โครงงานสบู่จากกากกาแฟ Flipbook PDF


12 downloads 117 Views 8MB Size

Recommend Stories


Porque. PDF Created with deskpdf PDF Writer - Trial ::
Porque tu hogar empieza desde adentro. www.avilainteriores.com PDF Created with deskPDF PDF Writer - Trial :: http://www.docudesk.com Avila Interi

EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF
Get Instant Access to eBook Empresas Headhunters Chile PDF at Our Huge Library EMPRESAS HEADHUNTERS CHILE PDF ==> Download: EMPRESAS HEADHUNTERS CHIL

Story Transcript

โครงงาน เรื่อง สบู่จากกากกาแฟ โดย นางสาวนันทิชา คุ้มทรัพย์ เลขที่ 15 นางสาวปัทมาพร พิมพ์ศรี เลขที่ 16 นางสาวนพกนก เที่ยงตรง เลขที่ 25 นางสาวกัญญาณัฐ คงเสรีรัตน์ เลขที่ 31 นางสาวมนัสนันท์ ภู่สวาท เลขที่ 33 รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ วิชา I๓๐๒๐๒ ภาคเรียนที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร


บทคัดย่อ โครงงานเรื่อง สบู่จากกากกาแฟ มีจุดประสงค์เพื่อ (1)เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์(2)เพื่อ ศึกษาและเข้าใจการทำสบู่จากกากกาแฟ (3)เพื่อสร้างสบู่ที่มีกลิ่นหอม (4)เพื่อสร้างสบู่ที่มีผิวสัมผัสนุ่ม และไม่บาดผิว ในการมำผลิตภัณฑ์สบู่จากกากกาแฟ คณะผู้จัดทำได้ใช้อุปกรณ์การมำประกอบด้วย (1)เบสใส (2)วิตามินอี(3)ผงกาแฟ (4)พิมพ์สบู่ (5)นม (6)หัวเชื้อกาแฟ โดยมีวิธีทำดังนี้(1)นำเบสใส 1 ก้อนมา ละลายในหม้อ (2)ใส่กาแฟ 2 ช้อนโต๊ะแล้วคนกาแฟกับเบสใสเข้ากัน (3)นำผลิตภัณฑ์ที่คนจนได้ที่แล้วมา เทใส่พิมพ์(4)ตั้งทิ้งไว้ให้สบู่เซตตัวแล้วนำไปทดสอบ จากการศึกษารวบรวมข้อมูล ส่วนผสมต่างๆและวิธีทำ รวมถึงความเป็นมาของวัตถุดิบที่ใช้ พบว่า สบู่จากกากกาแฟนำมาใช้ทำความสะอาดร่างกายได้จริง และผลลัพธ์หลังจากทำความสะอาดผิว กายทำให้ผิวกายเกิดผิวที่กระจ่างใสสะอาด เทียบการทำงานของผลิตภัณฑ์สบู่ตามท้องตลาด


กิตติกรรมประกาศ โครงงานวิจัยฉบับนี้สำเร็จอย่างสมบูรณ์ได้ด้วยความช่วยเหลืออย่างยิ่งจาก คุณครูอารยา บัววัฒน์คุณครูที่ปรึกษา ที่ไต้ให้คำแนะนำปรึกษา และให้ข้อมูลต่างๆ ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง ณ โอกาสนี้ ขอขอบพระคุณคุณครูโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ ที่ได้ให้คำแนะนำตลอดจน ตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย อนึ่ง ผู้วิจัยหวังว่า งานวิจัยฉบับนี้จะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย จึงขอมอบส่วนดีทั้งหมดนี้ให้แก่เหล่า อาจารย์ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาจนทำให้ผลงานวิจัยเป็นประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องและขอมอบความ กตัญญูกตเวทิตาคุณแด่บิดา มารดา และผู้มีพระคุณทุกท่าน ตลอดจนเพื่อนๆ ที่คอยให้ความช่วยเหลือ และกำลังใจตลอดมา คณะผู้จัดทำ


สารบัญ หน้า บทคัดย่อ……………………………………………………………………………………………………………………… ก กิตติกรรมประกาศ...................................................................................................................... ข สารบัญสาร................................................................................................................................. ค สารบัญตาราง............................................................................................................................. ง สารบัญภาพ................................................................................................................................ จ บทที่ 1 บทนำ............................................................................................................................ 1-2 ที่มาและความสำคัญ................................................................................................... 1 วัตถุประสงค์ของการศึกษา......................................................................................... 1 ขอบเขตของการศึกษา................................................................................................ 1 สมมติฐานขดงการศึกษา............................................................................................. 2 ตัวแปรที่ศึกษาค้นคว้า................................................................................................ 2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง...................................................................................................... 3-11 บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน....................................................................................................... 12-18 บทที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล.................................................................................................... 19-22 บทที่ 5 สรุปผล การอภิปรายผล และข้อเสนอแนะ............................................................... 23-24 บรรณานุกรม......................................................................................................................... 25 ภาคผนวก............................................................................................................................. 26-33


1 บทที่1 บทนำ 1.1 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน กาแฟเป็นผลลิตทางการเกษตรที่สำคัญของประเทศไทยในภาคเหนือ เนื่องจากคนไทยใน ภาคเหนือส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเพาะปลูกกาแฟ มีทั้งจัดจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกจำหน่ายที่ ต่างประเทศ พวกเราจึงเล็งเห็นความสำคัญของกาแฟและอยากทำให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด จึงได้ ศึกษาข้อมูลมากมายจากแหล่งอินเตอร์เน็ตได้เล็งเห็นว่านอกจากกาแฟจะนำมาบดทำเครื่องดื่มแล้วกาก กาแฟยังสามารถนำมาต่อยอดทำอะไรได้อีกมากมาย เช่น เป็นส่วนผสมในสบู่ได้ใช้ดับกลิ่นอับ และอื่นๆ ปัจจุบันสบู่ที่ใช้มีส่วนผสมของสารเคมีจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลอันตรายต่อ ผิวหนังและร่างกาย เราจึงคิดค้นสบู่จากกากกาแฟที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีแต่มีส่วนผสมจาก ธรรมชาติและไม่ส่งผลอันตรายต่อผู้บริโภค เนื่องจากสบู่ที่ทำการคิดค้นนั้นใช้ส่วนผสมจากกากกาแฟ ที่ มีสรรพคุณช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสียออกจากผิวและสร้างเซลล์ผิวที่ดีขึ้นมาใหม่ และมีส่วนผสมของหัวเชื้อ กาแฟ ช่วยทำให้ผิวกายมีกลิ่นหอมน่าใช้ 1.2 วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1.2.1 เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 1.2.2 เพื่อศึกษาและเข้าใจการทำสบู่จากกากกาแฟ 1.2.3 เพื่อผลิตสบู่ที่มีกลิ่นหอมและมีสรรพคุณที่ดี 1.2.4 เพื่อผลิตสบู่ที่มีผิวสัมผัสนุ่มและไม่บาดผิว 1.3 ขอบเขตของการศึกษา 1.3.1 เพื่อประหยัดต้นทุนในการผลิตสบู่จากกากกาแฟ 1.3.1 เพื่อนำกากกาแฟที่เหลือใช้มาต่อยอดและสร้างประโยชน์ 1.3.3 เพื่อสร้างรายได้เสริมได้ 1.3.4 ความพึงพอใจต่อคุณประโยชน์ของสบู่


2 1.4 สมมติฐานของการศึกษา 1.4.1 กากกาแฟสามารถนำมาทำสบู่ได้จริง 1.4.2 สบู่จากกากกาแฟสามารถผลัดเซลล์ผิวได้จริง 1.4.3 สบู่มีกลิ่นหอม 1.4.4 เนื้อสัมผัสของสบู่ไม่บาดผิว 1.5 ตัวแปรที่ศึกษาค้นคว้า 1.5.1 ตัวแปรต้น - กากกาแฟ 1.5.2 ตัวแปรตาม - ประสิทธิภาพในการใช้งานของสบู่ 1.5.3 ตัวแปรควบคุม - ปริมาณของกากกาแฟ - รูปร่างของผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ - ความละเอียดของกากกาแฟ


3 บทที่2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในปัจจุบันสบู่จากกากกาแฟได้ใช้ในชีวิตประจำวันและมีขายตามท้องตลาดอย่างแพร่หลาย จึง ทำให้เกิดการคิดค้นวิธีการทำสบู่จากกากกาแฟขึ้นมา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค แต่ กลับละเลยเรื่องผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คณะผู้จัดทำจึงได้ศึกษา เกี่ยวกับส่วนผสมในการทำสบู่จากวัสดุธรรมชาติและปลอดภัยกับผู้ใช้งาน โดยผู้จัดทำได้ศึกษาเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นพื้นฐานและสนับสนุนแนวคิดในการทำโครงงานดังนี้ หัวข้อที่ศึกษามีดังนี้ 1.เบสใส 2.วิตามินอี 3.ผงกาแฟ 4.พิมพ์สบู่ 5.นม 6.หัวเชื้อกาแฟ


4 เบสใส apsoap.com/article/1/เบสสบู่กลีเซอรีนคืออะไร/(2563) เบสใส เบสสบู่กลีเซอรีนตัวช่วย ของคนอยากทำธุรกิจนอกจากการเติมสารเพิ่มฟองและลดการตึงผิวแล้วยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่า และ สร้างความแตกต่างให้กับสบู่ของคุณได้คือ เบสสบู่กลีเซอรีนหนึ่งในวัตถุดิบ (หัวเชื้อ สบู่) สำคัญที่ ช่วยลดการเติมสารเคมีให้กับสบู่ของคุณ โดยเบสสบู่กลีเซอรีนคือเบสธรรมชาติที่ไม่จำเป็นต้องเติมสาร เพิ่มฟองใดๆ ให้กับสบู่ของคุณอีกเพราะเบสชนิดนี้ผลิตจากไขมันพืชและน้ำด่างก่อนนำเข้าสู่กระบวนการ ผสานกับสูตรผสมที่ลงตัว จนกลายเป็น สบู่กลีเซอรีนแบบธรรมชาติที่มีคุณภาพ มากกว่าอ่อนโยนต่อผิว ผู้ใช้อย่างเห็นได้ชัดมีคุณสมบัติช่วยชะล้างสิ่งสกปรกทำความ สะอาดผิวได้เป็นอย่างดีการใช้เบสสบู่กลี เซอรีน ไม่เพียงแต่เป็นการลดการใช้สารเคมีที่ ไม่จําเป็นเท่านั้น แต่เบสสบู่ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาแต่ละสูตร จะช่วยดึงคุณค่าของสมุนไพรที่เติมลงไปในเบสให้ทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นซึ่งเบสสบู่กลีเซอ รีนมีหลายชนิดให้คุณเลือกใช้ เขียนบทความ.com/มารู้จักสบู่กลีเซอรีน-ก/(2560)กลีเซอรีน(Glycerin)หรือกลีเซอรอล (Glycerol) เป็นของเหลวที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่น มีความหนืด และมีรสหวาน เป็นผลิตผลจากกระบวนการ ทำไบโอดีเซลหรือกล่าวง่ายๆก็คือเป็นสารที่ได้มาจากกระบวนการสกัดนํ้ามันจากพืชกลีเซอรีนสามารถ ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์และน้ำแต่ไม่ละลายในไขมันจึงเหมาะเป็นสารตั้งต้นสำคัญในอุตสาหกรรม ต่าง ๆ เช่น การผลิตสบู่ การผลิตยา การผลิตเครื่องสําอาง เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนํามาผลิตเป็นสบู่ กลีเซอรีนสบู่โดยทั่วไปผลิตโดยเครื่องจักรอุตสาหกรรมสารตั้งต้นจะเป็นน้ำด่าง(โซเดียมไฮดรอกไซด์)กับ น้ำมันซึ่งจะเป็นน้ำมันพืชหรือน้ำมันจากสัตว์ก็ไดนำมาผ่านกระบวนการปฏิกิริยาเคมีเรียกว่า Saponificationเติมสารบำรุงที่จำเป็น ต่อผิว และน้ำหอมลงไป เนื้อสบู่ที่ได้จากกระบวนการนี้จะแข็ง จึงสามารถนำมาปั๊มขึ้นรูป ได้ทำให้ได้ก้อนสบู่ที่สวยงามน่าใช้ส่วนสบู่กลีเซอรีน สารตั้งต้นจะเป็นกลีเซอ รีนและ ผ่านกระบวนการผลิตแบบเย็น ทำให้คงสารสกัดกลีเซอรีนไว้ในก้อนสบู่ได้มาก สบู่แบบ ทั่วไปนั้น มีค่าความเป็นด่างสูง สามารถละลายไขมันได้ดีเมื่อใช้อาบน้ำจึงทำให้เรารู้สึก ว่าผิวพรรณสะอาด แต่อีก ด้านหนึ่งผิวเราก็จะสูญเสียความชุ่มชื้นไป เมื่อสัมผัสทำให้เรา รู้สึกว่าผิวฝืด ๆ ตึง ๆ และรู้สึกว่าผิวแห้ง กร้าน ส่วนสบู่กลีเซอรีน นั้นมีฤทธิ์ความเป็นด่างน้อยกว่าสบู่แบบทั่วไปสบู่กลีเซอรีนนั้นจะมีคุณสมบัติใน การทำความสะอาดน้อยกว่า สบู่ทั่วไปเล็กน้อย แต่ข้อดีของสบู่ชนิดนี้คืออ่อนโยนกับผิวมากกว่า และคง ความชุ่มชื้น ของผิวได้ดีกว่า


5 วิตามินอี watsons.co.th/blog/th/skincare-tips-th/วิตามินอี-ประโยชน์ต่อผิว/(2560) วิตามินอีเป็นสารอาหารที่จำเป็นและสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมันได้ซึ่งมีประสิทธิภาพ โดยช่วย ต่อสู้กับอนุมูลอิสระและการซ่อมแซมผิววิตามินอีเป็นสารอาหารที่ ละลายในน้ำมันได้ซึ่งช่วยคืนความชุ่ม ชื้นให้แก่ผิวสำหรับผิวแห้งและผิวที่เสียหายโดยช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและรักษาความเสียหายผิว นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างการ ทํางานของเกราะป้องกันผิว วิตามินอีมีคุณสมบัติต้านการอักเสบตาม ธรรมชาติที่ สามารถบรรเทาและทำให้ผิวระคายเคืองลดลง วิตามินอีช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ เสียหายสร้างเซลล์ผิวใหม่และทำให้จุดด่างดำหรือรอยแผลเป็นจากสิวบนใบหน้าจางลง วิตามินอียัง สามารถเพิ่มระดับของสารอาหาร ในเนื้อเยื่อผิวเพื่อลดการเกิดรอยผิวแตกลาย วิตามินอีเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระที่ละลายในไขมันที่ทรงพลังในการเพิ่มการไหลเวียนโลหิตเพื่อทำให้ผิวกระชับและลด สัญญาณของวัยที่มากขึ้น idskinexpert.com/knowledge/วิตามินอี-ดีกับผิวอย่า/(2560) วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูล อิสระชั้นดีอย่างหนึ่ง การทำงานของมันก็คือ ทำหน้าที่คอย ตรวจตราให้กับร่างกายเราค่ะพอมันเจอสาร อนุมูลอิสระเมื่อไหร่ มันจะเข้าไปทำลาย ทันทีพอผิวเราไม่ค่อยมีสารอนุมูลอิสระ ผิวเราก็จะมีสุขภาพที่ดี ขึ้น แต่วิตามินอีใน ร่างกายเราจะถูกลดจำนวนลงไปตามอายุที่มากขึ้น และเมื่อผิวสัมผัสกับแสงแดดค่ะ เพื่อ รักษาระดับวิตามินอีในร่างกายเราก็ควรทาครีมกันแดดป้องกันแสงแดดวิตามินอียังเป็น ส่วนผสมที่ ช่วยปกป้องผิวเราจากแสงแดดหรือแสง UV เราได้ด้วยค่ะ ซึ่งแสงยูวีเป็น ตัวการให้ผิวเราคล้ำเสีย และ เกิดริ้วรอยได้ง่ายวิตามินอีจะช่วยเสริมให้เกราะป้องกันผิว เราแข็งแรงขึ้น พอเกราะป้องกันผิวเรา แข็งแรง ผิวเราก็จะไม่ค่อยมีรอยรั่ว ทำให้ล็อก ความชุ่มชื้นไว้กับผิวได้ดีเลยส่งผลให้ผิวชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น คู่มืออารหารเสริม/(2556) วิตามินอีหรือ โทโคฟีรอล (Tocopherol) เป็นวิตามินที่ละลายใน น้ำมัน มีหน้าที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ สมานแผล บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ บำรุงเม็ดเลือดแดง ช่วย การไหลเวียนของโลหิต ป้องกันหลอด เลือดตีบตันลดความเสี่ยงโรคหัวใจต้านการเสื่อมของไขมันปกป้อง เยื่อหุ้มปอดรักษาแผลไหม้ช่วยสร้าง เม็ดเลือดแดงและหากใช้วิตามินเคจะช่วยป้องกันภาวะมีบุตรยาก และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินอีพบได้ในน้ำมันพืช เมล็ดธัญพืช อะโวคาโด ข้าวโพด มะกอก ผัก ถั่ว เนื้อสัตว์ไข่แดง และผัก ใบเขียว


6 ตารางแสดงปริมาณวิตามินอีที่ร่างกายควรได้รับ อายุ ปริมาณ(มิลลิกรัม) แรกเกิด-6เดือน 4 6เดือน-1ปี 5 1-3ปี 6 4-8ปี 7 9-13ปี 11 วัยรุ่น-ผู้ใหญ่ 15 ในผู้ชายควรได้รับวิตามินอี300 IU (10 มิลลิกรัม)และในผู้หญิงควร ได้รับ 8 มิลลิกรัม หาก ต้องการป้องกันเกล็ดเลือดจับตัวอุดตันหลอดเลือดเลี้ยง หัวใจควรได้รับปริมาณ 400 IU รักษาหมัน หาก ขาดวิตามินที่จะปรากฏอาการอ่อนเพลียกล้ามเนื้อไม่มีแรง ผิวหนัง เขียวง่าย แก่ก่อนวัย แผลหายช้า เส้นเลือดขอด ในเด็กเม็ดเลือดแดง แตก ผู้ใหญ่โลหิตจาง ระบบประสาทผิดปกติเป็นหมันอาจทำให้แท้ง ได้มักขาด ในเล็กที่ตลอดก่อนกำหนด ที่หมอให้ออกซิเจนเฝ้าโกดาบอดเพราะอนุมูลอิสระ จาก ออกซิเจนมีมากจึงทำลายเรตินาในตา ดังนั้นต้องแก้โดยให้วิตามินอี0.7 IU อบ อกซิเจน หากได้รับมาก เกินไปจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ผู้ที่รับประทานยา กลัว ด้านการแข็งตัวของเลือดไม่ควรรับประทาน วิตามินซีสูง เพราะจะทำให้เดือด หยุดไหลชาก ข้อควรระวัง ห้ามใช้กับผู้ขาดวิตามินเคเพราะจะทำให้ เลือดหยุดไหลยาก ผงกาแฟ bigc.co.th/blog/th/benefit-of-coffee-scrub/(2563) กากกาแฟที่มีความหยาบและขนาด ของเม็ดที่แตกต่างกันนั้นจะช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตาย แล้วให้หลุดออกไป กากกาแฟจึงเป็นสครับ ผลิตมา จากธรรมชาติทําให้เกิดการระคาย เคืองต่อผิวหนังน้อยกว่าสครับผิวที่ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการทางเคมี แต่หากคุณขัดผิว แรงๆ ไม่ว่าสครับขัดผิวชนิดไหน ทํา ให้ผิวคุณพังได้ทั้งนั้น การขัดผิวช่วยผลัดเซลล์ที่ เสื่อมสภาพแล้ว กำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนซึ่งก่อให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้างนั้น เอง ธิบ Lk] การ ขัดผิวเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกได้อย่างนุ่มนวลและช่วยเซลล์ผิว ที่เกิด ใหม่ชุ่มชื้น ไม่มีริ้วรอย การขัดผิวสามารถทำได้ทุกเวลาและสามารถทำเองได้ที่บ้านได้ไม่ยาก แต่หากใครที่มีผิวที่แพ้ง่าย สครับ ประเภทน้ำตาลหรือสมุนไพรเป็นทางเลือกที่ เหมาะสมมากเป็นพิเศษ การช่วยเพิ่มการไหลเวียนของ


7 เลือด เพราะเมื่อผิวของคุณได้รับการดูแลโดยการขัดผิวที่ Ta Cap และเหมาะสมจากผู้ชำนาญในการขัด ผิว การสครับผิวจะช่วยเพิ่มในการไหลเวียนของ เลือดและน้ำเหลืองในร่างกายได้อย่างดีเมล็ดกาแฟนั้น มี ส่วนช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากการถูกรังสียูวีในแสงแดดทำลาย ซึ่งเป็นการ ช่วยลดริ้วรอยต่างๆ และ ลด ปัญหาฝ้า กระ จากแสงแดดได้คาเฟอีนในเมล็ดกาแฟมีคุณสมบัติช่วยลดการสะสมของเหลวใต้ผิวหนัง ช่วยกระตุ้นการแตกตัวของเซลล์ไข มัน ดึงน้ำส่วนเกินออกจากผิวหนัง ทำให้ผิวส่วนที่มีปัญหาเซลลูไลท์ ดูเรียบเนียนและ กระชับขึ้น smootojapan.com/post/benefits-of-coffee-scrub-for-skin/(2563) กาแฟที่อุดมไปด้วย คาเฟอีนจะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเหลวภายใต้ผิวหนังให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นลดการสะสมของไขมัน ที่จับตัวกันเป็นก้อนช่วยให้ผิวเรียบเนียนอย่างสม่ำเสมอแลดูกระชับมากยิ่งขึ้นปัญหาเซลล์ลูไลท์หรือผิว เปลือกส้มค่อยๆแลดูจางลงและยังช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้นเผยผิวเปล่งปลั่งแลดูสุขภาพดีสครับ กาแฟจากธรรมชาติมีความเป็นมิตรกับผิวของเราสครับกาแฟ สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวและสามารถ ใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกายสครับกาแฟมาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษในการบำรุงผิวสครับกาแฟตัวช่วย จัดการปัญหาผิวเปลือกส้มหรือเซลล์ลูไลท์ พิมพ์สบู่ m.th.bakewaresupplier.com/info/what-are-soap-molds-45369856.html/(2565) แม่พิมพ์สบู่เป็นแม่พิมพ์ที่สามารถใช้ทำสบู่ก้อนที่บ้านได้พวกเขามาในรูปทรงและขนาดที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้คนสามารถทำทุกอย่างจากสบู่รูปทรงเปลือกหอยไปจนถึงสบู่แห่งขนาดประหยัดสําหรับใช้ใน ครอบครัวการจับสบู่ไว้ในขณะที่แข็งตัวทำให้ผู้คนสามารถทำสบู่ที่มีรูปทรงเฉพาะสบู่ทุกประเภท สามารถทำในแม่พิมพ์สบู่รวมถึงสบู่ต่างและน้ำไขตามและสบู่เจลส่วนผสมสบู่ถูกเทลงในแม่พิมพ์ใน ขณะที่อยู่ในรูปของเหลวแล้วอนุญาตให้แข็งตัวและตั้งค่าก่อนที่จะถูกunmoldและใช้หรือบรรจุในการ จัดเก็บแม่พิมพ์สบู่สามารถทำจากไม้พลาสติกโลหะและซิลิโคนและพวกเขาอาจประทับหรือนาบด้วย ลวดลายที่จะปรากฏขึ้นบนสบู่หรือทิ้งไว้ธรรมดาแม่พิมพ์ธรรมดาสามารถเปลี่ยนเป็นแม่พิมพ์ลายนูนได้ โดยใส่บางอย่างลงในแม่พิมพ์ก่อนที่สบู่จะเททิ้งเพื่อทำเครื่องหมายผู้คนสามารถใช้แม่พิมพ์สบู่เพื่อทำสบู่ ก้อนแบบพื้นฐานด้วยสบู่ธรรมดาหรือสบู่สีแต่พวกเขาก็สามารถจินตนาการได้เช่นกันแม่พิมพ์สบู่ที่โดด เด่นที่มีธีมตามฤดูกาลหรือภูมิภาคเช่นแม่พิมพ์คริสต์มาสแม่พิมพ์ชายหาดและแม่พิมพ์ไม้สามารถใช้ ใน การทําสบู่แบบพิเศษ ftbsoap.com/โมลสบู่/ (2563) คุณสมบัติของแม่พิมพ์ซิลิโคน (Mold Silicone)


8 1.แม่พิมพ์ซิลิโคนสามารถทนทานได้ในอุณหภูมิสูงและอุณหภูมิต่ำ 2.สบู่ที่แกะออกจากพิมพ์จะไม่ติดพิมพ์เพราะซิลิโคนมีคุณสมบัติต้องห้ามเคลือบกันติดอยู่เสมอด้วยตัว แม่พิมพ์ซิลิโคนเองยังทำให้ช่วยแกะสบู่ออกจากแม่พิมพ์อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ตัวสบู่เองยังคงรูปสวยงามไม่ แตกเหมือนกับแม่พิมพ์ที่ทำให้ 3.ข้อดีของการพิมพ์ซิลิโคนคือต้องใช้ของ การพิมพ์ทำให้ไม่ต้องเปลืองทรัพยากรที่จะจัดเก็บหรือจัดเก็บ ในพื้นที่ที่จำกัดได้และล้างทำความสะอาดเพื่อนบ้านไปมา ทำความสะอาด 4. เนื้อของพิมพ์ซิลิโคนไม่มีรูพรุน ดังนั้นกลิ่นและสีของสบู่จะติดอยู่กับการพิมพ์ดังนั้นการทดสอบ แม่พิมพ์ซิลิโคนได้อย่างปลอดภัยไม่มีสารตกค้างในสบู่ที่พิมพ์ 5. พิมพ์ซิลิโคนให้หมดอนุญาตให้ทำงานหนักในการใช้งานนานโดยที่ไม่ต้องการหรือจะเรียกง่าย ๆ 6.พิมพ์ซิลิโคนที่ต้องใช้ในช่วงที่เกินขนาด (-40) ตั้งค่าเซลเซียสถึง 230 เตือน 7.แม่พิมพ์ซิลิโคนเย็น ตัวได้ตอบโต้แม่พิ ความทรงจำที่สามารถใช้ได้ทุกชนิด นม leskinthailand.com/frontend/path/blog_inside/61/(2562)นํ้านมนอกจากจะให้ คุณประโยชน์มหาศาลทางด้านโภชนาการเหมาะสําหรับคนทุกเพศทุกวัยแล้วในเรียงความงามของ ผิวพรรณหลายคนก็เลือกปรนนิบัติผิวพรรณให้เนียนนุ่มน่าสัมผัสด้วยนํ้านมเช่นกันในน้ำนมมีสารอาหาร ที่ทําให้ผิวสวยช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผลิตคอลลาเจนขจัดเซลล์ผิวเก่าทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลอีก ทั้งยังช่วยที่ทําให้ผิวนุ่มแลดูอ่อนเยาว์อีกด้วยนํ้านมช่วยลดริ้วรอยได้ด้วยนะเออเพราะในนมสดเต็มไป ด้วยไบโอตินและวิตามินมากมายที่จะช่วยฟื้นบำรุงเซลล์ผิวทำให้ผิวดูเฟิร์มขึ้นผิวกระจ่างใสขึ้นเพราะใน น้ำนมมีกรดแลคติกที่มีคุณสมบัติช่วยปรับผิวให้ค่อยๆกระจ่างใสขึ้นในน้ำนมอุดมไปด้วยสารพัดคุณค่าที่ จะทิ้งเอาไว้ให้กับผิวทั้งความเนียนนุ่มผิวที่ยืดหยุ่นรวมถึงรูขุมขนที่เล็กลงด้วยในน้ำนมอุดมไปด้วยกรดแล คติกที่สามารถละลายเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกโดยง่ายช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นน้ำนม สามารถลดการระคายเคืองอันเนื่องมาจากแสงแดดได้โปรตีนในนมสดจะกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลิตคอลลา เจนเพิ่มขึ้น ผิวจึงมีความยืดหยุ่น เพิ่มความเนียนเรียบให้ผิว ladacosmetic2017.com/รายละเอียด/5_Und_ประโยชน์สุดว้าว จาก Und Dtq Dbq_Und ช่วยบำรุงผิวของสาวๆให้เปล่ง/(2563) น้ำนมนอกจากช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ได้ดีอีกด้วยเพราะโปรตีนในน้ำนมช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวจึงมีความยืดหยุ่น


9 นุ่มนวลน่าสัมผัสมากขึ้นเนื่องจากในน้ำนมมี"กรดแลกติก" ที่ทำหน้าที่เป็นกรดไฮดรอกซีอัลฟาธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารละลายที่ช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกได้ง่ายขึ้นยัง ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ด้วยน้ำนมอุดมไปด้วยไบโอตินและวิตามินมากมายที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนในผิวและช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ต่อต้านริ้วรอยได้ด้วย อ่านก่อนแก่ ดูแลก่อนป่วย/(2560) ประโยชน์ของนม "นม" จัดเรียงตามประเภทโปรตีนที่ทำ เครื่องหมายทางโภชนาการสูงเป็นโปรตีนคุณภาพดีที่ประกอบด้วยความต้องการที่จำเป็นเช่น ไลซีน (Lysine) ทริปโตเฟน (Tryptophan) อาจินีน (Arginine) วาลีน (Valine) นัยน์(ลิวซีน) และโซไอโซลิว ซีน (Isoleucine)ที่อยู่ในนมคือน้ำตาลแล็กโทส(แลคโตส)อย่าลืมน้ำตาลชนิดที่มีหนึ่งเดียวในนมตามมามี แคลเซียมไม่เพียงพอแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ใช้เป็นต่อการสร้างกระดูกและฟันที่ยังไม่มีสารอื่นๆ ครบถ้วน เช่น วิตามินเอบี1 บี2 ในอะอะซิน (ไนอาซิน) กรดแพนโทเทนิก(กรดแพนโทเทนิก) ไพริดอก ซิน (Pyridoxine) ไบโอผอม (Biotin) โฟลิก (Folic) วิตามินซีวิตามินอีวิตามินเคที่ดื่มนมมีประโยชน์ มากมายต่อร่างกาย นมมีไขมันเป็นส่วนประกอบเพียง 38% ซึ่งถือว่าพอใช้ได้เมื่อเทียบ กับ ส่วนประกอบอื่นๆ ในน้ำนม การกระตุ้นการดื่มนมไม่ได้ทำให้อ้วนซึ่งจะเข้าใจกัน ถ้าไม่สามารถดื่มนม พร่องมันแนบหรือนมที่ไม่มีไขมันแทนได้ รู้จักกับโปรตีนในน้ำนม โดยเฉลี่ยแล้ว นมมีโปรตีนประมาณ 4 กรัม/100 มล. โปรตีนในน้ำนมแบ่งออกเป็นส่วนสำคัญใหญ่ๆ 2 ส่วนคือ ส่วนที่เรียกว่า เคซีน (casein) ที่เป็นฟอสโฟโปรตีน (phosphoprotein) พบได้80% ของโปรตีน ทั้งหมดในน้ำนม เป็นโปรตีนที่มี กรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน ประกอบไปด้วย รู้จักกับโปรตีนในน้ำนมAlpha Sl Casein ประมาณ 30.6% เป็นโปรตีนที่ย่อยค่อนข้างยากAlpha S2 Casein ประมาณ 8.0 % Beta Casien ประมาณ 28.4 % Kappa Casien ประมาณ 10.1 % หัวเชื้อกาแฟ shopee.co.th/blog/benefits-ground-coffee/(2565) กากกาแฟทำอะไรได้บ้าง ประโยชน์ สารพัด รู้แล้วก็อย่าเพิ่งทิ้งไปซะล่ะเห็นร้านกาแฟวางกากกาแฟเหลือทิ้งไว้ก็อยากจะเอากลับบ้านซะ เหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้ว่ากากกาแฟทำอะไรต้บ้าง รู้แค่ว่าขัดผิวด้วยกากกาแฟแล้วผิวจะสวย จริง ๆ แล้ว ประโยชน์ของกากกาแฟมีมากกว่าการนำมาขัดผิว แต่จะมีสรรพคุณอะไรบ้างนั้น ต้องมาดูกัน 1. ขัดผิว สครับผิวแน่นอนว่าการขัดผิวด้วยกากกาแฟนั้นเป็นประโยชน์สุดฮิตของกากกาแฟ เพราะจะ ช่วยผลัดเชลล์ผิวเก่า ลดข้อศอกตำด้าน หรือผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มขึ้นอีกครั้ง โดยการให้


10 นำกากกาแฟที่สะอาดนำไปตากแห้ง เอามาใส่ขวดโหลไว้จะใช้เมื่อไหร่ก็เอาออกมาใช้สูตรสครับผิวขาว ด้วยกากกาแฟมีอยู่หลายสูตรเลย เช่น นำกากกาแฟผสมนมสดและน้ำผึ้ง มาสครับผิวตัวหรือมาส์กหน้าก็ ได้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ผิวเรียบเรียนยิ่งขึ้น 2. ลดรอยคล้ำใต้ตา กจะขัดผิวด้วยกาแฟแล้ว สามารถนำมามาส์กแก้รอยคล้ำใต้ตา เป็นวิดำอีกวิธีหนึ่งที่ แนะนำนอกจากจะใช้ถุงชาแบบจุ่มาโปะที่ตาแล้ว ใช้กากกาแฟนี้ก็ช่วยเหมือนกันนะ 3. สระผมลดความมัน และลดผมร่วงใครที่มีปัญหาผมมัน ใช้แชมพูแก้ผมมันหลายยี่ห้อแล้วก็ไม่หายชักที ลองนำกากกาแฟปผสมกับแชมพูหรือครีนวดแล้วสระตามปกติแต่วิธีนี้อาจจะทำให้สีผมคุณมีหากคุณ เป็นคนสีผมอ่อน อีกอย่างคือกากกาแฟสามารถช่วยลดผมร่วงได้โดยการนำผสมกับน้ำมันมะกอก แล้ว หมักผมไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วสระผม 4. ทำสบู่และเทียนกากกาแฟสามารถนำมาทำเป็นสบู่กาก กาแฟ เพื่อง่ายต่อการใช้งาน สรรพคุณเหมือนการใช้กากกาแฟแบบผง ๆ เชียวล่ะ อีกทั้งยังนำมาทำเป็น เทียนจากกากกาแฟได้อีกด้วย เช่น ทำเทียนอโรม่าด้วยกากกาแฟ นอกจากจะช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ ผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยดับกลิ่นได้อีกทางหนึ่งด้วย 5. แก้ปัญหาท่อตัน เพียงแค่ผสมกากกาแฟกับน้ำร้อนและน้ำยาล้างจานเล็กน้อย จากนั้นเทลงไปในท่อที่ ต้องการทำความสะอาด จะช่วยได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นท่ออ่างล้างจาน ท่อห้องน้ำ ก็ช่วยได้หมด 6. ทำปุ๋ย ใส่ต้นไม้รู้หรือไม่ว่าประโยชน์ของกากกาแฟ คือเป็นปุ้ยชั้นดีเลยล่ะ เพราะในกากกาแฟมีแร่ ธาตุจำเป็นต่อต้นไม้อยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็น ไนโตรเจน โพแทสเชียม และฟอสฟอรัส วิธีทำปุ๋ยจากากกาแฟ ก็ไม่ยากเลย เพียงแค่ผสมกากกาแฟกับดินที่จะปลูกต้นไม้หรือนำไปหมักกับน้ำหมักชีวภาพก็ได้เช่นกัน กากกาแฟใส่ต้นไม้ 7. กากกาแฟดับกลิ่น จุดเด่นอีกอย่างของกากกาแฟเลยคือช่วยตับกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นรองเท้า กลิ่น ตู้เย็น ฯลฯ กากกาแฟจะช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้จางลง ทำได้โดยการนำกากกาแฟห่อผ้า หรือเท ใส่ภาชนะแล้วนำไปวางตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องการ หรือใครที่มีปัญหากลิ่นเท้า สามารถใช้กาก กาแฟผสมน้ำอุ่น แล้วแช่เท้าไว้ประมาณ 20 นาทีจะช่วยดับกลิ่นเท้าได้ 8. ไล่หอยทาก บ้านใครประสบปัญหาหอยทากเยอะ ไล่ยังไง วิธีหนก็ไม่ไปซักทีลองมาใช้กากกาแฟโรย บริเวณที่หอยทากชอบอยู่หรือตามทางเดินของมัน หรือจะตรงแปลงผัก รอบกระถางก็ได้คาเฟนที่อยู่ กาแฟจะช่วยให้หอยทากตายไปในที่สุดหรือจะใช้กากกาแฟผสมน้ำฉีดพ่นบนต้นไม้กระกางดอกไม้หรือ แปลงผักก็ได้นอกจากช่วยไล่หอยทากแล้วยังช่วยบำรุงต้นไม้อีกด้วย


11 9. กำจัดเห็บหมัดให้สัตว์เลี้ยง กำจัดเห็บหมัดให้สัตว์เลี้ยง พร้อมช่วยบำรุงขนสัตว์เลี้ยงของคุณให้เงางาม วิธีก็ง่ายแสนง่ายเพียงแค่ผสมกากกาแฟลงไปในแชมพูอาบน้ำสัตว์เลี้ยง แล้วอาบให้ตามปกติจะช่วย กำจัดเห็บหมัดได้เป็นอย่างดี 10. กำจัดกลิ่นอาหารติดมืออีกปัญหากวนใจในการทำอาหารเลยคือมีกลิ่นอาหารติดมือ จะล้างมือด้วย สบู่กี่รอบกลิ่นก็ไม่หายไปซักทีเช่น กลิ่นกระเทียม หอมแดง ต้นหอม ผักชีหัวหอม ลองนำกากกาแฟมา ถูมือเบา ๆ เน้นบริเวณที่มีกลิ่นติดแรง และล้างด้วยสบู่ตาม จะช่วยกำจัดกลิ่นได้หมดปัญหาคำถามที่ว่า กากกาแฟทำอะไรได้บ้าง เห็นไหมว่ากากกาแฟนั้นมีประโยชน์มากจนทำให้ต้องร้องว้าว เพราะสามารถ ช่วยแก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันให้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม เอาล่ะ ใครที่ได้กาก กาแฟแล้วไม่อยากทิ้งให้เสียเปล่า ต้องเอามาใช้ประโยชน์กันหน่อยแล้ว soapvillages.com/product/18112-14176/สบู่กากกาแฟ-ผลัดเซลล์ผิว-เผยความขาว กระจ่างใส/(2563) กากกาแฟ คือส่วนที่เหลือจากการซงกาแฟ โดยจะใส่ผงกาแฟลไปในด้ามอัดกาแฟ นำมาชงกับน้ำร้อนที่เครื่องชงกาแฟและจะได้กาแฟเข้มข้นค่ะโดยกส่วนที่เหลืออยู่ค่ะโดยกากกาแฟนั้นมี ประโยชน์มากมายนะคะอย่าเพิ่งทิ้งค่ะสาะได้หลายอย่างมากค่ะใช้ใครัวเรือนหรือใช้เป็นสบู่กากกาแฟบำ รุโดยสบู่กากกาแฟนั้นนิยมใช้ในการสครับผิวค่ะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าเปิดเผยผิวใหม่ที่ดูขาวกระจ่างใส เรียบเนียนค่ะที่สำคัญนั้นยังทำให้ผิวแข็งแรงไม่อ่อนแอง่ายช่วยลดสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้ากระจุดด่างดำด้วย ค่ะแถมยังช่วยชะลอความชราและสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิวค่ะและสบู่กากกาแฟนั้นยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟช่วยให้คุณผ่อนคลายได้มากขึ้นค่ะสบู่กากกาแฟถือว่าเป็นสบู่ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่าง หนึ่งเนื่องจากทำมาจากกากกาแฟนั่นเองค่ะตอนนี่จากกากกาแฟที่ไม่มีใครต้องการกลายเป็นสบู่กาก กาแฟที่ใครๆก็อยากใช้ อยากซื้อหาเพื่อผิวขาวเนียนนุ่มกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ นอกจากสรรพคุณทางด้านความงาม แล้ว กากกาแฟยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆอีกมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะใช้ในเรื่องของการเก็บกลิ่น เพราะ กากกาแฟนั้นดูดซับกลิ่นต่างๆได้ดีค่ะ หรือจะนำกากกาแฟไปทำเป็นปุ่ยใส่ต้นไม้ก็ทำได้สบู่กากกาแฟนั้น เป็นสบู่ที่ทำให้ผิวของเรานั้นความกระจ่างใส เผยผิวใหม่ผลัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยให้ผิวของเราดูดีขึ้น ใน พริบตา


12 บทที่3 วิธีการดำเนินการทดลอง การศึกษาค้นคว้าเรื่อง การศึกษาประสิทธิภาพของสบู่จากกากกาแฟ เป็นการศึกษาค้นคว้าที่มุ่ง ศึกษาเกี่ยวกับการศึกษาประสิทธิภาพของสบู่จากกากกาแฟ 7 ด้านดังนี้1) ด้านเนื้อสัมผัสของสบู่จาก กากกาแฟ 2)ด้านกลิ่นของสบู่จากกากกาแฟ 3)ด้านสีสันของสบู่จากกากกาแฟ 4)ด้านความสะอาดขึ้น ของผิวหลังใช้ผลิตภัณฑ์5)ด้านความสวยงามของผลิตภัณฑ์6)ด้านผลลัพธ์ของสบู่จากกากกาแฟหลังใช้ ผลิตภัณฑ์7)ด้านภาพรวมของการใช้ผลิตภัณฑ์ศึกษาเกี่ยวกับความต้องการและความพึงพอใจในการใช้ สบู่จากกากกาแฟ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลการประเมินความพึงพอใจจากความคิดเห็นของนักเรียน และบุคลากรทางโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 ทางการแก้ไขปรับปรุงพัฒนาในจุดบกพร่องของสบู่จากกาแฟ เพื่อให้สบู่จากกาแฟที่จักทำมีคุณภาพมาก ที่สุดทำการศึกษาค้นคว้าโดยมีวิธีและขั้นตอนตามลำดับดังนี้ 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 2. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล 4. การวิเคราะห์ข้อมูล 5. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ 6. วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ 1. ประชากรกลุ่มตัวอย่าง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ นักเรียนและบุคลากรทางโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2 กรุงเทพมหานคร จำนวน 55 คน


13 2.เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า วิธีสร้างเครื่องมือในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ผู้ศึกษาได้ใช้แบบสอบถามที่ผู้ศึกษาจัดทำขึ้นเป็นเครื่องมือใน การเก็บรวบรวมข้อมูลซึ่งผู้ศึกษาได้สร้างแบบสอบถามให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์องค์การศึกษาและ ขอบเขตของการศึกษาซึ่งประกอบด้วยคำถาม 2 ส่วนดังนี้ส่วนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูล ปัจจัย ด้านบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามปลายปิด (Close Ended Respmonse question) ส่วนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับคุณภาพของสบู่จากกากกาแฟ ตามความเห็นของได้แก่ นักเรียนและบุคลากร ทางการศึกษาโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 กรุงเทพมหานคร มีลักษณะคำถามเป็นคำถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับตามวิธี ของลิเคิร์ท (Likert) คือ น้อยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก และมากที่สุด โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนและ เกณฑ์การจัดระดับดังนี้ ระดับความคิดเห็น ค่าน้ำหนักคะแนนของตัวเลือกตอบ น้อยที่สุด กำหนดค่าเท่ากับ 1 คะแนน น้อย กำหนดค่าเท่ากับ 2 คะแนน ปานกลาง กำหนดค่าเท่ากับ 3 คะแนน มาก กำหนดค่าเท่ากับ 4 คะแนน มากที่สุด กำหนดค่าเท่ากับ 5 คะแนน เกณฑ์ในการแปลความหมายค่าร้อยละของคะแนนระดับความเห็นเพื่อจัดระดับคะแนนการศึกษาสภาพ การดำเนินกิจกรรมต่างๆกำหนดเป็นช่วงคะแนนดังต่อไปนี้ ช่วงคะแนนร้อยละ 80 คะแนนขึ้นไป = ดีมาก ช่วงคะแนนร้อยละ 70-79 คะแนน = ดี ช่วงคะแนนร้อยละ 60-69 คะแนน = ปานกลาง ช่วงคะแนนร้อยละ 50-59 คะแนน = พอใช้ ช่วงคะแนนร้อยละ 40-49 คะแนน = ปรับปรุง


14 3. เก็บรวบรวมข้อมูล ในการดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ผู้ศึกษาได้ดำเนินการตามลำดับขั้นตอน ดังนี้ ขอความร่วมมือจากนักเรียนและบุคลากรทางโรงเรียนและบุคลาการทางการศึกษาโรงเรียนนวมิ นทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ วังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 กรุงเทพมหานคร ในการทำ แบบสอบถามเพื่อการจักเก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนในสังกัด ผู้ศึกษานำแบบสอบถามไปแจกด้วยตนเองทั้งหมดในระหว่างวันที่ 15 กันยายน 2565 จำนวน 55 ชุด ผู้ศึกษานำแบบสอบถามหรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมในแต่ละสถานศึกษาเพื่อนำไปวิเคราะห์และ แปลผลข้อมูล 4. การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ศึกษาค้นคว้าดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับและผู้ ศึกษาค้นคว้านำข้อมูลมาประมวลผลและวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติโดยใช้สถิติวิเคราะห์ ดังนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลตอนที่ 1 สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามโดยใช้ความถี่ร้อยละ ตอนที่ 2 ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสบู่จากกากกาแฟ จำแนกตามสถานภาพ ได้แก่ นักเรียน ครู/ อาจารย์บุคคลทั่วไป และเพศ ได้แก่ชาย หญิง 5. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ศึกษาค้นคว้าได้วิเคราะห์และประมวลผลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปด้วย ระบบคอมพิวเตอร์สถิติที่ใช้คือ สถิติพรรณนาการหาค่าความถี่ค่าร้อยละค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงมาตรฐานการหาค่าความถี่โดย วิธีนับคำนวณ


15 6.วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ 6.1.1 อุปกรณ์และเครื่องมือหลักที่ต้องใช้ ชนิดอุปกรณ์ จำนวน หม้อ 1 ใบ ไม้คน 1 อัน ช้อน 1 คัน พิมพ์สบู่ 3 อัน 6.1.2 วัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องจัดหา ชนิดอุปกรณ์ จำนวน กากกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ เบสใส 1 ก้อน .วิธีการทดลอง 1. นำเบสใส 1 ก้อน มาละลายในหม้อ


16 2. ใส่กาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้กาแฟกับเบสใสเข้ากัน 3. นำผลิตภัณฑ์ที่คนเข้ากันจนได้ที่มาเทใส่พิมพ์


17 4. ตั้งทิ้งไว้ให้ผลิตภัณฑ์แข็งตัว ผลการทดลอง 1. ผลการศึกษาสบู่จากกาแฟ ได้แก่ผงกาแฟ เบสใส ตารางที่ 1 ลักษณะทางกายภาพของผลิตภัณฑ์สบู่จากกาแฟ สบู่ ลักษณะเนื้อผิว สี กลิ่น สบู่จากกากกาแฟ ผิวเรียบ เนื้อละเอียด ดำ หอม ตารางที่ 2 การเปรียบเทียบประสิทธิภาพจากผลิตภัณฑ์สบู่จากกาแฟและผลิตภัณฑ์สบู่จากกาแฟ จากท้องตลาด ชนิดของผลิตภัณฑ์ ประสิทธิภาพ ก่อนใช้ใช้ผลิตภัณฑ์ หลังใช้ผลิตภัณฑ์ สบู่จากกากกาแฟ ผิวหมองคล้ำ ผิวกระจ่างใส สบู่จากท้องตลาด ผิวหมองคล้ำ ผิวกระจ่างใส 2. ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์สบู่จากกากกาแฟกับสบู่จากท้องตลาด โดยใช้แบบ ประเมินความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้สบู่


18 ตารางที่ 3 ระดับความพึงพอใจประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์สบู่จากกากกาแฟ ลำดับ ความคิดเห็น ระดับความพึงพอใจ ค่าร้อยละ แปลค่า 1 2 3 4 5 1 เนื้อสัมผัส 0 0 4 10 41 93.4 มากที่สุด 0 0 12 40 205 2 รูปลักษณ์ของสบู่ 0 1 6 9 39 91.27 มากที่สุด 0 2 18 36 195 3 ประสิทธิภาพของสบู่ 0 0 4 18 33 90.54 มากที่สุด 0 0 12 72 165 4 กลิ่นของสบู่กลิ่นของสบู่ 0 1 7 13 34 89.09 มากที่สุด 0 2 21 52 170 5 ขนาดของสบู่ 0 0 4 11 40 93.09 มากที่สุด 0 0 12 44 200 6 สามารถสร้างรายได้เสริม 0 0 2 9 44 95.27 มากที่สุด 0 0 6 36 220 7 สีของสบู่ 5 10 6 20 14 70.18 มาก 5 20 18 80 70 8 รูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์ 5 9 8 15 18 71.63 มาก 5 18 24 60 90 9 ขนาดของบรรจุภัณฑ์ 0 5 6 20 24 82.90 มากที่สุด 0 10 18 80 120 10 สร้างสินค้า OTOP 0 2 15 20 18 79.63 มาก 0 4 45 80 90


19 บทที่4 ผลการทดลอง การศึกษาค้นคว้าการทำสบู่กากกาแฟจากกากกาแฟ ซึ่งเป็นขยะมูลฝอยที่ทุกคนต่างมองข้าม และมองไม่เห็นคุณค่า ทางคณะผู้จัดทำจึงนำขยะเหล่านี้มาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าและเพิ่มรายได้ให้แก่คน ในชุมชน การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาจัดทำเป็นโครงงานประเภท สิ่งประดิษฐ์โดยภายหลังจากที่ทำผลิตภัณฑ์เสร็จสมบูรณ์แล้ว ทางคณะผู้จัดทำจึงได้นำผลิตภัณฑ์มาให้ นักเรียนภายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ ได้ทดลองใช้และทำแบบประเมิณความพึงพอใจ ต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และร่วมกันเสนอข้อเสนอแนะ ซึ่งประชากรในการค้นคว้าครั้งนี้มีนักเรียน จำนวน 55 คน รวมทั้งหมด55 คน ได้รับแบบประเมิณกลับคืนมาจำนวน 55 ชุด คิดเป็นร้อยละ 100 ในการสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลมีหัวข้อดังต่อไปนี้ 4.1 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ 4.2 วิคราะห์คะแนนความพึงพอใจต่อครีมขัดรองเท้าจากเปลือกส้มและเปลือกแก้วมังกร ของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒


20 4.1 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศสตรีวิทยา ๒ ตารางที่4.1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ ข้อมูลส่วนตัว จำนวน ร้อยละ เพศ หญิง 33 60 ชาย 22 40 รวมทั้งสิน 55 100 ปีการศึกษา มัธยมศึกษาปีที่1 0 0 มัธยมศึกษาปีที่2 0 0 มัธยมศึกษาปีที่3 1 1.8 มัธยมศึกษาปีที่4 5 9.1 มัธยมศึกษาปีที่5 48 87.3 มัธยมศึกษาปีที่6 1 1.8 รวมทั้งสิ้น 55 100 ห้อง 1 0 0 2 5 9.1 3 1 1.8 4 24 42.8 5 11 20.8 6 9 16.1 7 1 1.8 8 0 0 9 3 5.8 10 1 1.8 รวมทั้งสิ้น 55 100 จากตารางที่ 1 พบว่าข้อมูลพื้นฐานของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียน มีดังนี้ 1. เพศ ผู้ทำแบบสอบถามส่วนมากเป็นเพศหญิง ร้อยละ 60 รองลงมาคือ เพศชาย ร้อยละ 40 2. อายุผู้ทำแบบสอบถามส่วนมากมีอยู่มัธยมปีที่5 ร้อยละ 87.3 รองลงมาคือ มัธยมปีที่4 ร้อยละ 9.1 3 ห้อง ผู้ทำแบบสอบถามส่วนมากอยู่ห้อง 4 ร้อยละ 42.8 รองลงมาคือ ห้อง 5 ร้อยละ 20.8


21 4.2 วิเคราะห์คะแนนความพึงพอใจต่อสบู่กากกาแฟจากกากกาแฟของนักเรียนภายในโรงเรียนนวมิ นทราชินูทิศ สตรีวิทยา 2 ตารางที่ 4.2 การวิเคราะห์ผลความพึงพอใจต่อสบู่ ลำดับ ความคิดเห็น ระดับความพึงใจ ค่าร้อยละ แปลค่า 1 2 3 4 5 1 เนื้อสัมผัส 0 0 4 10 41 93.45 มากที่สุด 0 0 12 40 205 2 รูปลักษณ์ 0 1 6 9 39 91.27 มากที่สุด 0 2 18 36 195 3 ประสิทธิภาพของสบู่ 0 0 4 18 33 90.54 มากที่สุด 0 0 12 72 165 4 กลิ่นของสบู่ 0 1 7 13 34 89.09 มากที่สุด 0 2 21 52 170 5 ขนาดของสบู่ 0 0 4 11 40 93.09 มากที่สุด 0 0 12 44 200 6 สามารถสร้างรายได้เสริม 0 0 2 9 44 95.27 มากที่สุด 0 0 6 36 220 7 สีของสบู่ 5 10 6 20 14 70.18 มาก 5 20 18 80 70 8 รูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์ 5 9 8 15 18 71.63 มาก 5 18 24 60 90 9 ขนาดของบรรจุภัณฑ์ 0 5 6 20 24 82.90 มากที่สุด 0 10 18 80 120 10 สร้างสินค้า OTOP 0 2 15 20 18 79.63 0 4 45 80 90 มาก


22 เกณฑ์การให้คะแนน ช่วงคะแนนร้อยละ 80 คะแนนขึ้นไป = ดีมาก ช่วงคะแนนร้อยละ 70-79 คะแนน = ดี ช่วงคะแนนร้อยละ 60-69 คะแนน = ปานกลาง ช่วงคะแนนร้อยละ 50-59 คะแนน = พอใช้ ช่วงคะแนนร้อยละ 40-49 คะแนน = ปรับปรุง จากตารางการวิเคราะห์ผลความพึงพอใจต่อสบู่กากกาแฟจากกากกาแฟทั้ง 10 ข้อ พบว่า ภาพรวมของผลิตภัณฑ์อยู่ในเกณฑ์ดีมากที่สุด โดยด้านที่มีคะแนนมากที่สุด คือ สามารถสร้างรายได้ เสริม คิดเป็นร้อยละ 95.25 รองลงมาเป็นด้านเนื้อสัมผัส คิดเป็น ร้อยละ 93.45 ข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นส่วนใหญ่แนะนำให้ปรับปรุงด้านสีของผลิตภัณฑ์และปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้มี ความสวยงามและดึงดูดสายตาผู้บริโภคให้มากขึ้น เพื่อสามารถเพิ่มมูลค่าและยอดขายของผลิตภัณฑ์


23 บทที่5 สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ การศึกษาการทำสบู่จากกากกาแฟ มีวัตถุประสงค์4 ข้อ คือ (1)เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ (2)เพื่อศึกษาและเข้าใจการทำสบู่จากกากกาแฟ (3)เพื่อสร้างสบู่ที่มีกลิ่นหอม (4)เพื่อสร้างสบู่ที่มี ผิวสัมผัสนุ่มและไม่บาดผิว และสามารถประมวลผลได้ดังนี้ กลุ่มเป้าหมายที่เราใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ และบุคลากรภายในโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบสอบถามความคิดเห็นความพึงพอใจใน การใช้สบู่จากกากกาแฟโดยแบบสอบถามคือ Google Form ซึ่งเรานั้นให้สแกน QR Code โดยมีคำถาม สำรวจจำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ การหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สรุปผลการทดลอง จากการศึกษาทดลองการทำสบู่จากกกากกาแฟสามารถสรุปได้ว่าสบู่จากกากกาแฟมีคุณภาพที่ ดีไม่บาดผิว และช่วยทำให้ผิวนุ่มขึ้นเนื่องจากมีส่วนผสมคือนมที่ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น มีกลิ่นหอม เนื่องจากมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมกลิ่นกากกาแฟ ทำให้มีกลิ่นกาแฟอ่อนๆ มีรูปร่างลักษณะสวยงาม และช่วยทำให้ผิวสว่างขึ้นได้เนื่องจากกากกาแฟมีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว แต่สบู่จากกากกาแฟไม่ สามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน เนื่องจากกากกาแฟสามารถละลายน้ำง่ายจึงทำให้สบู่ละลายได้เร็ว อภิปราย จากการศึกษาค้นคว้าเรื่องการทำสบู่จากกากกาแฟตามความคิดเห็นจากนักเรียนและบุคลากร ภายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สามารถอภิปรายได้ดังนี้ จากการสอบถามความคิดเห็นความพึงพอใจของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียน นวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ ในการทำสบู่จากกากกาแฟพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด


24 ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลจากผลการสำรวจมีข้อเสนอแนะดังนี้ 1.ควรแก้ปัญหาเรื่องการละลายไวของสบู่เพื่อให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น 2.ปรับเปลี่ยนลักษณะของบรรจุภัณฑ์เพื่อความน่าใช้งานหรือเพิ่มความน่าซื้อมากกว่านี้ 3.เพิ่มสีสันของผลิตภัณฑ์


25 บรรณานุกรม เริงฤทธิ์ สัปปพันธ์.(2556).หนังสือคู่มืออาหารเสริม. กรุงเทพมหานคร:บริษัท สำนักพิมพ์เอ็มไอเอส จำกัด. พน จันดารา.(2559).หนังสือไขความลับกาแฟที่คนทั้งโลกยังไม่รู้.กรุงเทพมหานคร: ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด(มหาชน). มงคล แก้วสุพัศน์.(2560).กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (ม.ป.ป.).เบสสบู่กลีเซอรีนคืออะไร. สืบค้น 27 มิถุนายน 2565,จาก https://www.apsoap.com/article/1/ (ม.ป.ป.).สบู่กลีเซอรีน. สืบค้น 1 กรกฎาคม 2565,จาก https://เขียนบทความ.com/รู้จัก กลีเซอรีน (ม.ป.ป.).พิมพ์สบู่. สืบค้น 1 กรกฎาคม 2565,จาก https://www.makercakehouse.com/article (ม.ป.ป.).คุณสมบัติแม่พิมพ์ซิลิโคน. สืบค้น 1 กรกฎาคม 2565,จาก http://www.soap-mold.com/category/2 (ม.ป.ป.).กากกาแฟทำอะไรได้บ้าง. สืบค้น 1 กรกฎาคม 2565,จาก https://shopee.co.th/blog/benefits-ground-coffee/ (ม.ป.ป.).กากกาแฟ. สืบค้น 1 กรกฎาคม 2565,จาก https://www.soapvillages.com/product/


26 ภาคผนวก


27 ภาพที่ 1 นำเบสใสมาละลายในหม้อ ภาพที่ 2 นำผงกาแฟมาผสมกับเบสสบู่ที่ละลายแล้ว


28 ภาพที่ 3 นำกากกาแฟมาใส่ แล้วคนให้เข้ากัน ภาพที่ 4 นำผลิตภัณฑ์ใส่พิมพ์แล้วรอให้เซตตัว


29 ประวัติผู้ศึกษาค้นคว้า ชื่อ-นามสกุล นางสาวมนัสนันท์ภู่สวาท วันเดือนปีกิด 8 สิงหาคม 1548 ที่อยู่ปัจจุบัน 99/791 หมู่3 ตำบล ลำผักกูด อำเภอ ธัญบุรี จังหวัด ปทุมธานี12110 ตำแหน่งหน้าที่การงาน นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สถานที่ศึกษาปัจจุบัน โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมเขต2 ประวัติการศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนปิยวัฒนศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒


30 ประวัติผู้ศึกษาค้นคว้า ชื่อ-นามสกุล นางสาวนพกนก เที่ยงตรง วันเดือนปีกิด 21 พฤศจิกายน 2548 ที่อยู่ปัจจุบัน 42/148 หมู่14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จังหวัด ปทุมธานี 12150 ตำแหน่งหน้าที่การงาน นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สถานที่ศึกษาปัจจุบัน โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมเขต2 ประวัติการศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาราม ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒


31 ประวัติผู้ศึกษาค้นคว้า ชื่อ-นามสกุล นางสาวนันทิชา คุ้มทรัพย์ วันเดือนปีกิด 17 กันยายน 2548 ที่อยู่ปัจจุบัน 25/5 หมู่19 ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัด ปทุมธานี12150 ตำแหน่งหน้าที่การงาน นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สถานที่ศึกษาปัจจุบัน โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมเขต2 ประวัติการศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนวัดลำกะดาน ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒34


32 ประวัติผู้ศึกษาค้นคว้า ชื่อ-นามสกุล นางสาวปัทมาพร พิมพ์ศรี วันเดือนปีกิด 16 พฤศจิกายน 2548 ที่อยู่ปัจจุบัน 10/50 หมู่18 ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัด ปทุมธานี12130 ตำแหน่งหน้าที่การงาน นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สถานที่ศึกษาปัจจุบัน โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมเขต2 ประวัติการศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนเตรียมบัณฑิต ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒


33 ประวัติผู้ศึกษาค้นคว้า ชื่อ-นามสกุล นางสาวกัญญาณัฐ คงเสรีรัตน์ วันเดือนปีกิด 18 กุมภาพันธ์2548 ที่อยู่ปัจจุบัน 84/202 เฟส12 บ้านฟ้าปิยรมย์อ.ลำลูกกา ต.บึงคำพร้อย จ.ปทุมธานี12130 ตำแหน่งหน้าที่การงาน นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สถานที่ศึกษาปัจจุบัน โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมเขต2 ประวัติการศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนสาราสาสน์วิเทศนิมิตใหม่ ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒


Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.