บทเรียนโมดูน Flipbook PDF


35 downloads 98 Views 2MB Size

Recommend Stories


Porque. PDF Created with deskpdf PDF Writer - Trial ::
Porque tu hogar empieza desde adentro. www.avilainteriores.com PDF Created with deskPDF PDF Writer - Trial :: http://www.docudesk.com Avila Interi

EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF
Get Instant Access to eBook Empresas Headhunters Chile PDF at Our Huge Library EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF ==> Download: EMPRESAS HEADHUNTERS CHIL

Story Transcript



คำนำ

ชุดสื่อโมดูลเรื่องความรู้เกี่ยวกับโครงงานและการนาเสนอ ได้จัดทาขึ้นเพื่อใช้เป็ นสื่อประกอบการเรียนการสอนโดยมีเนื้อหา และกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายสอดคล้องตามหลักสูตร ที่ เน้ น ผู้ เ รี ย นเป็ นส าคั ญ โดยใช้ โ ครงงานเป็ นฐานการสื บ เสาะหา ความรู้การสารวจตรวจสอบการสืบค้นข้อมูลและอภิปรายเพื่อให้ เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถสือ ่ สารสิง ่ ทีเ่ รียนรู้มีความสามารถ ในการตัดสินใจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้และพั ฒนาทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้เป็ นอย่างดีนอกจากนี้ยังช่วยให้ ครู ผู้ ส อนสามารถน าไปใช้ เ ป็ นแบบอย่ า งหรื อ แนวทางในการ จัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของหลักสูตร อีกด้วย ผู้จัดทาหวังเป็ นอย่างยิ่งว่าชุดสื่อโมดูลเล่มนี้จะช่วยพั ฒนา นักเรียนนักศึกษากาญจนาภิเษกวิทยาลัย ช่างทองหลวงให้เป็ น บุ ค คลแห่ ง การเรี ย นรู้ ส ามารถเป็ นผู้ เ รี ย นรู้ ไ ด้ ต ลอดชี วิ ต ตาม เจตนารมณ์ทต ี่ ง ั้ ไว้



สารบัญ เรื่อง คำนำ สำรบัญ คำชีแ้ จง คำแนะนำสำหรับครู คำแนะนำสำหรับนักเรียน ขัน้ ตอนกำรใช้ชดุ สื่อโมดูล สำระสำคัญ จุดประสงค์กำรเรียนรู ้ แบบทดสอบ ใบกิจกรรมที่ 1 สรุปกำรทำโครงงำน ใบควำมรูท้ ่ี 1 ควำมหมำยและประเภทของโครงงำน ใบควำมรูท้ ่ี 2 วิธีเขียนรำยงำนโครงงำน ใบควำมรูท้ ่ี 3 กำรนำเสนอโครงงำน คำถำมชวนคิดชวนทำ แบบทดสอบหลังเรียน เกณฑ์กำรประเมิน บรรณำนุกรม

หน้ำ ก ข ค 1 2 3 4 5 7 10 11 14 36 41 42 46 51



คาชีแ ้ จง

ชุดสื่อโมดูลเรือ่ งความรูเ้ กีย่ วกับโครงงานและการ นาเสนอ เล่มนี้ เป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้เกีย่ วกับโครงงาน และการนาเสนอ ใช้เวลาในการเรียนการสอน...7..ชั่วโมง ในการนาชุดสื่อโมดูลนี้ไปใช้ผสู้ อนควรมีการศึกษาคูม่ อื การ ใช้ชุดกิจกรรมสือ่ โมดูลเรือ่ งความรูเ้ กีย่ วกับโครงงานและ การนาเสนอโดยละเอียดเพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียน การสอนบรรลุตามจุดประสงค์ของหลักสูตรซึง่ กระบวนการ จัดการเรียนรู้เน้นการปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆด้วยตัวเองโดย ครูผู้สอนเป็นผูใ้ ห้การช่วยเหลือและอานวยความสะดวกใน การปฏิบัตกิ จิ กรรมและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน หวังเป็นอย่างยิง่ ว่าชุดสือ่ โมดูลเรื่องความรู้เกี่ยวกับโครงงาน และการนาเสนอเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา การ เรียนรู้ของผูเ้ รียนและครูสามารถนามาใช้ในการพัฒนาการ เรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1

คาแนะนาสาหรับครู

กำรใช้ชุดสื่อโมดูลเรื่องควำมรู้เกี่ยวกับโครงงำนและกำรนำเสนอสำหรับ กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนรำยวิชำงำนขึน้ รูปเบือ้ งต้น รหัสวิชำ 20315 – 2108 ระดับชัน้ ประกำศนียบัตรวิชำชีพ(ปวช.) ผู้สอนมีบทบำทสำคัญดังนี้ 1. เตรียมเอกสำรทีร่ ะบุไว้ในแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ตำมลำดับ 2. ศึกษำรำยละเอียดของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ 3. ทดลองใช้สื่ออุปกรณ์กำรสอนเพือ่ ตรวจสอบว่ำใช้งำนได้จริงและแก้ไข เมือ่ สื่ออุปกรณ์กำรสอนเกิดกำรชำรุ ดเสียหำย 4. ทำกำรวิเครำะห์นักเรียนนักศึกษำโดยแบ่งเป็ นเก่งปำนกลำงอ่อนแล้ว แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่ม..3..คน 5.ครูชแี้ จงกำรเรียนทีน่ ักเรียนนักศึกษำต้องปฏิบัติตำมคำสั่งในชุดกิจกรรม 6. ชีแ้ จงกิจกรรมกำรเรียนให้นักเรียนทรำบ 7.ดำเนินกำรสอนตำมแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 8.ให้คำแนะนำและเป็ นทีป่ รึกษำใน ขณะทีน่ ักเรียนทำกิจกรรม 9. สังเกตกำรทำกิจกรรมของนักเรียนนักศึกษำและสรุ ปบทเรียน 10. ตรวจแบบทดสอบย่อยแต่ละชุดแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ ำงกำร เรียนและบันทึกผลกำรประเมินพฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่มและพฤติกรรม ระหว่ำงเรียนของนักเรียน

2

คาแนะนาสาหรับนักเรียน

1. ชุดสื่อโมดูล เรื่องควำมรู้เกี่ยวกับโครงงำนและกำรนำเสนอเล่มนี้ จัดทำขึน้ เพือ่ ให้นักเรียน นักศึกษำใช้ประกอบกำรเรียนรูใ้ นรำยวิชำ งำนขึน้ รูปเบือ้ งต้น รหัสวิชำ 20315 – 2108 ซึง่ นักเรียนจะได้ศึกษำ เพิม่ เติมด้วยตัวเอง 2. ในแต่ละหน้ำของแต่ละชุดกิจกรรมจะมีเนือ้ หำสำระคำแนะนำหรือ คำอธิบำยพร้อมทัง้ คำถำมให้นักเรียน นักศึกษำได้ศึกษำและฝึ กทักษะ ควำมรู้ควำมเข้ำใจตลอดจนทักษะในกำรนำไปใช้แก้ปัญหำ 3. ให้นักเรียนอ่ำนคำชีแ้ จงกำรใช้ชุดสื่อโมดูล ให้เข้ำใจ 4. ก่อนศึกษำทำแบบทดสอบก่อนเรียนจำนวน 10 ข้อเพือ่ วัดควำมรู้ พืน้ ฐำน 5. ศึกษำจุดประสงค์สำระสำคัญเนือ้ หำในชุดสื่อโมดูล 6. เรียนรู้ตำมกิจกรรมทีค่ รูผู้สอนจัดให้ในชุดสื่อโมดูลมีสื่ออุปกรณ์ใน กำรปฏิบัตใิ ห้นักเรียน นักศึกษำปฏิบัตใิ ห้เรียบร้อยและครบถ้วน 7. ทำแบบทดสอบหลังเรียน 8. ตรวจคำตอบจำกเฉลยเพือ่ เปรียบเทียบพัฒนำกำรทำงกำรเรียนของ ตนเองและจะได้ทรำบถึงพัฒนำกำรทำงด้ำนควำมคิดควำมรู้ควำม เข้ำใจจำกเรื่องทีศ่ ึกษำ

3

ขัน ่ โมดูล ้ ตอนการใช้ชุดสือ คำชีแ้ จงกำรใช้ชุดสื่อโมดูล เรื่อง ควำมรู้เกี่ยวกับ โครงงำนและกำรนำเสนอ

4

สาระสาคัญ การเขียนรายงานโครงงานเป็ นการนาข้อมูลทั้งหมดจากการทา โครงงานมาเรียบเรียงเพื่อสือ ่ สารให้ผู้อื่นเข้าใจถึงแนวคิด วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า ผลทีไ่ ด้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะ ต่างๆเกีย ่ วกับโครงงานนัน ้ ๆนอกจากการเขียนรายงานโครงงานแล้ว ยังมีการนาเสนอและแสดงผลงานในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัด แสดงนิทรรศการ การนาเสนอด้วยโปสเตอร์ การนาเสนอด้วย คอมพิวเตอร์ โดยมีทง ั้ การจัดแสดงและการอธิบายด้วยวาจา เพื่อให้ ผู้อน ื่ รับรู้และเข้าใจโครง งานนัน ้ ๆ

5

จุดประสงค์กำรเรียนรู้ เมือ ่ ศึกษาบทเรียนนีแ ้ ล้วนักเรียนควรจะสามารถ 1 ด้านความรู้ (K) บอกความหมายและประเภทของ โครงงานได้และเข้าใจเกีย ่ วกับขัน ้ ตอนกระบวนการทา โครงงาน 2ด้านทักษะ (p) ผู้เรียนสามารถปฏิบัติงานเกี่ยวกับ ขัน ้ ตอนกระบวนการทาโครงงาน

3ด้ า นคุ ณ ธรรมจริ ย ธรรมและคุ ณ ลั ก ษณะอั น พึ ง ประสงค์ (A) เห็นความสาคัญในการเรียนในรูปแบบ โครงงานเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานขึน ้ รูปเบือ ้ งต้น

6

กระดำษคำตอบ ชุดสื่อโมดูล เรือ่ ง ควำมรูเ้ กี่ยวกับโครงงำน และกำรนำเสนอ

7

แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดสื่อโมดูล เรื่อง ควำมรู้เกีย่ วกับโครงงำนและกำรนำเสนอ ข้อสอบจำนวน 10 ข้อ ใช้เวลำ 10 นำที คะแนนเต็ม 10 คะแนน คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องที่สดุ แล้วทำเครื่องหมำย x ลงในกระดำษคำตอบ

1. กำรเขียนรำยงำนโครงงำนมีจดุ ประสงค์ตำม ข้อใด ก. เพื่อสรุปองค์ควำมรูท้ ่ีได้จำกกำรทำโครงงำน ข. เพื่อสื่อเผยแพร่และสื่อสำรผลกำรศึกษำให้ ผูอ้ ่ืนเข้ำใจ ค. เพื่อรำยงำนต่อครูท่ีปรึกษำประจำโครงงำน ง. เพื่อนำเสนอในสิ่งที่ได้จำกกำรทำโครงงำน 2 องค์ประกอบของกำรเขียนรำยงำนโครงงำนมีก่ี ส่วน ก. 1 ข. 2 ข. 3 ง. 4

3. กำรเขียนเรียงควำมต่อเนื่องโดยระบุจดุ ประสงค์ขอบเขตของกำรทำ โครงงำนรวมถึงวิธีกำรทำงสถิติท่ีใช้และผลกำรดำเนินงำนเป็ นวิธีกำรเขียน รำยงำนในหัวข้อใด ก. กิตติกรรมประกำศ ข. คำอธิบำยสัญลักษณ์ ค. นิยำมศัพท์เฉพำะ ง. บทคัดย่อ

แบบทดสอบก่อนเรียน

8

คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องที่สดุ แล้วทำเครื่องหมำย x ลงในกระดำษคำตอบ 4. ในกำรเขียนรำยงำนโครงงำนส่วนเนือ้ เรื่อง ประกอบด้วยหัวข้อใด ก. กิตติกรรมประกำศ บทคัดย่อ ข. จุดประสงค์ สมมติฐำน ค. ขอบเขตของกำรทำโครงงำน กิตติกรรมประกำศ ง. บทคัดย่อ บรรณำนุกรม 6 กำรนำเสนอโครงงำนควรจัดให้ ครอบคลุมตำมประเด็นข้อใดให้มำก ที่สดุ ก. ควำมสำคัญของโครงงำน ข. วิธีกำรดำเนินกำร ค. ผลกำรสังเกตและข้อมูลสำคัญจำก กำรทำโครงงำน ง. ถูกทุกข้อ

5. กำรกำหนดขอบเขตของกำรทำโครงงำนมี ลักษณะอย่ำงไร ก. กำหนดกลุ่มประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำงที่ ศึกษำ ข. กำรกำหนดคำจำกัดควำมเพื่อให้เกิดควำม เข้ำใจตรงกัน ค. กำรอธิบำยที่มำของกำรทำโครงงำน ง. ถูกทัง้ ข้อ ข และ ค

7 ข้อใดควรมีกำรจัดวำงลงไปในแผง โครงงำนเพื่อนำเสนอผลงำนให้เข้ำใจ เรื่องรำวได้ง่ำยขึน้ ก. เอกสำรที่เกี่ยวข้องกับกำรทำ โครงงำน ข. กำรอภิปรำยผลและสรุปผลโครงงำน ค. กำรกำหนดตัวแปรและสมมติฐำน ง. แผนภูมิแสดงควำมสัมพันธ์ของตัว แปร 8 โครงงำนเรื่องขัน้ ตอนและวิธีกำรทำเครื่องถม 9 ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับกำรนำเสนอด้วย ควรมีกำรนำเสนอตำมข้อใด คอมพิวเตอร์ ก. จัดบอร์ดแสดงผลงำนโดยใช้ภำพประกอบ ก. ควรนำเสนอข้อมูลอย่ำงละเอียดครบถ้วน ข. กำรสำธิตผลงำนที่ได้จำกกำรทดลอง ข. ไม่จำเป็ นต้องใช้ภำษำเป็ นทำงกำรเพื่อให้เข้ำใจ ค. ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อนำเสนอผลงำน ง่ำย ง. ออกแบบโปสเตอร์ท่ีมีขอ้ ควำมและสีสนั ค. ใช้สีพนื ้ หลังฉูดฉำดเพื่อดึงดูดควำมสนใจ สวยงำม ง. เน้นกำรใช้ภำพแผนภูมิแทนกำรใช้ตวั อักษร

แบบทดสอบก่อนเรียน

9

คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องที่สดุ แล้วทำเครื่องหมำย xลงในกระดำษคำตอบ

10 กำรจัดแสดงและกำรนำเสนอผลงำนในรูปแบบนิทรรศกำร ผูท ้ ำโครงงำน

จำเป็ นต้องจัดเตรียมสิง่ ใดบ้ำง ก. รูปเล่มรำยงำนโครงงำน ข. แผงโครงงำน ค. ผลงำนที่ได้จำกกำรทำโครงงำน ง.ถูกทุกข้อ

10

ใบกิจกรรมที่ 1 สรุปการทา โครงงาน จุดประสงค์ของกิจกรรม

กิจกรรมนีแ้ ล้วนักเรียนสำมำรถเขียนบทคัดย่อของโครงงำน คำชีแ้ จง

ให้นักเรียนนำข้อมูลที่ได้จำกกำรทำโครงงำนของนัก เรียนมำ เขียนเป็ นควำมเรียง โดยเริม่ จำก นักเรียนทำอะไร ด้วยวิธีกำรอะไร ได้ผลอย่ำงไร โดยควำมยำว ไม่เกินครึ่งหน้ำกระดำษ A4 ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… …………………………………………………………………

11

ใบความรู้ที่ 1 ความหมายและ ประเภทของโครงงาน

โครงงำน คือ กำรวำงเค้ำโครงในกำรทำงำนว่ำ จะทำงำนอะไร เมื่อไร ที่ไหน อย่ำงไร ใครเป็ น ผูจ้ ดั ทำ ซึง่ เรำสำมำรถแบ่งประเภทของโครงงำนได้ดงั นี ้

1. โครงงำนประเภทพัฒนำผลงำน หมำยถึงโครงงำนที่ เป็ นกำรศึกษำเนือ้ หำทำงวิชำกำร หรือหลักทฤษฎีเกี่ยวกับ วิชำกำรงำนวิชำชีพหรือวิชำสำมัญแล้วนำมำปรับปรุงให้ สอดคล้องกับแนวทำงทฤษฎี เช่นเมื่อนักเรียนได้ศกึ ษำเรื่อง พลังงำนแสงอำทิตย์แล้ว นำมำพัฒนำเป็ นเครื่องอบกล้วยด้วย แสงแดด ตูอ้ บเนือ้ สัตว์เครื่องทำนำ้ ร้อน ฯลฯ หรือเมื่อได้ศกึ ษำ ทฤษฎีเรื่องพืชสมุนไพรแล้ว อำจนำมำทำโครงกำรยำปรำบสัตรู พืชด้วยสมุนไพร ยำรักษำโรค ฯลฯ หรือเมื่อได้ศกึ ษำทฤษฎีเรื่อง กำรขยำยพันธ์ปลำสวยงำมแล้ว อำจนำมำทำโครงกำรกำร เปลี่ยนสีพนั ธุป์ ลำสวยงำม ฯลฯ หรือศึกษำทฤษฎีเรื่องกำรถนอม อำหำรแล้ว อำจทำโครงกำรกำรดองพืชผัก กำรทำปลำแห้งกำร ทำไส้กรอก ฯลฯ

12

ใบความรู้ที่ 1(ต่อ) 2. โครงงำนประเกทศึกษำ ค้นคว้ำ ทดลอง โครงงำนประเภทนี ้ เป็ นโครงงำนที่เกิดจำกกำรศึกษำ หลักกำรต่ำงๆ ทำงวิชำกำรแล้วนำมำทดลองคันคว้ำเพื่อ ยืนยันทฤษฎีหรือหลักกำรนัน้ ๆ เช่น กำรศึกษำสูตร อำหำรไก่ตอน กำรทดลองปลูกผักโดยไม่ใช้ดิน กำรศึกษำ สูตรเครื่องดื่มที่ผลิตจำกผลไม้ ฯลฯหรือเกิดควำมคิด สร้ำงสรรค์ จึงสร้ำงสิ่งประดิษฐ์ขนึ ้ เช่นกำรประดิษฐ์ของ ชำร่วย กำรประดิษฐ์เครื่องรับวิทยุ 3. โครงงำนประเภทสร้ำงสิ่งประดิษฐ์ โครงงำน ประเภทนีเ้ ป็ นโครงำนที่พบเห็นผลงำนผูอ้ ่ืนแล้วกำร ออกแบบเสือ้ ผ้ำ ฯลฯ 4. โครงงำนประเภทสำรวจข้อมูล โครงงำนประเภทนี ้ เป็ นกำรสำรวจข้อมูล เพื่อนำข้อมูลหรือควำมรู ท้ ่ีได้จำก กำรสำรวจนำมำใช้ประโยชน์ เช่น โครงงำนสำรวจรำคำ ผลผลิตกำรเกษตร โครงงำนสำรวจสถำนประกอบกำร ด้ำนบริกำรในท้องถิ่น ฯลฯในกำรเขียนโครงงำนจะต้อง กำหนดทิศทำงกำรดำเนินงำนให้มีขอ้ ผิดพลำดน้อยทีสดุ ซึง่ จะต้องเตรียมข้อมูลดังนี ้

13

ใบความรู้ที่ 1(ต่อ) กำรศึกษำข้อมูลต่ำง ๆ เช่นด้ำนควำมรู ้ สถำนที่ ฯลฯ ที่จะทำให้กำรดำเนินงำนเป็ นไปด้วยดี กำรปฏิบตั ิงำน ว่ำมีขนั้ ตอนอย่ำงไร ใครเป็ น ผูป้ ฏิบตั ิงำน ค่ำใช้จ่ำยอะไรบ้ำง กำรติดตำมงำนและกำรประเมินผล กำรสรุปปั ญหำอุปสรรคที่เกิดขึน้ และหำแนว ทำงแก้ไข

14

ใบความรู้ที่ 2 การเขียนรายงานโครงาน

กำรเขี ย นรำยงำนโครงำน เป็ น กำรเสนอผลงำนกำรด ำเนิ น กำรเป็ น เอกสำรจัด ว่ ำ เป็ น ขั้น ตอนส ำคัญ อี ก ประกำรหนึ่ ง ของโครงงำน เมื่ อ นักเรียนดำเนินกำรทำโครงงำนจนครบขัน้ ตอนได้ขอ้ มูลทำกำรวิเครำะห์ ข้อมูล พร้อมทัง้ แปรผล และสรุ ปผลแล้ว งำนขัน้ ต่อไปที่ตอ้ งทำคือ กำร เขี ย นรำยงำนกำรเขี ย นรำยงำนโครงงำน เป็ น วิ ธี ส่ื อ ควำมหมำยที่ มี ประสิ ท ธิ ภ ำพวิ ธี ห นึ่ ง เพื่ อ ให้ ค นอื่ น ๆได้เ ข้ ำ ใจแนวควำมคิ ด วิ ธี ดำเนินงำนศึกษำคันคว้ำข้อมูล ผลที่ใด้ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะ ต่ำง ๆเกี่ยวกับโครงงำนนัน้

กำรเขียนรำยงำนโครงงำน ประกอบด้วยหัวข้อต่ำง ๆ ดังนี ้ 1. ชื่อโดรงงำน 2. ชื่อผูจ้ ดั ทำโครงงำน 3. ชื่ออำจำรย์ท่ีปรึกษำโครงงำ 4. บทคัดย่อ 5. กิตติกรรมประกำศ 6. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน 7. วัตถุประสงค์ของกำรทำโครงงำน 8. สมมติฐำนของกำรศึกษำ 9. ขอบเขตของกำรทำโครงงำน 10.นิยำมศัพท์เฉพำะ 11. วิธีดำเนินกำร 12. ผลกำรศึกษำค้นคว้ำ 13. สรุปผลและ ข้อเสนอแนะ 14. เอกสำรอ้ำงอิง / บรรณำนุกรม

15

ใบความรู้ที่ 2(ต่อ) 1.ชือ ่ โครงงาน

ชือ่ โครงำน เป็ นสิ่งสำคัญประกำรแรก เพรำะชื่อ โครงกำรจะช่วยโยงควำมคิดไปถึงวัตถุประสงค์ของกำรทำ โครงงำน และควรกำหนดชื่อโครงกำรให้สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์หลักด้วย กำรตัง้ ชื่อโครงงำนของนักเรียนในระ ตับประถมศึกษำและมีอยมศึกบำ ปี บมตัง้ ชื่อให้มีควำม กะทัดรัดและดึงดูดควำมสขใจจำกผูอ้ ำ่ น ผูฟ้ ั ง แต่สิ่งที่ควร คำนึงถึง คือ ผูท้ ำโครงำนต้องเข้ำใจปั ญหำที่สนใจศึกษำ อย่ำงแท้จริง อันจะนำไปสูก่ ำรเข้ำใจวัตถุประสงค์ของ กำรศึกษำยย่ำงแท้จริงด้วย โครงงำน ชื่อ "ถุงพลำสติกพิชิตแมลงวันตัวน้อย" จึง ปี ญหำเรืองที่สนใจศึกษำคือถุงนำ้ พลำสติกสำมำรถไล่ แมลงวันที่มำตอมอำหำรได้จริงหรือ จำกเรื่องดังกล่ำวผูท้ ำ โครงชำนวิทยำศำสตร์ บำงคนหรือบำงคณะอำจสนใจตัง้ ชื่อโครงงำนวิทยำศำสตร์ ว่ำ "กำรศึกษำกำรไสแมลงวัน ด้วยถุงนำ้ พลำสติก" หรือ"ผลกำรใช้ถงุ นำ้ พลำสติกต่อกำร ไส่แมลงวัน" ก็เป็ นได้อย่ำงไรก็ตำมจะตัง้ ชื่อโครงกำรในแบบ ใดแบบหนึ่ง นัน้ ต้องคำนึงถึงควำมสำมำรถที่จะสื่อควำม หมำยถึงวัตถุประสงค์ท่ีตอ้ งกำรศึกษำได้ชดั เจน

16

ใบความรู้ที่ 2(ต่อ) ่ ผู้จัดทำโครงงำน 2.ชือ กำรเขียนชื่อผูร้ บั ผิดชอบโครงำน เป็ นสิ่งดีเพื่อจะได้ ทรำบว่ำโครงำนนัน้ อยูใ่ นควำมรับผิดชอบของใครและ สำมำรถติดตำมได้ท่ีใด ่ อำจำรย์ทปี่ รึกษำโครงงำน 3. ชือ กำรเขียนชื่อผูใ้ ห้คำปรึกษำควรให้เกียรติยกย่องและ เผยแพร่ รวมทัง้ ขอบคุณที่ได้ให้คำแนะนำกำรโครงงำนจน บรรลุเป้ำหมำย 4. บทคัดย่อ

เป็ นข้อควำมโดยสรุปของรำยงำนโครงงำนที่สนั้ ได้ใจควำมชัดเจน ครอบคลุมเนือ้ หำสำคัญของโครงงำน เนือ้ หำในบทคัดย่อ เป็ นกำร เขียนเรียงควำมต่อเนื่อง โดยระบุจดุ ประสงค์ขอบเขตของโครงงำน รวมถึงวิธีกำรทำงสถิติท่ีใช้และผลกำรดำเนินงำน ในส่วนของ วิธีกำรดำเนินงำนควรระบุขนำดของกลุม่ ตัวอย่ำง วิธีกำรรวบรวม ข้อมูลและกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลตำมลำดับจุดประสงค์ แล้วนำเสนอ ผลกำรดำเนินงำนตำมสำตับ กำรเขียนไม่ตอ้ งมีกำรอ้ำงอิงหรือ ยกตัวอย่ำง ข้อควำม สมกำร ภำพ คำวิจำรณ์และคำชุ่มเฟื อย นำเสนอเฉพำะประเด็นสำคัญในลักษณะกำรสรุปเท่ำนัน้ ควำม ยำวทัง้ หมดไม่ควรเกิน1 หน้ำ A1

17

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) 5. กิตติกรรมประกำศ กิตติกรรมประกำศเป็ นส่วนที่ผทู้ ำโครงงำนเขียนแสดง ควำมขอบคุณบุคคล หน่วยงำน สถำบันที่ให้ควำม ช่วยเหลือ ให้ควำมร่วมมือทัง้ ในกำรค้นคว้ำควำมรู ้ กำร ดำเนินงำน ให้ขอ้ คิดเห็นและให้ขอ้ มูล กำรระบุช่ือควรใช้ช่ือ นำมสกุลและตำแหน่งวิชำกำรที่ถกู ต้อง ชื่อเต็มสถำบันหรือ อหน่วยงำน ส่วนใหญ่โครงงำนมักจะเป็ นกิจกรรมที่ได้รบั ควำมร่วมมือจำกหลำยฝ่ ำย ดังนัน้ เพื่อเป็ นกำรเสริมสร้ำง บรรยำกำศของควำมร่วมมือ จึงควรได้กล่ำวขอบคุณ บุคลำกรหรือหน่วยงำนต่ำงๆ ที่มีสว่ นช่วยให้โครงงำนนี ้ สำเร็จด้วย

18

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) ่ ำและควำมสำคัญของโครงงำน 6. ทีม ในกำรเขียนที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน ผูท้ ำ โครงงำนจำเป็ นต้องศึกษำ หลักกำรทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องที่ สนใจจะศึกษำ หรือพูดเข้ำใจง่ำย ๆ ว่ำเรื่องที่สนใจจะ ศึกษำนัน้ ต้องมีทฤษฎีแนวคิดสนับสนุน เพรำะควำมรู ้ เหล่ำนีจ้ ะเป็ นแนวทำงสำคัญในเรื่องต่อไปนี ้ - แนวทำงตัง้ สมมติฐำนของเรื่องที่ศกึ ษำ - แนวทำงในกำรออกแบบกำรทดลองหรือกำรรวบรวม ข้อมูลใช้ประกอบกำรอภิปรำยผลกำรศึกษำ ตลอดจน เสนอแนะเพื่อนำควำมรูแ้ ละสิ่งประดิษฐ์ใหม่ท่ีคน้ พบไปใช้ ประโยชน์ตอ่ ไป

19

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) กำรเขียนที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน คือ กำรอธิบำยให้กระจ่ำงชัดว่ำทำไม ต้องทำ ทำ แล้วได้อะไร หำกไม่ทำจะเกิดผลเสียอย่ำงไร ซึ่งมี หลักกำรเขียนคล้ำยกำรเขียนเรียงควำม ทั่ว ๆ ไป คือ มีคำนำเนือ้ เรือ่ ง และสรุป ส่วนที่ 1 คำนำ : เป็นการบรรยายถึงนโยบาย เกณฑ์ สภาพทั่วไป หรือปัญหาที่มีส่วนสนับสนุนให้ ริเริ่มทาโครงงาน ส่วนที่ 2 เนื้อเรื่อง : อธิบายถึงรายละเอียด เชื่อมโยงให้เห็นประโยชน์ของการทาโครงงานโดยมี หลักการ ทฤษฎีสนับสนุนเรื่องที่ศึกษา หรือการ บรรยายผลกระทบ ถ้าไม่ทาโครงงานเรื่องนี้

20

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) กำรเขียนที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน คือ กำรอธิบำยให้กระจ่ำงชัดว่ำทำไม ต้องทำ ทำ แล้วได้อะไร หำกไม่ทำจะเกิดผลเสียอย่ำงไร ซึ่งมี หลักกำรเขียนคล้ำยกำรเขียนเรียงควำม ทั่ว ๆ ไป คือ มีคำนำเนือ้ เรือ่ ง และสรุป ส่วนที่ 1 คำนำ : เป็นการบรรยายถึงนโยบาย เกณฑ์ สภาพทั่วไป หรือปัญหาที่มีส่วนสนับสนุนให้ ริเริ่มทาโครงงาน ส่วนที่ 2 เนื้อเรื่อง : อธิบายถึงรายละเอียด เชื่อมโยงให้เห็นประโยชน์ของการทาโครงงานโดยมี หลักการ ทฤษฎีสนับสนุนเรื่องที่ศึกษา หรือการ บรรยายผลกระทบ ถ้าไม่ทาโครงงานเรื่องนี้

21

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) ส่วนที่ 3 สรุป : สรุปถึงควำมจำเป็ นที่ตอ้ ง ดำเนินกำรตำมสวนที่ 2 เพื่อแก้ไขปั ญหำ ค้น ข้อควำมรูใ้ หม่คน้ สิงประติบใหม่ให้เป็ นไปตำม เหตุผลส่วนที่ 1 7. วัตถุประสงค์ของกำรทำโครงงำน วัตถุประสงค์ คือ กำหนดจุดมุง่ หมำย ปลำยทำงที่ตอ้ งกำรให้เกิดจำกกำรทำโครงงำน ใน กำรเขียนวัตถุประสงค์ ต้องเขียนให้ขดั เจน อ่ำน เข้ำใจง่ำยสอดคล้องกับชื่อโครงงำน หำกมี วัตถุประสงค์หลำยประเด็น ให้ระบุเป็ นข้อ ๆ กำร เขียนวัตถุประสงค์มีควำมสำคัญต่อแนวทำง กำรศึกษำ คลอดจนข้อควำมรูท้ ่ีคน้ พบหรือสิง ประดิษฐ์ท่ีคนั พบนัน้ จะมีควำมสมบูรณ์ครบถ้วน คือ ต้องสอดคลักงกับวัตถุประสงค์ทกุ ๆ ข้อ

22

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) 8. สมมติฐำนของกำรศึกษำ

สมมติฐำนของกำรศึกษำ เป็ นทักษะ กระบวนกำรที่ผทู้ ำโครงำน ต้องให้ควำมสำคัญ เพรำะจะทำให้เป็ นกำรกำหนดแนวทำงในกำร ออกแบบกำรทดลองได้ชดั จนและรอบคอบ ซึง่ สมมติฐำนก็คือกำรคำดคะเนคำตอบของปั ญหำ อย่ำงมีหลักและเหตุผล ตำมหลักกำร ทฤษฎี รวมทัง้ ผลกำรศึกษำของโครงงำนที่ได้ทำมำแล้ว 9.ขอบเขตของกำรทำโครงงำน ผูท้ ำโครงงำน ต้องให้ควำมสำคัญต่อกำรกำหนดซอบ เขตกำรทำโครงงำน เพื่อให้ได้ผลกำรศึกษำที่น่ำเชื่อถือ ซึง่ ได้แก่ กำรกำหนดประซำกร กลุม่ ตัวอย่ำง ตลอดจนตัวแปร ที่ศกึ ษำ

23

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) 1. กำรกำหนดประชำกร และกลุม่ ตัวอย่ำงที่ ศึกษำ คือ กำรกำหนดประชำกรที่ศกึ ษำอำจเป็ นคน หรือสัตว์หรือพืช ชื่อใด กลุม่ ใด ประเภทใต อยูท่ ่ีไหน เมื่อเวลำใด รวมทัง้ กำหนดกลุม่ ตัวอย่ำงที่มีขนำด เหมำะสมเป็ นตัวแทนของประซำกรที่สนใจศึกษำ 2. ตัวแปรที่ศกึ ษำ กำรศึกษำโครงงำน ส่วนมำกมัก เป็ นกำรศึกษำควำมสัมพันธ์เชิงเหตุและผล หรือ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงตัวแปรตัง้ แต่ 2 ตัวแปรขึน้ ไป กำร บอกชนิดของ ตัวแปรอย่ำงถูกต้องและชัคเจน รวมทัง้ กำร ควบคุมตัวแปรที่ไม่สนใจศึกษำ เป็ นทักษะกระบวนกำรที่ ผูท้ ำโครงงำนต้องเข้ำใจ ตัวแปรใดที่ศกึ ษำเป็ นตัวแปรตัน ตัวเปรใดที่ศกึ ษำเปั่ น ตัวแปรตำม และตัวเปรใดบ้ำงเป็ น ตัวแปรที่ตอ้ งควบคุมเพื่อเป็ นแนวทำงกำรออกแบบ กำรทคสอง ตลอดจนมีผลต่อกำรเขียนรำยงำนกำรทำ โครงงำนถูกต้อง สื่อควำมหมำยให้ผฟู้ ั งและผูอ้ ่ำนให้ เข้ำโจตรงกัน

24

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) 10. นิยำมศัพท์เฉพำะ

เป็ นกำรให้ควำมหมำย หรือคำจำกัดควำมของ คำศัพท์ท่ีผทู้ ำโครงงำนใช้ในกำรทำโครงงำน ซึง่ เป็ น ควำมหมำยที่ใช้เฉพำะงำนที่ทำ เพื่อให้เกิดควำม เข้ำใจที่ตรงกัน ทัง้ ผูท้ ำโครงงำนและผูอ้ ่ำน อำจเรียก ได้วำ่ เป็ น นิยำมเชิงปฏิบตั ิกำร ซึง่ เป็ นกำรกำหนด ควำมหมำยและขอบเขตของคำต่ำงๆ ในกำรศึกษำ โครงงำนของนักเรียนเอง เชื่อให้เกิดควำมเข้ำใจ ตรงกัน ในกำรดำเนินกำรศึกษำ กำรเก็บข้อมูล หรือ กำรสรุปผลกำรทำโครงงำน กำรเลือกสิ่งที่นำมำ กำหนดนิยำมเชิงปฏิบตั ิกำร จะต้องเป็ นสิ่งที่สำคัญ ซึง่ มีผลต่อกำรศึกษำโครงงำนของนักเรียน ซึ่งมี รำยละเอียดสำคัญและหำกไม่กำหนดนิยำมดังกล่ำว จะทำให้ผอู้ ่ืนเข้ำใจคลำดเคลื่อนนิยำมเชิงปฏิบตั ิกำรที่ ดีจะต้องให้รำยละเอียดของคำที่ตอ้ งกำรกำหนด นิยำมเชิงปฏิบตั ิกำรให้ชดั เจน เข้ำใจง่ำย

25

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) 11.วิธีดำเนินกำร วิธีดาเนินการ หมายถึง วิธีการที่ช่วยให้งานบรรลุ ตามวัตถุประสงค์ของการทาโครงงาน ตั้งแต่เริ่มเสนอ โครงการกระทั่งสิ้นสุดโครงการ ซึ่งประกอบด้วย 1. การกาหนดประชากร กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา 2. การสร้างเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล 4. การวิเคราะห์ข้อมูล ในการเขียนวิสีดาเนินการให้ระบุกิจกรรมที่ต้องทา ให้ชัดเจนว่าจะทาอะไรบ้าง เรียงลาตับกิจกรรมก่อน และหลังให้ชัดเจน เพื่อสามารถนาโครงการไปปฏิบัติ อย่างต่อเนื่องและถูกต้อง

26

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) 12.ผลกำรศึกษำค้นคว้ำ นาเสนอข้อมูลหรือผลการทดลองต่าง ๆ ที่สังเกต รวยรวมได้ รวมทั้งสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ วิเคราะห์ได้ด้วย 13.สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรปที่ได้จาก การทาใครงงาน ถ้ามีการ ตั้งสมมติฐาน ควรระยุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือ คัดต้านสมติฐานที่ตั้งไว้ หรือยังสรุปไม่ใด้ บอกจากนี้ยัง ควรกล่าวถึงการนาผลการทดสองไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทาโครงงานหรือข้อสังเกตที่สาคัญหรือ ข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทาโครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงเก้ไข หากมีผู้ ศึกษาคันคว้าในเรื่องที่ทานองนี้ต่อไปในอนาคดด้วย

27

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) 14.เอกสำรอ้ำงอิง / บรรณำนุกรม

เอกสำรค้ำงอิง คือ รำยชื่อเอกสำรที่นำมำอ้ำงยิง เพื่อประกอบกำรทำโตรงงำน ตลอดจนกำรเขียน รำยงำนกำรทำโครงงำน ควรเขียนหำมหลักกำรพีนิยม กัน

28

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) ในกำรเขียนรำยงำนโครงงำน มีองค์ประกอบ ทัง้ หมด 3 ส่วนคือ ส่วนนำ สวนเนือ้ เรือ่ งและส่วน อ้ำงอิง - ส่วนนำ ประกอบด้วย ปกนอก ข้อควำมที่แสดงควรมื ชื่อเรือ่ งโครงงำน ชื่อนักเรียนผูจ้ ดั ทำใครงงำนทุกคนมิขอ้ ควำมที่บอำให้ ทรำบถึงโอกำสในกำรทำโครงำน เช่น รำยงำนนีเ้ ป็ น ส่วนหนึ่งของรำยวิชำสนุกกับโครงงำน โรงเรียน…. ภำศเรียนที่.... ระดับชัน้ …. ปี กำรศึกษำ…..ซึง่ ทัง้ หมดควรจัดเรียงให้กระจำยอยู่ บนปก โดยกำรนำเสนอข้อมูลมีควำมเป็ นระเบียบ อ่ำนง่ำย ขนำดตัวอักษรพอเหมำะและกำรเลือก กระดำษที่ใช้ควรสิสภุ ำพ ไม่มีลวดลำย

29

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) ในกำรเขียนรำยงำนโครงงำน มีองค์ประกอบ ทัง้ หมด 3 ส่วนคือ ส่วนนำ สวนเนือ้ เรือ่ งและส่วน อ้ำงอิง - ส่วนนำ ประกอบด้วย ปกนอก ข้อควำมที่แสดงควรมื ชื่อเรือ่ งโครงงำน ชื่อนักเรียนผูจ้ ดั ทำใครงงำนทุกคนมิขอ้ ควำมที่บอำให้ ทรำบถึงโอกำสในกำรทำโครงำน เช่น รำยงำนนีเ้ ป็ น ส่วนหนึ่งของรำยวิชำสนุกกับโครงงำน โรงเรียน…. ภำศเรียนที่.... ระดับชัน้ …. ปี กำรศึกษำ…..ซึง่ ทัง้ หมดควรจัดเรียงให้กระจำยอยู่ บนปก โดยกำรนำเสนอข้อมูลมีควำมเป็ นระเบียบ อ่ำนง่ำย ขนำดตัวอักษรพอเหมำะและกำรเลือก กระดำษที่ใช้ควรสิสภุ ำพ ไม่มีลวดลำย

30

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) ปกใน มีเนือ้ หำและลักษณะกำรวำงข้อควำม เช่นเดียวกับปกนอก อำจมีรำยนำมอำจำรย์ท่ีปรึกษำหรือ ที่ปรึกษำพิเศษ ในกรณีท่ีมีท่ีปรึกษำจำกหน่วยงำนนอก โรงเรียน บทคัดย่อ เป็ นข้อควำมโดยสรุปของรำยงำน โครงงำนวิทยำศำสตร์ท่ีสนั้ ได้ใจครำม ควำมยำวไม่เกิน ครึง่ หน้ำ กิตติกรรมประกำศ เป็ นส่วนที่ทำโครงงำนเขียน แสดงควำมขอบคุณบุคคล สถำบัน หน่วยงำนที่ วำมช่วยเหลือ หรือให้ควำมร่วมมือในกำรค้นคว้ำควำมรู ้ อนุเครำะห์เครือ่ งมือ กำรคำข้อคิดเห็นและข้อมูลที่เป็ น ประโยชน์ในกำรทำโครงงำน สำรบัญ เป็ นส่วนที่แสดงลำดับของรำยงำนทัง้ งบับ ซึง่ ถ้ำรำยงำนโครงงำนมีกำรแสดงผลเป็ นตำรำงและภำพ เช่น รูปภำพ แผนที่ แผนภูมิ กรำพ เป็ นต้น ต้องมีสำรบัญ ตำรำง และสำรบัญภำพเพิ่มเดิม

31

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) ้ หำ 5 บท ประกอบด้วย - ส่วนเนือ

บทที่ 1 บทนำ - ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน - จุดประสงค์ - สมมติฐำน (ถ้ำมี) - ตัวแปร (ถ้ำมี) - นิยำมเชิงงศัพท์เฉพำะ (ถ้ำมี) - ขอบเขตกำรศึกษำ - ประโยชน์ท่ีคำดว่ำจะได้รบ ั

32

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) บทที่ 2 เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วยเนื้อหา ทฤษฎีจากเอกสารงานวิจัย หนังสือและโครงงานวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ โครงงานของนักเรียน ซึ่งมีผู้อื่นศึกษาทดลองมาก่อน บทที่ 3 วิธีกำรดำเนินกำรทดลอง บทนีเ้ ป็ นกำรนำเสนอวิธีดำเนินกำรศึกษำคันคว้ำ รูปแบบหรือประเภทของโครงงำน กลุม่ ตัวอย่ำงเครือ่ งมือ ที่ใช้ในกำรเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีกำรวิเครำะห์ขอ้ มูล โดย มีหวั ข้อย่อย ดังนี ้

33

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) 1. วัสดุ อุปกรณ์ 2. สำรเคมี (ถ้ำมี) เขียนเป็ นภำยำไทยตำมศัพท์

บัญญัติโดยรำชบัณฑิต และควรระบุเป็ นชื่อ ภำษำอังกฤษพร้อมวงเล็บสูตรเคมีไว้ทำ้ ยชื่อ 3. ขัน ้ ตอนกำรดำเนินงำน นักเรียนต้องเขียนรำยงำน เรียงลำดับตำมจุดประสงค์เละสมมตีฐำนให้สอดคล้อง และครบถ้วน นอกจำกนี ้ ควรกล่ำวถึงกำรออกแบบ สำรวจ ประดิษฐ์ หดลอง และสถิติท่ีใช้ในกำรวิเครำะห์ ข้อมูลไว้อย่ำงชัดเจน

34

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) บทที่ 4 ผลกำรทดลอง / ผลกำรศึกษำ ส่วนนี้เป็นการนาเสนอผสการศึกษา การสารวจ ประ ดึงจา ทดลอง ที่นักเรียนได้ค้นพบด้วยตัวเองรวมทั้ง รายงานผลการวิเคราะห์ข้อมูล จึงการเขียนผลการศึกษา ต้องเขียนตามลาตับให้สอดคล้องกับจุดประสงค์และวิธีการ ดาเนินงาน ใช้ข้อความกะทัดรัต อาจมีการจัดกระทาข้อมูล และนาเสบอในรูปของ ตาราง กราฟ ภาพประกอบให้เหมาะสมกับข้อมูล

35

ใบความรู้ที2 ่ (ต่อ) บทที่ 5 สรปและอภิปรำยผล การเขียนสรุปผลที่ได้จากการทาโครงงานอย่างย่อ ถ้า มีการสมมติฐานควรระบุว่า ผลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้าน กับสมมติฐาน แล้วสรุปผลเป็นลาตับตามจุดประสงค์และ ผลการดาเนินงาน ในส่วนของการอภิปรายผลการ ดาเนินงาน เป็นการอธิบายเหตุผลที่ทาให้ได้ผลการพิสจน์ สารวจ ประดิษฐ์ ทดลอง หรือการคันพบความรู้ใหม่ การ อภิปรายยอนักเรียนคารสืบนความรู้ต่างๆ เข่น ทฤษฏี หลักการทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง เพื่อสนับสนุนผลการ ดาเนินงานเพื่อความน่าเชื่อถือของผลการศึกษา นอกจากสรุปและอภิปรายผลแล้ว ควรมีข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นการเสนอข้อควรปรับปรุงหรือแก้ไซ ปัญหา อุปสรรค เพื่อนาไปสู่การพัฒนา หากมีผู้ที่ ต้องการศึกษาเรื่องนี้ต่อ

36

ใบความรู้ที่ 3 การนาเสนอโครงงาน

กำรจัดแสดงผลงำนรู ปแบบนิทรรศกำร นิทรรศกำร คือ กำรนำสื่อประเภทต่ำงๆ มำนำเสนอด้วย เทคนิค วิธีกำร และกิจกรรมกำรแสดงต่ำงๆ อย่ำงมี ระบบ เพื่อสื่อสำรเนือ้ หำควำมรู ้ ผลงำน ให้แก่ผเู้ ข้ำชม นิทรรศกำร กำรนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ คือ กำรใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์ในกำรเสนอโครงงำน ซึง่ มีเทคนิคในกำร นำเสนอดังนี ้

37

ใบความรู้ที3 ่ (ต่อ) 1. กำรเตรียมเนือ้ หำ ควรมีประเด็นในกำรทำโครงงำนวิทยำศำสตร์ตำ่ งๆ ให้ครบถ้วน โดยเรีมจำกชื่อเรือ่ งโครงงำนชื่อผูท้ ำ โครงงำน ชื่อที่ปรึกษำ เป็ นกำรเตรียมให้ผฟู้ ั งเข้ำสูก่ ำร นำเสนอ นักเรียนอำจใส่ช่ือโรงเรียบทองนักเรียนด้วย ㆍ แต่ละหนำำควรสรุ ปประเด็นให้ชด ั เจนกระชับ เมื่อขึน้ สไลด์ใหม่ควรขึน้ หัวข้อไหม ㆍ แต่ละหน้ำควรมีตวั อักษรไม่เกิน 5 8 บรรทัด ต้องพี่ จำรณำปรับขนำดและควำมหนำของตัวอักษร ตำมชนำดห้องที่นำเสนอ เช่น ห้องเล็งผูฟ้ ั งจำนวน น้อย อำจไม่จำเป็ นต้องใช้ขนำดตัวอักษรไหญเท่ำกับกำร นำเสนอในห้องใหญ่ ควรเลือกรูปแบบอักษรที่เป็ น รูปแบบเดียวกัน

38

ใบความรู้ที3 ่ (ต่อ) 2. ภำษำและไวยำกรณ์ ระมัดระวังเรือ่ งกำรสะกคคำและรูปประโยค หำกกำร นำเสนอมีคำที่สะกดผิดบ่อย ผูฟ้ ั งจะไม่เชื่อถือและอำจ ทำให้เข้ำใจผิดหรือคลำดเคลื่อน ㆍ กำรใช้เครือ ่ งหมำยตลอดจนกำรเว้นวรรคตอนต้อง ถูกต้อง ㆍ กำรใช้อก ั ษรย่อต้องเป็ นคำย่อที่เป็ นสำกลหรือเป็ น ทำงกำรพีบคุ คำทั่วไปรูจ้ กั ไม่ควรใช้ตวั ย่อ มำกเกินไป เพรำะผูฟ้ ั งอำจไม่เข้ำใจและทำให้ไม่เข้ำใจ เนือ้ หำ หำกใช้ตวั ยอ ควรกล่ำวคำเต็มระหวำงกำรบำ เสนอ

39

ใบความรู้ที3 ่ (ต่อ) 3. กำรตกแต่งและเทคนิคกำรนำเสนอด้วยงำน ควรเน้นกำรใช้ภำพ แผ่นกำพ หรือแผนผัง เทนกำร ใช้ตวั อักษร ㆍ กำรแสดงรู ปภำพประกอบทำให้เข้ำใจง่ำยขึน้ แต่พนื ้ หลังของสไลด์ควรเหมำะสม กับเรือ่ งที่ นำเสนอ ไม่ควรใช้สีท่ีฉดู ฉำดหรือรูปภำพต่ำงๆ เกิน ควำมจำเป็ น ㆍไม่ควรใช้ตวั อักษรวิ่งมำกเกินไปและไม่ควรนำ ภำพที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ำมำใช้

40

ใบความรู้ที3 ่ (ต่อ) 3. กำรตกแต่งและเทคนิคกำรนำเสนอด้วยงำน ควรเน้นกำรใช้ภำพ แผ่นกำพ หรือแผนผัง เทนกำร ใช้ตวั อักษร ㆍ กำรแสดงรู ปภำพประกอบทำให้เข้ำใจง่ำยขึน้ แต่พนื ้ หลังของสไลด์ควรเหมำะสม กับเรือ่ งที่ นำเสนอ ไม่ควรใช้สีท่ีฉดู ฉำดหรือรูปภำพต่ำงๆ เกิน ควำมจำเป็ น ㆍไม่ควรใช้ตวั อักษรวิ่งมำกเกินไปและไม่ควรนำ ภำพที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ำมำใช้

41

คาถามชวนคิดชวนทา จงตอบคาถามต่อไปนี้

1 จงบอกและอธิบำยองค์ประกอบของกำรเขียนรำยงำนโครงงำน ................................................................................................ ................................................................................................ 2 นิยำมศัพท์เฉพำะมีควำมสำคัญต่อกำรเขียนรำยงำนโครงงำน อย่ำงไร ................................................................................................ ............................................................................................... 3 กำรเขียนบทคัดย่อในรำยงำนโครงงำนมีลกั ษณะอย่ำงไรและ ควรบอกอะไรบ้ำง ................................................................................................ ................................................................................................ 4 ในกำรนำเสนอโครงงำนเรื่องงำนขึน้ รูปเบือ้ งต้นนักเรียนคิดว่ำควร จัดเตรียมกำรนำเสนออย่ำงไรจงอธิบำย ................................................................................................ ................................................................................................

42

แบบทดสอบหลังเรียน ชุดสื่อโมดูล เรื่อง ควำมรู้เกีย่ วกับโครงงำนและกำรนำเสนอ ข้อสอบจำนวน 10 ข้อ ใช้เวลำ 10 นำที คะแนนเต็ม 10 คะแนน คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องที่สดุ แล้วทำเครื่องหมำย x ลงในกระดำษคำตอบ

1. กำรเขียนรำยงำนโครงงำนมีจดุ ประสงค์ตำม ข้อใด ก. เพื่อสรุปองค์ควำมรูท้ ่ีได้จำกกำรทำโครงงำน ข. เพื่อสื่อเผยแพร่และสื่อสำรผลกำรศึกษำให้ ผูอ้ ่ืนเข้ำใจ ค. เพื่อรำยงำนต่อครูท่ีปรึกษำประจำโครงงำน ง. เพื่อนำเสนอในสิ่งที่ได้จำกกำรทำโครงงำน 2 องค์ประกอบของกำรเขียนรำยงำนโครงงำนมีก่ี ส่วน ก. 1 ข. 2 ข. 3 ง. 4

3. กำรเขียนเรียงควำมต่อเนื่องโดยระบุจดุ ประสงค์ขอบเขตของกำรทำ โครงงำนรวมถึงวิธีกำรทำงสถิติท่ีใช้และผลกำรดำเนินงำนเป็ นวิธีกำรเขียน รำยงำนในหัวข้อใด ก. กิตติกรรมประกำศ ข. คำอธิบำยสัญลักษณ์ ค. นิยำมศัพท์เฉพำะ ง. บทคัดย่อ

แบบทดสอบหลังเรียน

43

คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องที่สดุ แล้วทำเครื่องหมำย x ลงในกระดำษคำตอบ 4. ในกำรเขียนรำยงำนโครงงำนส่วนเนือ้ เรื่อง ประกอบด้วยหัวข้อใด ก. กิตติกรรมประกำศ บทคัดย่อ ข. จุดประสงค์ สมมติฐำน ค. ขอบเขตของกำรทำโครงงำน กิตติกรรมประกำศ ง. บทคัดย่อ บรรณำนุกรม 6 กำรนำเสนอโครงงำนควรจัดให้ ครอบคลุมตำมประเด็นข้อใดให้มำก ที่สดุ ก. ควำมสำคัญของโครงงำน ข. วิธีกำรดำเนินกำร ค. ผลกำรสังเกตและข้อมูลสำคัญจำก กำรทำโครงงำน ง. ถูกทุกข้อ

5. กำรกำหนดขอบเขตของกำรทำโครงงำนมี ลักษณะอย่ำงไร ก. กำหนดกลุ่มประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำงที่ ศึกษำ ข. กำรกำหนดคำจำกัดควำมเพื่อให้เกิดควำม เข้ำใจตรงกัน ค. กำรอธิบำยที่มำของกำรทำโครงงำน ง. ถูกทัง้ ข้อ ข และ ค

7 ข้อใดควรมีกำรจัดวำงลงไปในแผง โครงงำนเพื่อนำเสนอผลงำนให้เข้ำใจ เรื่องรำวได้ง่ำยขึน้ ก. เอกสำรที่เกี่ยวข้องกับกำรทำ โครงงำน ข. กำรอภิปรำยผลและสรุปผลโครงงำน ค. กำรกำหนดตัวแปรและสมมติฐำน ง. แผนภูมิแสดงควำมสัมพันธ์ของตัว แปร 8 โครงงำนเรื่องขัน้ ตอนและวิธีกำรทำเครื่องถม 9 ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับกำรนำเสนอด้วย ควรมีกำรนำเสนอตำมข้อใด คอมพิวเตอร์ ก. จัดบอร์ดแสดงผลงำนโดยใช้ภำพประกอบ ก. ควรนำเสนอข้อมูลอย่ำงละเอียดครบถ้วน ข. กำรสำธิตผลงำนที่ได้จำกกำรทดลอง ข. ไม่จำเป็ นต้องใช้ภำษำเป็ นทำงกำรเพื่อให้เข้ำใจ ค. ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อนำเสนอผลงำน ง่ำย ง. ออกแบบโปสเตอร์ท่ีมีขอ้ ควำมและสีสนั ค. ใช้สีพนื ้ หลังฉูดฉำดเพื่อดึงดูดควำมสนใจ สวยงำม ง. เน้นกำรใช้ภำพแผนภูมิแทนกำรใช้ตวั อักษร

แบบทดสอบหลังเรียน

44

คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องที่สดุ แล้วทำเครื่องหมำย xลงในกระดำษคำตอบ

10 กำรจัดแสดงและกำรนำเสนอผลงำนในรูปแบบนิทรรศกำร ผูท ้ ำโครงงำน

จำเป็ นต้องจัดเตรียมสิง่ ใดบ้ำง ก. รูปเล่มรำยงำนโครงงำน ข. แผงโครงงำน ค. ผลงำนที่ได้จำกกำรทำโครงงำน ง.ถูกทุกข้อ

เฉลยแบบทดสอบ ก่อนเรียน

1. ง 2. ข 3. ง 4. ข 5.ก 6.ง 7.ค 8.ข 9.ง 10.ง

หลังเรียน

45

46

เกณฑ์การประเมิน

47

เกณฑ์การประเมิน

48

เกณฑ์การประเมิน

49

เกณฑ์การประเมิน

50

เกณฑ์การประเมิน

51

บรรณานุกรม

มูลนิธิกำรศึกษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม ในพระบรม รำชูปถัมภ์ กำรเขียนเค้ำโครงโครงงำน//สืบค้นเมื่อ 15 มีนำคม 2566,/ จำก/https://dltv.ac.th/teachplan/episode/10968

Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.