝึ กอบรม หัดดูพระสมเด็จ พระเบญจภาคี ครั้งที่ 2/2565 ผมและคณะผู้จัดงาน ไดก้า หนดหวัขอ้ในการเรียนรู้คร้ังน้ีเป็นพระสมเด็จวดัระฆงัพิมพ์ใหญ่ซ่ึงเป็น พิมพ์ยอดนิยมและมีราคาแพงที่สุด แพงมากกว่าพิมพ์อื่นๆ ในระดับความสวยงามที่ไล่เรียงกัน ยกเว้นความงามที่ เป็นอันดับ 1 ของพิมพ์ เช่น พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์เจ๊แจ๋ว หรือพิมพ์เกตุบัวตูม องค์ของพี่นิยม นครสวรรค์ ที่งามเด่น มากๆ แบบน้ีคงจะยากที่จะตดัสินใจเลือกองค์ใด เพราะพระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่น้นัมีมากและที่งามไล่ๆกนัมี หลายๆองค์ครับ นอกจากพิมพ์ใหญ่วัดระฆังแล้ว ยังมีพิมพ์ใหญ่ บางขุนพรหม และ พิมพ์เส้นด้าย บางขุนพรหมอีกหนึ่ง พิมพ์ที่นับว่ามีความเกี่ยวพันกนัเรื่องพิมพ์ของพระท้งั3 พิมพ์น้ีจึงได้นา มาอธิบายกนัเป็นความรู้เพื่อความ เขา้ใจในเบ้ืองต้น จะได้เดินหน้าศึกษาไปได้ไม่สงสัยว่าท าไมพระจึงมีพิมพ์เหมือนกันหรือคล้ายๆกันมาก ก่อน อื่นน้นัจะขออธิบาย เรื่องพิมพใ์หญ่ของวดัระฆงักอ่น เพราะวา่เป็นพระที่ถูกสร้างข้ึนมาก่อนบางขุนพรหมหลาย ปี แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นปี ใดแน่ คาดกันว่าปี พ.ศ. 2400 บวก-ลบเลก็นอ้ยเท่าน้นั ในช่วงประมาณ 80 ปีที่ผ่าน มาน้ีมีพระสมเดจ็วดัระฆงัเขา้มาสู่วงการพระมากข้ึน โดยเฉพาะช่วงหลงัปีพ.ศ. 2500 มาน้ีมีเข้ามามาก เพราะ ท่านมีราคานิยมแพงมากข้ึน ใครมีติดอยู่กบับา้นกน็า ออกมาขาย เพราะพระสมเด็จฯมีผู้ต้องการมากข้ึน เพราะ พระมีจ านวนน้อยกว่าความต้องการของผู้คนหลายๆล้านคนในปัจจุบัน ผู้ที่มีความรู้สืบทอดต่อๆกันมาจากรุ่นสู่ รุ่น 3-4 ช่วงอายุคนแลว้ทา ให้องค์ความรู้มีความแข็งแกร่งข้ึน ประกอบกบัยุคสมยัของเทคโนโลยีด้านการ ถ่ายภาพดีมากข้ึน ความรู้จึงถูกบนัทึกไวเ้ป็นหลกัฐานให้ชนรุ่นหลงัไดส้ืบทอดไดง้่ายมากส าหรับการเรียนรู้ วนัน้ีจะเนน้เฉพาะเรื่องพิมพท์รงของพระสมเดจ็วดัระฆงัพิมพใ์หญ่กอ่น ซ่ึงในผูรู้้รุ่นเมื่อ30-40 ปี ก่อน ท่านบอกวา่พิมพใ์หญ่วดัระฆงัน้นัมี4 พิมพ์หรือ4แบบเท่าน้นัแต่ในปัจจุบนัน้ีคงไม่มีใครเชื่อแบบน้นัอีกแล้ว ครับ เพราะมีภาพถ่ายยืนยันเป็นหลักฐานชัดเจน แต่จะเป็นการยากส าหรับท่านที่จะศึกษาด้วยตนเอง ถ้ายังไม่มี ความรู้ถึงข้นัดูพระสมเดจ็ฯเป็น หรือสามารถแยกแท-้ปลอมได้หรือดูพระซ่อม พระแกะเซาะ พิมพ์ใหม่ได้ ก็จะ แยกพระไม่ได้ว่าองค์ไหนเป็นพระแท้ (ดูจากรูปถ่าย) หรือว่าองค์ไหนเป็นพระออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันหรือ ต่างแม่พิมพก์นัแบบน้ีครับ


ในเรื่องของพระสมเดจ็ฯน้นัจะตอ้งใชร้ะยะเวลาในการเรียนรู้หดัดูจากองคพ์ระจริงๆ ให้เขา้ใจจา เน้ือได้ จ าพิมพ์ได้ กวา่จะจา ไดน้ ้นัตอ้งใช้ระยะเวลานานนบั ปีหลายๆปี นอกจากมีพระสมเด็จฯแท้ๆไว้หัดดู แล้วยัง จะตอ้งมีเทรนเนอร์คอยบอกช้ีนา ขอ้ สงสัยต่างๆ จึงจะไปไดเ้ร็วและดีต่อผูศ้ึกษาเองครับ การศึกษาพระสมเดจ็ฯ พระเบญจภาคีน้นั ไม่เหมือนกบัพระเหรียญหรือพระโลหะพระโลหะเหรียญน้นั ดูจากแม่พิมพเ์ป็นหลกั ไม่วา่จะเป็นพระหล่อหรือปั๊ม เมื่อเสร็จแลว้จะไม่เปลี่ยนแปลงนอกจากสึกหรอลงไปก็ยัง มีสัญลักษณ์ต่างๆเหลือให้ดู นอกจากวิธีการผลิต ความเก่าธรรมชาติ หรือที่หลายๆท่าน เรียกว่าจุดตาย คือปั๊ม ออกมาอย่างไรกอ็ยู่อย่างน้นัพระเน้ือดินเผากอ็ีกแบบหน่ึงถึงแม้จะออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันก็ยังแตกต่างกัน บ้างบางแห่ง แต่ก็มีลักษณะเค้าโครงเหมือนกัน ขนาดอาจจะไม่เท่ากันนัก เพราะการเผาที่ไม่เท่ากันในแต่ละสี ของเน้ือพระเพราะถูกความร้อนไม่เหมือนกนัพระเสียหายขณะรอแห้งก็ท าให้แตกต่างกันได้อีกเหมือนกัน กด พิมพ์หนักเบาไม่เท่ากนักเ็ป็นอีกสาเหตุหน่ึงส าหรับพระเน้ือผงรุ่นเกา่ๆที่มีอายุนบัร้อยกวา่ ปีและพระสมเดจ็ฯน้นั มีปัจจยัหลายสิ่งหลายอย่างที่ทา ให้พระแตกต่างกนัไป ท้งัที่ออกมาจากบลอ็กพิมพเ์ดียวกนัพระรุ่นเก่าน้นัสร้าง ดว้ยมือการผสมเน้ือในแต่ละคร้ังไม่ค่อยจะเหมือนกนัมากนกัคือส่วนผสมที่ใส่ลงไปมักไม่เท่ากัน มาก-น้อย ต่างกันไป (มวลสารต่างๆ) ไม่แน่นอน ผสมเหลวไปหรือข้นแข็งไปท าให้เข้าพิมพ์ไม่เหมือนกัน ถ้าเหนียวหนืด ข้นพอดีพระจะออกมาสวยงาม คงรูปได้นานจนแห้ง ถ้าเหลวไปก็ทรุดตัวก่อนแห้ง หรือแข็งไปกดไม่ค่อยเข้า พิมพ์ในส่วนลึกๆของแม่พิมพ์พระจึงออกมาต้ืนๆกวา่การหดตวัมาก-น้อย ไม่เท่ากันก็ท าให้แตกต่างกันไปได้ แต่อย่างไรกด็ีพระสมเดจ็ฯที่ออกมาจากแม่พิมพเ์ดียวกนัหรือบล็อกเดียวกนัน้นัจะมีเค้าโครงและสัญลกัษณ์ บางอย่างแสดงอยู่ให้เราเห็นได้หลายๆแห่งด้วยกัน ก่อนอื่นเราจะต้องเข้าใจเรื่องแม่พิมพ์ของพระสม เด็จ วัด ระฆัง พิมพ์ใหญ่เสียก่อนว่า ช่างผู้ผลิตแม่พิมพพ์ระน้นัไดท้า แม่พิมพซ์ ้า ๆกนัออกมาหลายๆพิมพห์รือหลายบลอ็ก แต่เป็นเคา้โครงแบบเดียวกนัท้งัหมด หมายความว่าตวัพิมพ์พระที่เป็นตวัต้นแบบน้นัเป็นตวัเดียวกนัเพราะมี สัญลักษณ์หลายอย่างติดออกมาอยู่ในพิมพ์เหมือนๆกัน ซึ่งจะได้อธิบายต่อๆไปครับ ผู้รู้บางท่าน รุ่น 60-70 ปี ก่อน บอกว่าแม่พิมพ์แกะจากหิน สบู่บ้างอะไรที่เป็นของแข็งๆหินลับ มีดโกน หรือหินอ่อนแบบน้ีถา้แกะแบบน้นัคงจะทา ให้สวยงดงามอ่อนช้อยไม่ได้เลย และเป็นการแกะแบบกลบัด้าน ไม่ได้แน่นอน ท าได้แต่จะไม่สวยและไม่มีมิติสูงต ่าครับ พิมพ์ออกมาเป็นองค์พระและจะไม่คม ข้อส าคัญจะท า ให้เหมือนๆกนัท้งั2องค์2 พิมพ์ไม่ไดเ้ดด็ขาด เมืองไทยน้ีวชิาช่างหล่อพระดว้ยเน้ือสัมฤทธ์ิมีมานาน ต้งัแต่ยุค


กอ่นกรุงสุโขทยัแลว้กส็ืบทอดกนัมาทุกวนัน้ีกย็งัมีทา กนัอยู่เช่นที่บ้านช่างหล่อแถวพรานนก ยงัทา กนัเป็น อาชีพเลยครับ ที่กล่าวมาแลว้ขา้งตน้น้นัเป็นเพียงส่วนประกอบเลก็ๆของการเรียนรู้หัดดูพระสมเด็จฯ พระเบญจภาคี เพื่อเป็นพ้ืนฐานของการศึกษาข้ึนต่อๆไป เพื่อให้สามารถดูแลว้แยกแทไ้ม่แทออกจากกันได้อย่างถูกต้องแม่นย า ้ จะตอ้งทา ไดอ้ย่างแน่นอน ถา้เรียนรู้และฝึกฝนอย่างถูกวธิีตามแบบอย่างและตามข้นัตอน เพียงแต่ต้องใช้ระยะ เวลานานเท่าน้นัครับ พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ เป็นพระที่หาพบได้ยากพระมีราคาแพง ท่านเจ้าของพระมักจะหวงแหน บางท่านแม้แต่รูปถ่ายยังไม่ค่อยอยากจะให้ใครเห็น ถ้าไม่มีความสนิทสนมกันก็คงยาก เท่าที่รู้ยังไม่มีใครจะ สามารถรวบรวมขอ้มูลน้ีไดค้รบถว้น เพียงแต่รู้ๆกนัวา่มีหลายบลอ็กพิมพ์แต่ยังไม่มีการรวบรวมไว้เลย คณะผู้ จัดงานเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไปถึง ลูก-หลาน ภายหน้าและวงการพระฯ เพื่อการเรียนรู้ได้อย่างถูกต้องตาม ความเป็นจริง จึงไดช้่วยกนัจดัทา ข้ึนให้ผูส้นใจใชศ้ึกษาไดเ้ป็นอย่างดีโดยจะไล่เรียงกนัไปแต่ละบล็อกๆเท่าที่ พบเห็นพระแทใ้นวงการแลว้และหากพบเห็นต่อๆไปกจ็ะไดน้า มาเพิ่มเติมให้ทราบกนัอีกในช้นัน้ีจะเสนอให้ชม กันเพียงบล็อกละ 1-2องคเ์ท่าน้นั


1. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 1แบบพิมพ์ทรงพระประธาน เป็นพิมพ์ทรงมาตรฐาน ที่พบเห็นกันได้บ่อยๆจัดว่าเป็น แบบที่สง่างาม เซียนรุ่นเก่าๆเรียกว่า พิมพ์ทรงพระประธาน เช่น องค์ของคุณสนาน กฤษณะเศรณีหรือองค์น้า หมากในปัจจุบัน น่าจะมีมากกว่าบล็อกอื่นๆ และองค์ขุนศรี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ เพราะความสวยงาม เป็ น พระเก่าแก่ในรังพระคุณฉลีฯ ไปอยู่นครสวรรค์กับพี่นิยมแล้วลงมากรุงเทพอยู่กับท่านรัฐมนตรี มนตรีฯ ท้ายสุด ไปอยู่ซอยรางน้า ดว้ยมูลค่าสูงถึง 90ลา้นบาท เมื่อเกอืบ 10 ปีกอ่นถึงวนัน้ีถา้ขายออกจะมีกา ไรท่วมเลย


2. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 2 เป็นแบบพิมพ์อกวี คือช่วงอกพระด้านบนจะใหญ่ช่วงเอวพระจะเล็กคล้ายตัวอักษรวี ในภาษาอังกฤษ จะพบเห็นได้น้อยกว่าแบบแรกมองดูแล้วแตกต่างจากแบบอื่นหลายๆแห่ง เช่น องค์ครูเอ้ือ สุนทรสนาน ดงัมาต้งัแต่กอ่นปี2480แลว้ครับ


3. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 3 เป็นแบบมีเกศทะลุซุ้ม แต่เดิมคนรุ่นเก่าบอกมีแบบเดียว ปัจจุบันดูได้จากภาพถ่ายที่ คมชัดจะเห็นว่าแบบเกศทะลุซุ้มมีหลายบล็อกพิมพ์ที่แตกต่างกัน ในรายละเอียดบ้างเกศทะลุซุ้มแบบแรก คือ องค์คุณบุญส่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่กับคนจีนที่ฮ่องกงขายกันไปเมื่อ 20 ปี ก่อน


4. พิมพ์ใหญ่ แบบชลูดผอม พระพิมพน์ ้ีจะแลดูลึกคมยาวกวา่แบบแรกเช่นองคข์องคุณชยัวฒัน์โกมล พันธ์พร เก่า


5. แบบพิมพ์ใหญ่ อกกระบอก พระพิมพแ์บบน้ีคลา้ยๆกบัแบบที่4แต่จะชดัเจนที่อกเป็นแท่งลา ยาวกวา่ เช่นองค์คุณนิว เมืองชล ที่ผิวขาวๆแน่นๆผิวดีมาก พิมพท์รงแบบน้ีมีมากหลายบลอ็กจา นวนพระกม็ีมากดว้ย


6. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 6 จะมีลักษณะล ่าต้อแลดูออกกว้างๆมากกว่าแบบ อกกระบอกคือองค์(หนังสือพรี เชียส หน้า 87)


7. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 7แบบน้ีลกัษณะองคพ์ระแลดูจะค่อนขา้งเลก็กวา่แบบอื่นโดยรวมแต่งามสมส่วน เช่น องค์ของ ก านันมานะฯ หรือของคุณรังสรรค์ อุดมเวทยนันท์ หนุ่มการไฟฟ้ านครหลวงเก่าครับ


8. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 8แบบ อกล่า ใหญ่อกเรียวแบบน้ีจะพบเห็นไดน้อ้ยมากเช่น องคค์ุณปรเมศว์พรเลิศ มีภาพอยู่ในหนงัสือประชุมกาญจนวฒันแ์ละองคช์ ่างตดัเส้ือของคุณชลอ รับทอง เก่าปัจจุบันอยู่กับ คุณนิพนธ์ พร้อมพันธ์


9. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 9แบบน้ีจะดูแตกต่างจากแบบอื่นๆมาก พระลึกคม เกศทะลุซุ้มอีกแบบหนึ่ง คือองค์ มีชื่อวา่ลุงพุฒิรอดฉิ่ม ที่ปัจจุบนัอยู่กบัท่านไชยทศัน์เตชะไพบูลย์มากวา่40 ปีไดม้าจากรังพระคุณฉลียงสุนทร ครับ เป็นองค์ที่มีชื่อเสียงว่างามมากอีกองค์หนึ่ง


10. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 10แบบเกศทะลุซุ้ม อกกระบอกอีกแบบหนึ่งแตกต่างจากองคอ์ื่นๆที่ผ่านมาแบบน้ีจะ ล ่าลึกใหญ่อกมีร่องเล็กๆคล้ายกับองค์ลุงพุฒิ แต่เป็นคนละบล็อกกัน เช่น องค์ลอกรักที่ผมขายให้กับพี่สนานฯ ตอนหลงัไปอยู่กบัคุณชาญชยั ปทุมารักษ์และไปต่ออีกน่าจะอยู่ซอยรางน้า ในปัจจุบนั


11. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 11 เป็นพิมพเ์กศทะลุซุ้มอีกบลอ็กหน่ึงไม่เหมือนกบัองค์ที่ผ่านไปก่อนหน้าน้นัเป็น พระลงรักปิ ดทองมา แต่เดิมเป็นของพี่นิยม อสุนีย์ ณ อยุธยา รังพระขนาดใหญ่ของจังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบนัเปลี่ยนเจา้ของไปแลว้พี่นิยมรักมากที่สุดเลยองคน์ ้ีเคยต้งัราคาหนีคนซ้ือไว้สูงถึง 70 ล้านบาท แต่ทา้ยสุดตกไปอยู่แถวซอยรางน้า ครับ


12. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 12องค์พระจะแตกต่างจากทุกองค์ มีร่องที่ล าตัวแบบองค์ลุงพุฒ แต่เป็นพระคนละ บล็อกกันค่อนข้างสูงชลูด หน้าอกนูนสูงมีชื่อว่า องค์เกศสะบัดเป็นของพี่นิยมอีกเช่นกัน


13. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 13ลกัษณะคลา้ยคลึงกบัแบบองคท์ ี่1 มากแตกต่างกนัที่องคพ์ระ บลอ็กน้ีจะลึกคม มาก พบเห็นไดบ้ ่อยพอสมควรองคน์ ้ีมีชื่อเรียกวา่องคห์ม่อมภาคิไนย จักรพันธ์ หรือองค์เสี่ยหน ่า ชนะประกวด ที่ 1 งาน ธ.ศรีนคร


14. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 14แบบน้ีมีลกัษณะพิเศษ คือมีกรอบพิมพ์ที่กว้างและมักจะตัดเหลือปี กกว้างมากบาง ท่านเรียกกรอบกระจก พิมพแ์บบน้ีพบเห็นไดไ้ม่มากนกัไม่เกนิ10องค์เช่นองคส์ารวตัรประเสริฐ ที่อยู่ กบัหมอมาณพ โกวทิยา เพราะความกวา้งจึงทา ให้แลดูไม่คอยลึกมากนกัองคน์ ้ีเกศทะลุซุ้มเช่นกนัและ องคป์ีกกวา้งที่อยู่กบัเฮีย น.เนชนั่แนล


15. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 15ลักษณะค่อนข้างเรียวบางแลดูโปร่ง แต่งดงามสมส่วน คือ องค์เล่าปี ที่ลงรักปิ ด ทองพิมพน์ ้ีมกัจะตดักวา้งเหลือเส้นขอบบลอ็กให้เห็นชดัเจนท้งั4 ดา้น และยังอยู่กับเจ้าของโรงแรมม้าทอง องค์ พระมีความลึกแต่ไม่ล่า สัน เช่น ลงรักปิดทองของคุณนิว เมืองชลเก่าที่ซ้ือมาจากเสี่ยดม ประตูผีกเ็ป็นบล็อก เดียวกัน


16. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 16ลกัษณะออกกวา้งๆใหญ่ไหล่จะต้งักวา่องคอ์ื่นๆ คือองคพ์ ี่สาลีแพรสกุล ที่พาพี่ ชาติหนวดไปขายให้กับเสี่ยสุนทร เล้าไก่นครปฐม ก็เป็นอีกลักษณะหนึ่งไม่ค่อยเหมือนองค์อื่นๆ


17. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 17 พิมพน์ ้ีมีลกัษณะล่า ใหญ่ท้งัองค์อกตนัไม่มีร่องมีเส้นสังฆาฎินูนสูงบนอก คนรุ่น เก่าเรียกว่า พิมพ์ A มักมีเส้นแซมใต้เข่าพระชัดมากกว่าพิมพ์อื่น คือองค์เสี่ยดมหรืออุดม กวัสราภรณ์ ที่ ได้จากรังคุณฉสี เป็นองค์ที่มีชื่อเสียงมาก และก็มีการลอกเลียนแบบมากที่สุด(ถอดพิมพ์)ท าพระปลอม มากจริงๆอีกองค์หนึ่ง คือองค์เจ๊องุ่น หรือองค์คุณเสถียร ในเวลาต่อมาไปอยู่กับคุณตฤณ โอษธิษ กว่า 10 ปีเพิ่งจะออกมาเมื่อ2-3 เดือนก่อน แต่ยังไม่ทราบเจ้าของคนใหม่แน่ชัดว่าจะไปอยู่กับเสี่ย ป. หรือ เฮีย ช.


18. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 18 เป็นพระพิมพ์ใหญ่แบบเกศทะลุซุ้มอีกแบบหนึ่ง ที่ไม่ค่อยจะพบเห็นกันนัก พิเศษ ที่มองเห็นเส้นสังฆาฎิพาดลงมาและมองเห็นชายผา้วงิ่เขา้ซอกรักแร้แบบห่มแหวกชดัเจน ช่วงองค์พระลักษณะ คล้ายๆองค์ครูเอ้ือแต่แบนกวา่ ไม่อูมเหมือนพระองคน์ ้ีมีชื่อว่า องค์โรงไม้ขีดไฟ เสี่ยโชติชัย ท้ายสุดไปอยู่ ณรงค์ ปิ ยะสมบัติกุล ในวงการรู้จักกันมาก่อนที่จะอยู่กับเสี่ยโชติชัยครับ


19. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 19 เป็นพระพิมพ์ใหญ่แบบ อกกระบอกอีกแบบหนึ่ง แต่ไม่เหมือนองค์อื่นๆที่เป็นอก กระบอกดว้ยกนัองคน์ ้ีมีชื่อเสียงมา70-80 ปี แล้ว เคยลงรักหนาด าๆ ถูกลอกออกเหลือคราบด าๆ จึงเรียกกันว่า องคเ์ปาบุน้จิ้นช่วงหลงัๆน้ีเปลี่ยนมือหลายคร้ังช่วง 30กวา่ ปีน้ี


20. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 20 พระพิมพน์ ้ีโดดเด่น เป็นครูให้คนในวงการพระสมเดจ็มา 60กวา่ ปีมีชื่อวา่องค์ กวนอู เพราะสีแดงของผ้ายันต์ที่ห่อหุ้มถูกเหงื่อจนเปี ยกชุ่ม สีแดงจึงถูกดูดซึมเข้าเน้ือพระพิมพ์ทรงไม่ค่อยจะ เหมือนองค์อื่นๆนักแลดูใหญ่มากองค์พระค่อนข้างเขื่องมาก เศียรโต อกใหญ่ ฐานล่างสุดกลับเล็กกว่าองค์ ทวั่ๆไปครับ


21. พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 21 พระพิมพน์ ้ีมีความโดดเด่นที่องคพ์ระที่ล่า ลึกใหญ่สมชื่อ คือใหญ่ทุกส่วนท้งฐานั พระซุ้มหวายถา้จะพูดง่ายๆวา่ ใหญ่ท้งัหมดที่เป็นส่วนสูงขององค์พระ งดงามมากๆทีเดียว พระพิมพ์ ใหญ่บลอ็กน้ีพบเห็นอยู่หลายองคส์วยๆท้งัน้นัถ้ามองนานๆจะเห็นว่ามีความสง่างามมาก นงั่ตรงสม ส่วน มีชื่อเรียกกันว่า องค์มรรคนายกวัดระฆังตกทอดลงมาถึงหลานชายเก็บบูชาอยู่และน ามาขายให้กับ พล.ต.ต อดุลย์ วัฒนโชติ เมื่อ 50 กว่าปี ก่อน ท้ายสุดอยู่กับคุณนิพนธ์ พร้อมพันธ์ รังพระสวยๆที่ยัง เหนียวแน่นอยู่ถึงปัจจุบัน


22. พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ แบบที่ 22 เป็นพิมพ์ใหญ่อีกแบบหนึ่ง ที่มองดูเรียวชลูดกว่าแบบอื่นๆ มีเกศทะลุ ซุ้มเล็กน้อย แต่ที่สดุดตา คือที่พ้ืนข้างซุ้มและฐานพระด้านขวาองค์พระมีรอยกดทบัเป็นแนวยาวต้งัแต่ฐาน ล่างสุดถึงริมเข่าพระทีเดียวจะไม่พบเห็นความต่างระดบัแบบน้ีในบล็อกพิมพ์อื่น เคยเป็ นของนายต ารวจใหญ่ เกบ็ไวน้านหลายปีเพิ่งเปลี่ยนมือไม่นานมาน้ี


ยังมีพระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่อีกหลายบล็อกที่ไม่ได้น ามาให้ชมกัน เพราะยังหารูปที่ชัดเจนไม่ได้ แต่เป็นพระที่มีชื่อเสียงอยู่ในอดีตครับ พระสมเดจ็ฯทุกพิมพน์ ้นั ถึงแม้จะพิมพ์ออกมาจากแม่พิมพ์บล็อกเดียวกัน ก็จริง แต่จะมีความแตกต่างกันบ้าง ถ้าไม่สังเกตุจะไม่รู้ได้เลย เพระพระแต่ละองค์มีลักษณะที่แตกต่างกันจะมี เพียงเคา้โครงเท่าน้นัที่บ่งบอกให้รู้วา่เป็นพระบลอ็กไหนครับ หรือเป็นบลอ็กเดียวกนัคลา้ยๆกบัวา่เรามองดูคนที่ เป็นฝาแฝดจะเหมือนกันมากหลาย แต่ส่วนที่แตกต่างกันยังมีให้เห็นได้ครับ จึงเป็ นเรื่องที่ยากส าหรับการจะ ศึกษาพระสมเด็จฯ จา เป็นตอ้งค่อยๆเรียนรู้ไปที่ละข้นัตอน พร้อมกับหัดส่องดูพระแท้ๆบ่อยๆๆๆ วันละหลายๆ คร้ังเท่าที่อยากจะดูแลว้มนัจะค่อยๆเขา้ใจและจา ไดถ้ึงข้นัดูเป็นในที่สุด


ความแตกต่างของพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ กับพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ การเรียนรู้ในเรื่องพระสมเดจ็ฯของสมเดจ็พระพุฒาจารยโ์ต พรหมรังสีน้นัผู้เรียนจะต้องมีความต้งัใจ และทา ความเขา้ใจวา่จะตอ้งใชร้ะยะเวลาในการเรียนรู้เป็นข้นัตอน แบบเดียวกบัเรียนหนงัสือทวั่ๆไปที่จะต้อง เริ่มกนัต้งัแต่พ้ืนฐานและจะตอ้งมีความพยายามเพิ่มข้ึนเป็นพิเศษอีก คือ พระสมเด็จมีของปลอมเลียนแบบมา นานหลายสิบปีแลว้ที่มนัยากคือไม่รู้จะหาดูพระตน้แบบไดจ้ากที่ใด ผูค้นทวั่ๆไปจึงเข้าถึงได้น้อยแม้แต่นกัเล่น หรือเซียนพระในวงการเดียวกันส่วนใหญ่ยังไม่อาจเข้าถึงได้อย่างถูกต้องจริงจังเลย เพราะไม่มีใครอยากจะสอน ใคร ทุกคนก็มุ่งหวังช่วงชิงพระแท้ๆกันอยู่ตลอดเวลา นอกจากที่เป็ นครู-ศิษย์หรือเครือญาติกนัเท่าน้นักว่าจะ ฝึกฝนหดัดูกนัจนเป็น คือซ้ือพระสมเดจ็ฯดว้ยตนเองได้กจ็ะต้องใช้ระยะเวลานานมากๆและไม่แน่นอนว่าจะ ได้ผลจริงๆทุกคนหรือไม่ครับ การศึกษาหรือหดัดูพระสมเดจ็ฯในปัจจุบนัน้ีแตกต่างจากยุคก่อนๆมาก เพราะมีเทคโนโลยีช่วยหลายๆ ด้านในเรื่องของพิมพ์พระและการสื่อสารที่รวดเร็ว แต่สุดท้ายจะต้องได้ส่องดูองค์พระแท้ๆเป็ นล าดับท้ายสุด เท่ากบัการเริ่มตน้นบัหน่ึงของการศึกษาและฝึกฝนหดัดูอย่างแทจ้ริง ดูบ่อยๆทุกๆวนัๆจนจา ได้จา เน้ือได้จา พิมพ์ ได้จา เคา้โครงได้แยกแยะพระแทไ้ม่แทอ้อกได้โดยเห็นพระด้วยตาเปล่าแล้วจึงจะเรียนข้นัต่อไปได้เพราะมี ความเขา้ใจพ้ืนฐานที่ถูกตอ้งแลว้เท่าน้นัอย่างน้ีเป็นข้นัตอนแรก ข้นัตอนที่2ควรไดเ้ริ่มจากดูพระสมเดจ็ฯบางขุนพรหมไดแ้ลว้ดูเป็นแลว้แยกพระแทไ้ม่แท้ได้แล้ว จะ เป็นการง่ายแต่ถ้ายังไม่สามารถแยกพระแท้ไม่แท้ได้ถูกต้อง แล้วจะไปต่อไม่ได้เลย จะดูอย่างไรว่าพระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ องค์นี้เป็ นพระวัดระฆังหรือพระบางขุนพรหม พระสมเด็จวัดระฆัง ทุกๆพิมพ์จะมีราคาค่านิยมสูงกว่าพระสมเด็จบางขุนพรหมมากหลายเท่าตัว ใน สภาพพระที่สวยๆเหมือนๆกันเหตุน้ีจึงเกดิขอ้ขดัแยง้กนัมานานหลายๆสิบปีแลว้ระหวา่งผูซ้้ือกบัผูข้ายและเซียน พระดว้ยกนัเอง ตรงน้ีเป็นขอ้ที่ใหญ่ที่สุด คือเรื่องผลประโยชน์ความจริงและความรู้ต่างๆจึงถูกบิดเบือนไป การพิจารณาพระสมเดจ็ฯท้งั2วดัน้ีเชื่อวา่ถา้มีใจเป็นธรรมแลว้จะเป็นเรื่องที่อธิบายกันโดยง่ายส าหรับ การแยกว่าพระสมเด็จฯองค์น้นัๆเป็นพระวดัไหนแน่และถูกต้องตามความเป็นจริง เหตุผลแบบสุจริ ต ตรงไปตรงมาน้นัมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะตอ้งรู้เป็นพ้ืนฐานกอ่น


1. พระสมเดจ็ฯวดัระฆงัสร้างกอ่นบางขุนพรหมหลายปีเมื่อสร้างพระสมเดจ็บางขุนพรหมน้นัไดถ้่าย พิมพพ์ระของวดัระฆงัมาหมดเลยท้งั5 พิมพ์คือพิมพใ์หญ่พิมพ์ทรงเจดีย์พิมพ์เกศบวัตูม พิมพ์ฐานแซมและ พิมพป์รกโพธ์ิพร้อมกบัสร้างแม่พิมพข์้ึนมาใหม่อีก6 พิมพด์ว้ยกนัคือ พิมพเ์ส้นดาย พิมพ์ฐานคู่พิมพ์สังฆาฎิ พิมพ์อกครุฑ พิมพ์ฐานสิงห์และพิมพ์สีหไสยาสน์ รวมเป็นพิมพพ์ระสมเดจ็บางขุนพรหมท้งัสิ้น11 พิมพด์ว้ยกนั ในแต่ละพิมพน์ ้นัมีบลอ็กแยกย่อยไปอีกนบัสิบกวา่บลอ็กเป็นแบบน้ีทุกพิมพเ์ลย เฉพาะพิมพ์ฐานแซมของบาง ขุนพรหมน้นัมีท้งัที่ถอดแบบพิมพจ์ากพิมพข์องวดัระฆงั(จะมีเคา้โครงพิมพแ์บบพระวดัระฆงั)และแบบที่เป็ น พิมพข์องบางขุนพรหมลว้นๆเลยคือแตกต่างจากพิมพฐ์านแซมวดัระฆงัแบบน้ีองคพ์ระจะมีลกัษณะไม่เหมือน ของวดัระฆงัพิมพพ์ระที่ถอดแบบพิมพจ์ากวดัระฆงัน้นัจะมีเคา้โครงเหมือนๆกนัแตกต่างกนับา้ง เลก็นอ้ยเพียง บางจุดบางตา แหน่งเท่าน้นัเช่น เส้นแซม ช้นัที่2 และ 3 จะมีความหนาใหญ่ข้ึน ติดพิมพ์ได้ลึกชัดเจนกว่าวัด ระฆงัแต่ขนาดโดยรวมๆขององคพ์ระจะเลก็กวา่และต้ืนกวา่วดัระฆงัมากยิ่งวางเทียบกนัจะมองเห็นได้ชดัเจน เลย ส่วนแม่พิมพข์องบางขุนพรหมที่สร้างข้ึนใหม่ท้งั10 พิมพน์ ้ีจะมีความคมชดัเจนสวยงามมากกวา่ทุกๆพิมพ์ ทุกบล็อกเลย ขอ้ สรุปของพิมพพ์ระสมเดจ็บางขุนพรหมท้งั11 พิมพ์น้นัจะมีขนาดโดยรวมที่เล็กกว่าพระวัดระฆัง ทุกๆพิมพเ์ลยยกเวน้พิมพใ์หญ่ของบางขุนพรหมที่สร้างแม่พิมพข์้ึนใหม่คือแบบพิมพ์ใหญ่แขนโค้ง(แขนขวา องคพ์ระ)แบบน้ีจะมีขนาดค่อนข้างเขื่องกว่าพิมพ์ใหญ่วดัระฆงัเสียอีก เพียงแต่เป็ นพิมพ์ของบางขุนพรหม โดยเฉพาะพิมพแ์บบน้ีไม่มีในพระวดัระฆงั เน้ือพระสมเดจ็วดัระฆงัมีมวลสารหลายอย่างที่ใส่ลงไปผสมอยู่ในเน้ือหลกัที่เป็นปูน ส่วนใหญ่จะ เป็นอนินทรียว์ตัถุที่พบเห็นเป็นอินทรียว์ตัถุจะมีเพียงชิ้นไม้เล็กๆและเปลือกข้าว(ส่วนใหญ่จะหลุดหรือผุพงั เหลือแค่ร่องรอยเท่าน้นั) พระวดัระฆงัไม่ไดเ้ขา้กรุผิวพรรณจึงเป็นแบบแห้งๆธรรมดามองดูไม่อดัแน่นแบบพระ บางขุนพรหม เน้ือพระสมเดจ็บางขุนพรหม สร้างภายหลังจากสร้างพระวัดระฆังแล้วหลายปี มวลสารต่างๆแบบที่มีใน พระวดัระฆงัน้นัจะพบเห็นได้น้อยกว่าในพระบางขุนพรหม โดยเฉพาะเม็ดผงวิเศษกอ้นๆที่อยู่ตามพ้ืนผิว ดา้นหนา้ของพระสมเดจ็วดัระฆงัน้นั ไม่ค่อยมีในบางขุนพรหมพบเห็นไดน้อ้ยมากแมก้ระท้งัชิ้นไมเ้ลก็ๆที่มกัจะ พบในพระวัดระฆัง นานๆจะพบสักองค์หนึ่งในพระบางขุนพรหม


ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนมากๆ คือ เรื่องผิวพรรณของพระบางขุนพรหม คือพระเน้ือผงเข้ากรุจะมี ผิวพรรณที่แขง็แกร่งแน่นตวัเป็นอย่างมากถึงแมจ้ะไม่มีข้ีกรุกต็ามขนาดของพระกจ็ะเลก็กวา่ (เทียบพิมพเ์ดียวกนั) และต้ืนกวา่พระวดัระฆงั ไขกรุฝ้ากรุผิวพรรณจะแตกต่างกนัเป็นอย่างมากรวมถึงสีสันดว้ย อีกท้งัด้านข้างและ ด้านหลังก็จะแตกต่างกันกับพระวัดระฆังอย่างชัดเจน ผิวพระสมเด็จบางขุนพรหมทุกๆองค์ทุกพิมพ์เมื่อถูก สัมผัสหรือแขวนถูกเหงื่อไคลจะเป็นมนัเลื่อมๆนานๆไป ผิวจะเปลี่ยนสีเป็นสีน้า ผ้ึงอ่อนๆบางส่วนและมีไตสี ขาวๆแทรกอยู่ในลกัษณะเหมือนเอาสีน้า ผ้ึงวางต่อกนักบัสีขาว คือจะแยกกนัชดัเจนไม่กลมกลืนกนัข้อน้ีเป็น คุณสมบตัิของเน้ือพระบางขุนพรหมเลย ส่วนพระวดัระฆงัถูกใชจ้นสึกหรอ ถ้าจะเหลืองกเ็ป็นท้งัองค์จะขาวก็ ขาวท้งัองคค์รับ ส่วนไขที่ข้ึนมาจากในเน้ือพระวดัระฆงัจะมีให้เห็นเพียงบางๆเป็นส่วนน้อยเท่าน้นัถ้าเป็นบาง ขุนพรหมจะมีไขข้ึนมาจากในเน้ือมากกวา่ เพราะพระอยู่ในกรุมีความร้อนอบขับออกมามากเห็นได้ง่ายกว่า สูตร ผสมเน้ือพระท้งั2วดัเหมือนๆกนัเพียงแต่พระเขา้กรุกบัไม่เขา้กรุผิวพรรณจึงแตกต่างกนัถา้ได้ดูได้เห็นบ่อยๆ จะเขา้ใจมากข้ึน ถา้วางเทียบกนัผิวพรรณบางขุนพรหมจะแขง็แกร่งและแน่นตวักว่ามากเลย พระเน้ือผงเก่าๆที่ สามารถนา มาใชห้ดัดูแทนพระสมเดจ็ฯส่วนใหญ่จะเป็นพระเขา้กรุแทบท้งัสิ้น เช่น พระวดัพลบัวดัเฉลิมพระ เกียรติ วัดเงินคลองเตย หลวงปู่ อ้น พระแบบน้ีผิวพรรณจะใกลเ้คียงกบัพระบางขุนพรหมท้งัหมด


พระสองคลอง พระสองคลอง คือ พระสมเด็จที่สร้างจากวัดระฆังหรือพระวัดระฆังถูกน ามาใส่ไว้ในกรุหรือเจดีย์บางขุนพรหม มีทุกพิมพแ์ต่ไม่มากนกัในแต่ละพิมพ์ที่พบเห็นกนัมากกวา่พิมพอ์ื่นๆ คือพิมพฐ์านแซม พระแบบน้ีคือ พระวดั ระฆงัแต่ผิวพรรณอาจจะมีข้ีกรุหรือไม่มีแต่ผิวพระจะบ่งบอกวา่เคยอยู่ในกรุหรือเป็นแบบบางขุนพรหมขนาด ขององคพ์ระโดยรวมจะไม่เลก็กวา่และต้ืนกวา่พระวดัระฆงัหลกัพิจารณาวา่เป็นพระสองคลองจริงหรือไม่คือ มี พิมพ์พระเป็นวดัระฆงัมีขนาดเท่ากนักบัพระวดัระฆงัเพียงแต่ผิวพรรณเป็นพระเข้ากรุเท่าน้นัเน้ือพระรูปแบบ การผลิตเป็นพระออกมาจากวัดระฆัง มีผิวพรรณแบบเคยอยู่ในกรุเท่าน้นัเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านอาจนา มาใส่ กรุเองหรือชาวบ้านที่เคยได้รับพระไว้แล้วน ามาใส่กรุร่วมบุญก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างไรพระวัดระฆังจะไปอยู่แห่ง ใดยงัเป็นพระวดัระฆงัอยู่ดีเพียงแต่พระแบบน้ีมีจา นวนไม่มากและสนนราคาจะถูกกวา่พระวดัระฆงัที่ไม่ได้เข้า กรุ แต่จะแพงกว่าพระบางขุนพรหมมากครับ การที่เราจะไดพ้บเห็นไดดู้พระสมเดจ็วดัระฆงัน้นัคงจะยากกวา่ ไดดู้พระบางขุนพรหม จึงเป็นการยากที่ จะศึกษาได้อย่างจริงจัง ล าพังแต่พระสมเด็จบางขุนพรหมแท้ๆยังหาดูได้ยากมากถ้าไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในวงการก็ไม่มี โอกาสเลยอีกอย่างหนึ่ง คือ เซียนพระในปัจจุบันมีความรู้ได้รับการถ่ายทอดมาไม่เท่ากัน เรียนจากครู-อาจารย์ ต่างส านกักนัจึงข้ึนกบัความรู้พ้ืนฐานของแต่ละคนดว้ย บางคนเรียนรู้แบบครูพัก ลัก-จ าเอา ความคิดเห็นจึงได้ แตกต่างกัน จะเรียกว่าเป็นประสบการณ์คงไม่ผิดนัก พระสมเด็จบางองค์หมุนเวียนอยู่ในวงการช่วง 70 กว่าปี มา น้ีอาจมีรูปถ่ายอยู่ในหนงัสือพระหลายเล่มบางเล่มลงเป็นพระวดัระฆงับางเล่มลงเป็นบางขุนพรหมท้งัที่เป็น พระองค์เดียวกันก็มีให้เห็นหลายองค์ อีกอย่างหนึ่ง เมื่อ 50-60 ปีที่ผ่านมาน้ีผู้จดัทา หนงัสือพระท้งัหลายไม่มี ความรู้ทางพระสมเด็จฯอย่างจริงจังเลยเรียกว่าดูพระไม่เป็นเลย แต่มีอาชีพท าหนังสือพระขายจึงเกิดข้อผิดพลาด ข้ึนมากมายมีท้งัต้งัใจและไม่ต้งัใจลงผิดกนัท้งัแบบผิดวดัเช่น วดัระฆงัเป็นบางขุนพรหมหรือบางขุนพรหมเป็น วัดระฆัง อีกแบบผิดพิมพ์คือเอาพิมพ์เส้นด้ายเป็นพิมพ์ใหญ่หรือพิมพ์ใหญ่เป็ นเส้นด้าย ลงฐานแซมเป็ นฐานคู่ หรือฐานคู่เป็นฐานแซมแบบน้ีครับ เมื่อตีพิมพอ์อกไปแลว้กต็อ้งปล่อยเลยตามเลยแกไ้ขไม่ได้แล้ว บางเล่มเอา พระไม่แท้ลงเป็นพระแท้ก็พบเห็นได้บ่อยๆจนถึงปัจจุบันก็ยังมีเลย ข้อที่ควรระวัง คือ พระสมเด็จวัดระฆังที่มี ผิวพรรณบางส่วนมีไขข้ึนบางๆจากในเน้ืออนัน้ีเกดิจากส่วนผสมในเน้ือของพระสมเดจ็ถึงจะเป็นพระวดัระฆงัก็ จะมีไขแบบน้ีให้เห็นไดทุ้กองค์เพียงแต่จะอยู่ตรงไหนขององคพ์ระเท่าน้นั ไขบางๆแบบน้ีอาจถ่ายรูปแล้วมอง


ไม่ชดัเจนถา้เป็นพระผิวดีๆยงัไม่ผ่านการสัมผสัมากๆ ถา้พบเห็นไขบางๆเลก็นอ้ยแบบน้นัทา ให้เขา้ใจผิดว่าเป็ น พระเข้ากรุหรือเป็นบางขุนพรหมก็น่าเสียดายที่จะขายผิดราคาไป เกิดความเสียหายเป็นอันมากครับ พระสมเดจ็วดัระฆงัผิวพรรณดีๆขาวๆมากๆบางท่านมองเป็นพระบางขุนพรหมที่เพิ่งออกจากกรุแบบมี ผา้ขาวๆน้นัขอบอกวา่เป็นคนละแบบกนัสีขาวแบบเดียวกนัแต่ความแข็งของผิวพระน้นัต่างกนัพระเข้ากรุผิว แขง็แกร่ง พระวดัระฆงัผิวขาวนวลเป็นแป้งอ่อนๆยิ่งส่องดูบริเวณที่เป็นปากหลุมเมด็หลวมๆ จะเห็นและเข้าใจ ได้ว่าไม่เหมือนกัน ความคมของผิวพระบางขุนพรหมน้นัคมแกร่งกว่ามากเลย โดยเฉพาะปากหลุมเม็ดผง หลวมๆที่มกัจะเผลอข้ึนเลก็นอ้ยถา้มีโอกาสไดส้่องดูพระสมเด็จวัดระฆังและบางขุนพรหมแท้ๆขอให้สังเกตุ พิจารณาให้ละเอียดตามหวัขอ้ต่างๆที่ไดอ้ธิบายไวแ้ลว้น้นันะครับ


ผมขอสรุปวา่ ไม่มีอะไรยากเกินความต้งัใจเกินความสามารถแน่นอน คนอื่นดูเป็ นได้เราเองก็ต้องดู เป็นไดเ้หมือนกนัถา้เราเดินไดถู้กทางหมนั่ฝึกฝนทุกๆวันละบ่อยๆดูแต่พระสมเด็จฯแท้ๆเป็ นครูเป็ นตัวอย่าง ชนะแน่นอนครับ เรียนสิ่งใด ตั้งใจท าให้จริง สิ่งเดียวแท้แม้ฝึ กฝนจนช านาญ มีชื่อเสียง ก้องไกล แผ่ไพศาล ได้ความสุข ส าราญ เพราะวิชา ชาญเชี่ยวจริง คณะผู้จัดท า


Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.