เล่มแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ป6 2_2565 Flipbook PDF


33 downloads 97 Views 7MB Size

Story Transcript

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ รหัสวิชา อ 16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์ www.shc.ac.th,

โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์,

02-671-9041-4

คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ ร ายวิชาภาษาอังกฤษ (อ16101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ จัดทาขึ้นเพื่ อกาหนดและวางแผนเนื้อหาสาระที่ใช้ ส อนอย่างเป็นระบบ ให้ส อดคล้องกับ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งมีการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเน้นผู้เ รียนเป็นส าคัญ โดยใช้ กระบวนการสอนที่หลายหลาย เช่น Activity-Based-Learning Think-Pair-Share Collaborative-Learning Plean-Model-by-Ms.Ja Brain-Based-Learning เป็นต้น พร้อมทั้งใช้วิธีจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ให้ผู้เรียนได้เป็นผู้คิด ผู้สร้างความรู้ ผู้เชื่อมโยงประสบการณ์และเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเองตามสภาพแวดล้อม และบริบทของโรงเรียน อีกทั้งยังบูรณาการคุณธรรม 8H ซึ่งเป็นคุณธรรมประจาโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ เข้ามาใช้ในการ จัดการเรียนรู้ ให้นักเรียนมีความรู้คู่คุณธรรม เช่น เป็นผู้มีวินัย ซื่อสัตย์ มีน้าใจ สุภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ครูผู้สอนมีการคิด ออกแบบและจัดเตรียม สื่ออุปกรณ์ที่เหมาะกับสาระการเรียนรู้ วัดและประเมินผลด้วยวิธีการที่หลากหลายเหมาะสมกั บและ จุดประสงค์ในการเรียนรูตามวัยของผู้เรียน ซึ่งแผนการจัดการเรียนรู้นี้ให้ประโยชน์หลายประการนอกจากจะช่วยเป็นแนวทางในการสอนและการจัดกิจกรรม การเรียนรู้แล้ว ยังมีส่วนช่วยในการวางแผนการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งการสอนที่มีประสิทธิภาพจะสะท้อน ให้เห็นถึงคุณภาพของผู้เรียน เมื่อพบข้อบกพร่องและปัญหาในการจัดการเรียนการสอนจากการเขียนบันทึกหลัง การสอน ผู้ส อนได้นาประเด็นปัญหาที่พบเจอมาปรับปรุง พัฒนา หรือต่อยอดเป็นวิจัยในชั้นเรียนหรือนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ตามความเหมาะสมกับผู้เรียนและสภาพห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ ซึ่งช่วยให้การจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อันจะ ส่งผลไปถึงศักยภาพทางการเรียนของผู้เรียนให้มีคุณภาพตามเป้าหมายทางการเรียนรู้ที่กาหนดไว้ ครูผู้สอนขอขอบพระคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้คาแนะนาและเป็นที่ปรึกษาในการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ ที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อการจัดการเรียนการสอนนี้ อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อ ครูผู้สอน ผู้เรียนและท่านที่สนใจเข้ามา ศึกษาค้นคว้าเป็นแนวทางและขออภัยหากมีจุดบกพร้องหรือไม่สมบูรณ์ที่ต้องแก้ไข ไว้ ณ โอกาสนี้

นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์ ครูผู้สอนรายวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์

คำอธิบายรายวิชา โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ คำอธิบายรายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับชั้นประถมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ รวม 120 ชั่วโมง/ปี จำนวน 2 หน่วยกิต คำอธิบายรายวิชา ปฏิบัติตามคำสั่ง คำแนะนำ คำขอร้องในสถานการณ์ต่างๆ เรียนรู้ ภาษาท่าทาง คำแนะนำ ข้อความ นิทาน บทกลอน การใช้ พจนานุกรม หลักการอ่านออกเสียง ประโยคหรือข้อความ สัญลักษณ์ เครื่องหมายและความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหารเครื่องดื่ม เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซื้อขาย ลมฟ้าอากาศ และเป็นวงคำศัพท์สะสมประมาณ 1,050-1,200 คำ ประโยคบทสนทนา นิทานหรือเรื่องเล่า คำถามเกี่ยวกับใจความสำคัญของเรื่อง บทสนทนาที่ใช้ในการกล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่างสุภาพคำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาตและคำแนะนำที่มี 2-3 ขั้นตอน คำศัพท์ ประโยคข้อความ สำนวน ภาษา ที่ใช้ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง แนะนำตนเอง เพื่อน บุคคลใกล้ตัว บอกความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบ รับ ปฏิเสธการ ให้ความช่วยเหลือ การพูดแสดงความรู้สึก แสดงความคิดเห็นและการให้เหตุผลประกอบ คำ กลุ่มคำ และประโยคที่มีความหมายสัมพันธ์กับ ภาพ แผนผัง แผนภูมิและตาราง การใช้ถ้อยคำ น้ำเสียงและกิริยาท่าทางอย่างสุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษาข้อมูล และความสำคัญของเทศกาลวันสำคัญ งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ความเหมือน ความแตกต่าง ระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลำดับตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เทศกาล งานฉลอง ประเพณี ของเจ้าของภาษากับของไทย การค้นคว้า การรวบรวม และการนำเสนอ คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น การใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา การ ใช้ ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัว โดยใช้กระบวนการทางภาษาที่หลากหลายเพื่อให้เกิดทักษะการสื่อสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคำถาม ทำท่าทางประกอบ เข้าร่วม กิจกรรม ศึกษาค้นคว้า รวบรวม นำเสนอ และสืบค้นข้อมูล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ รวมทั้งเพื่อให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พร้อมด้วยจริยธรรมและคุณธรรม (Holy) ซื่อสัตย์ สุจริต (Honest) มีวินัย มีเกียรติ (Honor) ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค (Hope) รักความเป็นไทย มีความสุภาพอ้อนน้อม (Humble) มีจิตสาธารณะ มีอัธยาศัยไมตรี (Hospitality) มีความรัก (Heart) รักกันฉันท์พี่น้องดั่งเป็นครอบครัวเดียวกัน (Home)ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีเจตคติ ที่ดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มาตรฐานตัวชี้วัด ต 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4 ต 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5 ต 1.3 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ต 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ต 2.2 ป.6/1, ป.6/2 ต 3.1 ป.6/1 ต 4.1 ป.6/1 ต 4.2 ป.6/1 รวม 20 ตัวชี้วัด

โครงสร้างรายวิชา โรงรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จานวน 60 คาบ/ชั่วโมง หน่วย ที่ 1

ชื่อหน่วยการเรียนรู/้ หน่วยย่อย

สาระเรียนรู้แกนกลาง

1.2 Talk about it!

1.3 World's beautiful places

ต 4.1 ป.6/1

ต 1.2 ป.6/1

ต 1.1 ป.6/3

การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในห้องเรียนและสถานศึกษา บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรก อย่างสุภาพ ประโยค/ ข้อความที่ใช้แนะนาตนเอง เพื่อน และบุคคลใกล้ตัว และสานวนการตอบรับ ประโยคหรือข้อความสัญลักษณ์ เครื่องหมาย และความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัวโรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่าง และ นันทนาการและลมฟ้าอากาศ คาศัพท์ที่เป็นรูปธรรม และนามธรรม

2.2 Past Sim. with negative form

2.3 Past Sim. with question form

ต 2.2 ป.6/1

ต 2.2 ป.6/1

ต 2.2 ป.6/1

บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการล าดับค าตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการล าดับค าตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ

4

1 1

1

(3)

Past Simple Tense 2.1 Past Sim. with positive form

ชั่วโมง น้าหนัก

(3)

My Long Vacation 1.1 Find someone who

2

มาตรฐาน และตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้

1

1

1

15

หน่วย ชื่อหน่วยการเรียนรู/้ หน่วยย่อย ที่ 3

3.2 Past Verb : regular verbs

3.3 Past Verb : irregular verbs

4.2 Present Sim. with adding “s/es/ies”

4.3 How long do you get to? 5

ต 2.1 ป.6/2

ต 2.2 ป.6/1

ต 2.2 ป.6/1

ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง/ชีวิต ความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ

ต 2.2 ป.6/2

ต 2.2 ป.6/1

ต 2.2 ป.6/1

เปรียบเทียบความเหมือน/ความแตกต่างระหว่าง เทศกาล งานฉลองและประเพณี ของเจ้าของภาษา กับของไทย บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ

5.1 Find someone who

5.2 Future Sim. with “will”

5.3 Future Sim. with “going to”

1

1

ต 1.2 ป.6/4

ต 2.2 ป.6/1

ต 2.2 ป.6/1

พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ

10

1

1

1

(3)

Our Future Plan

10

1

(3)

Present Time 4.1 Loy Krathong Festival

ชั่วโมง น้าหนัก

(3)

Afterlife! 3.1 Hello! Halloween

4

มาตรฐาน และตัวชี้วัด/ สาระเรียนรู้แกนกลาง ผลการเรียนรู้

1 1

1

6

หน่วย ชื่อหน่วยการเรียนรู/้ หน่วยย่อย ที่ 6

6.2 My day!

6.3 What happened?

8

ต 1.3 ป.6/1

ต 1.1 ป.6/2

ต 1.2 ป.6/3

พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อนและ สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ข้อความนิทาน และบทกลอน หลักการอ่านออก เสียง เช่น การออกเสียงพยัญชนะต้นคาและ พยัญชนะท้ายคา การออกเสียงเน้นหนัก-เบาในคา และกลุ่มคา การออกเสียงตามระดับสูง-ต่าใน ประโยคการออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ใน ข้อความ การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ พูด/เขียนแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือใน สถานการณ์ง่ายๆ

ต 2.2 ป.6/1

7.2 Because and Because of

ต 1.2 ป.6/5

7.3 Find my soulmate

ต 4.2 ป.6/1

บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่อง ต่างๆ ใกล้ตัว กิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ ประกอบ ใช้ภาษาอังกฤษในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูล ต่างๆ

8. Safety Tips

8.2 Poor animals

8.3 Natural Safety Tips

1

1

8

1

1

1

(3)

Reading Time!

3

1

(3)

Please, listen to me! 7.1 Why and Because

ชั่วโมง น้าหนัก

(3)

See the Day! 6.1 Find someone who

7

มาตรฐาน และตัวชี้วัด/ สาระเรียนรู้แกนกลาง ผลการเรียนรู้

1

ต 1.1 ป.6/4

บอกใจความสาคัญและตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ หรือเรื่องเล่า

1

ต 1.1 ป.6/4

บอกใจความสาคัญและตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ หรือเรื่องเล่า

1

ต 1.1 ป.6/4

บอกใจความสาคัญและตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ หรือเรื่องเล่า

3

หน่วย ชื่อหน่วยการเรียนรู/้ หน่วยย่อย ที่ 9

10

Midterm Examination

Christmas Time!

9.1 Joy to the World

9.2 Christmas Bingo

9.3 Christmas Reality Show 11

12

มาตรฐาน และตัวชี้วัด/ สาระเรียนรู้แกนกลาง ผลการเรียนรู้ สาระแกนกลาง ต 1.1 ป.6/4 ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเรื่องเล่าคาถาม เกี่ยวกับใจความสาคัญของเรื่อง ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ต 2.2 ป.6/1 - การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตาม โครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย สาระแกนกลาง การใช้ถ้อยคา น้าเสียง และกริยาท่าทางตาม มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การขอบคุณ ขอโทษ การใช้สีหน้าท่าทาง ต 2.1 ป.6/1 ประกอบการพูด ขณะแนะนาตนเอง การสัมผัสมือ การโบกมือ การแสดงความรูส้ ึกชอบ/ ไม่ชอบ การ กล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและการ ต 2.1 ป.6/3 รวบรวมคาศัพท์ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัวจากสื่อและแหล่ง การเรียนรู้ต่าง ๆ กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่นการเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทาน บทบาทสมมุติ วัน ต 4.2 ป.6/1 ขอบคุณพระเจ้า วันคริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ วันวา เลนไทน์

11.1 World Sport

ต 2.1 ป.6/2

11.2 International Food

ต 2.1 ป.6/2

11.3 Sufficiency Eco Integration

ต 2.2 ป.6/2

ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง/ชีวิต ความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง/ชีวิต ความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง/ชีวิต ความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา

1 1 1

(3)

ต 1.3 ป.6/2 ต 1.2 ป.6/2 ต 4.1 ป.6/1

เขียนภาพ แผนผัง แผนภูมิและตารางแสดงข้อมูล ต่างๆ ตามที่ฟังหรืออ่าน การให้คาแนะนาอย่างเป็นขั้นตอน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในห้องเรียนและสถานศึกษา

4

1

1

1

3

1 1 1

(3)

Botany School with See-Da tomato

12.3 SHC Master Chef Activity

(3)

(3)

International Culture

12.1 Thai tomato, Thai food design 12.2 How to make Papaya Salad.

ชั่วโมง น้าหนัก

1 1 1

3

หน่วย ชื่อหน่วยการเรียนรู/้ หน่วยย่อย ที่ 13

13.2 Our old glass bottles

13.3 Talent by Paola

15

16

ต 2.2 ป.6/1

ต 2.2 ป.6/1

ต 2.2 ป.6/1

บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรค ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ของภาษาอังกฤษ

14.1 Essay 1 : All about me

ต 1.3 ป.6/1

14.2 Essay 2 : My Favorite subject.

ต 1.3 ป.6/1

14.3 Essay 3 : My Family

ต 1.3 ป.6/1

พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อนและ สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อนและ สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อนและ สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว

ต 1.1 ป.6/1

15.2 Irregular verbs song 15.3 Irregular Verbs Key chain

ต 4.2 ป.6/1 ต 2.1 ป.6/1

ปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาที่ฟัง หรืออ่าน ใช้ภาษาอังกฤษในการสืบค้น รวบรวมข้อมูลต่างๆ ใช้ถ้อยคาน้าเสียงและกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา

16.3 Let’s Talk. Have you ever?

1

ข้อความนิทาน หลักการอ่านออกเสียง เช่น การออก เสียงพยัญชนะต้นคาและพยัญชนะท้ายคาการออก ต 1.1 ป.6/2 เสียงเน้นหนัก-เบา การออกเสียงตามระดับสูง-ต่า ออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อนและ ต 1.3 ป.6/1 สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ต 4.1 ป.6/1 การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ในห้องเรียน

3

1 1 1 10

1 1 1

(3)

I’m Perfect

16.2 since and for

1

(3)

Past Participle 15.1 About Past Participle

3

1

(3)

Write to Learn

16.1 Hello! Present Perfect.

ชั่วโมง น้าหนัก

(3)

Learn to Write 13.1 Teacher’s day

14

มาตรฐาน และตัวชี้วัด/ สาระเรียนรู้แกนกลาง ผลการเรียนรู้

1

1 1

6

หน่วย ชื่อหน่วยการเรียนรู/้ หน่วยย่อย ที่ 17

18

มาตรฐาน และตัวชี้วัด/ สาระเรียนรู้แกนกลาง ผลการเรียนรู้

ชั่วโมง น้าหนัก

Perfect Time!

(3)

การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตาม 14.1 Perfect with positive form ต 2.2 ป.6/1 โครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตาม 14.2 Perfect with negative form ต 2.2 ป.6/1 โครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตาม 14.3 Perfect with question form ต 2.2 ป.6/1 โครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย สาระแกนกลาง Final Examination ต 1.1 ป.6/4 ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเรื่องเล่าคาถาม เกี่ยวกับใจความสาคัญของเรื่อง ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ต 2.2 ป.6/1 - การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตาม โครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย รวมทั้งสิ้นตลอดภาคเรียน

1

10

1

1

(3) 1 1 1

54

100

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง My Long Vacation จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 1 วันที่ 17 – 21 เดือน ตุลาคม พ.ศ 2565 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐานที่ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด 3 เลือก/ระบุ ประโยคหรือข้อความนั้น ๆ ตรงตามภาพสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่อ่าน สาระแกนกลาง ประโยคหรือข้อความสัญลักษณ์ เครื่องหมาย และความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัวโรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่าง และนันทนาการและลมฟ้าอากาศ คาศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐานที่ ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด 1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล สาระแกนกลาง บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรก อย่างสุภ าพ ประโยค/ข้อความที่ใช้แนะนาตนเอง เพื่อน และบุคคลใกล้ตัวและสานวนการตอบรับ สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธกับชุมชนและโลก มาตรฐานที่ ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัด 1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา สาระแกนกลาง การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

2

จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope, Humble, Hospitality จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C3 ทักษะความร่วมมือและการทางานเป็นทีม ภาวะผู้นา C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร C6 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความนิทานได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนเลือก/ระบุประโยค หรือข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Find Someone who 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart board 2. กิจกรรม Find Someone who…………. 3. https://wheelofnames.com 4. https://wheelofnames.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Find Someone who กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 กระบวนการสร้างเจตคติ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ วิธีการสอนรูปแบบเกม  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity (ท่องคาศัพท์ยามเช้า) 1. ขั้นสังเกต/ รับรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชี้แจงกิจกรรมทบทวนบทเรียนโดยใช้กิจกรรมเกมเป็นฐานการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ Find someone who………. ให้นักเรียนผลพูดภาษาอังกฤษโดยใช้ประโยคในบทเรียน I am going to ……….. และ I went to…………, เชื่อมโยงกับสถานที่ในบทเรียนและจากประสบการณ์ โดยครูใส่รูปแบบประโยคและ รูปภาพสถานที่ไว้ในโปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com สาหรับเป็นแนวทางในการพูด จากนั้นครูชี้แจง วิธีการเล่น ดังนี้  สารวจที่นั่ง ให้นักเรียนนั่งในที่ของตนเอง หากมีเก้าอี้ใดว่างให้ทาการยกขึ้นเก็บหรือเอาออกชั่วคราว ให้ที่ จานวนที่นั่งมีจานวนเท่ากับผู้เล่น  ครูคือผู้เล่นตัวอย่างในครั้งแรก ครูทาการสุ่มรูปแบบประโยคเพื่อพูด เช่น เมื่อสุ่มได้รูป Mt.Fuji และ ประโยค I went to………. ให้ใส่ชื่อสถานที่ในรูปภาพเติมประโยคให้สมบูรณ์

4

 ครูพูดประโยคเต็มโดยใช้ชื่อกิจกรรมเกมมาแต่งประโยคร่วมเป็นประธาน ดังนี้ Find someone who ……went to the beach last summer…………  ผู้ร่วมเล่นเมื่อนฟังประโยคแล้วเริ่มวิเคราะห์ หากเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองได้ทาไปจริง ให้สลับ/หาที่นั่งใหม่ รวมทั้งครูด้วย ผู้เล่มคนใดหาที่นั่งไม่ทันจะต้องออกมาเป็นคนต่อไป 2. ขั้นวิเคราะห์ 2.1 ดาเนินกิจกรรมประมาน 10 - 15 นาที (ตามความเหมาะสม) โดยครูร่วมเล่นด้วยเพื่อให้ที่นั่งเต็ม 2.2 ครูคอยสังเกตการณ์การทากิจจกรรมของนักเรียนเพื่อให้คาแนะนาช่วยเหลือนักเรียน ดังนี้ - นักเรียนกลุ่มเก่ง (พูดได้ มีความกล้าแสดงออก) ครูสบตาและยิ้มให้กาลังใจเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มกลาง (พูดได้ อาจไม่คล่อง และไม่ค่อยมั่นใจ) ครูยืนช่วยข้างๆพร้อมกล่าวคาชมเชยเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มอ่อน (พูดไม่ค่อยได้ เขินอาย ขาดความมั่นใจ) ครูให้พูดประโยคที่ให้พูดตามและยืนช่วยข้างๆ 3. ขั้นสรุป 3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และคุณธรรมที่ได้จากกิจกรรมนี้ เช่น ความซื่อสัตย์ในการเล่นตามกติกา หรือซื่อสัตย์ต่อคาตอบตรามความจริงของตนเอง เป็นต้น โดยขออาสาสมัครในการตอบ 3-5 คน 3.2 ครูให้นักเรียนแต่งประโยคโดยแบ่งเป็น Then and Future : I am going to………… และ I went to ……….. ลงในสมุด 6 ประโยคส่งครูเป็นการสรุปความรู้ในรูปแบบการเขียนอีกครั้ง 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิต สาธารณะ (A)

บันทึกแบบสังเกตพฤติกรรม

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ 3 ข้อจาก 5 ข้อ

บันทึกแบบสังเกตพฤติกรรม

ผ่านเกณฑ์ 3 ข้อจาก 5 ข้อ

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Find Someone who went to…… 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน 85 สามารถพูดสื่อสารให้ข้อมูลระหว่าง ห้องเรียนได้ (P) การทากิจกรรมได้ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริต นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ และมีจิตสาธารณะ (A) 95 มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิต สาธารณะในการทากิจกรรม

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 15 ยังต้องการความช่วยเหลือให้การ พูดจากครูและตัวอย่างประโยค นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 5 ยังมีนักเรียนทาผิดกติกากิจกรรม ครู จึงเริ่มเกมใหม่ทุกครั้งที่สงั เกตเห็น

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Find Someone who went to……ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น มีการวิเคราะห์นักเรียนกลุ่มเก่ง กลาง อ่อน เพื่อช่วยเหลือในการทากิจกรรมอย่างมั่นใจ - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Talk about it 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความนิทานได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart board 2. กิจกรรม Find Someone who…………. 3. www.mentimeter.com/app 4. https://wheelofnames.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Talk about it กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 กระบวนการอ่านแบบที่ 2  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูให้นักเรียนอ่าน สะกด ออกเสียงคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ จานวน 5 คา พร้อมกัน โดยครูให้นักเรียนฟังและอ่านตามในรอบแรก จากนั้นจึงให้นักเรียนฝึกอ่านพร้อมกันด้วยตนเอง 1. ขั้นสังเกต/ รับรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องวันหยุดพักผ่อนในช่วง summer ที่ผ่านมาว่ามีใครเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ใดมาบ้าง โดยครูพูดยกตัวอย่างประโยคของครู เช่น Last summer, I went to Bang Saen Beach at Chonburi. I drove a car to Ang Sila Seafood Market with my family. We ate some delicious seafood near the beach. 1.3 ครูใช้คาถามให้นักเรียนตอบข้อมูลของตนเอง How about you, where did you go last summer? โดยครูให้นักเรียนตอบคาถามโดยการพิมพ์คาตอบ I went to + ชื่อสถานที่ ส่งมายังwww.mentimeter.com/app เพื่อแสดงผลคาตอบบนหน้าจอ smart TV เป็นการกระตุ้นความใฝ่เรียนและฝึกอ่านสถานที่ของเพื่อนๆในชั้นเรียน ครูอาจใช้คาถามที่ 2 - 3 เพิ่มเติมว่า How did you go there?, How long does it take to get to there? เพื่อเพิ่มความต่อเนื่องในการเรียนรู้และเชื่อโยงเข้าสู่บทเรียนถัดไป 1.4 ครูเชื่อมโยงเรื่องราวสู่แผนท่องเที่ยวหรือกิจกรรมที่จะทาในวันหยุดต้นเดือนหน้า ( 3-5 มิ.ย.) ว่านักเรียน จะไปที่ใด/ทาอะไร โดยครูยกตัวอย่างสิ่งที่ครูจะทาโดยพูดตัวอย่างประโยค Next vacation, I am going to Sangkhlaburi at Kanchanaburi province with my family. 1.5 ครูถามนักเรียนต่อว่า How about you? ครูให้นักเรียนตอบคาถามโดยการพิมพ์คาตอบ I’m going to + ชื่อ สถานที่ ส่งมายัง https://www.mentimeter.com/app เพื่อแสดงผลคาตอบบนหน้าจอ smart board เป็นการ กระตุ้นความใฝ่เรียนและฝึกอ่านสถานที่ของเพื่อนๆในชั้นเรียน ครูอาจใช้คาถามเพิ่มเติมให้นักเรียนช่วยกันคิดและ ตอบในชั้นเรียนว่า “Who knows, how long does it take to get to there?

7

2. ขั้นการเข้าใจสาร/ ประโยคที่อา่ น 2.1 ครูทบทวนบทเรียนเกี่ยวกับบทสนทนาการทากิจกรรมในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาและวันหยุดครั้งหน้า โดยใช้บท สนทนาในหนังสือ Super kids 6, page 6-7 เป็นสื่อประกอบการเรียนรู้ โดยครูเปิด Audio sound ให้นักเรียนฝึก ฟังในรอบแรก ในรอบ 2 ให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม เมื่อจบรอบที่ 2 ครูแนะนาให้นักเรียนฟังอย่างตั้งใจและ สังเกตเสียงในแต่ละประโยคว่ามีเสียงใดเกิดขึ้นระหว่างการเชื่อมคาหรือไม่ โทนเสียงท้ายประโยคเป็นอย่างไร และครู เปิด Audio รอบที่ 3 ให้นักเรียนฟังและพูดตามอีกครั้ง รอบสุดท้ายให้นักเรียนอ่านออกเสียงบทสนทนาด้วยตัวเอง 3. การตอบสนองต่อสารเมื่อเข้าใจสาระ 3.1 ครูให้นักเรียนจับคู่ฝึกสนทนา ครูให้เวลานักเรียนฝึกซ้อมประมาน 5 นาที (ตามความเหมาะสม) จากนั้น ครูหาอาสาสามัครเป็นคู่ตัวแทนออกมาอ่านบทสนทนาหน้าชั้นเรียน (หากมี) ครูสุ่มคู่นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้น โดยใช้โปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com/ สร้างความตื่นตัวทางการเรียน ประมาน 3-5 คู่ (ตามความ เหมาะสม) ครูกล่าวชมเชยและนาปรบมือเมื่อแต่ละคู่ทากิจกรรมสาเร็จ และให้เพื่อนๆในชั้นเรียนร่วมกันประเมินการ นาเสนอเพื่อนๆโดยใช้ท่าทางประกอบ 3 ท่าทาง ดังนี้ = พอใช้ = ดี = ดีมาก 4. การบูรณาการความคิด 4.1 ครูมอบหมายให้นักเรียนทบทวนบทเรียน โดยทาแบบฝึกหัดเติมคาในบทสนทนาในหนังสือแบบฝึกหัด 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความนิทานได้ ถูกต้องตามหลักการอ่าน (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทางาน (A)

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล ฟังการออกเสียงอ่าน นับจานวนแบบฝึกหัดที่ส่ง

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนร้อยละ 70 อ่านได้อย่างถูกต้อง นักเรียนร้อยละ 70 ส่ง แบบฝึกหัดตามเวลากาหนด

8

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Talk about it 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ ข้อความนิทานได้ถูกต้องตามหลักการ 80 สามารถอ่านออกเสียงคา วลี 20 ยังอ่านคาศัพท์ยากหรือมีหลาย อ่าน (K,P) ประโยคได้อย่างถูกต้อง พยางค์ไม่ค่อยได้ และไม่มั่นใจในการ อ่านออกเสียง ครูจึงเพิ่มรอบการอ่าน ตามให้นักเรียนฝึกอ่านตามเพิ่มความ มั่นใจ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน (A)

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 95 สามารถทางานเสร็จและส่ง 5 ทางานไม่ทันตามเวลา ครูให้ติดตาม ทันเวลาที่กาหนด ส่งในช่วงพักเบรค

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Talk about it ในคาบนี้พบว่า - อุปสรรค นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 บางคนอ่านคาศัพท์บางคาไม่ออก และไม่มีความมั่นใจในการพูด - จุดเด่น ใช้โปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com/ สร้างความตื่นตัวทางการเรียน - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย ปรบมือให้กาลังใจ และให้นักเรียนร่วมทาท่าทางส่งกาลังใจให้กันและกัน

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย World's beautiful places 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนเลือก/ระบุประโยค หรือข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart board 2. Power point presentation เรื่อง The interesting place in Thailand 3. หนังสือแบบเรียน Super kids 6 4. Audio 5. www.wheelofnames.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 World's beautiful places กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 กระบวนการอ่านแบบที่ 1  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูให้นักเรียนอ่าน สะกด ออกเสียงคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ จานวน 5 คา พร้อมกัน โดยครูให้ นักเรียนฟังและอ่านตามในรอบแรก จากนั้นจึงให้นักเรียนฝึกอ่านพร้อมกันด้วยตนเอง 1. ขั้นเตรียมการอ่าน 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How’s it going? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูพูดคุยกับนักเรียนถึงสถานที่ท่องเที่ยวในบทสนทนาในคาบก่อนว่ามีสถานที่ใดบ้างและอยู่ในประเทศใด และลักษณะของสานที่นั้นๆโดยรวม 2. ขั้นการอ่าน 2.1 ครูแนะนาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเพิ่มเติมโดยแสดงรูปภาพสถานที่นั้นๆและพูดชื่อสถานที่ให้นักเรียน สังเกตภาพที่ครูถือและฝึกพูดตาม Audio ดังนี้ 1) the Grand Canyon 2) the Great Barrier Reef 3) Mount Everest 4) Victoria Falls 2.2 ครูถามนักเรียนทีละคนว่า Do you want to go to (the Grand Canyon)? และให้นักเรียนตอบ Yes. หรือ No. 2.3 ครูพูดแนะนาสถานที่เพิ่มเติมโดยแสดงรูปภาพสถานที่นั้นๆและพูดชื่อสถานที่ให้นักเรียนสังเกตภาพ และฝึกพูดตาม Audio ดังนี้

10

5) the countryside 6) summer camp 7) the wildlife park 8) the mountains 9) the beach 10) my grandparents’ house 3. แสดงความคิดเห็น 3.1 ครูเปิด Power point presentation เรื่อง The interesting place in Thailand พูดคุยกับนักเรียน ถึงสถานที่ท่องเที่ยว/ สถานที่สาคัญ / Landmark ของประเทศไทยในแต่ละภาคที่น่าสนใจครูยกตัวอย่างและให้ นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม 4. อ่านสารวจ 4.1 ครูทบทวนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจโดยแสดงภาพให้นักเรียนลอกชื่อสถานที่นั้นๆพร้อมบอกประเทศ 4.2 ครูสุ่มถามนักเรียนด้วยโปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com ว่า Do you want to go to (summer camp)? และให้นักเรียนตอบ Yes or No. 4.3 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้เรียนในชั่วโมงนี้ เช่น ชื่อสถานที่ การถามคาถาม โดยใช้โครงสร้าง ประโยค Do you want to….? และเวลาตอบให้ตอบด้วย Yes หรือ No 5. การขยายความคิด 5.1 ครูให้นักเรียนทบทวนบทเรียนด้วยการทาแบบฝึกหัดในหนังสือ Super kids, page 2 5.2. ครูให้นักเรียนสรุปความรู้เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งในประเทศไทย ทวีปยุโรป และประเทศอาเซียน ในรูปแบบ Mind mapping 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนเลือก/ระบุประโยค หรือข้อความ สั้นๆ ตรงตามภาพได้ (P)

2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทางาน(A)

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล ตรวจแบบฝึกหัด

นับจานวนการส่งแบบฝึกหัด

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนร้อยละ 70 ทาแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 นักเรียนร้อยละ 70 ส่งแบบฝึกหัดในเวลากาหนด

11

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 World's beautiful places 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนเลือก/ระบุประโยค นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ หรือข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพได้ (P) 90 สามารถตอบคาถามจากกิจกรรม 10 ยังไม่ตอบคาถามและทาแบบฝึกหัด การเรียนรู้และทาแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง ด้วยตัวเองไม่ได้ ครูต้องให้คาปรึกษา และให้เพื่อนกลุ่มเก่งคอยช่วยเหลือ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน(A)

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 95 สามารถทาแบบฝึกหัดเสร็จและส่ง 5 ไม่สามารถทาแบบฝึกหัดเสร็จ ครูจงึ ทันตามเวลาที่กาหนด ให้ติดตามส่งในเวลาเบรค

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง World's beautiful places ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น มีการบูรณาการความรู้นอกบทเรียนและให้เรียนมีความรู้เพิ่มเติม

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Past Simple Tense จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 2 วันที่ 23 – 27 เดือน ตุลาคม พ.ศ 2565 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐานที่ 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 2 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคา ตามโครงสร้างประโยคของ สาระแกนกลาง การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐานที่ 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 1 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคา ตามโครงสร้างประโยคของ สาระแกนกลาง การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope

2

จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C3 ทักษะความร่วมมือและการทางานเป็นทีม ภาวะผู้นา C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้างประโยค Past Simple ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยค Past Simple ได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ (A) คาบที่ 2 1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้างประโยคคาถาม Past Simple ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยคประโยคคาถาม Past Simple ได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ (A) คาบที่ 3 1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้างประโยคคาถาม Past Simple ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยคประโยคคาถาม Past Simple ได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Past Simple with positive 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้างประโยค Past Simple ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยค Past Simple ได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smartboard 2. Power point presentation เรื่อง How long does it take to get to? 3. Internet Signal 4. Student book, Super Kids 5. Activity book, Super Kids 6. www.wheelofname.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Past Simple with positive กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ CL (Cooperative Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ (5 -10 นาที)  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity (ท่องคาศัพท์ยามเช้า) 1. Preparation 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูชี้แจงนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียนในคาบนี้ Past Simple with positive sentence ประโยคอดีตใน

รูปประโยคบอกเล่า เพื่อให้เล่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว

4

1.3 ครูตั้งคาถาม Who can tell me, what did you do yesterday evening? ให้นักเรียนช่วยกันตอบ ข้อมูลตนเองหรือคนรอบข้างที่นักเรียนรู้ จากนั้นครูเขียนขึ้นบนกระดาน ประมาน 5 ประโยค ให้นักเรียนไว้ สังเกตและเรียนรู้จากเนื้อหาคาอธิบายต่อไป 2. Content Presentation Grammar lesson - ครูเปิด power point presentation เรื่อง Past Simple tense with positive sentence ให้นักเรียนศึกษาพร้อมกับอธิบายโครงสร้างดังนี้

3. Group Activity 3.1 Grammar practice – ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นกลุ่มย่อย 5 – 6 คน และแจกโยคให้นักเรียนช่วยกันคิด เติมคาในช่องว่าง โดยใช้รูปแบบประโยคบอกเล่า Past Simple tense เช่น 3.2 ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปคาตอบ ด้วยเหตุและผล และส่งตัวแทนอกมาเขียนประโยคของกลุ่มตัวเอง บนกระดาน กลุ่มละ 2 ประโยค 4. Feedback 4.1 ครูให้นักเรียนทุกคนอ่านประโยคของเพื่อนๆที่เขียนบนกระดานทีล ะกลุ่มเพื่อช่วยกันตรวจคาตอบ และและ ช่วยกันปรับแก้หากประโยคไม่ถูกต้อง 4.2 ครูให้นักเรียนเลือกจดประโยคใหม่ที่ไม่ใช่ของกลุ่มตนเอง บนกระดานจานวน 5 ประโยคลงสมุด

4.3 ระหว่างการทาแบบฝึกหัด ครูเดินสารวจการทางานของนักเรียนเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ไม่เข้าใจและทาไม่ได้ และกล่าวชมเชยนักเรียนที่ลายมือสวย เขียนงานเป็นระเบียบเพื่อให้กาลังใจและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียนคนอื่นๆ ในบางโอกาศอาจมีการเสริมแรงด้วย proud sticker ติดลงแบบฝึกหัดหรือปกเสื้อ เพื่อเป็นการสร้างความภูมิใจ/ คุณค่าให้นักเรียน และสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ

5

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้างประโยค Past Simple ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยค Past Simple ได้ ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ (A)

แต่งประโยคจากคาที่กาหนดให้

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ถูกต้องร้อยละ 70 จากข้อคาถาม ถูกต้อง 3 ใน 5 ประโยค

จานวนนักเรียนที่ส่งงานสมุด

ร้อยละ 70

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล ถาม-ตอบคาถาม

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Past Simple with positive 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 ประโยค Past Simple ได้ถูกต้อง (K) สามารถบอกโครงสร้ างประโยคอย่างง่าย S+V.2 ของ Past Simple พร้ อมคาบอก เวลาในประโยคได้ ถกู ต้ อง 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยค Past นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 Simple ได้ถูกต้อง (P) สามารถทาแบบฝึ กหัดเติมและแต่ง ประโยคอดีตได้ ถกู ต้ อง 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 (A) มีความมุ่งมั่นในการทางาน ทาแบบฝึกหัด เสร็จตามเวลากาหนด

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม

-

-

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Past Simple with positive ในคาบนี้พบว่า - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย ปรบมือ และให้รางวัล proud sticker กับนักเรียนที่ทางานเป็นระแบบลายมือสวย

ลงชื่อ……………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Past simple with negative form 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้างประโยคปฏิเสธ Past Simple ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยคประโยคปฏิเสธ Past Simple ได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smartboard 2. Power point presentation เรื่อง Talk about Past event 3. Student book, Super Kids 4. Activity book, Super Kids 5. Laptop 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Past simple with negative form กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ CL (Cooperative Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ (5 -10 นาที) - Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง - Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. Preparation 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูชี้แจงนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียนในคาบนี้ Past Simple with negative sentence ประโยคอดีตในรูป ประโยคปฏิเสธ เพื่อให้เล่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล้วว่าไม่ได้ทาอะไร 1.3 ครูตั้งคาถาม Who can tell me, what did you forget to do this morning? ให้นักเรียนช่วยกันตอบ ข้อมูลตนเองหรือคนรอบข้างที่นักเรียนรู้ จากนั้นครูเขียนขึ้นบนกระดาน ประมาน 5 ประโยค ให้นักเรียนไว้สังเกต และเรียนรู้จากเนื้อหาคาอธิบายต่อไป

7

2. Content Presentation 2.1 Grammar lesson - ครูเปิด power point presentation เรื่อง Past Simple tense with negative sentence ให้นักเรียนศึกษาพร้อมกับอธิบายโครงสร้างดังนี้

3. Group Activity 3.1 Grammar practice – ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นกลุ่มย่อย 5 – 6 คน และแจกโยคให้นักเรียนช่วยกันคิด เติมคาในช่องว่าง โดยใช้รูปแบบประโยคบอกเล่า Past Simple tense เช่น 3.2 ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปคาตอบ ด้วยเหตุและผล และส่งตัวแทนอกมาเขียนประโยคของกลุ่มตัวเอง บนกระดาน กลุ่มละ 2 ประโยค ครูกล่าวชมเชยนักเรียนที่ออกมานาเสนอ 4. Feedback 4.1 ครูให้นักเรียนทุกคนอ่านประโยคของเพื่อนๆที่เขียนบนกระดานทีล ะกลุ่มเพื่อช่วยกันตรวจคาตอบ และและ ช่วยกันปรับแก้หากประโยคไม่ถูกต้อง 4.2 ครูให้นักเรียนเลือกจดประโยคใหม่ที่ไม่ใช่ของกลุ่มตนเอง บนกระดานจานวน 5 ประโยคลงสมุด

4.3 ระหว่างการทาแบบฝึกหัด ครูเดินสารวจการทางานของนักเรียนเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ไม่เข้าใจและทาไม่ได้ และกล่าวชมเชยนักเรียนที่ลายมือสวย เขียนงานเป็นระเบียบเพื่อให้กาลังใจและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียนคนอื่นๆ ในบางโอกาศอาจมีการเสริมแรงด้วย proud sticker ติดลงแบบฝึกหัดหรือปกเสื้อ เพื่อเป็นการสร้างความภูมิใจ/ คุณค่าให้นักเรียน และสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ

8

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้างประโยคประโยค ถาม-ตอบคาถาม ปฏิเสธ Past Simple ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยคประโยคปฏิเสธ แต่งประโยคจากคาที่กาหนดให้ Past Simple ได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ (A) จานวนนักเรียนที่ส่งงานสมุด 5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Past simple with negative form 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกโครงสร้าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 ประโยคประโยคปฏิเสธ Past Simple สามารถแยกโครงสร้ างประโยคปฏิเสธ ได้ถูกต้อง (K) อย่างง่ายได้ จากตัวอย่างประโยคใน กิจกรรมได้ 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยค นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 ประโยคปฏิเสธ Past Simple ได้ สามารถแต่งประโยคอดีตแบบปฏิเสธอย่าง ถูกต้อง (P) ง่ายตามตัวอย่างได้ 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 (A) สามารถทางานได้ เสร็จแล้ วส่งตามกาหนด

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ถูกต้องร้อยละ 70 จากข้อคาถาม ถูกต้อง 3 ใน 5 ประโยค ร้อยละ 70

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บางคนยังใช้คาปฏิเสธได้ไม่ถูกต้อง

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บางคนยังใช้คาปฏิเสธได้ไม่ถูกต้อง -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Past simple with negative form ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น จัดการเรียนแบบ Active Learning ฝึกให้นักเรียนคิดและนาเสนอเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตัวเอง - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย เดินสารวจให้ความช่วยเหลือนักเรียนขณะทาแบบฝึกหัด

ลงชื่อ……………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Past simple with question form 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้างประโยคคาถาม Past Simple ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยคประโยคคาถาม Past Simple ได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smartboard 2. Power point presentation เรื่อง How long does it take to get to? 3. Internet Signal 4. Student book, Super Kids 5. Activity book, Super Kids 6. www.wheelofname.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Past simple with question form กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Active Learning วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ CL (Cooperative Learning)  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ (5 -10 นาที) - Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity (ท่องคาศัพท์ยามเช้า) - Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. Preparation 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูชี้แจงนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียนในคาบนี้ Past Simple with negative sentence ประโยคอดีตในรูป ประโยคปฏิเสธ เพื่อให้เล่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล้วว่าไม่ได้ทาอะไร 1.3 ครูตั้งคาถาม Who can tell me, what did you forget to do this morning? ให้นักเรียนช่วยกันตอบ ข้อมูลตนเองหรือคนรอบข้างที่นักเรียนรู้ จากนั้นครูเขียนขึ้นบนกระดาน ประมาน 5 ประโยค ให้นักเรียนไว้สังเกต และเรียนรู้จากเนื้อหาคาอธิบายต่อไป

10

2. Content Presentation 2.1 Grammar lesson - ครูเปิด power point presentation เรื่อง Past Simple tense with question sentence ให้นักเรียนศึกษาพร้อมกับอธิบายโครงสร้างดังนี้

3. Group Activity 3.1 Grammar practice – ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นกลุ่มย่อย 5 – 6 คน และแจกโยคให้นักเรียนช่วยกันคิด เติมคาในช่องว่าง โดยใช้รูปแบบประโยคบอกเล่า Past Simple tense เช่น 3.2 ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปคาตอบ ด้วยเหตุและผล และส่งตัวแทนอกมาเขียนประโยคของกลุ่มตัวเอง บนกระดาน กลุ่มละ 2 ประโยค 4. Feedback 4.1 ครูให้นักเรียนทุกคนอ่านประโยคของเพื่อนๆที่เขียนบนกระดานทีล ะกลุ่มเพื่อช่วยกันตรวจคาตอบ และและ ช่วยกันปรับแก้หากประโยคไม่ถูกต้อง 4.2 ครูให้นักเรียนเลือกจดประโยคใหม่ที่ไม่ใช่ของกลุ่มตนเอง บนกระดานจานวน 5 ประโยคลงสมุด

4.3 ระหว่างการทาแบบฝึกหัด ครูเดินสารวจการทางานของนักเรียนเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ไม่เข้าใจและทาไม่ได้ และกล่าวชมเชยนักเรียนที่ลายมือสวย เขียนงานเป็นระเบียบเพื่อให้กาลังใจและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียนคนอื่นๆ ในบางโอกาศอาจมีการเสริมแรงด้วย proud sticker ติดลงแบบฝึกหัดหรือปกเสื้อ เพื่อเป็นการสร้างความภูมิใจ/ คุณค่าให้นักเรียน และสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ

11

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

1. นักเรียนวสามารถบอกโครงสร้างประโยคคาถาม ถาม-ตอบคาถาม Past Simple ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถแต่งประโยคประโยคคาถาม แต่งประโยคจากคาที่กาหนดให้ Past Simple ได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ (A) จานวนนักเรียนที่ส่งงานสมุด

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ถูกต้องร้อยละ 70 จากข้อคาถาม ถูกต้อง 3 ใน 5 ประโยค ร้อยละ 70

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Past simple with question form 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. นักเรียนวสามารถบอก นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โครงสร้างประโยคคาถาม สามารถแยกโครงสร้ างประโยคปฏิเสธอย่างง่าย บางคนยังสับสนคาถาม WhPast Simple ได้ถูกต้อง (K) ได้ จากตัวอย่างประโยคในกิจกรรมได้ Question and Yes/No Question จึงทาให้วางตาแหน่งคาในโครงสร้างผิด 2. นักเรียนสามารถแต่ง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประโยคประโยคคาถาม สามารถแต่งประโยคอดีตแบบปฏิเสธอย่างง่าย บางคนยังสับสนคาถาม WhPast Simple ได้ถูกต้อง (P) ตามตัวอย่างได้ Question and Yes/No Question จึงทาให้วางตาแหน่งคาในโครงสร้างผิด 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 การเรียนรู้ (A) สามารถทางานได้ เสร็จแล้ วส่งตามกาหนด 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Past simple with question form ในคาบนี้พบว่า - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย เดินสารวจให้ความช่วยเหลือนักเรียนขณะทาแบบฝึกหัด และให้ Proud Sticker กับนักเรียนที่ทางานเป็นระเบียบลายมือสวย

ลงชื่อ……………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Afterlife จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 3 วันที่ 31 – 4 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ 2565 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์ 1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 2 มาตรฐานที่ 2.1

ภาษาและวัฒนธรรม เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและนาไปใช้ ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 2. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล/ วันสาคัญ/ งานฉลอง/ ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา สาระแกนกลาง ข้อมูลและความสาคัญของเทศกาล / วันสาคัญ / งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ของ เจ้าของภาษา เช่น วันคริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ วันวาเลนไทน์ เครื่องแต่งกาย ฤดูกาล อาหาร เครื่องดื่ม สาระที่ 2 มาตรฐานที่ 2.2 ตัวชี้วัด 1 สาระแกนกลาง

ภาษาและวัฒนธรรม เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคา ตามโครงสร้างประโยคของ การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Heart, Home, Hope

2

จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C1 คิดอย่างมีวิจารณญาณและมีทักษะในการแก้ปัญหา C2 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนได้ความรู้จากการร่วมกิจกรรมวัน Halloween (K, A) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้รูปแบบกริยาช่อง 2 (อดีต) (K) 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถเปลี่ยนกริยาช่อง 1 เป็นกริยาช่อง 2 ได้อย่างถูกวิธี (P) 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศคติที่ดีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนรู้จักกริยาอปกติที่ควรรู้ 50 คา (K) 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถผันกริยาอปกติที่ควรรู้ได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติดีในการเรียนภาษาอังกฤษ (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Hello! Halloween 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนได้ความรู้จากการร่วมกิจกรรมวัน Halloween (K,A) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Power Point Presentation “All about Halloween” 3. บัตรภาพ 4. www.mentimeter.com/app 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Hello! Halloween กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Read aloud ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงและเรียนรู้ความหมายคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์โรงเรียน 1. ขั้นทบทวนประสบการณ์ ครูทักทายนักเรียนด้วย Halloween Theme จากนั้นใช้คาถามชวนคิดเพื่อทบทวนประสบการณ์ วัน Halloween จากนั้นครูชี้ไปยังเครื่องประดับหรือแสดงบัตรภาพให้นักเรียนทายคาศัพท์ที่เกี่ยวของกับ วัน Halloween ประมาน 5-10 คา เมื่อนักเรียนตอบได้ครูกล่าวชมเชยและพูด Trick or Treat เพื่อให้ลูกอม 2. ขั้นกิจกรรม 2.1 ครูจัดกิจกรรม Halloween hits the road. ให้นักเรียนนาอุปกรณ์ที่เตรียมมา เช่น เครื่องแต่งกาย ถังฟักทอง ลูกอม หน้ากากผี เป็นต้น เดินไปตามห้องเป็นต่างๆกลุ่มละ 2- 3 ห้องเรียนไม่ซ้ากัน โดยการเข้าไปแต่ละห้องครูให้ นักเรียนพูดประโยค Halloween ที่แต่ละกลุ่มเตรียมไว้ พูดกับนักเรียนชั้นนั้นๆพร้อมทั้งทากิจกรรม Trick or Treat แจกลูกอม 2.2 ครูชี้แจงกติกามารยาทที่ควรและไม่ค วรทาในการทากิจกรรม และเวลาในการทากิจกรรมให้แล้วเสร็จใน 20 นาที หากกลุ่มใดทาสาเร็จครูมีรางวัลความมุ่งมั่นตั้งใจรู้วินัยให้กลุ่มนั้นๆ 2.3 ก่อนครูจ ะปล่อยนักเรียนแต่ล ะกลุ่มเดินออกจากห้องเพื่อไปทากิจ กรรม ครูมีการทดสอบให้แต่ล ะกลุ่มพูด ประโยค ของตนเองให้เสียงดังฟังชัด เช่น Happy Halloween, Be afraid...be very afraid., On Halloween, witches come true., Trick or treat, bag of sweets, ghosts are walking down the street. เป็นต้น 3. ขั้นสะท้อนความคิด เมื่อหมดเวลากิจกรรมกลุ่มใดทาสาเร็จสามารถกลับมาได้ทันเวลาครูมีรางวัลความมุ่งมั่นตั้งใจรู้วินัยให้ กลุ่มนั้นๆ จากนั้นครูให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวัน Halloween และกิจกรรม Halloween hits the road. ครูกล่าวชมเชยนักเรียนที่ร่วมแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งทากิจกรรม Trick or Treat แจกลูกอม 4. ขั้นประเมินผล 4.1 ครูให้นักเรียนประเมินความรู้และความรู้สึกหลังร่วมกิจกรรม Halloween hits the road. ในวันนี้ ใน www.mentimeter.com/app

4

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้ความรู้จากการร่วมกิจกรรม วัน Halloween (K,A) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อวิชา ภาษาอังกฤษ (A)

ถาม – ตอบ – ร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

ถาม – ตอบ – ร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Hello! Halloween 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้ความรู้จากการ นักเรียนชั้นปรถศึกษาปีที่ 6 สามารถ ร่วมกิจกรรมวัน Halloween (K,A) เชื่อมโยงความรู้และประสบกาณณ์ในการ ทากิจกรรมได้ดี 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อ นักเรียนชั้นปรถศึกษาปีที่ 6 มีความใฝ่ วิชาภาษาอังกฤษ (A) เรียนรู้และมีความตื่นตัวในการทากิจกรรม

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Hello! Halloween ในคาบนี้พบว่า - อุปสรรค เวลาในการทากิจกรรมมีจากัด - จุดเด่น นักเรียนได้สัมผัสบรรยากาศ Halloween และได้ทากิจกรรม Trick or Treat จริง - วิธีการเสริมแรง กล่าวคาชมเชยและให้ลูกอม

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

5

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Past Verb : regular verbs 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้รูปแบบกริยาช่อง 2 (อดีต) (K) 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถเปลี่ยนกริยาช่อง 1 เป็นกริยาช่อง 2 ได้อย่างถูกวิธี (P) 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศคติที่ดีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smartboard 2. Power point presentation เรื่อง How long does it take to get to? 3. Internet Signal 4. Student book, Super Kids 5. Activity book, Super Kids 6. www.wheelofname.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Past Verb : regular verbs กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ PLEAN model by Ms.Ja วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ (5 -10 นาที) - Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity (ท่องคาศัพท์ยามเช้า) 1. Play 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please 1.2 ครูเริ่มบทเรียนด้วยกิจกรรม Then or Now กิจกรรมเกมออนไลน์ ให้นักเรียนอ่านคากริยาและเลือกข้างว่าคา กริยานั้นๆเป็นกริยาอดีต (Past) หรือปัจจุบัน (Present) โดยใช้สื่อ https://kahoot.com/schools-u/ เพื่อเป็นการประเมินความรู้พื้นฐานเรื่องคากริยาอดีต (Past Verbs) หลังจากจบกิจกรรม ครูกล่าวชมเชยนักเรียนที่มีผลคะแนนการตอบคาถามได้ร้อย 60 ขึ้นไป และให้กาลังใจนักเรียนที่ได้คะแนนน้อยกว่า ร้อยละ 60 โดยให้นักเรียนที่ได้คะแนนร้อยละ 60 ขึ้นไปทามือ mini heart ส่งให้เพื่อนๆและพูดว่า I believe, you can do it next time if you study more. จากนั้นปรบมือให้กาลังใจ

6

2. Learn ครูชี้แจงนักเรียนถึงเนื้อหาบทเรียนในคาบนี้เรื่อง Past Verbs คากริยาอดีต ที่ใช้พูดถึงเรื่องราวหรือเหตุการณ์ ที่ผ่านไปแล้วหรือจบไปแล้ว โดยครูนาคาศัพท์จากกิจกรรมเกมแสดงให้นักเรียนดูและเรียนรู้ไปพร้อมๆกันด้วย คาตอบที่ถูกต้องต้องอีกครั้ง โดยปราศจากการอธิบาย 3. Explore 1.1 Grammar lesson – ครูอธิบายเรื่อง Past Verbs ทั้ง 2 รูปแบบได้แก่ regular และ irregular โดยสังเขป Regular Verb คือ กริยาที่เติม -ed ข้างท้าย เมื่อผันเป็นกริยาช่องที่ 2 และ 3 หรือถ้าคากริยาคาไหน ลงท้ายด้วย e ก็เติม d ได้เลย เช่น play ---» played listen ---» listened copy ---» copied chop ---» chopped Irregular Verb หรือกริยาไม่ปกติ คือ กริยาที่เปลี่ยนรูปไปเลยทั้ง 3 ช่อง หรือไม่ก็เขียน เหมือนกันทุกช่อง เช่น be ---» was/were see ---» saw grow ---» grew give ---» gave think ---» thought throw ---» threw drive ---» drove ride ---» rode 4. Active thinking 1.2 Grammar practice - ครูจัดกิจกรรมสรุปบทเรียนเรื่อง Past Verbs ที่เรียนในคาบนี้ด้วยกิจกรรมเกม ออนไลน์อีกครั้ง ให้นักเรียนอ่านคากริยาและเลือกข้างว่าคากริยานั้นๆเป็น regular or irregular verbs โดยใช้ สื่อ https://kahoot.com/schools-u/ หลังจากจบกิจกรรม ครูกล่าวชมเชยนักเรียนที่มีผลคะแนนการตอบ คาถามได้ร้อย 60 ขึ้นไป และให้กาลังใจนักเรียนที่ได้คะแนนน้อยกว่าร้อยละ 60 โดยให้นักเรียนที่ได้คะแนน ร้อยละ 60 ขึ้นไปทามือ mini heart ส่งให้เพื่อนๆและพูดว่า I believe, you can do it next time if you study more. จากนั้นปรบมือให้กาลังใจ 5. Notice ครูใช้คาถามกระตุ้นความคิดฝึกสังเกตความรู้ที่ได้รับจากกิจกรรมเกม โดยสุ่มถามนักเรียนถึงความรู้ที่ได้จากการทา กิจกรรมนี้ 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 เกณฑ์การผ่าน วิธีการและเครื่องมือ จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล ในการวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้รูปแบบกริยาช่อง 2 (อดีต) (K) เล่นเกมตอบคาถาม ตอบถูกต้องร้อยละ 70 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถเปลี่ยนกริยาช่อง 1 เป็นกริยา ช่อง 2 ได้อย่างถูกวิธี (P) 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศคติที่ดีต่อการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ (A)

เล่นเกมตอบคาถาม

ตอบถูกต้องร้อยละ 70

จานวนนักเรียนที่ร่วมเล่นเกม ตอบคาถาม

ร้อยละ 90

7

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Past Verb : regular verbs 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้รูปแบบกริยา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 ช่อง 2 (อดีต) (K) บอกรูปแบบกริยาอดีตได้ 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถเปลี่ยนกริยา ช่อง 1 เป็นกริยาช่อง 2 ได้อย่างถูกวิธี (P) 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศคติที่ดีต่อการ เรียนรู้ภาษาอังกฤษ (A)

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 สามารถเปลี่ยนกริยาเป็นรูปอดีตได้อย่าง ถูกต้องตามรูปแบบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 มีทศั นคติที่ดีต่อการเรียนและร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ที่ครูจัดขึ้น

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Past Verb : regular verbs ในคาบนี้พบว่า - อุปสรรค นักเรียนบางคนไม่มีสัญญาณ internet ครูจึงให้เล่นเป็นคู่ - จุดเด่น จัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่อเกม kahoot มาช่วยให้บทเรียนมีความน่าสนใจ กระตุ้นการเรียนรู้ผู้เรียน - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย ปรบมือ และให้เพื่อนนักเรียนกล่าวคาให้กาลังใจ

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

8

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Past Verb : irregular verbs 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนรู้จักกริยาอปกติที่ควรรู้ 50 คา (K) 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถผันกริยาอปกติที่ควรรู้ได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติดีในการเรียนภาษาอังกฤษ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smartboard 2. Power point presentation เรื่อง How long does it take to get to? 3. Internet Signal 4. Student book, Super Kids 5. Activity book, Super Kids 6. www.wheelofname.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Past Verb : irregular verbs กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Lecture Method วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ กระบ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ (5 -10 นาที) - Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity (ท่องคาศัพท์ยามเช้า) - Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ - Speak out ครูสรุปกิจกรรมประจาสัปดาห์ ด้วยการถามนักเรียนจากประโยคที่ให้ไว้เพื่อให้นักเรียนตอบ และให้ นักเรียนถามครูกลับและครูตอบ จากนั้นครูเสริมแรงกิจจกรม Speak out ด้วยการให้รางวัลนักเรียนที่ไปฝึกพูด สนทนาบ่อยครั้งที่สุดจากหลักฐานลายเซนรับรองของครู และให้เพื่อนๆร่วมปรบมือแสดงความยินดี 1. ขั้นทบทวนความรู้ 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูทบทวน Regular verbs กริยาปกติเติม ed ที่เรียนไปในคาบที่แล้วด้วยกิจกรรม online BINGO ครูให้ online card นักเรียนคู่ละ 1 ใบ ให้นักเรียนช่วยกันคิดวิเคราะห์ว่าคาในใบของนักเรียนมีวิธีการเปลี่ยนเป็น กริยาอดีตตรงกันหรือไม่ คู่ใด BINGO 3 คู่แรก ครูกล่าวชมเชยและเพื่อนปรบมือแสดงความยินดี

9

2. รู้ดาเนินการสอน 2.1 Grammar lesson ครูอธิบายนักเรียนเพิ่มเติมเรื่อง Past Verbs รูปแบบ Irregular verbs กริยาอปกติ เมื่อจะ เปลี่ยนเป็นอดีต จะไม่เติม ed แต่จะเปลี่ยนรูปไปเลยแต่ความหมายยังคงเดิม ดังนี้ Irregular verb หรือกริยาไม่ปกติ คือกริยาที่เมื่อทาเป็นรูปอดีตหรือกริยาช่องที่ 2 จะไม่มีการเติม ed แต่จะมีการ เปลี่ยนรูป การเปลี่ยนรูปมี 3 รูปแบบด้วยกันคือ - Irregular verb ที่มี past tense (กริยาช่องที่ 2) และ past participle (กริยาช่องที่ 3) เหมือนกัน เช่น tell told told บอก find found found ค้นหา - Irregular verb ที่แตกต่างกันทั้งสามช่อง เช่น speak spoke spoken พูด take took taken นาไป, เอาไป - Irregular verb ที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือเหมือนกันทั้งสามช่อง เช่น put put put วาง shut shut shut ปิด 2.2 ครูเปิดสื่อเพลง 50 common irregular verbs must know ให้นักเรียนฟังและฝึกร้องตามเพื่อเพิ่มวิธีการจา จากเพลงและเป็นการกระตุ้นการท่องจาโดยใช้เพลงเป็นสื่อ https://www.youtube.com/watch?v=65ZcpVGt2NY 3. ขั้นประยุกต์ใช้ ครูแจกเอกสารใบความรู้เรื่อง 50 common irregular verbs must know ให้นักเรียนฝึกร้องเพลง และท่อง ทบทวนพร้อมกันเป็นจังหวะเพลงก่อนการเริ่มคาบเรียนภาษาอังกฤษครัง้ ต่อๆไป โดยมอบหมายให้นักเรียน 1 คนคอยเคาะจังหวะให้เพื่อนท่องก่อนครูเข้าสอนในคาบเรียนภาษาอังกฤษทุกคาบ 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 เกณฑ์การผ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนรู้จักกริยาอปกติที่ควรรู้ 50 คา (K) บอกคากิริยาอปกติจากเพลงและ บอกคากิริยาอปกติได้มากกว่า เอกสารเสริม 20 คา 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถผันกริยาอปกติที่ควรรู้ได้ (P) ผันคากิริยาอปกติตามเพลงและ ผันคากิริยาอปกติได้มากกว่า เอกสารเสริม 20 คา 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติดีในการเรียนภาษาอังกฤษ (A) จานวนนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมร้อง ร้อยละ 70 เพลง วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

10

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Past Verb : irregular verbs 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนรู้จักกริยาอปกติที่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 ควรรู้ 50 คา (K) ผันคากริยาในเพลงและบอกความหมายได้ ถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถผันกริยา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 อปกติที่ควรรู้ได้ (P) ร้องเพลง Irregular Verbs ได้ 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติดีในการ เรียนภาษาอังกฤษ (A)

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 ร่วมกิจกรรมร้องเพลงและให้ความร่วมมือ ในการทากิจกรรม

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Past Verb : irregular verbs ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น จัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่อเกม Bingo เข้ามาช่วยให้บทเรียนมีความน่าสนใจ กระตุ้นการเรียนรู้ผู้เรียน การใช้สื่อเพลง 50 common irregular verbs must know ช่วยให้ นกั เรี ยนฝึ กจำกริยำ 3 ช่อง - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชยและปรบมือแสดงความยินดีให้กาลังใจ

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง Present Time จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 4 วันที่ 7 – 11 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ 2565 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐานที่ 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 2. เปรียบเทียบความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลงานฉลองและประเพณีของ เจ้าของภาษากับของไทย สาระแกนกลาง การเปรียบเทียบความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลงานฉลองและประเพณี ของเจ้าของภาษากับของไทย สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐานที่ 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 1 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคา ตามโครงสร้างประโยคของ สาระแกนกลาง การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Holy, Home, Hope

2

จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C1 คิดอย่างมีวิจารณญาณและมีทักษะในการแก้ปัญหา C3 ทักษะความร่วมมือและการทางานเป็นทีม ภาวะผู้นา C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนได้ความรู้จากการร่วมกิจกรรมวัน Loy Krathong (K, A) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนบอกหลักการเติม s/es/ies ท้ายคากริยาได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคบอกข้อมูลได้ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นใฝ่เรียนรู้ (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถพูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาและยานพาหนะในการเดินทาง ไปยังสถานที่ต่างๆได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Loy Krathong Festival 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนได้ความรู้จากการร่วมกิจกรรมวันลอยกระทง (K, A) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=bLeHqX_TkJE 3. www.mentimeter.com/app 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Loy Krathong Festival กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Read aloud ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงและเรียนรู้ความหมายคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์โรงเรียน 1. ขั้นทบทวนประสบการณ์ 1.1 ครูทั กทายนักเรียน จากนั้น ครูชูก ระทงประดิษ ฐ์ จ ากเศษวั ส ดุเ หลือใช้และใช้ ค าถามชวนคิดเพื่อทบทวน ประสบการณ์ วันลอยกระทง จากนั้นครูชี้ หยิบชิ้นส่วยในกระทงชูให้นักเรียนดูเพื่อถามค าศัพท์ ให้นักเรียนทาย คาศัพท์ที่เกี่ยวของกับประมาน 5-10 คา เมื่อนักเรียนตอบได้ครูกล่าวชมเชย 1.2 ครูเปิดเพลงลอยกระทงภาษาอังกฤษจากสื่อ https://www.youtube.com/watch?v=bLeHqX_TkJE ให้ นักเรียนร้องตาม จากนั้นถามความหมายของเพลงให้นักเรียนช่วยกันคิดและตอบ 2. ขั้นกิจกรรม 2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มทากิจกรรมกลุ่ม โดยช่วยกันออกแบบกระทง และช่วยกันประดิษฐ์กระทง โดยการประดิษฐ์ กระทงจากลัง ตกแต่งด้วยวัสดุเหลือใช้และย่อยสลายง่าย ทั้งนี้มีเหตุผลเพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ให้แม่น้าเกิด ความเน่าเสีย กิจกรรมนี้นักเรียนได้ช่วยกันคิด ปฎิบัติร่วมกัน ทาให้นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มได้แสดงความสามารถ ได้แสดงความคิด นักเรียนมีความรักใคร่ สามัคคี ปรองดอง ยอมรับฟังความคิดเห็น ความสามารถ คุณค่าของเพื่อน แต่ละคน 2.3 หลังจากนักเรียนแต่ละกลุ่มประดิษฐ์กระทงเสร็จเรียบร้อย ให้นักเรียนนากระทงของตนเองมานาเสนอให้เพื่อนดู และให้นักเรียนฝึกพูดนาเสนอประโยคสั้นตามรูปแบบตามตัวอย่าง This krathong is made of cardboard and decorated with flowers. Inside, there are one candle and three incenses . พร้อมทั้งให้เพื่อนในห้อง มีส่วนรวมในการประเมินผลงานการประดิษฐ์กระทงของเพื่อนว่ากลุ่มไหนประดิษฐ์กระทงได้สวยงามและสร้างสรรค์ 3. ขั้นสะท้อนความคิด ครูใช้คาถามที่หลากหลายถามให้นักเรียนเกิดทักษะการคิด เช่น  When is Loy Krathong Day ? Loy Krathong Day is on ……………..  What are you going to do on Loy Krathong Day?  What Krathong is made of?

4   

What does kratong usually contain? Who are you going to float Krathong with? Where are you going to float Krathong ?

4. ขั้นประเมินผล 4.1 ครูให้นักเรียนประเมินความรู้และความรู้สึกหลังร่วมกิจกรรมในวันนี้ ใน www.mentimeter.com/app 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้ความรู้จากการร่วมกิจกรรม วันลอยกระทง (K, A) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อวิชา ภาษาอังกฤษ (A)

ถาม – ตอบ – ร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

ถาม – ตอบ – ร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Loy Krathong Festival 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้ความรู้จากการ นักเรียนชั้นปรถศึกษาปีที่ 6 สามารถ ร่วมกิจกรรมวันลอยกระทง (K, A) เชื่อมโยงความรู้และประสบกาณณ์ในการ ทากิจกรรมได้ดี 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อ นักเรียนชั้นปรถศึกษาปีที่ 6 มีความใฝ่ วิชาภาษาอังกฤษ (A) เรียนรู้และมีความตื่นตัวในการทากิจกรรม

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Loy Krathong Festival ในคาบนี้พบว่า - อุปสรรค เวลาในการทากิจกรรมมีจากัด - จุดเด่น นักเรียนได้เรียนรู้ประเพณีไทยโดยตรง - วิธีการเสริมแรง กล่าวคาชมเชย

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Present Sim. with adding “s/es/ies” 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนบอกหลักการเติม s/es/ies ท้ายคากริยาได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคบอกข้อมูลได้ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. https://www.baamboozle.com/games 3. Power Point Presentation เรื่องการเติม s/es/ies 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Present Sim. with adding “s/es/ies” กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ PLEAN model by Ms.Ja วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูให้นักเรียนอ่าน สะกด ออกเสียงคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ จานวน 5 คา พร้อมกันโดยครูให้นักเรียน ฟังและอ่านตามในรอบแรก จากนั้นจึงให้นักเรียนฝึกอ่านพร้อมกันด้วยตนเอง 1. Play 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How’s it going? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How are things going? S : I’m …………… thank you 1.2 Grammar practice ครูจัดกิจกรรมเกมเปิดป้ายได้แต้มจากสื่อการสอน https://www.baamboozle.com/games ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มใหญ่ตามแถวที่นั้งเรียน จากนั้นครูอธิบาย กติกาการเล่นแต่ๆไม่อธิบายเนื้อหาใดใดให้นักเรียนเล่นโดยใช้ความรู้พื้นฐาน ครูให้นักเรียนอาสาสมัครเปิดป้ายและ ตอบว่ากริยาที่ต้องนามาเติมในประโยคต้องเติม s/es/ies หากตอบถูกจะได้คะแนนจากแผ่นป้ายที่ซ่อนอยู่ ครูจัด กิจกรรมจนครบ 8 ป้าย เมื่อจบกิจกรรมแถวใดได้คะแนนมากสุดครูกล่าวคาชมเชยและปรบมือให้ และให้แถวที่มี คะแนนมากสุดกล่าวคาให้กาลังใจแถวอื่นๆ 2. Learn Grammar practice ครูเปิดประโยคในกิจกรรมก่อนหน้าอีกครั้งเพื่อการเติม s/es/ies ที่นักเรียนได้ตอบไปใน กิจกรรมทีละประโยคให้นักเรียนเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน

7

3. Explore 3.1 Grammar lesson ครูอธิบายเนื้อหาการเติม s/es/ies โดยละเอียดอีกครั้งจากสื่อ Power Point Presentation ดังนี้ คากริยาช่องที่ 1 นั้นจะมีการเติม s หรือ es ถ้าหากประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) แต่ถ้า ประธานเป็น I, You หรือประธานพหูพจน์ (You (หลายคน), We, They) ให้คงรูปคากริยานั้น ๆ ไว้เช่นเดิม เช่น  I go to university by bus every morning. **ประโยคนี้ประธานคือ I แม้จะเป็นเอกพจน์แต่เป็นข้อยกเว้น ดังกริยา go จึงไม่ต้องเติม s หรือ es  He plays guitar very well. **ประโยคนี้ประธานคือ He เป็นเอกพจน์ กริยาคือ play จึงต้องเติม s  They enjoy playing the football. **ประโยคนี้ประธานคือ They เป็นพหูพจน์ กริยาคือ enjoy จึงไม่ต้องเติม s หรือ es 3.2 ความรู้เพิ่มเติม 1 : หลักการเติม s,es นั้นง่ายนิดเดียว คือ คากริยาที่ลงท้ายด้วย ch, o, s, ss, sh, x ให้เติม es เมื่อประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) เช่น  She washes her car. ประธานของประโยคคือ She ซึ่งเป็นเอกพจน์ กริยาคือ wash ที่ลงท้ายด้วย sh จึงต้องเติม es ต่อท้าย 3.3 ความรู้เพิ่มเติม 2 : หากคากริยานั้นลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es ท้ายคากริยานั้น เช่น study - studies, fly - flies, carry - carries เป็นต้น แต่มีข้อยกเว้นคือ ถ้าหากหน้า y เป็นสรtให้เติม s ได้ทันที เช่น play - plays, buy - buys, stay - stays 4. Active thinking Grammar practice ครูใช้สื่อประโยคจาก https://www.baamboozle.com/games ให้นักเรียนอ่านและ ช่วยกันเติมคากริยาในช่องว่างอีกครั้ง โดยรอบนี้ไม่มีการแข่งแต่ร่วมกันคิดหลังจากได้รับความรู้ในบทเรียน 5. Notice ครูขออาสาสมัครนักเรียน 3 – 5 คน บอกความรู้ที่ได้เรียนในวันนี้โดยไม่ซ้ากัน ครูกล่าวคาชมทุกครั้งที่นักเรียนมี จิตอาสาในการตอบหรือร่วมแสดงความคิดเห็น 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกหลักการเติม s/es/ies ท้ายคากริยาได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคบอกข้อมูลได้ ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นใฝ่เรียนรู้ (A)

ถาม-ตอบจากกิจกรรมการเรียนรู้

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70

ถาม-ตอบจากกิจกรรมการเรียนรู้

ร้อยละ 70

ถาม-ตอบจากกิจกรรมการเรียนรู้

ร้อยละ 70

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

8

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Present Sim. with adding “s/es/ies” 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนบอกหลักการเติม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บาง s/es/ies ท้ายคากริยาได้ (K) สามารถบอกหลักการเติม s/es/ies กับ คนยังจาข้อยกเว้นการเติม s/es/ies ประโยคที่ประธานเป็ฯเอกพจน์ได้ ไม่ได้ 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคบอก นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บาง ข้อมูลได้ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ (P) สามารถแต่งประโยคโดยใช้ประธานกริยา คนยังจาข้อยกเว้นการเติม s/es/ies สัมพันธ์กันได้ถูกต้อง ไม่ได้ 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นใฝ่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 เรียนรู้ (A) มีความพยายามในการตอบคาถามและ ร่วมแสดงความคิดเห็น 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Present Sim. with adding “s/es/ies” ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น ใช้สื่อเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการเรียนรู้ให้มีความน่าสนใจ - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชยและปรบมือ

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย How long does it get to? 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถพูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาและยานพาหนะในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smartboard 2. Power point presentation เรื่อง How long does it get to? 3. Internet Signal 4. Student book, Super Kids 5. Activity book, Super Kids 6. smartphone 7. Flash card : Interesting places in Bangkok 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 How long does it get to? กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Small group discussion วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ  Speak out ครูสรุปกิจกรรมประจาสัปดาห์ ด้วยการถามนักเรียนจากประโยคที่ให้ไว้เพื่อให้นักเรียนตอบ และ ให้นักเรียนถามครูกลับและครูตอบ จากนั้นครูเสริมแรงกิจจกรม Speak out ด้วยการให้รางวัลนักเรียนที่ไปฝึก พูดสนทนาบ่อยครั้งที่สุดจากหลักฐานลายเซนรับรองของครู และให้เพื่อนๆร่วมปรบมือแสดงความยินดี 1. Warm up! 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูเริ่มบทเรียนด้วยการพูดเล่าเหตุการณ์ในชีวิตประจาวันเกี่ยวกับเวลาในการเดินทางมาทางานที่โรงเรียนของครู ดังนี้

- This morning, I arrived at school at 6.50 am. - It takes 1 hour and 10 minutes to get to school by car. - Sometimes, It takes 40 minutes by grab bike.

10

1.3 เมื่อครูยกตัวอย่างจากการเล่าเรื่องแล้วครูสุ่มถามคาถามนักเรียนเพื่อกระตุ้นความใฝ่เรียนรู้และประเมินความรู้ พื้นฐานเบื้องต้นเกี่ยวกับความรู้และความเข้าใจในเรื่องที่กาลังจะเรียน ด้วยคาถาม - How about you? How long does it take to school from your home? ครูรอนักเรียนอาสาสมัครพูดตอบสักพัก หรือหากมีนักเรียนตอบ ครูให้นักเรียนตอบเป็นแนวทางเพื่อนในห้อง สัก 3-4 คน เมื่อใครตอบได้ครูกล่าวชมเชย จากนั้นจึงเข้าสู่เนื้อหาบทเรียน 2. Content Presentation 2.1 ครูชี้แจงนักเรียนถึงเนื้อหาบทเรียนในคาบนี้เรื่องการบอกเวลาการเดินทางด้วยยานพาหนะแต่งๆไปยังสถานที่ใด สถานที่หนึ่ง 2.2 ครูเปิด power point presentation, super kids 6, page 7 ให้นักเรียนศึกษาและฝึกอ่านออกเสียงคา และพูดประโยคสนทนา 2-3 รอบ ตามคลิปเสียงเจ้าของภาษา 2.3 Grammar lesson - ครูนาเสนอประโยค It takes ……….. minute(s) / hour(s) to get to ……….. by ………../on foot. บนกระดาน เพื่ออธิบายโครงสร้างและการใช้หน่วยเวลาในการเดินทาง สถานที่และ preposition กับคาศัพท์ยานพาหนะ 2.4 Grammar practice - ครูให้ใช้คาถาม How long does it take to school from your home? อีกครั้ง กระตุ้นความใฝ่เรียนรู้ให้นักเรียนช่วยกันบอกข้อมูลของตนเอง จากนั้นครูเขียนข้อมูลลงกระดานให้นักเรียนสังเกต เรียนรู้ประโยค 3. Wrap up! 3.1 ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย 4-5 คน ตามความเหมาะสม จากนั้นครูแจงบั ตรคาสถานที่ท่องเที่ยวใน กรุงเทพมหานครให้แต่ละกลุ่มช่วยกันหาข้อมูลเวลาการเดินทางจากโรงเรียนไปยังสถานที่นั้นๆ ให้นักเรียนฝึก ถามตอบกันในกลุ่ม และออกมาเรียนข้อมูลคาถามคาตอบของตนเองบนกระดาน 3.2 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทาแบบฝึกหัดทบทวนบทเรียนในหนังสือแบบฝึกหัด Activity book, page 5 ร่วมกัน เพื่อช่วยกันคิดและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่ม 3.3 ระหว่างการทาแบบฝึกหัด ครูเดินสารวจการทางานของนักเรียนเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ไม่เข้าใจและทาไม่ได้ และกล่าวชมเชยนักเรียนที่ลายมือสวย เขียนงานเป็นระเบียบเพื่อให้กาลังใจและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียนคนอื่นๆ ในบางโอกาสอาจมีการเสริมแรงด้วย proud sticker ติดลงแบบฝึกหัดหรือปกเสื้อ เพื่อเป็นการสร้างความภูมิใจ/ คุณค่าให้นักเรียน และสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 เกณฑ์การผ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถพูด/เขียนให้ข้อมูล ตรวจแบบฝึกหัดใน Activity book, นักเรียนร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์ เกี่ยวกับเวลาและยานพาหนะในการเดินทางไปยัง Super Kids ความถูกต้องของแบบฝึกหัด สถานที่ต่างๆได้ (K,P) ร้อยละ70 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) ถามตอบจากกิจกรรมวงล้อสุ่ม นักเรียนร้อยละ 70 ถามตอบได้ วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

11

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 How long does it get to? 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถพูด/เขียนให้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาและยานพาหนะใน 80 สามารถบอกข้อมูลการเดินทาง 20 ยังเรียงประโยคและใช้คาแต่ง การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้ (K,P) และทาแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง ประโยคผิด ครูคอยแก้ให้ถูกต้องและ ให้นักเรียนตอบใหม่อีกครั้ง 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ตอบคาถามจากกิจกรรมได้ -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง How long does it get to? ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น จัดการเรียนรู้เชื่อมโยงกับเรื่องจริงในชีวิตประจาวัน เพื่อให้นักเรียนนาไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย ปรบมือ ให้ proud sticker กับนักเรียนที่ลายมือสวย ทางานเป็นระเบียบ

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Our Future Plan จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 5 วันที่ 14 - 15 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ 2565 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์ 1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐานที่ ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด 4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง เพือ่ น ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว สาระแกนกลาง พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐานที่ 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 1 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคา ตามโครงสร้างประโยคของ สาระแกนกลาง การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน

2

ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C1 คิดอย่างมีวิจารณญาณและมีทักษะในการแก้ปัญหา C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยค Future Simple Tense โดยใช้ will ได้ถูกต้อง (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยค Future Simple Tense โดยใช้ be going to ได้ถูกต้อง (K,P) 2. . เพื่อให้นักเรียนมีความุ่งมั่นในการทางาน (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Find Someone who 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart board 2. กิจกรรม Find Someone who…………. 3. https://wheelofnames.com 4. https://wheelofnames.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Find Someone who กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 กระบวนการสร้างเจตคติ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ วิธีการสอนรูปแบบเกม  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity (ท่องคาศัพท์ยามเช้า) 1. ขั้นสังเกต/ รับรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชี้แจงกิจกรรมทบทวนบทเรียนโดยใช้กิจกรรมเกมเป็นฐานการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ Find someone who………. ให้นักเรียนผลพูดภาษาอังกฤษโดยใช้ประโยคในบทเรียน is going to ……….. และ I will…………, เชื่อมโยงกับสถานที่ในบทเรียนและจากประสบการณ์ โดยครูใส่รูปแบบประโยคและรูปภาพสถานที่ไว้ ในโปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com สาหรับเป็นแนวทางในการพูด จากนั้นครูชี้แจงวิธีการเล่น ดังนี้  สารวจที่นั่ง ให้นักเรียนนั่งในที่ของตนเอง หากมีเก้าอี้ใดว่างให้ทาการยกขึ้นเก็บหรือเอาออกชั่วคราว ให้ที่ จานวนที่นั่งมีจานวนเท่ากับผู้เล่น  ครูคือผู้เล่นตัวอย่างในครั้งแรก ครูทาการสุ่มรูปแบบประโยคตัวอย่างเพื่อพูดตาม  ครูพูดประโยคเต็มโดยใช้ชื่อกิจกรรมเกมมาแต่งประโยคร่วมเป็นประธาน ดังนี้ Find someone who ……is going to the beach next summer…………  ผู้ร่วมเล่นเมื่อนฟังประโยคแล้วเริ่มวิเคราะห์ หากเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองได้ทาไปจริง ให้สลับ/หาที่นั่งใหม่ รวมทั้งครูด้วย ผู้เล่มคนใดหาที่นั่งไม่ทันจะต้องออกมาเป็นคนต่อไป

4

2. ขั้นวิเคราะห์ 2.1 ดาเนินกิจกรรมประมาน 10 - 15 นาที (ตามความเหมาะสม) โดยครูร่วมเล่นด้วยเพื่อให้ที่นั่งเต็ม 2.2 ครูคอยสังเกตการณ์การทากิจจกรรมของนักเรียนเพื่อให้คาแนะนาช่วยเหลือนักเรียน ดังนี้ - นักเรียนกลุ่มเก่ง (พูดได้ มีความกล้าแสดงออก) ครูสบตาและยิ้มให้กาลังใจเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มกลาง (พูดได้ อาจไม่คล่อง และไม่ค่อยมั่นใจ) ครูยืนช่วยข้างๆพร้อมกล่าวคาชมเชยเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มอ่อน (พูดไม่ค่อยได้ เขินอาย ขาดความมั่นใจ) ครูให้พูดประโยคที่ให้พูดตามและยืนช่วยข้างๆ 3. ขั้นสรุป 3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และคุณธรรมที่ได้จากกิจกรรมนี้ เช่น ความซื่อสัตย์ในการเล่นตามกติกา หรือซื่อสัตย์ต่อคาตอบตรามความจริงของตนเอง เป็นต้น โดยขออาสาสมัครในการตอบ 3-5 คน 3.2 ครูให้นักเรียนแต่งประโยคโดยแบ่งเป็น Then and Future : I am going to………… และ I will ……….. ลงในสมุด 6 ประโยคส่งครูเป็นการสรุปความรู้ในรูปแบบการเขียนอีกครั้ง 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิต สาธารณะ (A)

บันทึกแบบสังเกตพฤติกรรม

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ 3 ข้อจาก 5 ข้อ

บันทึกแบบสังเกตพฤติกรรม

ผ่านเกณฑ์ 3 ข้อจาก 5 ข้อ

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Find Someone who went to…… 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน 85 สามารถพูดสื่อสารให้ข้อมูลระหว่าง ห้องเรียนได้ (P) การทากิจกรรมได้ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริต นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ และมีจิตสาธารณะ (A) 95 มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิต สาธารณะในการทากิจกรรม

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 15 ยังต้องการความช่วยเหลือให้การ พูดจากครูและตัวอย่างประโยค นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 5 ยังมีนักเรียนทาผิดกติกากิจกรรม ครู จึงเริ่มเกมใหม่ทุกครั้งที่สงั เกตเห็น

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Find Someone who went to……ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น มีการวิเคราะห์นักเรียนกลุ่มเก่ง กลาง อ่อน เพื่อช่วยเหลือในการทากิจกรรมอย่างมั่นใจ - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Future Sim. with “will” 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยค Future Simple Tense โดยใช้ will ได้ถูกต้อง (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. Power Point Presentation 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Future Sim. with “will” วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ กระบวนการเรียนรู้และความเข้าใจ  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 1. ขั้นสังเกต / ตระหนัก 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูเปิดรูปสถานที่ท่องเที่ยวที่ครูวางแผนจะไปช่วงปิดเทอมจากสื่อ Power Point Presentation และพูดคุยให้ นักเรียนฟังโดยใช้โครงสร้างประโยค be going to / will เช่น  Next summer, I am going to the beach with my family.  I am going to make a sand castle.  I will buy some toys to build the sand castle.  How about you? Where are you going to next summer? (ครูเปิดโอกาศให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น หากมีครูรับฟังและกล่าวชมเชยทุกครั้ง) 2. ขั้นวางแผนปฏิบัติ 3.1 ครูแสดงรูปและประโยคอธิบายรูปจากสื่อ Power Point Presentation ให้นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกันและ พูดคุยเกี่ยวกับความหมายของประโยค 3.2 ครูเพิ่มจุดสังเกตโครงสร้างประโยคที่ใช้โดยครูวงกลมที่ be going to / will ให้นักเรียนสังเกต ครูเพิ่มเติมว่าคา เหล่านี้ใช้ในเรื่องอนาคตที่เราวางแผนไว้และไม่ได้วางแผนไว้แต่อาจจะเกิดขึ้น และไม่ระบุว่าคาใดหมายถุงอะไร 3. ขั้นลงมือทา ครูเปิดรูปใหม่พร้อมทั้งประโยคอธิบายรูปใหม่ แต่เว้นคา be going to / will ให้นักเรียนฝึกเติมด้วยตนเอง ให้เวลา 5 นาทีในการฝึกเติม

7

4. ขั้นพัฒนาความรู้ความเข้าใจ 4.1 Grammar lesson ครูเกริ่นนาเรื่อง Future Simple Tense เป็น Tense ที่พูดถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นใน อนาคตอันใกล้ มีโครงสร้างประโยคดังนี้ Subject + will/be going to + Verb with based form (+ compliment). 4.2 Grammar lesson ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่อง will ดังนี้  will เรามักจะคิดถึงเหตุการณ์ที่เป็นอนาคต และก็ความหมายมัน็แปลว่า "จะ" ชั้นจะทาโน่น ทานี่ จะไปที่ นั่นที่นี่ แต่รู้หรือไม่? เราต้องแยกประเด็นว่า ภายใต้คาว่า "จะ" นั้น มันเป็นเหตุการณ์ที่เราได้วางแผนเอาไว้ แล้ว หรือมันเป็นเหตุการณ์ที่เราคิดแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่วงหน้า เพราะเราจะ ใช้ will ในกรณีที่เราคิดตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลย ไม่มีการวางแผนอะไรทั้งนั้น  ใช้กับตัดสินใจแบบทันทีทันใดตามหลักแล้ว เราจะไม่ใช้ will กับสิ่งที่เตรียมการไว้แล้วแล้ว will ใช้จะก็ เมื่อเพื่อนชวนไปเที่ยวหัวหิน แล้วเราตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยว่า I'll go! ฉันจะไป! คือเป็นการตัดสินใจแบบ ทันทีทันใดนั่นเอง  ใช้กับการทานายเราใช้ will เมื่อจะ 'ทานาย' หรือ 'ทาย' อะไรบางอย่างว่าสิ่งนั้นน่าจะเกิดขึ้น  เราใช้ will ตามด้วย Verb with Based Form will + V. based form 5. ขั้นสรุป Grammar practice ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดการเติม will + V. based form เป็นการบ้านทบทวน 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยค Future Simple Tense โดยใช้ will ได้ถูกต้อง (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความุ่งมั่นในการทางาน (A)

ถาม – ตอบ จากกิจกรรมการเรียนรู้

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70

นับจานวนนักเรียนที่ทาแบบฝึกหัดส่ง

ร้อยละ 70

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

8

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Future Sim. with “will” 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยค Future นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 Simple Tense โดยใช้ will ได้ถูกต้อง ใช้ will + based verb แต่งประโยคได้ (K,P) ถูกต้องตามโครงสร้าง 2. เพื่อให้นักเรียนมีความุ่งมั่นในการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 ทางาน (A) ทาแบบฝึกหัดเสร็จทันเวลา

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางคนยังใช้กริยา ตามหลัง will ผิดรูป นักเรียนบางคนทาแบบฝึกหัดไม่ เสร็จ ครูจึงให้กลับไปทาเป็น การบ้าน

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Future Sim. with “will” ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น ใช้สื่อเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ - วิธีการเสริมแรง กล่าวคาชมเชย

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Future Sim. with “be going to” 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยค Future Simple Tense โดยใช้ be going to ได้ถูกต้อง (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart TV 2. Power Point Presentation 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Future Sim. with “be going to” วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ กระบวนการเรียนรู้และความเข้าใจ  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 6. ขั้นสังเกต / ตระหนัก 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครู ทบทวนการใช้ will โดยเปิดรูปสถานที่ท่องเที่ยวที่ค รูวางแผนจะไปช่วงปิดเทอมจากสื่อ Power Point Presentation และพูดคุยให้นักเรียนฟังโดยใช้โครงสร้างประโยค will เช่น  This evening, I will go to the market at Rama 3.  I will buy a shirt and skirt there.  I will have dinner there before going home.  How about you? Where will you go this evening? (ครูเปิดโอกาศให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น หากมีครูรับฟังและกล่าวชมเชยทุกครั้ง) 7. ขั้นวางแผนปฏิบัติ 3.1 ครูแสดงรูปและประโยคอธิบายรูปจากสื่อ Power Point Presentation ให้นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกันและ พูดคุยเกี่ยวกับความหมายของประโยค 3.2 ครูเพิ่มจุดสังเกตโครงสร้างประโยคที่ใช้ในครัง้ นี้เป็น be going to ประกอบด้วย is going to / am going to / are going to ให้นักเรียนสังเกต ครูเพิ่มเติมว่า Verb to be เหล่านี้ใช้กับประธานที่ต่างกันแต่ยังคงใช้ในเรื่อง อนาคตเช่นเดิมเหมือนกับ will 8. ขั้นลงมือทา ครูเปิดรูปใหม่พร้อมทั้งประโยคอธิบายรูปใหม่ แต่เว้นคา be going to ให้นักเรียนฝึกเติม Verb to be : is / am / are ด้วยตนเอง ให้เวลา 5 นาทีในการฝึกเติม

10

9. ขั้นพัฒนาความรู้ความเข้าใจ 4.1 Grammar lesson ครูทบทวนเรื่อง Future Simple Tense เป็น Tense ที่พูดถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นใน อนาคตอันใกล้ มีโครงสร้างประโยคดังนี้ Subject + will/be going to + Verb with based form (+ compliment). 4.2 Grammar lesson ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่อง will ดังนี้  การใช้ going เพื่อบอกให้ทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่มีความเกี่ยวข้องกับปัจจุบันเป็นอย่างมาก เวลาไม่ใช่ประเด็นสาคัญ เพียงแค่บอกให้ทราบว่า จะเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้นแต่ไม่ได้เจาะจงว่าเมื่อไร Going ถูกนามาใช้เพื่ออธิบายถึงแผนที่วางไว้แล้วและความตั้งใจ หรือเพื่อคาดการณ์สิ่งที่จ ะเกิดขึ้นใน อนาคตโดยดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นหลัก ในการสนทนาง่าย ๆ ในชีวิตประจาวัน going to จะถูก ย่อให้เป็น gonna แทนโดยเฉพาะในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน แต่ไม่สามารถนามาใช้เป็นภาษาเขียนได้  การใช้ "going" เพื่ออธิบายถึงการวางแผนและความตั้งใจ  การใช้ "going" เพื่อคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  เราใช้ be going to ตามด้วย Verb with Based Form be going to + V. based form 10. ขั้นสรุป Grammar practice ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดการเติม be going to + V. based form เป็นการบ้าน 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยค Future Simple Tense โดยใช้ be going to ได้ถูกต้อง (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความุ่งมั่นในการทางาน (A)

ถาม – ตอบ จากกิจกรรมการเรียนรู้

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70

นับจานวนนักเรียนที่ทาแบบฝึกหัดส่ง

ร้อยละ 70

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

11

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Future Sim. with “be going to ” 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยค Future นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 Simple Tense โดยใช้ be going to ใช้ be going to + based verb แต่ง ได้ถูกต้อง (K,P) ประโยคได้ถูกต้องตามโครงสร้าง 2. เพื่อให้นักเรียนมีความุ่งมั่นในการ ทางาน (A)

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 ทาแบบฝึกหัดเสร็จทันเวลา

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางคนยังใช้ Verb to be กับประธานไม่ถูกต้อง ครูให้ร้อง เพลง Verb to be, Subject Verb agreement ช่วยจา นักเรียนบางคนทาแบบฝึกหัดไม่ เสร็จ ครูจึงให้กลับไปทาเป็น การบ้าน

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Future Sim. with “w be going to ” ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น ใช้สื่อเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ - วิธีการเสริมแรง กล่าวคาชมเชย

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง See the Day! จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 6 วันที่ 21 - 25 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ 2565 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์ 1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัดที่ 2 อ่านออกเสียงข้อความนิทานและบทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน สาระการเรียนรู้แกนกลาง ข้อความนิทาน และบทกลอน หลักการอ่านออกเสียง เช่น การออกเสียงพยัญชนะ ต้นคาและพยัญชนะท้ายคา การออกเสียงเน้นหนัก-เบาในคาและกลุ่มคา การออกเสียงตามระดับสูง-ต่าใน ประโยคการออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ในข้อความ การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัดที่ 3 พูด/เขียนแสดงความต้องการขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ ในสถานการณ์ง่าย ๆ สาระการเรียนรู้แกนกลาง คาศัพท์ สานวนภาษา และประโยคที่ใช้บอกความต้องการขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูดและการเขียน ตัวชี้วัดที่ 1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว สาระการเรียนรู้แกนกลาง ประโยคและข้อความที่ใช้ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจาวัน เพื่อน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลสิ่งต่าง ๆ จานน ลาดับที่ วัน เดือน ปี ฤดูกาล เวลา กิจกรรมที่ทา สี ขนาด รูปทรง ตาแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ทิศทางง่าย ๆ สภาพดินฟ้าอากาศ อารมณ์ ความรู้สึก สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

2

จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hospitality, Hope จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C3 ทักษะความร่วมมือและการทางานเป็นทีม ภาวะผู้นา C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความนิทานได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนพูดบอกข้อมูลอาการไม่สบายของตัวเองได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Find Someone who 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart board 2. กิจกรรม Find Someone who…………. 3. https://wheelofnames.com 4. https://wheelofnames.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Find Someone who กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 กระบวนการสร้างเจตคติ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ วิธีการสอนรูปแบบเกม  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity (ท่องคาศัพท์ยามเช้า) 1. ขั้นสังเกต/ รับรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชี้แจงกิจกรรมทบทวนบทเรียนโดยใช้กิจกรรมเกมเป็นฐานการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ Find someone who………. ให้นักเรียนผลพูดภาษาอังกฤษโดยใช้ประโยคในบทเรียน has ever got a headache/toothache เชื่อมโยงกับสถานที่ในบทเรียนและจากประสบการณ์ โดยครูใส่รูปแบบประโยคและ รูปภาพสถานที่ไว้ในโปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com สาหรับเป็นแนวทางในการพูด จากนั้นครูชี้แจง วิธีการเล่น ดังนี้  สารวจที่นั่ง ให้นักเรียนนั่งในที่ของตนเอง หากมีเก้าอี้ใดว่างให้ทาการยกขึ้นเก็บหรือเอาออกชั่วคราว ให้ที่ จานวนที่นั่งมีจานวนเท่ากับผู้เล่น  ครูคือผู้เล่นตัวอย่างในครั้งแรก ครูทาการสุ่มรูปแบบประโยคตัวอย่างเพื่อพูดตาม  ครูพูดประโยคเต็มโดยใช้ชื่อกิจกรรมเกมมาแต่งประโยคร่วมเป็นประธาน ดังนี้ Find someone who has ever got a headache.  ผู้ร่วมเล่นเมื่อนฟังประโยคแล้วเริ่มวิเคราะห์ หากเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองได้ทาไปจริง ให้สลับ/หาที่นั่งใหม่ รวมทั้งครูด้วย ผู้เล่มคนใดหาที่นั่งไม่ทันจะต้องออกมาเป็นคนต่อไป

4

2. ขั้นวิเคราะห์ 2.1 ดาเนินกิจกรรมประมาน 10 - 15 นาที (ตามความเหมาะสม) โดยครูร่วมเล่นด้วยเพื่อให้ที่นั่งเต็ม 2.2 ครูคอยสังเกตการณ์การทากิจจกรรมของนักเรียนเพื่อให้คาแนะนาช่วยเหลือนักเรียน ดังนี้ - นักเรียนกลุ่มเก่ง (พูดได้ มีความกล้าแสดงออก) ครูสบตาและยิ้มให้กาลังใจเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มกลาง (พูดได้ อาจไม่คล่อง และไม่ค่อยมั่นใจ) ครูยืนช่วยข้างๆพร้อมกล่าวคาชมเชยเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มอ่อน (พูดไม่ค่อยได้ เขินอาย ขาดความมั่นใจ) ครูให้พูดประโยคที่ให้พูดตามและยืนช่วยข้างๆ 3. ขั้นสรุป 3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และคุณธรรมที่ได้จากกิจกรรมนี้ เช่น ความซื่อสัตย์ในการเล่นตามกติกา หรือซื่อสัตย์ต่อคาตอบตรามความจริงของตนเอง เป็นต้น โดยขออาสาสมัครในการตอบ 3-5 คน 3.2 ครูให้นักเรียนแต่งประโยคอาการป่วยที่เคบเป็นลงในสมุด 5 ประโยคส่ง 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิต สาธารณะ (A)

บันทึกแบบสังเกตพฤติกรรม

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ 3 ข้อจาก 5 ข้อ

บันทึกแบบสังเกตพฤติกรรม

ผ่านเกณฑ์ 3 ข้อจาก 5 ข้อ

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Find Someone who 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน 85 สามารถพูดสื่อสารให้ข้อมูลระหว่าง ห้องเรียนได้ (P) การทากิจกรรมได้ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริต นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ และมีจิตสาธารณะ (A) 95 มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิต สาธารณะในการทากิจกรรม

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 15 ยังต้องการความช่วยเหลือให้การ พูดจากครูและตัวอย่างประโยค นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 5 ยังมีนักเรียนทาผิดกติกากิจกรรม ครู จึงเริ่มเกมใหม่ทุกครั้งที่สงั เกตเห็น

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Find Someone who ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น มีการวิเคราะห์นักเรียนกลุ่มเก่ง กลาง อ่อน เพื่อช่วยเหลือในการทากิจกรรมอย่างมั่นใจ - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย My day! 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความนิทานได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smartboard 2. Power point presentation เรื่อง My Day 3. Super Kids 6, student book 4. Super Kids 6, activity book 5. https://wheelofnames.com/ 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 My day! กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ กระบวนการอ่านแบบที่ 2  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 1. ขั้นสังเกต/ รับรู้ 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูเริ่มกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการให้นักเรียนนั่งหลับตา ฟังเสียงและนึกภาพทานเรื่องราวที่ได้ยิน ครูเปิด Audio เรื่อง My day ให้นักเรียนฟัง 2 รอบ จากนั้นให้นักเรียนลืมตาแล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบ และร่วมแสดงความคิดเห็น ครูถามคาถามเพื่อประเมินความเข้าใจดังนี้ 1. Where did the story set? 2. How many people are there in this story? 3. What happened?

7

2. ขั้นการเข้าใจสาร/ ประโยคที่อา่ น 2.1 ครูเปิด power point presentation เรื่อง My day ให้นักเรียนดูและฟังอีกครั้ง 2.2 ครูอ่านออกเสียงทีละประโยคอย่างชัดเจนให้นักเรียนอ่านตามอีกครั้ง พร้อมเรียนรู้ความหมายของประโยคและ คาศัพท์จากบทสนทนา 2.3 ครูสุ่มนักเรียนอ่านประโยคตามละดับเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องทีละคนเป็นการประเมินทักษะการอ่านวนจนครบ นักเรียนทุกคน 3. การตอบสนองต่อสารเมื่อเข้าใจสาระ 3.1 ครูให้นักเรียนจับคู่ฝึกสนทนาจากเรื่อง จากนั้นครูสุ่มนักเรียน 2-3 คู่ออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน โดยใช้ โปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com/ สร้างความตื่นตัวทางการเรียน ประมาน 3-5 คู่ (ตามความ เหมาะสม) ครูกล่าวชมเชยและนาปรบมือเมื่อแต่ละคู่ทากิจกรรมสาเร็จ และให้เพื่อนๆในชั้นเรียนร่วมกันประเมินการ นาเสนอเพื่อนๆโดยใช้ท่าทางประกอบ 3 ท่าทาง ดังนี้ = พอใช้ = ดี = ดีมาก 3.2 ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดในหนังสือแบบฝึกหัดเพื่อทบทวนบทสนทนา (เป็นการบ้าน) 4. การบูรณาการความคิด 4.1 ครูให้นักเรียนจับคู่แต่งบทสนทนาลงในสมุด โดยให้เปลี่ยนคาศัพท์เป็นเรื่องราวของตนเอง และมอบหมายให้ฝึกซ้อมและออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียนในคาบต่อไป 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความนิทานได้ ถูกต้องตามหลักการอ่าน (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทางาน (A)

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล ฟังการออกเสียงอ่าน นับจานวนแบบฝึกหัดที่ส่ง

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนร้อยละ 70 อ่านได้อย่างถูกต้อง นักเรียนร้อยละ 70 ส่งแบบฝึกหัด ตามเวลากาหนด

8

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 My Day 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 1. เพื่อให้ นกั เรี ยนอ่านออกเสียง สามารถอ่านออกเสียงคา ประโยค บท ข้ อความนิทานได้ ถกู ต้ องตาม สนทนา ตามเสียงได้ ถกู ต้ อง หลักการอ่าน (K,P) 2. เพื่อให้ นกั เรี ยนมีความใฝ่ เรี ยนรู้

มุง่ มัน่ ในการทางาน (A)

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม

-

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 มีความใฝ่ เรี ยนรู้และมุง่ มัน่ ในการทา แบบฝึ กหัด

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง My Day ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น ฝึกออกเสียงจากเสียงเจ้าของภาษาให้นักเรียนเลียนแบบสาเนียงและโทนน้าเสียงของประโยค - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย ปรบมือ และท่าทางประกอบการให้กาลังจัง

ลงชื่อ……………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย What happened? 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนพูดบอกข้อมูลอาการไม่สบายของตัวเองได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart TV 2. www.youtbe.com : https://www.youtube.com/watch?v=5xZYFPJ0fps 3. บัตรภาพ 4. ใบงานกิจกรรม At the hospital 5. youtube : https://www.youtube.com/watch?v=nW-s2Ailg1s 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 What happened? กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ CLT (Communicative Language Teaching) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูสรุปกิจกรรมฝึกพูดประจาสัปดาห์ สุ่มนักเรียนออกมานาเสนอ 3 คู่ และเรียกเก็บคะแนน จากลายเซนครูในสมุดที่นักเรียนไปฝึกพูดด้วย  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. Warm up 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับ คาสั่งของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 2. Language usage 2.1 ครูแจ้งนักเรียนถึงเรื่องที่จะเรียนรู้ในคานนี้คือ การพูดคุยเกี่ยวกับอาการไม่สบายของเราและคนรอบตัว และเปิดสื่อประกอบ จาก https://www.youtube.com/watch?v=5xZYFPJ0fps 2.2 ครูอธิบายนักเรียนว่า หากต้องการถ้าใครว่าเกิดอะไรขึ้น มีอาการผิดปกติใดเกิดขึ้น ให้ใช้คาถาม What happened?

What’s the matter?

2.3 ครูชี้แจงเพิม่ เติมเกี่ยวคาศัพท์อาการไม่สบายต่างๆให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามทีละคา ดังนี้ cold เป็นหวัด cough ไอ cut มีดบาด fever เป็นไข้

10

get one’s arm broken แขนหัก runny nose น้ามูกไหล stomachache ปวดท้อง bloody noose เลือดกาเดาไหล

headache ปวดหัว sore throat เจ็บคอ toothache ปวดฟัน dizzy เวียนหัว

3. Practice 3.1 ครูให้นักเรียนฝึกพูดถาม – ตอบเกี่ยวกับอาการไม่สบายทีละอาการพร้อมกันดังนี้ What happened? / What’s the matter? a headache / toothache / runny nose 3.2 ครูจัดกิจกรรมฝึกจับคู่พูดถาม – ตอบ เกี่ยวกับอาการไม่สบาย โดยให้เวลา 5 นาที 4. Presentation ครูขออาสาสมัครหรือสุ่มนักเรียนออกมานาเสนอการพูดถาม – ตอบอาการต่างๆหน้าชั้นเรียน 3 คู่ เมื่อนักเรียนออกมานาเสนอครูให้นักเรียนสุ่มหยิบบุตรภาพเพื่อแบ่งว่าใครจะเป็นหมอใช้คาถามถามอาการ ใครเป็นไข้บอกอาการป่วยของตนเองตามบัตรภาพ ครูกล่าวคาชมเชยและให้เพื่อนนักเรียนปรบมือให้ 5. Wrap up 4.1 ครูจัดกิจกรรม At the hospital ให้นักเรียนฝึกถาม – ตอบเรื่องอาการไม่สบาย โดยครูชี้แจงกติกาดังนี้  ครูสุ่มแจกบัตรภาพให้นักเรียนคนละ 1 ใบ ประกอบด้วย 1. ใบรูปอาการป่วยต่างๆ 2.ใบหน้าที่

 แจกใบกิจกรรม At the hospital ให้นักเรียนคนละใบสาหรับบันทึกคาและประโยคคาถาม  ครูเปิดตัวจับเวลาจากสื่อ youtube : https://www.youtube.com/watch?v=nW-s2Ailg1s ให้นักเรียนทากิจกรรมให้สาเร็จใน 10 นาที ให้คนที่ได้ภาพคนไข้อาการป่วยต่างๆไปหาหมอให้เจอ โดยใช้คาถามว่า Are you a doctor? หากใช่หมอจะตอบว่า Yes หากไม่ใช่หมอจะตอบว่า No  นักเรียนที่เป็นหมอจะต้องถามอาการคนไข้ แบะคนไข้ก็ตอบอาการหมอให้ตรงตามภาพ หากคนไข้ ตอบไม่ตรงภาพ หมอจะต้องช่วยแก้คาให้ตรงกับอาการในภาพ  หมอและคนไข้จะต้องเปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆให้ครบ 4 คู่ แต่ละครั้งของการถามตอบต้องบันทึกลงในใบ กิจกรรมด้วย  เมื่อหมดเวลาครูถามถึงคนที่ทากิจกรรมได้สาเร็จ กล่าวคาชมเชยและปรบมือให้ในความพยายาม 4.2 หากมีเวลาเหลือ ครูสุ่มนักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียนตามบันทึกถาม – ตอบในใบกิจกรรม 3-5 คู่ เพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆร่วมกันตรวจทานคาตอบว่าตรงกับรูปที่คนไข้ได้รับหรือไม่ หากคู่ใดออก มาแล้วพูดถาม – ตอบถูกต้องครูมีรางวัลเล็กน้อยให้

11

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนพูดบอกข้อมูลอาการไม่สบาย ของตัวเองได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล ถาม – ตอบ กิจกรรมในชั้นเรียน จานวนนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมจน สาเร็จตามกาหนด

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 What happened? 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนพูดบอกข้อมูลอาการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 ไม่สบายของตัวเองได้ (K,P) พูดถาม – ตอบ อาการไม่สบายได้ถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 สามารถทากิจกรรมจนสาเร็จ

ร้อยละ 70

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางคนเขียนช้า สะกดคา ยากไม่ได้จึงทาให้ทากิจกรรมไม่ สาเร็จ

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง What happened? ในคาบนี้พบว่า - อุปสรรค พื้นที่ในการทากิจกรรมแคบเมื่อเทียบกับจานวนนักเรียน - จุดเด่น จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกสยทนาจริง - วิธีการเสริมแรง กล่าวคาชมเชยและปรบมือ

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง Please, listen to me. จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 7 วันที่ 28 - 2 เดือน ธันวาคม พ.ศ 2565 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัดที่ 5 พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้น ๆ ประกอบ สาระแกนกลาง คาและประโยคที่ใช้แสดงความรู้สึกและการให้เหตุผลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ มี ความสุข เศร้า หิว รสชาติ สวย น่าเกลียด เสียงดัง ดี ไม่ดี สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัดที่ 1 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ การใช้เครื่องหมาย วรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระแกนกลาง ความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆของเจ้าของภาษากับของไทย การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธกับชุมชนและโลก มาตรฐาน 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยน เรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัดที่ 1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ สาระแกนกลาง การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและการรวบรวมคาศัพท์ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัวจากสื่อ และแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

2

จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope, Honest จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร C7 ทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C8 ความมีเมตตา วินัย คุณธรรมและจริยธรรม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ Wh-question “Why” ในการตั้งคาถามถามเหตุผลได้อย่างถูกต้อง (K) 2. เพื่อให้นักเรียนพูดบอกเหตุผลโดยใช้ because ได้อย่างถูกต้อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนเลือกใช้ because กับ because of ได้อย่างถูกต้อง (K) 2. เพื่อให้นักเรียนพูดโต้ตอบ ให้ข้อมูลโดยให้เหตุผลประกอบสั้นๆได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ Why และ because ในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์ (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Why and Because 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ Wh-question “Why” ในการตั้งคาถามถามเหตุผลได้อย่างถูกต้อง (K) 2. เพื่อให้นักเรียนพูดบอกเหตุผลโดยใช้ because ได้อย่างถูกต้อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Power Point Presentation “Why and because” 3. Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=4qqxeWc5ql0 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Why and Because กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ กระบวนการเรียนรู้และความเข้าใจ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นสังเกต / ตระหนัก 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How are you? S : I’m …………… Thank you 1.2 ครูเปิดสื่อการเรียนรู้เรื่อง Why and Because ให้นักเรียนฝึกฟัง สังเกตและพูดตาม โดยครูจะไม่มี คำอธิบำยเนื ้อหำก่อนหน้ ำ https://www.youtube.com/watch?v=4qqxeWc5ql0 1.3 เมื่อคลิปจบ ครูใช้คาถามกระตุ้นความคิดโดยขออาสาสมัครหรือสุ่มถามนักเรียน 3 คน ให้นักเรียนทายว่า คาบนี้กาลังจะเรียนรู้เรื่องอะไรและได้เรียนรู้อะไรจากคลิปข้างต้น โดยครูกล่าวชมเชยนักเรียนทุกครั้งเมื่อมีการ ร่วมแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะถูกหรือผิด (หากนักเรียนตอบไม่ตรงครูช่วยปรับคาตอบให้ถูกต้อง เพื่อสร้างความ มั่นใจให้ผู้เรียนที่ตอบผิดหรือคนอื่นๆทีไม่กล้าแสดงออก) ตัวอย่างคาถามจากคลิป ดังนี้  Why did she run? Because the bee was chasing her!  Why did the man fall down? Because she pushed him!  Why is the baby crying? Because the mom walked away! เป็นต้น

4

2. ขั้นวางแผนปฏิบัติ 2.1 Grammar lesson ครูชี้แจงเรื่องที่จะเรียนในคาบนี้คือการถามถึงเหตุผลของการกระทาต่างๆ โดยใช้คาถาม Wh-question – Why และการบอกเหตุผลโดยใช้คาว่า because แปลว่า เพราะ Why มีโครงสร้างประโยคคาถามและตัวอย่างประโยคคาถามให้อ่านตาม ดังนี้

2.2 ครูเปิดสื่อการเรียนรู้เรื่อง Why and because เมื่อต้นคาบอีกครั้ง และกดหยุดแต่ละประโยคให้นักเรียน สังเกตุและเทียบโครงสร้างประโยค 3. ขั้นลงมือทา Grammar practice ครูเปิดสื่อ Power Point Presentation “Why and because” ให้นักเรียนช่วยกันฝึก พูดแต่งประโยคคาถามและการตอบเหตุผลจากรูปและคาใบ้ ดังนี้

4. ขั้นพัฒนาความรู้ความเข้าใจ Grammar practice ครูให้นักเรียนเขียนแต่งประโยคคาถามและการตอบเหตุผลลงในสมุด 6 จานวน 3 ชุด คาถาม-คาตอบ เพื่อทบทวนความเข้าใจอีกครั้ง โดยดูรูปและคาใบ้จากสื่อข้างต้น เช่น  Why didn’t he finish her homework? Because he had a toothache.  Why didn’t she finish her homework? Because she had a fever.  Why didn’t he finish her homework? Because he had a bad cough. เป็นต้น 5. ขั้นสรุป ครูขออาสาสมัครนักเรียนหรือสุ่มนักเรียนจานวน 3 คนเพื่อบอกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากคาบเรียนนี้ โดยครูกล่าวชมเชย นักเรียนทุกครั้งเมื่อมีการร่วมแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะถูกหรือผิด (หากนักเรียนตอบไม่ตรงครูช่วยปรับคาตอบ ให้ถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้เรียนที่ตอบผิดหรือคนอื่นๆทีไม่กล้าแสดงออก)

5

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ Wh-question “Why” ใน การตั้งคาถามถามเหตุผลได้อย่างถูกต้อง (K) 2. เพื่อให้นักเรียนพูดบอกเหตุผลโดยใช้ because ได้อย่างถูกต้อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

ถาม – ตอบ จากกิจกรรมในชั้นเรียน

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70

ถาม – ตอบ จากกิจกรรมในชั้นเรียน

ร้อยละ 70

รับจานวนสมุดแบบฝึกหัดที่ส่ง

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Why and Because 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ Wh-question นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 “Why” ในการตั้งคาถามถามเหตุผลได้ สามารถตั้งคาถามโดยใช้ Why ได้ถูกต้อง อย่างถูกต้อง (K) ตามโครงสร้าง 2. เพื่อให้นักเรียนพูดบอกเหตุผลโดย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 ใช้ because ได้อย่างถูกต้อง (P) สามารถพูดบอกเหตุผลโดยใช้ because ได้ถูกต้อง 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 ทางาน (A) ทาแบบฝึกหัดในสมุดเสร็จและส่งตามเวลา

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Why and Because ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น การสอนให้นักเรียนเป็นผู้คิด สังเกตและหาคาตอบด้วยตนเองก่อนการเฉลย - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชยนักเรียนทุกครั้งเมื่อมีการร่วมแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะถูกหรือผิด (หากนักเรียนตอบไม่ ตรงครูช่วยปรับคาตอบให้ถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้เรียนที่ตอบผิดหรือคนอื่นๆทีไม่กล้าแสดงออก)

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Because and Because of 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนเลือกใช้ because กับ because of ได้อย่างถูกต้อง (K) 2. เพื่อให้นักเรียนพูดโต้ตอบ ให้ข้อมูลโดยให้เหตุผลประกอบสั้นๆได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. Power Point Presentation เรื่อง Because and Because of 3. Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=4qqxeWc5ql0 4. www.bamboozle.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Because and Because of กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ กระบวนการเรียนรู้แบบ (Lecture Method)  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 1. ขั้นทบทวนความรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How are you? S : I’m …………… Thank you 1.2 ครูทบทวนการตอบคาถามเพื่อบอกเหตุผลโดยใช้ because จากสื่อ Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=4qqxeWc5ql0 ให้นักเรียนฟังและพูดตาม 2. ขัน้ ดาเนินการสอน Grammar lesson ครูนาเสนอความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคาบอกเหตุผล because = เพราะว่า นอกจากคา ว่า because ยังมีคาว่า because of โดยมีความแตกต่างของการใช้ ดังนี้  การใช้ Because และ Because of มักทาให้เราสับสนว่าจะใช้คาไหนถึงจะถูกต้อง Because เป็นคาสันธาน (conjunction) ใช้เชื่อมประโยค 2 ประโยคเข้าด้วยกัน Because of เป็นคาบุพบท (preposition) ซึ่งโดยปกติแล้วจะวางไว้หน้าคานามหรือคาสรรพนาม Because + Subject + Verb การใช้ Because จะตามด้วยประธานและคากริยา ซึ่งก็คอื ประโยคนั่นเอง ตัวอย่างการใช้ We stopped playing tennis because it was raining. (เราหยุดเล่นเทนนิส เพราะว่าฝนตก)

7

He crashed his car because he was driving too fast. (เขาขับรถชน เพราะเขาขับรถเร็วเกินไป) Because the weather was cold, we stayed home. (เพราะว่าอากาศหนาว เราจึงอยู่บ้าน) Because of + Noun Phrase / Verb-ing การใช้ Because of ต้องตามด้วยนามวลี หรือถ้าเป็นคากริยาต้องเป็นคากริยาที่อยู่ในรูป Verb-ing ตัวอย่างการใช้ Because of the rain, the tennis match was stopped. (เพราะว่าฝนตก การแข่งขันเทนนิสจึงหยุดลง) Because of feeling sick, Jane didn’t go to school. (เพราะว่ารู้สึกป่วย เจนเลยไม่ไปโรงเรียน) Because of you. (เป็นเพราะคุณ) 3. ขั้นประยุกต์ใช้ Grammar practice ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนเลือกใช้ Because or Because of ผ่านสื่อออนไลน์เกม การศึกษา www.bamboozle.com เพื่อสร้างความตื่นตัวในการเรียนรู้และร่วมกิจกรรม โดยครูแบ่งนักเรียน ออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ จากนั้นให้แต่ละคนในทีมผลัดกันออกมาเลือกแผ่นป้ายและตอบว่า because or because of ในการเปิดแผ่นป้ายตอบคาถามแต่ละครั้งจะมีคะแนนซ่อนอยู่หากตอบถูกจะได้รับคะแนน เมื่อแผ่นป้ายหมดกลุ่มใด ได้คะแนนมากสุดเป็นผู้ชนะ ครูให้กลุ่มที่ชนะเลือกเพลงสัน้ 1 เพลงเพื่อช่วยกันร้องและปรบมือให้ 2 กลุ่มที่เหลือเต้น 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนเลือกใช้ because กับ because of ได้อย่างถูกต้อง (K) 2. เพื่อให้นักเรียนพูดโต้ตอบ ให้ข้อมูลโดยให้ เหตุผลประกอบสั้นๆได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

ถาม-ตอบ จากกิจกรรมในชั้นเรียน

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70

ถาม-ตอบ จากกิจกรรมในชั้นเรียน

ร้อยละ 70

ถาม-ตอบ จากกิจกรรมในชั้นเรียน

ร้อยละ 70

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

8

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Because and Because of 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนเลือกใช้ because นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 กับ because of ได้อย่างถูกต้อง (K) เลือกใช้ because กับ because of ได้อย่าง ถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนพูดโต้ตอบ ให้ข้อมูล นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 โดยให้เหตุผลประกอบสั้นๆได้ (P) สามารถพูดให้เหตุผลสั้นๆโดยใช้ because กับ because of ได้ 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 ทางาน (A) ร่วมกิจกรรมในชั้นเรียนด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Because and Because of ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น ใช้สื่อเกมการศึกษาเข้ามาช่วยในการจัดการเรียนรู้ ทาให้นักเรียนผ่อนครายในการเรียนหลักไวยกรณ์

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Find my soulmate 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ Why และ because ในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart TV 2. https://www.youtube.com/watch?v=12CNNORawk8 3. แถบประโยคกิจกรรม Find my soulmate 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Find my soulmate กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ (ABL) Activity-Based Learning วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูสรุปกิจกรรมฝึกพูดประจาสัปดาห์ สุ่มนักเรียนออกมานาเสนอ 3 คู่ และเรียกเก็บคะแนน จากลายเซนครูในสมุดที่นักเรียนไปฝึกพูดด้วย  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นทบทวนประสบการณ์ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How are you? S : I’m …………… Thank you 1.2 ครูเปิดคลิปการ์ตูน “ https://www.youtube.com/watch?v=12CNNORawk8 ทบทวนบทเรียน เรื่อง Why and Because 2. ขั้นกิจกรรม 2.1 ครูชี้แจงกิจกรรม Find my Soulmate ให้นักนักเรียนฟังดังนี้  ครูแจกบัตรประโยคที่แยกเป็น บัตรประโยคคาถาม Why และบัตรประโยคเหตุผล because ให้นักเรียน คนละ 1 ใบ  ครูให้เวลานักเรียน 3 นาทีในการอ่านและทาความเข้าใจประโยคในบัตรของตนเอง จากนั้นครูจับเวลาให้ นักเรียนหาคู่ประโยคของตนเองให้เจอ  คู่ใดเจอคู่แล้วให้นั่งเป็นคู่ให้ครูเดินตรวจ หากไม่ถูกครูให้นักเรียนไปหาคู่ใหม่  ครูใช้ตัวจับเวลาจากสื่อ youtube : https://www.youtube.com/watch?v=6UKGHUvI0tc&t=2s ในการจับเวลาในแต่ละรอบ  ครูจัดกิจกรรมทั้งหมด 5 รอบ เมื่อครบให้นักเรียนที่มีคู่ออกมาหน้าชั้นเรียนพร้อมกับปรบมือและกล่าว คาชมเชยให้นัก้นเรียน ส่วนนักเรียนคนอื่นที่หาคู่ไม่เจอให้กลับไปนั่งที่ของตนเอง 2.2 Grammar practice ครูให้นักเรียนแต่ละคู่พูดประโยคของคู่ตนเองโดยเริ่มจากคาถาม และตามด้วยประโยคเห ตผล เพื่อให้ครูและเพื่อนร่วมห้องเรียนช่วยกันตรวจทานความถูกต้องของคู่ประโยคคาถาม – คาตอบ

10

3. ขั้นสะท้อนความคิด ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นและสรุปความรู้ที่ได้จ ากกิจ กรรมนี้ ทั้งด้านความรู้และด้านคุณธรรม 8 H (คุณธรรมประจาโรงเรียน) ครูปรบมือและกล่าวคาชมเชยทุกครั้งที่นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็น และไม่ว่าจะถูก หรือผิด (หากผิดครูช่วยปรับแต่งให้เข้าที่) 4. ขั้นประเมินผล ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดจับคู่คาถามและคาตอบที่สอดคล้องกันลงในสมุดเป็นการบ้านทบทวนบทเรียน 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ Why และ because ในการ สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์ (A)

ร่วมกิจกรรม Find my soulmate

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70

สังเกตุโดยใช้แบบสังเกตุพฤติกรรม

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Find my soulmate 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ Why และ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ทา นักเรียนบางคนยังไม่สามารถพูด because ในการสื่อสารได้อย่าง กิจกรรมและใชเภาษาอังกฤษในการสิ่อสาระหว่าง หรือแปลประโยคได้ด้วยตัวเอง มีประสิทธิภาพ (K,P) ทากิจกรรม ทั้งหมด ครูจงึ คอบให้ความ ช่วยเหลือ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 มีความ ซื่อสัตย์ (A) ซื่อสัตย์ ใช้ภาษาในการสื่อสานทากิจกรรม 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Find my soulmate ในคาบนี้พบว่า - อุปสรรค พื้นที่ในการจัดกิจกรรมค่อนข้างแคบ - จุดเด่น จัดกิจกรมสรุปบทเรียนให้นักเรียนได้นาความรู้มาใช้จริง - วิธีการเสริมแรง ครูปรบมือและกล่าวคาชมเชยทุกครั้งทีน่ ักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็น และไม่ว่าจะถูกหรือผิด (หาก ผิดครูช่วยปรับแต่งให้เข้าที่)

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง Reading Time จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 8 วันที่ 6 – 9 เดือน ธันวาคม พ.ศ 2565 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐานที่ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด 4 อ่านออกเสียงข้อความนิทานและบทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่านบอกใจความสาคัญ และตอบคาถาม จากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่าย ๆ และเรื่องเล่า สาระแกนกลาง ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเรื่องเล่าคาถามเกี่ยวกับใจความสาคัญของเรื่อง เช่น ใคร ทาอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทาไม สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope, Honest, Hospitality จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C3 ทักษะความร่วมมือและการทางานเป็นทีม ภาวะผู้นา C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร

2

2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1

คาบที่ 2

คาบที่ 3

1. เพื่อให้นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงคา กลุ่มคา และประโยคได้ถูกต้องตามสาเนียง (K) 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถฝึกพูดสนทนาโต้ตอบจากเนื้อเรื่อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถบอกความหมายของคาศัพท์กิจกรรมต่างๆได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนสามาถพูดโต้ตอบคาถามประสบการณ์ของตนเองได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (K, P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Safety Tips 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงคา กลุ่มคา และประโยคได้ถูกต้องตามสาเนียง (K) 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถฝึกพูดสนทนาโต้ตอบจากเนื้อเรื่อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smartboard 2. Super Kid 6, student book 3. Super Kid 6, activity book 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Camping Safety Tips กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 กระบวนการอ่านแบบที่ 2  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ - Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง - Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity (ท่องคาศัพท์ยามเช้า) 1. ขั้นสังเกต/ รับรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูเปิดรูป Camping บน Smart TV ให้นักเรียนดูแล้วพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องประสบการณ์การไปเข้า ค่ายด้วยประเด็นคาถามง่ายๆให้นักเรียนโต้ตอบเพื่อนาเข้าสู่บทเรียน เช่น - Have you ever go camping? - Who did you go camping with? - Have you ever had some accidents when go camping? - How did you take care of yourself when you go camping? 2. ขั้นการเข้าใจสาร/ ประโยคที่อา่ น 2.1 ครูพูดคุยกับนักเรียนต่อจากคาถามถึงบทเรียนในคาบนี้เรื่อง Camping Safety Tips ให้นักเรียนฝึกอ่าน ออกเสียงและฝึกสาเนียงประโยค โดยให้นักเรียนฝึกฟังและชี้ตามให้ทันในรอบแรก และอ่านออกเสียงตามในรอบ ที่ 2 และอ่านเองในรอบที่ 3 2.2 หลังจบกิจกรรมการอ่าน ครูเข้าสู่การทบทวนความรู้ด้านคาศัพท์จากเนื้อเรื่อง โดยครูไล่คาศัพท์ในเรื่องที ละคาให้นักเรียนบอกความหมาย 2.3 จากนั้นครูสุ่มถามนักเรียนทีละคนให้แปลทีละประโยคทีละคน เพื่อการทบทวนคาศัพท์ที่เรียนรู้ไป

4

3. การตอบสนองต่อสารเมื่อเข้าใจสาระ ครูถามคาถาม Yes – No Questions จากเรื่องให้นักเรียนตอบ Yes or No ซึ่งการตอบครูปรับมาใช้การลุกนั่ง แทน โดยนักเรี ยนทุกคนจะต้ องหลับตา ครูเน้ นยา้ เรื่ องความซื่อสัตย์ตอ่ ตนเองและผู้อื่น เมื่อครูอ่านคาถามจบหาก ใครตอบ Yes ให้ ยืนอยู่ที่เดิม หากใครตอบ No ให้ นงั่ ลง ครูจดั กิจกรรมนี ้ประมาน 5 คาถามเพื่อกระตุ้นการเรี ยนรู้ 4. การบูรณาการความคิด 4.1 ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดตอบคาถามจากเนื้อเรื่องในแบบฝึกหัดด้วยตัวเอง โดยให้เวลา 5 นาที ในการทา แบบฝึกหัด 4.2 ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นทีมใหญ่ตามแถว จากนั้นสุ่มนักเรียนตอบคาถามทีละข้อ โดยใช้โปรแกรม www.wheelofnames.com ในการเรียกตอบ 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงคา กลุ่มคา และประโยคได้ถูกต้องตามสาเนียง (K) 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถฝึกพูดสนทนาโต้ตอบ จากเนื้อเรื่องในบทเรียน (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล ฟังการออกเสียงอ่าน จับคู่ฝึกสนทนาจากบทเรียน นับจานวนแบบฝึกหัดที่ส่ง

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนร้อยละ 70 อ่านได้อย่างถูกต้อง นักเรียนสามารถพูดตามบท สนทนาได้ถูกต้องร้อนละ 70 นักเรียนร้อยละ 70 ส่ง แบบฝึกหัดตามเวลากาหนด

5

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Camping Safety Tips 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถอ่านออก นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 เสียงคา กลุ่มคา และประโยคได้ มีความรู้รื่องคาศัพท์ ไวยกรณ์ของประโยค ถูกต้องตามสาเนียง (K) ในเนื้อเรื่อง 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถฝึกพูด นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 สนทนาโต้ตอบจากเนื้อเรื่องในบทเรียน ฝึกการอ่าน การจับใจความสาคัญ และการ (P) ตอบคาถามจากเรื่อง 3. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความใฝ่ เรียนรู้ร่วมกิจกรรมการอ่านในชั้นเรียน

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) -

ลงชื่อ……………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Poor Animals 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถบอกความหมายของคาศัพท์กิจกรรมต่างๆได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนสามาถพูดโต้ตอบคาถามประสบการณืของตนเองได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smartboard 2. Power point presentation เรื่อง Poor Animals 3. Super Kid 6, student book 4. Super Kid 6, activity book 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Endangered Animals กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 กระบวนการอ่านแบบที่ 1  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูให้นักเรียนอ่าน สะกด ออกเสียงคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ จานวน 5 คา พร้อมกัน โดยครูให้ นักเรียนฟังและอ่านตามในรอบแรก จากนั้นจึงให้นักเรียนฝึกอ่านพร้อมกันด้วยตนเอง 1. ขั้นเตรียมการอ่าน 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How’s it going? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องน่ารู้รอบตัวเรื่อง Endangered Animals ว่าคือสัตว์ประเภทใด นักเรียนรู้จัก หรือไม่ จากนั้นครูเปิดสื่อการเรียนรู้จาก youtube : https://www.youtube.com/watch?v=E5cVr3HdLa4 1.3 ครูถามนักเรียนอีกครั้งว่า Endangered Animals ว่าคือสัตว์ประเภทใด และเคยเจอหรือไม่ 2. ขั้นการอ่าน 2.1 ครูแนะนาบทเรียนเรื่อง Endangered Animals ให้นักเรียนฝึกฟังและชี้ตามให้ทันในรอบแรก รอบที่ 2 ครู ให้นักเรียนอ่านตามทีละประโยค และรอบที่ 3 ครูให้นักเรียนอ่านด้วยตัวเองพร้อมกันอีกครั้ง 2.2 ครูแนะนาคาศัพท์จากเนื้อเรื่องทีละคาให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามและเขียนความหมาย 2.3 ครูให้นักเรียนอ่านเรื่องอีกครั้งพร้อมกันแต่อ่านทีละประโยค ครูสุ่มนักเรียนให้ความหมายของประโยคนั้นๆ จนจบเรื่อง

7

3. แสดงความคิดเห็น ครูถามคาถาม Yes – No Questions จากเรื่องให้นักเรียนตอบ Yes or No ซึ่งการตอบครูปรับมาใช้การลุก นั่งแทน โดยนักเรี ยนทุกคนจะต้ องหลับตา ครูเน้ นยา้ เรื่ องความซื่อสัตย์ตอ่ ตนเองและผู้อื่น เมื่อครูอ่านคาถามจบ หากใครตอบ Yes ให้ ยืนอยู่ที่เดิม หากใครตอบ No ให้ นงั่ ลง ครูจดั กิจกรรมนี ้ประมาน 5 คาถามเพื่อกระตุ้นการ เรี ยนรู้ 4. อ่านสารวจ ครูให้นักเรียนจับคู่ทาแบบฝึกหัดตอบคาถามจากเนื้อเรื่อง โดยให้อ่านเรื่องเพื่อสารวจเนื้อหาในการทา แบบฝึกหัด โดยจับเวลาให้เวลานักเรียน 10 นาทีในการทาแบบฝึกหัดเพื่อฝึกความกระตือรือร้นในการทางาน และ ส่งงานตามเวลาที่กาหนด 5. การขยายความคิด ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย 5 คน มอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Endangered Animals อื่นๆนอกเหนือจากบทเรียนมานาเสนอเพื่อนๆคนละ 1 อย่าง โดยให้บอกข้อมูลคร่าวๆของ สัตว์นั้นๆ เช่น

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

1. เพื่อให้นักเรียนสามารถบอกความหมายของ คาศัพท์กิจกรรมต่างๆได้ (K)

ตรวจแบบฝึกหัด

2. เพื่อให้นักเรียนสามาถพูดโต้ตอบคาถาม ประสบการณ์ของตนเองได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทางาน(A)

ตอบคาถาม นับจานวนการส่งแบบฝึกหัด

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนร้อยละ 70 ทาแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 นักเรียนร้อยละ 70 ตอบคาถามได้ถูกต้อง นักเรียนร้อยละ 70 ส่งแบบฝึกหัดในเวลากาหนด

8

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Endangered Animals 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถบอก นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ ความหมายของคาศัพท์กิจกรรมต่างๆ 70 มีความรู้รื่องคาศัพท์ ไวยกรณ์ของ ได้ (K) ประโยคในเนื้อเรื่อง 2. เพื่อให้นักเรียนสามาถพูดโต้ตอบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ คาถามประสบการณ์ของตนเองได้ (P) 70 ฝึกการอ่าน การจับใจความสาคัญ และการตอบคาถามจากเรื่อง 3. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความ มุ่งมั่นในการทางาน(A) ใฝ่เรียนรู้ร่วมกิจกรรมการอ่านในชั้น เรียน 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) -

ลงชื่อ……………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Natural Safety Tips 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (K, P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smartboard 2. Power point presentation เรื่อง Natural Disaster Safety Tips 3. Super Kid 6, student book 4. Super Kid 6, activity book 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Natural Safety Tips กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 กระบวนการสร้างเจตคติ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ วิธีการสอนรูปแบบเกม  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูให้นักเรียนอ่าน สะกด ออกเสียงคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ ทบทวนคาในสัปดาห์พร้อมกัน โดยครูให้นักเรียนฟังและอ่านตามในรอบแรก จากนั้นจึงให้นักเรียนฝึกอ่านพร้อมกันด้วยตนเอง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ  Speak out ครูสรุปกิจกรรมประจาสัปดาห์ ด้วยการถามนักเรียนจากประโยคที่ให้ไว้เพื่อให้นักเรียนตอบ และให้ นักเรียนถามครูกลับและครูตอบ จากนั้นครูเสริมแรงกิจจกรม Speak out ด้วยการให้รางวัลนักเรียนที่ไปฝึกพูด สนทนาบ่อยครั้งที่สุดจากหลักฐานลายเซนรับรองของครู และให้เพื่อนๆร่วมปรบมือแสดงความยินดี 1. ขั้นสังเกต/ รับรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชี้แจงกิจกรรมนาเข้าสู่บทเรียนโดยใช้กิจกรรมเกมเป็นฐานการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ Find someone who โดยครูใส่รูปแบบประโยคและรูปภาพสถานที่ไว้ในโปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com สาหรับเป็น แนวทางในการพูด โดยใช้ประโยคจากเนื้อเรื่องมาใช้ทากิจกรรม จากนั้นครูชี้แจงวิธีการเล่น ดังนี้  สารวจที่นั่ง ให้นักเรียนนั่งในที่ของตนเอง หากมีเก้าอี้ใดว่างให้ทาการยกขึ้นเก็บหรือเอาออกชั่วคราว ให้ที่ จานวนที่นั่งมีจานวนเท่ากับผู้เล่น  ครูคือผู้เล่นตัวอย่างในครั้งแรก ครูทาการสุ่มรูปแบบประโยคเพื่อพูด  ครูพูดประโยคที่เตรียมไว้ ตัวอย่างเช่น Find someone who thinks we should run out of building when earthquake comes. Find someone who thinks we should close doors and windows when typhoon comes. Find someone who thinks we shouldn’t go near the sea when tsunami comes.

10

 ครูให้นักเรียนอ่านประโยคตามผู้นาเกมทุกครั้ง เพื่อทาความเข้าใจพร้อมกันโดยครูคอยอธิบายเพิ่มเติม  ผู้ร่วมเล่นเมื่อนฟังประโยคแล้วเริ่มวิเคราะห์ หากเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองได้ทาไปจริง ให้สลับ/หาที่นั่งใหม่ รวมทั้งครูด้วย ผู้เล่มคนใดหาที่นั่งไม่ทันจะต้องออกมาเป็นคนต่อไป 2. ขั้นวิเคราะห์ 2.1 ดาเนินกิจกรรมประมาน 10 - 15 นาที (ตามความเหมาะสม) โดยครูร่วมเล่นด้วยเพื่อให้ที่นั่งเต็ม 2.2 ครูคอยสังเกตการณ์การทากิจจกรรมของนักเรียนเพื่อให้คาแนะนาช่วยเหลือนักเรียน ดังนี้ - นักเรียนกลุ่มเก่ง (พูดได้ มีความกล้าแสดงออก) ครูสบตาและยิ้มให้กาลังใจเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มกลาง (พูดได้ อาจไม่คล่อง และไม่ค่อยมั่นใจ) ครูยืนช่วยข้างๆพร้อมกล่าวคาชมเชยเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มอ่อน (พูดไม่ค่อยได้ เขินอาย ขาดความมั่นใจ) ครูให้พูดประโยคที่ให้พูดตามและยืนช่วยข้างๆ 3. ขั้นสรุป 3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และคุณธรรมที่ได้จากกิจกรรมนี้ เช่น ความซื่อสัตย์ในการเล่นตามกติกา หรือซื่อสัตย์ต่อคาตอบตรามความจริงของตนเอง เป็นต้น โดยขออาสาสมัครในการตอบ 3-5 คน 3.2 ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดทบทวนคาศัพท์และเนื้อเรื่องเป็นการบ้านทบทวนบทเรียน 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (K, P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิต สาธารณะ (A)

เล่นกิจกรรม Find someone who

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ พูดประโยคในกิจกรรมได้

บันทึกแบบสังเกตพฤติกรรม

ผ่านเกณฑ์ 3 ข้อจาก 5 ข้อ

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

11

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Natural Safety Tips 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน 70 ฝึกการอ่าน การจับใจความสาคัญ ห้องเรียนได้ (K, P) และการตอบคาถามจากเรื่อง 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริต นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความ และมีจิตสาธารณะ (A) ใฝ่เรียนรู้ร่วมกิจกรรมการอ่านในชั้น เรียน 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง)\ -

ลงชื่อ……………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง Christmas Time! จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 10 วันที่ 19 – 23 เดือน ธันวาคม พ.ศ 2565 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้อย่างเหมาะสม กับกาลเทศะ ตัวชี้วัดที่ 1. ใช้ถ้อยคา นาเสียง และกริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา สาระแกนกลาง การใช้ถ้อยคา นาเสียง และกริยาท่าทางตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การขอบคุณ ขอโทษ การใช้สีหน้าท่าทางประกอบการพูด ขณะแนะนาตนเอง การสัมผัสมือ การโบกมือ การแสดง ความรู้สึกชอบ/ ไม่ชอบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้อย่างเหมาะสม กับกาลเทศะ ตัวชี้วัดที่ 3. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ สาระแกนกลาง กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่นการเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทาน บทบาทสมมุติ วัน ขอบคุณพระเจ้า วันคริสต์มาส วันขึนปีใหม่ วันวาเลนไทน์ สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยน เรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัดที่ 1. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ สาระแกนกลาง การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและการรวบรวมคาศัพท์ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัวจากสื่อ และแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ

2

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Humble, Hospitality, จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C4 ทักษะด้านความเข้าใจความต่างของวัฒนธรรม กระบวนทัศน์ C7 ทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C8 ความมีเมตตา วินัย คุณธรรมและจริยธรรม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรมเทศกาลวันคริสต์มาส (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียง สะกดคาและบอกความหมายคาศัพท์เกี่ยวกับ เทศกาลวันคริสต์มาสได้(K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ภาษาร่วมทากิจกรรมในเทศกาลคริสต์มาส (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Joy to the World 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรมเทศกาลวันคริสต์มาส (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. youtube : https://www.youtube.com/watch?v=1cL96hoKa7k 3. youtube : https://www.youtube.com/watch?v=Ndc4a9ZTn1Y 4. youtube : https://www.youtube.com/watch?v=dzY7YLEaMJk 5. Christmas story pop up card 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Joy to the World กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ BBL (Brain Based Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครัง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พืนฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. Warm up ครูสวมหมวก Santa Claus และบอกนักเรียนว่า I’m a Santa Claus.จากนันทักทายนักเรียน ดังนี T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you 2. Presentation 2.1 ครูนานักเรียนทากิจกรรมร้องเพลงและปรบมือบริหารสมองโดยใช้เพลง Jingle Bell จากสื่อ youtube https://www.youtube.com/watch?v=1cL96hoKa7k ให้นักเรียนทาตามท่าทางก่อน 1 รอบ จากนัน รอบที่ 2 ให้นักเรียนร้อมเพลงพร้อมปรบมือ รอบที่ 3 ครูเร่งจังหวะเพลงให้เร็วขึนเล็กน้อยและให้นักเรียนร้อง เพลงและปรบมือให้ทัน เมื่อสินสุดกิจกรรมครูกล่าวชมเชยและปรบมือนักเรียนทุกคน 2.2 ครูถามนักเรียนว่าเพลงที่ร้องไปนันเกี่ยวข้องกับเทศกาลใด และนักเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของเทศกาล คริสต์มาสหรือไม่ หากมีนักเรียนตอบได้ครูกล่างคาชมเชยที่ร่วมแสดงความคิดเห็น 3. Learn ครูนาเสนอนิทานเพลงประวัติวันคริสตมาสให้นักเรียนเรียนรู้จากสื่อ https://www.youtube.com/watch?v=Ndc4a9ZTn1Y จากนันครูพูดคุยถึงคาศัพท์ ประโยค ในนิทานเพลง ถึงความหมายเพื่อให้นักเรียนเข้าใจตรงกัน

4

4. Wrap up ครูจัดกิจกรรม Christmas story pop up card แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย 3 – 4 คน จากนันแจก ชินส่วนการ์ดให้นักเรียนตกแต่งและประกอบและเขียนเรื่องราววันคริสตมาสอย่างย่อจากคลิปวิดีโอ ระหว่างกิจกรรมครูเปิดเพลง Christmas จากสื่อ https://www.youtube.com/watch?v=dzY7YLEaMJk

5. Apply ครูเชิญชวนนักเรียนร่วมกิจกรรมวันคริสมาตตามสถานที่ต่างๆที่จัดงาน และเสริมเรื่องคุณธรรมความรักและ เมตตาในโอกาสเทศกาลวันคริสมาสนี 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรมเทศกาลวัน คริสต์มาส (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชา ภาษาอังกฤษ (A)

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล ถาม – ตอบคาถามในกิจกรรมการเรียนรู้ ทา Christmas story pop up card ส่ง ถาม – ตอบคาถามในกิจกรรมการเรียนรู้

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80 ร้อยละ 80

5

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Joy to the World 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรม นักเรียันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 เทศกาลวันคริสต์มาส (K,P) ให้ความสนใจร้องเพลง ปรบมือ ตอบ แสดงความเห็นและร่วมกิจกรรมทา pop up card จนสาเร็จ 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการ นักเรียันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 เรียนวิชาภาษาอังกฤษ (A) ให้ความสนใจร้องเพลง ปรบมือ ตอบ แสดงความเห็น

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Joy to the World ในคาบนีพบว่า - วิธีการเสริมแรง ปรบมือและกล่าวคาชมเชย

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Christmas Bingo 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียง สะกดคาและบอกความหมายคาศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลวันคริสต์มาสได้(K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. Bingo Card 3. Power Point Presentation : Christmas words 4. https://wheelofnames.com/ 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Christmas Bingo กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 1. ขั้นทบทวนประสบการณ์ (Experience) 1.1 ครูสวมหมวก Santa Claus และบอกนักเรียนว่า I’m a Santa Claus.จากนันทักทายนักเรียน ดังนี T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูนาเสนอคาศัพท์ให้ทบทวนคาศัพท์เทศกาลวันคริสมาสจากสื่อ Power Point Presentation : Christmas words ให้นักเรียนอ่านออกเสียงทีละคาและบอกความหมาย ดังนี

2. ขั้นกิจกรรม (Activity) 2.1 ครูแจกบัตร Bingo ให้นักเรียนคู่ละ 1 แผ่น จากนันครูสุ่มคาศัพท์ขึนมาทีละ 1 คา โดยใช้สื่อ https://wheelofnames.com/ ให้นักเรียนอ่านคาที่ครูสุ่มในแต่ละครังพร้อมกัน 2.2 ครูสุ่มคาศัพท์ใหม่ไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีนักเรียน Bingo หากนักเรียนคนใด Bingo ครูให้สุ่มรางวัลจากสื่อ https://wheelofnames.com/ ครูจัดกิจกรรม 4 – 5 รอบ จึงสินสุดกิจกรรม

7

3. ขั้นสะท้อนความคิด (Reflex / Feedback) เมื่อสินสุดกิจกรรม ครูพูดคุยกับนักเรียนให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรมกรรมนีทัง ด้านความรู้วิชาการและคุณธรรมที่เกิด ครูกล่าวคาชมเชยนักเรียนที่ร่วมแสดงความคิดเห็น 4. ขั้นประเมินผล (Apply) ครูให้นักเรียนแต่ละคู่เขียนคาศัพท์และความหมายจากกิจกรรมลงในสมุดส่ง คู่ใดสามารถเขียนคาศัพท์ ได้ถูกต้องและมากที่สุด ครูมีรางวัลให้ 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียง สะกดคาและ บอกความหมายคาศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลวัน คริสต์มาสได้(K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชา ภาษาอังกฤษ (A)

อ่านคาศัพท์และทากิจกรรม Bingo

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

ร่วมกิจกรรมและเขียนคาศัพท์ส่ง

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียง สะกด นักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 95 คาและบอกความหมายคาศัพท์ อ่านออกเสียง บอกความหมาย และทา เกี่ยวกับเทศกาลวันคริสต์มาสได้(K,P) กิจกรรมด้วยความตื่นตัว 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการ นักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 100 เรียนวิชาภาษาอังกฤษ (A) มีความสุขสนุกกับการเรียนรู้

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ในคาบนีพบว่า - จุดเด่น กิจกรรม Bingo ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ด้านการจดจาคาศัพท์ - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย ปรบมือ และรางวัลจากการสุ่ม

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

8

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Christmas Activity Loops 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ภาษาร่วมทากิจกรรมในเทศกาลคริสต์มาส (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart TV 2. อุปกรณ์ฐานกิจกรรม 5 ฐาน 3. Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=3zn0OkOm17k 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Christmas Activity Loops กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูสรุปกิจกรรมฝึกพูดประจาสัปดาห์ สุ่มนักเรียนออกมานาเสนอ 3 คู่ และเรียกเก็บคะแนน จากลายเซนครูในสมุดที่นักเรียนไปฝึกพูดด้วย  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พืนฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นทบทวนประสบการณ์ (Experience) 1.1 ครูสวมหมวก Santa Claus และบอกนักเรียนว่า I’m a Santa Claus.จากนันทักทายนักเรียน ดังนี T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชีแจงกิจกรรมการเรียนในคาบนีเรื่อง Christmas Activity Loops ฐานกิจกรรม workshop เรียนรู้คาศัพท์ ประโยค สัญลักษณ์และเรื่องราววันศริสมาสผ่านชินงานที่หลากหลาย 1.3 ครูชีแจงกติการการทากิจกรรม ให้นักเรียนแต่ละคนเวียนทาชินงานให้ได้อย่างน้อย 2 ชินงานจาก 5 ฐาน กิ จ กรรม โดยให้ เ วลาท ากิ จ กรรม 30 นาที ครุ ใ ช้ เ พลง Christmas Song จากสื่ อ Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=3zn0OkOm17k เป็นตัวจับเวลาและเพื่อสร้างบรรยากาศวันคริสมาส 1.4 ครูสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้และร่วมกิจกรรมหากนักเรียนคนใดทาสาเร็จ 2 ชินงานจาก 5 ชินตามกติกาจะได้ คะแนนจิตพิสัยความมุ่งมั่นตังใจในการทางาน แต่หากใครทาได้มากกว่านันครูให้รางวัลเพิ่ม 1.5 ครูอธิบายกิจกรรมแต่ละฐานกิจกรรมการเรียนรู้ดังนี 2 4. 

Loop 1 : Snow Globe



Loop 2 : Christmas Words Flags



Loop 3 : Christmas Word Search pop up



Loop 4 : Christmas Crown



Loop 5 : Christmas Room Designer

1

3

5

9

2. ขั้นกิจกรรม (Activity) ครูเริ่มกิจกรรมให้นักเรียนเลือกนั่งตามฐานกิจกรรมแรกที่ตนเองเลือก โดยครูคอยสังเกตความเหมาะสมของ จานวนนักเรียนแต่ละฐานเพื่อความคล่องตัวและความสะดวกในการใช้อุปกรณ์ส่วนกลางเช่น กรรไกร กาว สติก เกอร์หรือสี จากนันครูให้สัญญาณจากเพลงให้นักเรียนลงมือทา และระหว่างกิ จกรรมดาเนินครูเดินสารวจและให้ คาแนะนาและความช่วยเหลือนักเรียน 3. ขั้นสะท้อนความคิด (Reflex / Feedback) เมื่อหมดเวลาทากิจกรรมครูปิดเพลงแล้วถามถึงความสาเร็จในการทาชินงานตามกติกาที่แจ้ง โดยให้นักเรียน ยกมือและโชว์ผลงานให้เพื่อนๆดู ครูกล่าวขมเชยผลงาน ดังนี • นักเรียนที่ทาชินงานสาเร็จ 2 ชิน รับคะแนนจิตพิสัย • นักเรียนที่ทาชินงานสาเร็จ 3 ชินขึนไป รับคะแนนจิตพิสัย + ลูกอม x จานวนชินงาน 4. ขั้นประเมินผล (Apply) ครูสินสุดการเรียนคาบนีด้วยประโยคอวยพรวัน Christmas : "May the Christmas Season bring only happiness and joy to you and your family." แล้วให้นักเรียนพูดตาม และเติมคาว่า too ไว้ท้ายประโยค ของนักเรียน หลังจากนักเรียนพูดจบ ครูโปรยลูกอมพร้อมพูดว่า Merry Christmas and Happy New Year ! 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ภาษาร่วมทากิจกรรมใน เทศกาลคริสต์มาส (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชา ภาษาอังกฤษ (A)

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล สังเกตุพฤติกรรมและบันทึกลงแบบ สังเกตุพฤติกรรมรายบุคคล สังเกตุพฤติกรรมและบันทึกลงแบบ สังเกตุพฤติกรรมรายบุคคล

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ 3 ใน 5 ข้อ ผ่านเกณฑ์ 3 ใน 5 ข้อ

10

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Christmas Activity Loops 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ภาษาร่วมทา นักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 กิจกรรมในเทศกาลคริสต์มาส (K,P) ร่วมทากิจกรรมตามฐานต่างๆจนสาเร็จตาม กติกาที่ให้ไว้ 2. เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการ นักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 เรียนวิชาภาษาอังกฤษ (A) ปฏิบัติกติกาและร่วมกิจกรรมอย่างมี ความสุข

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Christmas Activity Loops ในคาบนีพบว่า - อุปสรรค เวลาและอุปกรณ์ในการทาไม่เพียงพอต่อความต้องการ - จุดเด่น เรียนรู้ผ่านกิจกรรม - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชยและให้รางวัล

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง International Culture จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 11 วันที่ 3 – 6 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐานที่ 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 2 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล/ วันสาคัญ/ งานฉลอง/ ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา สาระแกนกลาง ข้อมูลและความสาคัญของเทศกาล / วันสาคัญ / งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ ของเจ้าของภาษา เช่น วันคริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ วันวาเลนไทน์ เครื่องแต่งกาย ฤดูกาล อาหาร เครื่องดื่ม สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐานที่ 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 2 เปรียบเทียบความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลงานฉลองและประเพณีของ เจ้าของภาษากับของไทย สาระแกนกลาง การเปรียบเทียบความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลงานฉลองและประเพณี ของเจ้าของภาษากับของไทย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Home, Heart

2

จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C2 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม C4 ทักษะด้านความเข้าใจความต่างของวัฒนธรรม กระบวนทัศน์ C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1

คาบที่ 2

คาบที่ 3

1. เพื่อให้นักเรียนบอกความหมายของคา วลีและประโยคจากเรื่องได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนจับใจความสาคัญของเรื่องได้อย่างถูกต้อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 1. เพื่อให้นักเรียนบอกความหมายของคา วลีและประโยคจากเรื่องได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนจับใจความสาคัญของเรื่องได้อย่างถูกต้อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้พื้นฐานวิชาภาษาอังกฤษ คณิต วิทย์ มาประยุกต์ใช้ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกคิดวางแผนอย่างมีเหตุผล (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย World Sport 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนบอกความหมายของคา วลีและประโยคจากเรื่องได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนจับใจความสาคัญของเรื่องได้อย่างถูกต้อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : World Sport 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 World Sport กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ การบวนการอ่านแบบที่ 2  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นสังเกตุ / รับรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูเริ่มบทเรียนด้วยคาถาม Do you like sport? / What sport do you like? ให้นักเรียนร่วมกันตอบข้อมูล ของตนเอง ครูใช้เวลาเพียง 3-5 นาที ในการถามนักเรียน 1.3 ครูนาเสนอบทเรียนเรื่อง World Sport จากสื่อ Power Point Presentation นาเสนอเนื้อเรื่องและคาศัพท์ โดยครูเริ่มจากคาศัพท์ให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามและฝึกอ่านเอง ดังนี้ compete gold medal

dive silver medal

row bronze medal

martial sport trophy

snowboarding wheelchair

2. การเข้าใจสาร / ประโยคที่อา่ น 2.1 ครูเปิดเสียง Audio เรื่อง World Sport ให้นักเรียนฟังและชี้ตามในรอบแรก จากนั้นครูให้นักเรียนฟังอีกครั้ง และอ่านตามทีละประโยค รอบที่ 3 ครูให้นักเรียนอ่านเองพร้อมกัน 2.2 ครูพูดถึงความหมายของเรื่องทีละประโยค โดยครูให้นักเรียนอาสาสมัครบอกความหมาย หรือหากประโยคใดไม่ มีนักเรียนตอบ ครูจึงช่วยบอกความหมาย

4

3. การตอบสนองต่อสารเมื่อเข้าใจสาระ ครูแบ่งกลุ่มนักเรียน 4-5 คน อภิปรายเรื่องราวกับนักเรียนด้วยประเด็นคาถามดังนี้  What this story about?  How many kind of sport in the story?  What are they?  What sport in the story are you interested the most?  Have you ever do these sports?  Where did you do?  Have you ever gotten a medal?  What kind of a medal did you get?  Have you ever gotten trophy? 4. การบูรณาการความคิด 4.1 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมารับกระดาษโปรเตอร์ขนาด A3 กลุ่มละ 1 แผ่น เพื่อนาได้สร้างชิ้นงาน Cool Sport of Thai vs (another country ex. America) ให้นักเรียนหาข้อมูลกีฬาของไทยและประเทศอื่นที่สนใจ พร้อมอธิบายขั้นตอนการเล่น และตกแต่งให้สวยงาม 4.2 หากมีเวลาเหลือครูให้นักเรียนแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความคิด โดยในแต่ละกลุ่มไปศึกษาผลงานกลุ่มอื่นๆ 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกความหมายของคา วลี และประโยคจากเรื่องได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนจับใจความสาคัญของเรื่องได้ อย่างถูกต้อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

ถาม – ตอบ กิจกรรมในชั้นเรียน

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 75

ถาม – ตอบ กิจกรรมในชั้นเรียน

อยละ 70

นับจานวนงานที่ทาส่งตามเวลา ที่กาหนด

อยละ 75

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 World Sport 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกความหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ของคา วลีและประโยคจากเรือ่ งได้ มีความพยายามในการอ่านคาศัพท์อย่าง (K) ถูกต้องตามเสียง และให้ความหมายของคา วลีและประโยค 2. เพื่อให้นักเรียนจับใจความสาคัญ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 75 ของเรื่องได้อย่างถูกต้อง (P) สามารถบอกใจความสาคัญและตอบคาถาม จากเรื่องได้ 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความ การทางาน (A) มุ่งมั่นในการทางานจนสาเร็จทันเวลา

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม

-

-

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง World Sport ในคาบนี้พบว่า -

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย international food 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนบอกความหมายของคาวลีและประโยคจากเรื่องได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนจับใจความสาคัญของเรื่องได้อย่างถูกต้อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : international food 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 international food กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ การบวนการอ่านแบบที่ 1  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นเตรียมการอ่าน 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูเริ่มบทเรียนด้วยคาถาม What food do you like? Can you cook any easy menu? ให้นักเรียน ร่วมกันตอบข้อมูลของตนเอง ครูใช้เวลาเพียง 3-5 นาที ในการถามนักเรียน 1.3 ครูนาเสนอบทเรียนเรื่อง international sport จากสื่อ Power Point Presentation นาเสนอเนื้อเรื่อง และคาศัพท์ โดยครูเริ่มจากคาศัพท์ให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามและฝึกอ่านเอง ดังนี้ slice squeeze

scoop boil

on top

toast

soak

add

toaster oven heat

2. ขั้นการอ่าน 2.1 ครูเปิดเสียง Audio เรื่อง international sport ให้นักเรียนฟังและชี้ตามในรอบแรก จากนั้นครูให้นักเรียนฟัง อีกครั้งและอ่านตามทีละประโยค รอบที่ 3 ครูให้นักเรียนอ่านเองพร้อมกัน 2.2 ครูพูดถึงความหมายของเรื่องทีละประโยค โดยครูให้นักเรียนอาสาสมัครบอกความหมาย หรือหากประโยคใด ไม่มีนักเรียนตอบ ครูจึงช่วยบอกความหมาย

7

3. แสดงความคิดเห็น ครูอภิปรายเรื่องราวกับนักเรียนด้วยประเด็นคาถามดังนี้  What food in the story do you like the most?  Have you ever tried ……(menu)….. ?  Do you like spicy food?  Can you cook?  What food can you cook?  How often do you cook? 4. อ่านสารวจ ครูให้ นกั เรี ยนจับคูต่ อบคำถำมจำกเรื่ องลงสมุด โดยให้ นกั เรี ยนอ่ำนเนื ้อเรื่ องอีกครัง้ เพื่อตอบคำถำม 5. ขยายความคิด ครูแจ้ งกิจกรรม Food Workshop ที่กาลังจะจัดใน 4 คาบถัดไป ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มย่อย 4 – 5 คน เตรียมทากิจกรรมย่อยที่ 1 : Sufficiency Eco Integration (บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม วางแผนคิดเมนูอาหารกลางวันที่จะทารับประทานด้วยกันในงบ 200 บำท 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกความหมายของคา วลี และประโยคจากเรื่องได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนจับใจความสาคัญของเรื่องได้ อย่างถูกต้อง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

ถาม – ตอบ กิจกรรมในชั้นเรียน

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 75

ถาม – ตอบ กิจกรรมในชั้นเรียน

ร้อยละ 70

นับจานวนงานที่ทาส่งตามเวลา ที่กาหนด

ร้อยละ 75

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

8

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 international food 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกความหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ของคา วลีและประโยคจากเรือ่ งได้ มีความพยายามในการอ่านคาศัพท์อย่าง (K) ถูกต้องตามเสียง และให้ความหมายของคา วลีและประโยค 2. เพื่อให้นักเรียนจับใจความสาคัญ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 75 ของเรื่องได้อย่างถูกต้อง (P) สามารถบอกใจความสาคัญและตอบคาถาม จากเรื่องได้ 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความ การทางาน (A) มุ่งมั่นในการทางานจนสาเร็จทันเวลา

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม

-

-

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง international food ในคาบนี้พบว่า -

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Sufficiency Eco Integration 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้พื้นฐานวิชาภาษาอังกฤษ คณิต วิทย์ มาประยุกต์ใช้ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกคิดวางแผนอย่างมีเหตุผล (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart TV 2. ใบกิจกรรม Let’s plan our lunch. 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Sufficiency Eco Integration กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ CBL (Creativity Based Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูสรุปกิจกรรมฝึกพูดประจาสัปดาห์ สุ่มนักเรียนออกมานาเสนอ 3 คู่ และเรียกเก็บคะแนน จากลายเซนครูในสมุดที่นักเรียนไปฝึกพูดด้วย  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. Motivation 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชี้แจงกิจกรรม Food Workshop กิจกรรมย่อยที่ 1 : Sufficiency Eco Integration (บูรณาการเศรษฐกิจ พอเพียง) ที่ได้จัดกลุ่มไว้ในคาบที่แล้ว ครูสุ่มนักเรียน 2 – 3 กลุ่มนาเสนอเมนูอาหารที่สมาชิกในกลุ่มคิดไว้ในงบ ที่กาหนด เพื่อเป็นตัวอย่างกับกลุ่มอื่นๆ หากยังไม่มีกลุ่มใดคิดได้ครูยกตัวอย่างให้นักเรียนดูเพื่อเป็นแนวทาง 2. Group to Goal ครูแจกใบกิจกรรม Let’s plan our lunch. ให้นักเรียนแต่ล ะกลุ่มช่วยกันทา ครูกาหนดเวลาในการทา 20 นาที เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันคิด โดยครูย้าเตือนเรื่องการบูร ณาการความรู้พื้นฐานวิช าภาษาอัง กฤษ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ดังนี้  วิชาภาษาอังกฤษ คาศัพท์  วิชาคณิตศาสตร์ การคานวน การคาดคะเน  วิชาวิทยาศาสตร์ สารอาหาร 3. Search and Share 3.1 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเวียนฐานกิจกรรมเพื่อศึกษาดูงานของกลุ่มอื่น 3 นาที โดยใช้เพลลงเป็นตัวจับเวลา ใน การดาเนินกิจกรรมเพื่อให้เกิดความสนุกสนาน 3.2 ครูให้แต่ละกลุ่มกลับมาประจากลุ่มเดิมและให้เวลานักเรียนคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เจอมาและลงมือทาใบ กิจกรรมต่อ

10

4. Show Time ครูให้นักเรียนนาผลงานมาแสดงหน้าชั้นเรียน (ครูอาจจะติดไว้ที่กระดาน) แล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอว่า กลุ่มตนเองใช้ล บไปกับอะไรบ้าง โดยให้ เพื่อนๆในห้องช่วยกันคิดไปด้วยว่ารวมเป็นเงินเท่าไหร่ พอกับงบที่ให้ไป หรือไม่ 5. Feedback ครูกล่าวชมเชยและปรบมือให้กับกลุ่มที่ทากิจกรรมสาเร็จทั้งใบกิจกรรมและการบริหารงบอย่างเพียงพอและ ความสมเหตุสมผลของปริมาณอาหารกับจานวนคน ส่วนกลุ่มใดยังตกแต่งใบกิจกรรมไม่เสร็ จครูให้นากลับไปทาต่อ และส่งในคาบถัดไป 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้ นกั เรี ยนนำควำมรู้พื ้นฐำนวิชำ

ภำษำอังกฤษ คณิต วิทย์ มำประยุกต์ใช้ ได้ (K) 2. เพื่อให้ นกั เรี ยนได้ ฝึกคิดวำงแผนอย่ำงมี เหตุผล (P) 3. เพื่อให้ นกั เรี ยนมีควำมมุง่ มัน ่ ในกำรทำงำน (A)

ตรวจใบกิจกรรม

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

ตรวจใบกิจกรรม

ร้อยละ 80

นับจานวนกลุ่มที่ทาข้อมูล ใบกิจกรรมสาเร็จตามเวลากาหนด

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

11

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Sufficiency Eco Integration 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 1. เพื่อให้ นกั เรี ยนนำควำมรู้พื ้นฐำน สามารถนาความรู้วิชาต่างๆมาทากิจกรรม วิชำภำษำอังกฤษ คณิต วิทย์ มำ ได้อย่างถูกต้อง ประยุกต์ใช้ ได้ (K)

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางส่วนยังนาความรู้วิชา วิทยาศาสตร์มาใช้ได้ไม่ถูกต้อง ครู คอยแนะนาจนสาเร็จ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 สามารถช่วยกันออกแบบและวางแผนใบ กิจกรรมได้สาเร็จ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 95 สามารถทากิจกรรมจนเสร็จและส่งใบงาน ภายในเวลาที่กาหนด

นักเรียนบางส่วนวางแผนใบงานไม่ สมเหตุสมผล คอยคอยแนะนา และติดตามจนสาเร็จ นักเรียนบางส่วนระบายสีตกแต่ง ไม่เสร็จ ครูให้นักเรียนทานอก เวลาและนาส่งก่อนถึงคาบถัดไป

2. เพื่อให้ นกั เรี ยนได้ ฝึกคิดวำงแผน

อย่ำงมีเหตุผล (P) เพื่อให้ นกั เรี ยนมีควำมมุง่ มัน่ ใน กำรทำงำน (A) 3.

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Sufficiency Eco Integration ในคาบนี้พบว่า - อุปสรรค เวลาน้อยไปสาหรับการทากิจกรรมที่ต้องใช้การคิดวางแผนและทาข้อตกลงในกลุ่มอย่างต่อเนื่อง - จุดเด่น กิจกรรมบูรณาการความรู้วิชาคณิต วิทย์ อังกฤษ และชีวิตประจาวันเข้าด้วยกัน - วิธีการเสริมแรง ชมเชยให้กาลังใจ คอยแนะนาช่วยเหลือเมื่อนักเรียนทาไม่ได้หรือไม่ถูกต้อง

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 เรื่อง Botany School with See-Da tomato จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 12 วันที่ 9 – 13 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัดที่ 2. การให้คาแนะนาอย่างเป็นขั้นตอน สาระแกนกลาง การให้คาแนะนาอย่างเป็นขั้นตอน สาระที่ 1 มาตรฐาน 1.3 ตัวชี้วัดที่ 2. สาระแกนกลาง

ภาษาเพื่อการสื่อสาร นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูดและการเขียน เขียนภาพ แผนผัง แผนภูมิ และตารางแสดงข้อมูลต่าง ๆ ที่ฟังหรืออ่าน คา กลุ่มคา และประโยคที่มีความหมายสัมพันธ์กับภาพ แผนผัง แผนภูมิและตาราง

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธกับชุมชนและโลก มาตรฐาน 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัดที่ 1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา สาระแกนกลาง การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Humble, Hospitality, hope

2

จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C3 ทักษะความร่วมมือและการทางานเป็นทีม ภาวะผู้นา C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร C6 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1. 1. เพื่อให้นักเรียนบอกข้อมูลโดยการเขียน/วาด แผนภาพขั้นตอนการทาอาหาร จากมะเขือเทศ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนนาเสนอข้อมูล แนะนาอาหารและขั้นตอนการทาได้อย่างสมเหตุสมผล (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3. เพื่อให้นักเรียมีความใฝ่เรียนรู้ (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนประยุกต์ใช้ความรู้สู่การปฏิบัติจริง (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมั่งมั่นในการทางาน (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Thai tomato, Thai food design 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนบอกข้อมูลโดยการเขียน/วาด แผนภาพขั้นตอนการทาอาหารจากมะเขือเทศ (K, P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : “See Da” an amazing tomato of Thailand 3. ใบกิจกรรม เรื่อง Thai tomato food design 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Thai tomato, Thai food design กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ CL (Cooperative Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. Preparation 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How are you? S : I’m …………… Thank you 1.2 ครูชี้แจงจุดประสงค์กิจกรรมการเรียนในคาบนี้ว่าเป็นกิจกรรมบูรณาการพฤกษศาสตร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมใหญ่ ต่อเนื่อง 3 คาบ โดยคาบคาบนี้จะเป็นกิจกรรมย่อยที่ 1 Thai tomato, Thai food design การศึกษาค้นคว้า เพื่อนามาต่อยอดสู่ชีวิตประจาวัน เรื่อง อาหารจากมะเขือสายพันธุ์ดา 2. Content Presentation 2.1 ครูใช้คาถามกระตุ้นความคิดเกี่ยวกับอาหาร ดังนี้  Who can eat vegetable?  What vegetable can you eat?  Do you like Tomato?  How does it taste?  Who know what food make from tomato? 2.2 ครูเปิดสื่อ Power Point Presentation : “See Da” an amazing tomato of Thailand พูดคุยกับ นักเรียนเรื่องลักษณะและมะเขือเทศสีดาของไทยพอสังเขป จากนัยถามถึงเมนูอาหารไทยที่ใช้มะเขือเทศสีดาเป็น ส่วนประกอบ ครูชมเชยนักเรียนที่ร่วมแสดงความคิดเห็นทุกครั้ง

4

3. Group Activity 3.1 ครูนาเสนอเมนูอาหารไทยจากมะเขือเทศสีดาที่สามารถทาได้ง่ายและเป็นที่รู้จักนั่นคือ ส้มตา 3.2 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มย่อย 6 - 7 คน ทากิจกรรมกลุม่ Thai tomato, Thai food design ให้นักเรียน ช่วยกันคิดและหาข้อมูลส้มตาประเภทต่างๆที่มีส่วนประกอบของมะเขือเทศกลุ่มละ 1 เมนู โดยแจ้งว่าเมนูที่แต่ ละกลุ่มคิดจะเป็นเมนูที่เรานาไปต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้การทาอาหารจริง เพื่อให้นักเรียนเลือกหาเมนูที่มี ความเหมาะสมกับบริบทของกลุ่มตนเอง 3.3 ครูให้ตวั แทนแต่ละกลุ่มยืนขึ้นเพื่อบอกเมนูของตนเอง เพื่อให้เมนูของแต่ละกลุ่มไม่ซ้าและมีความ หลากหลาย เช่น ส้มตาไข่เค็ม ส้มตาไทย ส้มตามาม่า สั้มตาข้าวโพด ส้มตาผลไม้ เป็นต้น 3.4 ครูแจกใบกิจกรรม กลุ่ม Thai tomato, Thai food design ให้นักเรียนลงข้อมูลเมนูที่สางแผนจะทา พร้อมทั้งตกแต่งให้สวยงาม 4. Feedback 4.1 ครูขออาสาสมัครกลุ่มที่ผลงานเสร็จแล้วออกมานาเสนอเมนูจากมะเขือเทศ และข้อมูลวัตถุดิบคร่าวๆ เพื่อครู ตรวจสอบความเป็นไปได้ในการทาพร้อมทั้งเสนอแนะเพิ่มเติมและเพื่อเป็นแนวทางให้กลุ่มอื่นๆ จากนั้นครูกล่าว ชมเชยกลุ่มที่ออกมานาเสนอ 4.2 ครูแจ้งนักเรียนถึงกิจกกรมย่อยที่ 2 How to make Papaya Salad. ในคาบหน้า ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม เตรียมออกมานาเสนอชื่อเมนู วัตถุดิบ อุปกรณ์ งบการทาอาหารจริง (ครูกาหนดหนดงบประมานกลุ่มละไม่เกิน 100 บาท) และสร้างจูงใจในการเตรียมนาเสนอว่าหากกลุ่มใดสามารถนาเสนอได้เข้าใจ ตรงประเด็น จะได้ผ่าน เข้าไปทากิจกรรมย่อยที่ 3 Let’s be a streamer. 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกข้อมูลโดยการเขียน/วาด แผนภาพขั้นตอนการทาอาหารจากมะเขือเทศ (K, P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล ทาใบกิจกรรม Thai tomato, Thai food design ถาม – ตอบ จากกิจกรรมการเรียนรู้

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

ร้อยละ 80

5

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Thai tomato, Thai food design 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกข้อมูลโดยการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อนละ 85 เขียน/วาด แผนภาพขั้นตอนการ แบ่งหน้าที่กันหาข้อมูลและทาใบกิจกรรม ทาอาหารจากมะเขือเทศ (K, P) จนสามารถให้ข้อมูลโดยสังเขปได้ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 (A) มีความกระตือรือร้นในการถามและตอบ

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Thai tomato, Thai food design ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น การประยุกต์และบูรณาการสวนพฤกษศาสตร์สู่ชีวิตประจาวัน - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชยและให้รางวัลเชิงบวกหากทากิจกรรมสาเร็จ

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย How to make Papaya Salad. 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนนาเสนอข้อมูล แนะนาอาหารและขั้นตอนการทาได้อย่างสมเหตุสมผล (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3. เพื่อให้นักเรียมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : How to make Papaya Salad. 3. แบบบันทึกกิจกรรม How to make Papaya Salad. 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 How to make Papaya Salad. กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 1. ขั้นทบทวนประสบการณ์ (Experience) 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How are you? S : I’m …………… Thank you 1.2 ครูแจ้งกิจกรรมนาเสนอผลงานในคาบนี้ ให้เวลาแต่ละกลุ่มนาเสนอกลุ่มละ 5 นาที โดยผู้ฟังจะต้องบันทึก ข้อมูลและความรู้ที่ได้จากการนาเสนอของเพื่อนแต่ละกลุ่มลงในแบบบันทึกกิจกรรม How to make Papaya Salad. 2. ขั้นกิจกรรม (Activity) ครูแจกใบบันทึกกิจกรรมและเริ่มกิจกรรมการนาเสนอโดยการจับฉลากลาดับกลุ่มนาเสนอ เมื่อสั้นสุดการ นาเสนอแต่ละครั้งให้นาผู้ฟังปรบมือให้กาลังใจแต่ละกลุ่ม 3. ขั้นสะท้อนความคิด (Reflex / Feedback) ครูสุ่มตัวแทนแต่ละกลุ่มที่ฟังเพื่อนนาเสนอให้ feedback หรือถามข้อสงสัยกับ กลุ่มนาเสนอ เพื่อกระตุ้น การฟังการนาเสนอการคิดและการตั้งใจเรียน โดยสุ่ม 1 กลุ่มต่อการนาเสนอ 1 ครั้ง รวมทั้งครูร่วมแสดงความ คิดเห็นต่อการนาเสนอของแต่ละกลุ่มด้วย 4. ขั้นประเมินผล (Apply) ครูแจ้งผลการนาเสนอว่าแต่ละกลุ่มนาเสนอว่ามีข้อมูลเพียงพอในการทาอาหารให้ผ่านหรือไม่ เพื่อเตรียมทากิจกรรมย่อยที่ 3 Let’s be a streamer. ให้แต่ละกลุ่มเตรียมวุตถุดิบและอุกรณ์ในการทา อาหารมา โดยเน้นย้าเรื่องงบประมานไม่เกินกลุ่มละ 100 บาท

7

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2

1. เพื่อให้ นกั เรี ยนนำเสนอข้ อมูล แนะนำอำหำร

นาเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียน

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

และขันตอนกำรท ้ ำได้ อย่ำงสมเหตุสมผล (K,P) 2. เพื่อให้ นกั เรี ยนมุง่ มัน ่ ในกำรทำงำน (A) 3. เพื่อให้ นกั เรี ยมีควำมใฝ่ เรี ยนรู้ (A)

นาเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียน ทาใบกิจกกรมบันทึกข้อมูลส่ง

ร้อยละ 80 ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

จุดประสงค์การเรียนรู้

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 How to make Papaya Salad. 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 1. เพื่อให้ นกั เรี ยนนำเสนอข้ อมูล แนะนำอำหำรและขันตอนกำรท ้ ำได้ พูดนาเสนอข้อมูลได้เนื้อหาที่เข้าใจและ ข้อมูลครบถ้วน อย่ำงสมเหตุสมผล (K,P) 2. เพื่อให้ นกั เรี ยนมุง่ มัน ่ ในกำรทำงำน

(A) 3. เพื่อให้ นกั เรี ยมีควำมใฝ่ เรี ยนรู้ (A)

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 พูดนาเสนอข้อมูลจนสาเร็จตามกาหนด นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 ตั้งใจฟังเพื่อนนาเสนอและบันทึกข้อมูล ความรู้ลงใบกิจกรรมได้ครบถ้วนสมบูรณ์

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง How to make Papaya Salad. ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น กระตุ้นการเรียนรู้และสมาธิในการเรียนด้วยการใช้แบบบันทึกสิ่งที่เพื่อนาเสนอ และสุ่มเรียกให้ถาม-ตอบคาถาม - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชยและปรบมือ

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

8

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย SHC Master Chef Activity 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนประยุกต์ใช้ความรู้สู่การปฏิบัติจริง (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมั่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. วัตถุดิบอุปกรณ์การทาอาหาร 2. โทรศัพท์มือถือที่สามารถอัดคลิปวิดีโอได้ 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 SHC Master Chef Activity วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูสรุปกิจกรรมฝึกพูดประจาสัปดาห์ สุ่มนักเรียนออกมานาเสนอ 3 คู่ และเรียกเก็บคะแนน จากลายเซนครูในสมุดที่นักเรียนไปฝึกพูดด้วย  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. Warm Up 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How are you? S : I’m …………… Thank you 1.2 ครูแจ้งกิจกรรมนาเสนอผลงานในคาบนี้ ให้แต่ละกลุ่มทาอาหารพร้อมอธิบายขั้นตอนการทาเป็น ภาษาอังกฤษและถ่ายคลิปประกอบ โดยให้เวลากลุ่มละ 20 นาที 1.3 ครูเตรียมความพร้อมนักเรียนในการจัดวางอุปกรณ์และจัดสถานที่ให้เรียบร้อย ครูจับเวลาโดยให้เวลา กลุ่มละ 5 นาที เพื่อสร้างความกระตือรือร้นในการทางาน 2. Presentation ครูเริ่มกิจกรรมการทาอาหาร ให้เวลา 20 นาที ครูเดินสารวจความเรียบร้อยของการดาเนินกิจกรรมและ การมีส่วนร่วมของนักเรียน คอยให้คาปรึกษาแนะนาแก่นักเรียน 3. Wrap Up 3.1 เมื่อหมดเวลาครูส่งสัญญาณบอกนักเรียนให้นาอาหารมาส่ง และให้เวลานักเรียนอีก 10 นาทีในการเก็บ กวาดทาความสะอาดสถานที่ทาอาหารให้เรียบร้อย ครูเดินตรวจทานความสะอาดเรียบร้อยและให้คะแนน 3.2 ครูขออาสาสมัคร 3 คน และสุ่มกรรมการอีก 2 คน เป็นกรรมการในการชิมเพื่อตัดสินอาหารแต่ละจาน ว่าผ่านหรือไม่ โดยมีคะแนนคนละ 20 คะแนน หากกลุ่มใดได้คาแนน 70 คะแนนขึ้นไปถือว่าผ่าน ครูกล่าว คาชมเชยและนานักเรียนปรบมือให้กับตนเองและเพื่อๆทุกกลุ่ม

9

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนประยุกต์ใช้ความรู้สู่การปฏิบัติ จริง (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมั่งมั่นในการทางาน (A)

ร่วมกิจกรรมการทาอาหาร

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

นับชิ้นงานที่ทาเสร็จ

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 SHC Master Chef Activity 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนประยุกต์ใช้ความรู้สู่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 การปฏิบัติจริง (K,P) ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความตั้งใจ มีการแบ่ง หน้าที่และทากิจกรรมจนสาเร็จ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมั่งมั่นใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 การทางาน (A) ทากิจกรรมสาเร็จ มีชิ้นงานและคลิปวิดีโอ การทาส่ง

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง SHC Master Chef Activity ในคาบนี้พบว่า - อุปสรรค เสียงพูดนักเรียนในการอัดคลิปเบา ไม่ชัดเจน ครูให้ตัดต่อเสียงใส่อีกครัง้ - จุดเด่น นักเรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้และฝึกใช้ภาษาในการสื่อสาร - วิธีการเสริมแรง กล่าวคาชมเชยและปรบมือ

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 เรื่อง Learn to Write จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 13 วันที่ 17 – 20 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐานที่ 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 1 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคา ตามโครงสร้างประโยคของ สาระแกนกลาง การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C1 คิดอย่างมีวิจารณญาณและมีทักษะในการแก้ปัญหา 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้างโยคจากบทความสั้น (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) คาบที่ 2. 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้างโยคจากบทความสั้น (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้างโยคจากบทความสั้น (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

2

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Teacher’s day 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้างโยคจากบทความสั้น (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : Teacher’s day 3. ชิ้นงาน My flowers for my beloved teachers 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Teacher’s day กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ การบวนการอ่านแบบที่ 2  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นสังเกตุ / รับรู้ 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูชี้แจงนักเรียนเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้างโยคจากบทความเรื่อง Teacher’s day เนื่องจากเป็นสัปดาห์วันครูแห่งชาติ 2. การเข้าใจสาร / ประโยคที่อา่ น 2.1 ครูเปิดสื่อ Power Point Presentation : Teacher’s day ให้นักเรียนอ่านเพื่อทาความเข้าใจสารโดยใช้ เทคนิค Skim ในรอบแรก 2.2 ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกันอีกครั้งทีละประโยค โดยแทรกวิธีการอ่านแบบ scan เพื่อเรียนรู้คาศัพท์ วลีและโครงสร้างประโยคไปด้วย 3. การตอบสนองต่อสารเมื่อเข้าใจสาระ ครูถามนักเรียนถึงสาระสาคัญของเรื่อง โดยใช้คาถามแบบ Yes/No Question และ WH-Question เพื่อประเมินความเข้าใจสารที่อ่าน ครูกล่าวชมเชยนักเรียนทุกครั้งที่ตอบได้

3

4. การบูรณาการความคิด ครูเชื่อมโยงเรื่องที่อ่านสู่วันสาคัญ “Teacher’s Day” โดยจัดกิจกรรม My flowers for my beloved teachers ให้นักเรียนสังเกต Adjectives ในบทความ และเขียน Adjectives คาบอกลักษณะครูที่เรารักแต่ละคน ลงบนกลีบดอกไม้ โดยก่อนการทาครูให้นักเรียนช่วยกันบอก Adjectives คาบอกลักษณะ ครูเขียนไว้บนกระดาน เพื่อเป็นแนวทางให้นักเรียน 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้าง โยคจากบทความสั้น (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

ถาม – ตอบ กิจกรรมในคาบ

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

ถาม – ตอบ กิจกรรมในคาบ

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Teacher’s day 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 โครงสร้างโยคจากบทความสั้น (K,P) บอกความหมายคาศัพท์และตอบคาถามจาก กิจกรรมถาม – ตอบในชั้นเรียนได้ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ให้ ความสนใจถามคาศัพท์ที่ไม่รู้และจด ความหมายไว้ และถามคาถามเมื่อไม่เข้าใจ 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Teacher’s day ในคาบนี้พบว่า - วิธีการเสริมแรง ครูกล่าวชมเชยนักเรียนทุกครัง้ ที่ตอบได้

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

4

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Our old glass bottles 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้างโยคจากบทความสั้น (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. สื่อ Power Point Presentation : Our old glass bottles 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Our old glass bottles กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ การบวนการอ่านแบบที่ 2  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 1. ขั้นสังเกตุ / รับรู้ 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูเปิดสื่อ Power Point Presentation : Our old glass bottles แนะนาเกี่ยวกับเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเรื่อง ที่จะเรียนในคาบเรียนนี้ 1.3 ครูแนะนาคาศัพท์ในบทเรียนจากเรื่อง Our old glass bottles glass bottle – ขวดแก้ว finish – เสร็จ/สิ้นสุด recycling bin – ถังขยะรีไซเคิล lorry – รถบรรทุก recycling centre - ศูนย์รีไซเคิล sort – แยกประเภท machine – เครื่องจักร break – ทาลาย piece – ชิ้น furnace – เตาหลอม melt – ละลาย liquid – ของเหลว energy – พลังงาน factories – โรงงาน change – เปลี่ยน 2. การเข้าใจสาร / ประโยคที่อา่ น ครูให้นักเรียนเปิด Power Point Presentation : Our old glass bottles ครูให้นักเรียนฟังเนื้อเรื่องจาก Audio Sound รอบแรกและอ่านออกเสียงตามในรอบที่ 2 จากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกันสังเกตประโยคที่มี to ใช้เพื่อบอกจุดประสงค์ ครูให้เวลานักเรียนหา และครูสมุ่ ถามนักเรียนให้บอกประโยคที่หาพบ จากนั้นครูให้ นักเรียนช่วยกันสรุปเรื่องราวจากเนื้อเรือ่ ง

5

3. การตอบสนองต่อสารเมื่อเข้าใจสาระ ครูให้นักเรียนประเมินความเข้าใจจากเนื้อเรื่องจากกิจกรรม Activity : Read and answer the questions. โดยรอบแรกครูอ่านประโยคให้นักเรียนฟังและให้นักเรียนตอบปากเปล่า หากข้อใดผิดให้นักเรียนช่วยกันแก้ และให้ นักเรียนเขียนแบบฝึกหัดลงสมุดนี้อีกครั้งเพื่อฝึกทักษะการอ่านและการเขียน 4. การบูรณาการความคิด ครูให้นักเรียนฝึกทักษะแบบฝึกหัดในหนังสือแบบฝึกหัดโดยให้นักเรียนฝึกอ่านเนื้อเรียนในหนังสือแบบเรียนหน้า แล้วนามาตอบคาถามเป็นการบ้านเพื่อทบทวนบทเรียน 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้าง โยคจากบทความสั้น (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

ถาม – ตอบ กิจกรรมในคาบ

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

ถาม – ตอบ กิจกรรมในคาบ

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 สื่อ Our old glass bottles 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 โครงสร้างโยคจากบทความสั้น (K,P) บอกความหมายคาศัพท์และตอบคาถามจาก กิจกรรมถาม – ตอบในชั้นเรียนได้ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ให้ ความสนใจถามคาศัพท์ที่ไม่รู้และจด ความหมายไว้ และถามคาถามเมื่อไม่เข้าใจ 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Our old glass bottles ในคาบนี้พบว่า - วิธีการเสริมแรง ครูกล่าวชมเชยนักเรียนทุกครัง้ ที่ตอบได้

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Talent by Paola 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้างโยคจากบทความสั้น (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart TV 2. สื่อ Power Point Presentation : Talent by Paola 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Talent by Paola กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ การบวนการอ่านแบบที่ 2  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 5. ขั้นสังเกตุ / รับรู้ 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 6. การเข้าใจสาร / ประโยคที่อา่ น ครูให้นักเรียนเปิดสื่อ Power Point Presentation : Talent by Paola ครูให้นักเรียนฟังเนื้อเรือ่ งจาก Audio Sound รอบแรกและอ่านออกเสียงตามในรอบที่ 2 จากนั้นครูถามคาถามนักเรียนโดยใช้ Whquestion word ในการถามเพื่อกระตุ้นความคิดในการตอบคาถามที่หลากหลาย 1. What is a topic of this story? 2. How many people in her family? 3. Who is good at painting? 4. Is Paola’s mom good at writing poetry? ครูให้นักเรียนช่วยกันสังเกตประโยคที่มี comparison word ครูให้เวลานักเรียนหา และครูสุ่มถามนักเรียน ให้บอกประโยคที่หาพบ 7. การตอบสนองต่อสารเมื่อเข้าใจสาระ ครูให้นักเรียนประเมินความเข้าใจจากเนื้อเรื่องจากกิจกรรม Activity : Read and answer the questions. โดยรอบแรกครูอ่านประโยคให้นักเรียนฟังและให้นักเรียนตอบปากเปล่า หากข้อใดผิดให้นักเรียนช่วยกันแก้ และให้นักเรียนเขียนแบบฝึกหัดลงสมุดนี้อีกครั้งเพื่อฝึกทักษะการอ่านและการเขียน

7

8. การบูรณาการความคิด ครูให้นักเรียนฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากการทาแบบฝึกหัดในหนังสือแบบฝึกหัดหน้าลงสมุด โดยให้ นักเรียนฝึกอ่านเนื้อเรื่องจาก link ที่ครูจะส่งให้แล้วนามาตอบคาถามเป็นการบ้านเพื่อทบทวนบทเรียน 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี โครงสร้าง โยคจากบทความสั้น (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

ถาม – ตอบ กิจกรรมในคาบ

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80

ถาม – ตอบ กิจกรรมในคาบ

ร้อยละ 80

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 สื่อ Talent by Paola 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 โครงสร้างโยคจากบทความสั้น (K,P) บอกความหมายคาศัพท์และตอบคาถามจาก กิจกรรมถาม – ตอบในชั้นเรียนได้ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ให้ ความสนใจถามคาศัพท์ที่ไม่รู้และจด ความหมายไว้ และถามคาถามเมื่อไม่เข้าใจ 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Talent by Paola ในคาบนี้พบว่า -

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 14 เรื่อง Write to Learn จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 14 วันที่ 23 – 27 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน ตัวชี้วัดที่ 1. พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว สาระแกนกลาง ประโยคและข้อความที่ใช้ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจาวัน เพื่อน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลสิ่งต่าง ๆ จานน 1-1,000 ลาดับที่ วัน เดือน ปี ฤดูกาล เวลา กิจกรรมที่ทา สี ขนาด รูปทรง ตาแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ทิศทางง่าย ๆ สภาพดินฟ้าอากาศ อารมณ์ ความรู้สึก และเครื่องหมายวรรคตอน สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร

2

2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่องคาศัพท์และไวยกรณ์ประโยคมาใช้เขียนเรียงความได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่องคาศัพท์และไวยกรณ์ประโยคมาใช้เขียนเรียงความได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่องคาศัพท์และไวยกรณ์ประโยคมาใช้เขียนเรียงความได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย All about me 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่องคาศัพท์และไวยกรณ์ประโยคมาใช้เขียนเรียงความได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : All about me 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 All about me กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ กระบวนการปฏิบัติ  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นสังเกต 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชี้แจงครูชี้แจงกิจกรรมการเขียนเรียงความ (essay) ในคาบนี้เรื่อง All about me 1.3 ครูนาเสนอตัวอย่างเรียงความ (essay) เรื่อง All about me .จากสื่อ Power Point Presentation จากนั้น ให้นักเรียนอ่านพร้อมกันเพื่อทาความเข้าใจ (ตัวอย่าง) 1.4 ครูให้นักเรียนสังเกตุคาศัพท์และวลีที่ไม่รู้ความหมายเพื่อช่วยกันหาความหมาย และให้สังเกตโครงสร้างประโยค โดยครูคอยอธิบายการเรียงคาหรือการใช้คาตามหน้าที่อย่างถูกต้อง 2. ขั้นทาตามแบบ 2.1 ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มอ่อน กลาง และเก่ง เพื่อแบ่งระดับความช่วยเหลือและรายละเอียดการเขียน เรียงความ (essay) ตามศักยภาพของผู้เรียน ทาให้นักเรียนที่เรียนอ่อนไม่รู้สึกท้อและกลุ่มเก่งได้แสดงศักยภาพ 3. ขั้นให้ทาเองโดยไม่มีแบบ 3.1 ครูเริ่มกิจกรรมการเขียน โดยให้เวลานักเรียนเขียนงานเวลา 30 นาที โดยครูชี้แจงรายละเอียดของงานเขียนตาม กลุ่มที่จัดไว้ดังนี้ • กลุ่มเรียนอ่อน ครูให้นักเรียนเขียนเรียงความ (essay) เพียง 8 ประโยคตามรูปแบบประโยคตัวอย่างจาก สื่อ Power Point Presentation ที่ครูนาเสนอไปก่อนหน้าและข้อมูลคาศัพท์ให้เป็นข้อมูลของตนเอง โดยครู คอยช่วยเรื่องคาศัพท์และการสะกดคาให้ถูกต้อง • กลุ่มกลาง ครูให้เขียนเรียงความ (essay) 12 - 15 ประโยคตามรูปแบบประโยคหรือปรับแต่งคาตามความ ต้องการโดยดูจากตัวอย่างในสื่อ Power Point Presentation ครูเดินสารวจให้ความช่วยเหลือ พร้อมชมเชย นักเรียนเป็นระยะ

4

4.

• กลุ่มเก่ง ครูให้เขียนเรียงความ (essay) ไม่ต่ากว่า 18 ประโยคตามรูปแบบประโยคหรือปรับแต่งคาตาม ความต้องการ โดยดูจากตัวอย่างในสื่อ Power Point Presentation ครูเดินสารวจให้ให้คาแนะนาและกล่าว ชมเชยนักเรียนเป็นระยะ ขั้นฝึกให้ชานาญ ครูให้เวลานักเรียนเขียนงานของตนเอง เมื่อใกล้หมดเวลาครูให้สง่ เรียงความ (essay) ของตนเองให้ครู ตรวจทาน โดยงานเขียนชิ้นใดเขียนได้ดีครูกล่าวชมเชยและครูนามาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนดูในคาบถัดไป

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่องคาศัพท์และ ไวยกรณ์ประโยคมาใช้เขียนเรียงความได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

สังเกตุพฤติกรรมและบันทึก ลงแบบสังเกตุพฤติกรรม นับจานวนงานที่เสร็จและส่ง

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 All about me 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่อง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 75 คาศัพท์และไวยกรณ์ประโยคมาใช้ ใช้คาศัพท์ได้ถูกต้องและนามาแต่งประโยค เขียนเรียงความได้ (K,P) และนามาเรียงร้อยเป็นเรื่องได้อย่างเข้าใจ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที 6 ร้อยละ 75 ทางาน (A) ทางานเสร็จและส่งใบคาบ

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70 ร้อยละ 70

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางคนไม่รู้คาศัพท์ ครูจึง ให้ใช้ E-Dictionary ในการ ค้นคว้าคาศัพท์ -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง All about me ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น มีการแบ่งกลุ่ม กลาง อ่อน เพื่อครูจะได้ช่วยเหลือนักเรียนได้ตามความสามารถ - วิธีการเสริมแรง ครูให้กาลังใจคอยช่วยเหลือนักเรียนตลอดการเขียน

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

5

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย My Favorite subject. 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่องคาศัพท์และไวยกรณ์ประโยคมาใช้เขียนเรียงความได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : My Favorite subject. 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 My Favorite subject. กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ กระบวนการปฏิบัติ  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 5. ขั้นสังเกต 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชี้แจงครูชี้แจงกิจกรรมการเขียนเรียงความ (essay) ในคาบนี้เรื่อง All about me 1.3 ครูนาเสนอตัวอย่างเรียงความ (essay) เรื่อง My Favorite subject. จากสื่อ Power Point Presentation จากนั้น ให้นักเรียนอ่านพร้อมกันเพื่อทาความเข้าใจ (ตัวอย่าง) 1.4 ครูให้นักเรียนสังเกตุคาศัพท์และวลีที่ไม่รู้ความหมายเพื่อช่วยกันหาความหมาย และให้สังเกตโครงสร้างประโยค โดยครูคอยอธิบายการเรียงคาหรือการใช้คาตามหน้าที่อย่างถูกต้อง 6. ขั้นทาตามแบบ 2.1 ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มอ่อน กลาง และเก่ง เพื่อแบ่งระดับความช่วยเหลือและรายละเอียดการเขียน เรียงความ (essay) ตามศักยภาพของผู้เรียน ทาให้นักเรียนที่เรียนอ่อนไม่รู้สึกท้อและกลุ่มเก่งได้แสดงศักยภาพ 7. ขั้นให้ทาเองโดยไม่มีแบบ 3.1 ครูเริ่มกิจกรรมการเขียน โดยให้เวลานักเรียนเขียนงานเวลา 30 นาที โดยครูชี้แจงรายละเอียดของงานเขียนตาม กลุ่มที่จัดไว้ดังนี้ • กลุ่มเรียนอ่อน ครูให้นักเรียนเขียนเรียงความ (essay) เพียง 8 ประโยคตามรูปแบบประโยคตัวอย่างจาก สื่อ Power Point Presentation ที่ครูนาเสนอไปก่อนหน้าและข้อมูลคาศัพท์ให้เป็นข้อมูลของตนเอง โดยครู คอยช่วยเรื่องคาศัพท์และการสะกดคาให้ถูกต้อง • กลุ่มกลาง ครูให้เขียนเรียงความ (essay) 12 - 15 ประโยคตามรูปแบบประโยคหรือปรับแต่งคาตามความ ต้องการโดยดูจากตัวอย่างในสื่อ Power Point Presentation ครูเดินสารวจให้ความช่วยเหลือ พร้อมชมเชย นักเรียนเป็นระยะ

6

8.

• กลุ่มเก่ง ครูให้เขียนเรียงความ (essay) ไม่ต่ากว่า 18 ประโยคตามรูปแบบประโยคหรือปรับแต่งคาตาม ความต้องการ โดยดูจากตัวอย่างในสื่อ Power Point Presentation ครูเดินสารวจให้ให้คาแนะนาและกล่าว ชมเชยนักเรียนเป็นระยะ ขั้นฝึกให้ชานาญ ครูให้เวลานักเรียนเขียนงานของตนเอง เมื่อใกล้หมดเวลาครูให้สง่ เรียงความ (essay) ของตนเองให้ครู ตรวจทาน โดยงานเขียนชิ้นใดเขียนได้ดีครูกล่าวชมเชยและครูนามาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนดูในคาบถัดไป

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่องคาศัพท์และ ไวยกรณ์ประโยคมาใช้เขียนเรียงความได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

สังเกตุพฤติกรรมและบันทึก ลงแบบสังเกตุพฤติกรรม นับจานวนงานที่เสร็จและส่ง

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 My Favorite subject. 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่อง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 75 คาศัพท์และไวยกรณ์ประโยคมาใช้ ใช้คาศัพท์ได้ถูกต้องและนามาแต่งประโยค เขียนเรียงความได้ (K,P) และนามาเรียงร้อยเป็นเรื่องได้อย่างเข้าใจ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที 6 ร้อยละ 75 ทางาน (A) ทางานเสร็จและส่งใบคาบ

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70 ร้อยละ 70

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางคนไม่รู้คาศัพท์ ครูจึง ให้ใช้ E-Dictionary ในการ ค้นคว้าคาศัพท์ -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง My Favorite subject. ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น มีการแบ่งกลุ่ม กลาง อ่อน เพื่อครูจะได้ช่วยเหลือนักเรียนได้ตามความสามารถ - วิธีการเสริมแรง ครูให้กาลังใจคอยช่วยเหลือนักเรียนตลอดการเขียน

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

7

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย My Family 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่องคาศัพท์และไวยกรณ์ประโยคมาใช้เขียนเรียงความได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : My Family 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 My Family กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ กระบวนการปฏิบัติ  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 9. ขั้นสังเกต 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชี้แจงครูชี้แจงกิจกรรมการเขียนเรียงความ (essay) ในคาบนี้เรื่อง All about me 1.3 ครูนาเสนอตัวอย่างเรียงความ (essay) เรื่อง My Family.จากสื่อ Power Point Presentation จากนั้น ให้นักเรียนอ่านพร้อมกันเพื่อทาความเข้าใจ (ตัวอย่าง) 1.4 ครูให้นักเรียนสังเกตุคาศัพท์และวลีที่ไม่รู้ความหมายเพื่อช่วยกันหาความหมาย และให้สังเกตโครงสร้างประโยค โดยครูคอยอธิบายการเรียงคาหรือการใช้คาตามหน้าที่อย่างถูกต้อง 10. ขั้นทาตามแบบ 2.1 ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มอ่อน กลาง และเก่ง เพื่อแบ่งระดับความช่วยเหลือและรายละเอียดการเขียน เรียงความ (essay) ตามศักยภาพของผู้เรียน ทาให้นักเรียนที่เรียนอ่อนไม่รู้สึกท้อและกลุ่มเก่งได้แสดงศักยภาพ 11. ขั้นให้ทาเองโดยไม่มีแบบ 3.1 ครูเริ่มกิจกรรมการเขียน โดยให้เวลานักเรียนเขียนงานเวลา 30 นาที โดยครูชี้แจงรายละเอียดของงานเขียนตาม กลุ่มที่จัดไว้ดังนี้ • กลุ่มเรียนอ่อน ครูให้นักเรียนเขียนเรียงความ (essay) เพียง 8 ประโยคตามรูปแบบประโยคตัวอย่างจาก สื่อ Power Point Presentation ที่ครูนาเสนอไปก่อนหน้าและข้อมูลคาศัพ ท์ให้เป็นข้อมูลของตนเอง โดยครู คอยช่วยเรื่องคาศัพท์และการสะกดคาให้ถูกต้อง • กลุ่มกลาง ครูให้เขียนเรียงความ (essay) 12 - 15 ประโยคตามรูปแบบประโยคหรือปรับแต่งคาตามความ ต้องการโดยดูจากตัวอย่างในสื่อ Power Point Presentation ครูเดินสารวจให้ความช่วยเหลือ พร้อมชมเชย นักเรียนเป็นระยะ

8

12.

• กลุ่มเก่ง ครูให้เขียนเรียงความ (essay) ไม่ต่ากว่า 18 ประโยคตามรูปแบบประโยคหรือปรับแต่งคาตาม ความต้องการ โดยดูจากตัวอย่างในสื่อ Power Point Presentation ครูเดินสารวจให้ให้คาแนะนาและกล่าว ชมเชยนักเรียนเป็นระยะ ขั้นฝึกให้ชานาญ ครูให้เวลานักเรียนเขียนงานของตนเอง เมื่อใกล้หมดเวลาครูให้สง่ เรียงความ (essay) ของตนเองให้ครู ตรวจทาน โดยงานเขียนชิ้นใดเขียนได้ดีครูกล่าวชมเชยและครูนามาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนดูในคาบถัดไป

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่องคาศัพท์และ ไวยกรณ์ประโยคมาใช้เขียนเรียงความได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

สังเกตุพฤติกรรมและบันทึก ลงแบบสังเกตุพฤติกรรม นับจานวนงานที่เสร็จและส่ง

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 My Family 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนนาความรู้เรื่อง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 75 คาศัพท์และไวยกรณ์ประโยคมาใช้ ใช้คาศัพท์ได้ถูกต้องและนามาแต่งประโยค เขียนเรียงความได้ (K,P) และนามาเรียงร้อยเป็นเรื่องได้อย่างเข้าใจ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที 6 ร้อยละ 75 ทางาน (A) ทางานเสร็จและส่งใบคาบ

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 70 ร้อยละ 70

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางคนไม่รู้คาศัพท์ ครูจึง ให้ใช้ E-Dictionary ในการ ค้นคว้าคาศัพท์ -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง My Family ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น มีการแบ่งกลุ่ม กลาง อ่อน เพื่อครูจะได้ช่วยเหลือนักเรียนได้ตามความสามารถ - วิธีการเสริมแรง ครูให้กาลังใจคอยช่วยเหลือนักเรียนตลอดการเขียน

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 15 เรื่อง Past Participle จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 15 วันที่ 31 – 3 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐานที่ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด 1 ปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาที่ฟังและอ่าน สาระแกนกลาง ปฏิบัติตามคาสั่งและคาขอร้องที่ฟังและอ่าน สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้อย่างเหมาะสม กับกาลเทศะ ตัวชี้วัดที่ 1. ใช้ถ้อยคา นาเสียง และกริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา สาระแกนกลาง การใช้ถ้อยคา นาเสียง และกริยาท่าทางตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การขอบคุณ ขอโทษ การใช้สีหน้าท่าทางประกอบการพูด ขณะแนะนาตนเอง การสัมผัสมือ การโบกมือ การแสดง ความรู้สึกชอบ/ ไม่ชอบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ สาระที่ 4 มาตรฐานที่ 4.2 ตัวชี้วัด 1 สาระแกนกลาง

ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและการรวบรวมคาศัพท์ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัวจากสื่อ และแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

2

จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope, Hospitality จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C3 ทักษะความร่วมมือและการทางานเป็นทีม ภาวะผู้นา C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนเปลี่ยนกริยาช่อง 1 เป็นกริยาช่อง 3 ได้ถูกรูปแบบ (K, P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนร้องเพลง Irregular verbs ได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนผัน Irregular verbs และบอกความหมายได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย About Past Participle 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนเปลี่ยนกริยาช่อง 1 เป็นกริยาช่อง 3 ได้ถูกรูปแบบ (K, P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=FyCKCG580BA 3. Power Point Presentation : Rules for adding ED 4. Power Point Presentation : -ed sounds 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 About Past Participle กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ คือ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครัง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พืนฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นสร้างความสนใจ 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสันๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูครูชีแจงเรื่องที่จะเรียนในคาบนี เรื่อง Regular Past Participle (Verb 3) รูปแบบคากริยาที่ใช้กับ Present Perfect Tense ที่ใช้พูดถึงเรื่องราวที่เกิดมาตังแต่อดีตและดาเนินเรื่องมาถึงปัจจุบันซึ่งจะจบในปัจจุบัน หรือดาเนินต่อเนื่องไปยังอนาคตก็ได้ 1.3 ครูถามคาถามเปิดบทเรียนและกระตุ้นความคิด Have you ever…………..? ให้นักเรียนยกมือแทนการตอบ ว่า Yes เช่น Have you ever been to Pattaya beach? Have you ever been to aboard?

4

Have you ever eaten Japanese food? Have you ever go hiking? Have you ever study Korean? ครูบอกนักเรียนว่าคาถามที่ถามโดยใช้ Have และ Verb3 ไปนัน คือหนึ่งในรูปแบบของ Present Perfect Tense 2. ขั้นสารวจและค้นหา ครูถามนักเรียนว่า Verb3 มีลักษณธอย่างไร ใช้กับเหตุการณ์รูปแบบไหนและนักเรียนรู้จักคาใดบ้าง ครูเขียน Verb3 ลงบนกระดานตามที่นักเรียนบอก จากนันครูอธิบายนักเรียนว่า จริงแล้ว Verb3 มี 2 รูปแบบ คือแบบเติม ed และแบบไม่เติม ed แต่ผันเปลี่ยนรูป เช่น go – went – gone, do – did - done, เป็นต้น 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป Grammar Lesson ครูทบทวนการเติม ed ท้ายคากริยา จากสื่อ Power Point Presentation : Rules for adding ED ดังนี  กริยาลงทั่วไปเติม ed ได้เลย  กริยาที่ลงท้ายด้วย e ให้เติม d ได้เลย  กริยาที่ลงท้ายด้วย y เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม ed *** แต่ถ้าหน้า y เป็นสระให้เติม ed ได้เลย  กริยาที่มี 1 เสียง 1 สระสัน 1 ตัวสะกด ให้เพิ่มตัวท้ายอีก 1 ตัวแล้วจึงเติม ed  กริยาที่ลงท้ายด้วย l ให้เพิ่ม l อีกตัวท้ายอีก 1 ตัวแล้วจึงเติม ed 4. ขั้นขยายความรู้ Grammar Lesson ครูทบทวนเพิ่มเติมเรื่องการออกเสียง ed ทัง 3 แบบและให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม จากสื่อ Power Point Presentation : -ed sounds มีรายละเอียดดังนี • กริยาที่ลงท้ายคาด้วย t / d ออกเสียง ed = เอ็ด/อิด ex. fitted needed painted wanted treated • กริยาที่ลงท้ายคาด้วย kfcshxp ออกเสียง ed = t (เทอะ) ex. cooked wasshed stopped kicked fixed • กริยาที่ลงท้ายคาด้วย ตัวที่อื่นๆที่เหลือ ออกเสียง ed = d (เดอะ) ex. played joined used cleaned called 5. ขั้นประเมิน 5.1 Grammar Practice ครูจัดกิจกรรมทบทวนการเติมและเสียง ed โดยใช้สื่อเกมออนไลน์ www.blooket.com : Fishing Mode ครูตังกติกาภาระกิจการเล่นให้นักเรียนเกิดความมุ่งมั่นในการเรียนรู้และความมีนาใจ รักและเมตา ต่อเพื่อมนุษย์ โดยรอบแรกนักเรียนต้องได้คะแนน 20000 คะแนนขึนไปจึงผ่านเกณฑ์ และรอบ 2 ต้องได้ 40000 คะแนนขึนไป จึงจะผ่าน หากนักเรียนคนใดในห้องทาไม่สาเร็จถือว่าภารกิจไม่สาเร็จ จะต้องคัดการเติม ed และการ ออกเสียงลงสมุด ระหว่างการทากิจกรรมครูคอยเดินสารวจการเนของนักเรียน คอยช่วยเหลือให้คาแนะนานักเรียนที่ เรียนอ่อนเป็นพิเศษ 5.2 เมื่อสินสุดกิจกรรมครูสุ่มถามความรู้และคุณธรรมที่ได้รับจากกิจกรรมและบทเรียนในคาบนี หากมีนักเรียนคนใด ตอบได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ครูกล่าวชมเชย

5

4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนเปลี่ยนกริยาช่อง 1 เป็นกริยา ช่อง 3 ได้ถูกรูปแบบ (K, P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A)

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล เกมออนไลน์ www.blooket.com เกมออนไลน์ www.blooket.com

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 About Past Participle 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนเปลี่ยนกริยาช่อง 1 นักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 เป็นกริยาช่อง 3 ได้ถูกรูปแบบ (K, P) เปลี่ยนคากริยาได้ถูกรูปแบบ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) นักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 98 ร่วมกิจกรรมเกมออนไลน์และมีความ พยายามในการตอบคาถาม

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์ คะแนนเกมที่ตังไว้ ร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์ คะแนนเกมที่ตังไว้

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง About Past Participle ในคาบนีพบว่า - จุดเด่น ใช้สื่อเกมออนไลน์เข้ามาช่วยสอนไวยกรณ์เพื่อให้เกิดความสนุกสนานและเข้าใจบทเรียนได้ง่าย - วิธีการเสริมแรง ครูกล่าวชมเชย

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Irregular verbs song 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนร้องเพลง Irregular verbs ได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=A8ri9nw6LA4 3. Power Point Presentation : Irregular verbs song 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Irregular verbs song กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ กระบวนการปฏิบัติ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 1. ขั้นสังเกต 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสันๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูทบทวน Regular verbs กริยาปกติเติม ed ที่เรียนไปในคาบที่แล้วด้วยกิจกรรม online BINGO

ครูให้ online card นักเรียนคู่ละ 1 ใบ ให้นักเรียนช่วยกันคิดวิเคราะห์ว่าคาในใบของนักเรียนมีวิธีการเปลี่ยนเป็นกริยา อดีตตรงกันหรือไม่ คู่ใด BINGO 3 คู่แรก ครูกล่าวชมเชยและเพื่อนปรบมือแสดงความยินดี 2. ขั้นทาตามแบบ 2.1 Grammar lesson ครูอธิบายนักเรียนเพิ่มเติมเรื่อง Past Verbs รูปแบบ Irregular verbs กริยาอปกติ เมื่อจะ เปลี่ยนเป็นอดีตจะไม่เติม ed แต่จะเปลี่ยนรูปไปเลยแต่ความหมายยังคงเดิม ดังนี Irregular verb หรือกริยาไม่ปกติ คือกริยาที่เมื่อทาเป็นรูปอดีตหรือกริยาช่องที่ 2 จะไม่มีการเติม ed แต่จะมีการ เปลี่ยนรูป การเปลี่ยนรูปมี 3 รูปแบบด้วยกันคือ - Irregular verb ที่มี past tense (กริยาช่องที่ 2) และ past participle (กริยาช่องที่ 3) เหมือนกัน เช่น

7

tell told told บอก find found found ค้นหา - Irregular verb ที่แตกต่างกันทังสามช่อง เช่น speak spoke spoken พูด take took taken นาไป, เอาไป - Irregular verb ที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือเหมือนกันทังสามช่อง เช่น put put put วาง shut shut shut ปิด 2.2 ครูเปิดสื่อเพลง 50 common irregular verbs must know ให้นักเรียนฟังและฝึกร้องตามเพื่อเพิ่มวิธีการจา จากเพลงและเป็นการกระตุ้นการท่องจาโดยใช้เพลงเป็นสื่อ https://www.youtube.com/watch?v=65ZcpVGt2NY 3. ขั้นให้ทาเองโดยไม่มีแบบ ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนฝึกร้องเพลง 50 common irregular verbs must know โดยมีการเปลี่ยนรูปแบบ การร้องให้หลากหลายเพื่อความสนุกสนานในการร้องและท่องจา เช่น ร้องพร้อมกันทังห้อง ร้องสลับกันเป็นกลุ่ม/ แถว/ชายหญิง กลุ่มละ 5 คา หรืออาจใส่ท่าทางปรบมือง่ายๆเพื่อบริหารสมองไปด้วย เป็นต้น 4. ขั้นฝึกให้ชานาญ ครูแจกเอกสารใบความรู้เรื่อง 50 common irregular verbs must know ให้นักเรียนฝึกร้องเพลง และท่อง ทบทวนพร้อมกันเป็นจังหวะเพลงก่อนการเริ่มคาบเรียนภาษาอังกฤษครังต่อๆไป โดยมอบหมายให้นักเรียน 1 คน คอยเคาะจังหวะให้เพื่อนท่องก่อนครูเข้าสอนในคาบเรียนภาษาอังกฤษทุกคาบ 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 เกณฑ์การผ่าน วิธีการและเครื่องมือ จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล ในการวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนร้องเพลง Irregular verbs ได้ ร้องเพลง Irregular verbs ร้อยละ 80 (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ (A) นับจานวนนักเรียนที่ร้องเพลง ร้อยละ 80 Irregular verbs

8

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Irregular verbs song 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนร้องเพลง Irregular นักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 85 verbs ได้ (K,P) ฝึกร้องและพยายามในการร้องตามเพลงให้ ทันจังหวะและใช้คาอย่างถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ (A)

นักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 95 ร่วมกิจกรรมฝึกร้องเพลง

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางคนออกเสียงกริยา ช่อง 2 และ 3 ไม่ถูกต้อง เมื่อครู ได้ยิน ครูหยุดเพลงและให้ออก เสียงตามทุกคน -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Irregular verbs song ในคาบนีพบว่า - จุดเด่น นา Irregular verbs มาแต่งเป็นเพลงร้องร่วมกับจังหวะที่นักเรียนสนใจ ทาให้นักเรียนสนใจในการท่องมากขึน

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Irregular Verbs Key chain 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนผัน Irregular verbs และบอกความหมายได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. ใบกิจกรรม Irregular Verbs Key chain 2. Smart TV 3. Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=A8ri9nw6LA4 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Irregular Verbs Key chain วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 3 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูสรุปกิจกรรมฝึกพูดประจาสัปดาห์ สุ่มนักเรียนออกมานาเสนอ 3 คู่ และเรียกเก็บคะแนน จากลายเซนครูในสมุดที่นักเรียนไปฝึกพูดด้วย  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พืนฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ ขั้นนา 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสันๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูทบทวน Irregular verbs เปิดเพลงจากสื่อhttps://www.youtube.com/watch?v=A8ri9nw6LA4 และจัดกิจกรรมให้นักเรียนฝึกร้องเพลง 50 common irregular verbs must know โดยมีการเปลี่ยนรูปแบบ การร้องให้หลากหลายเพื่อความสนุกสนานในการร้องและท่องจา เช่น ร้องพร้อมกันทังห้อง ร้องสลับกันเป็นกลุ่ม/ แถว/ชายหญิง กลุ่มละ 5 คา หรืออาจใส่ท่าทางปรบมือง่ายๆเพื่อบริหารสมองไปด้วย เป็นต้น

10

ขั้นสอน ครูชีแจงกิจกกรรมในคาบถึงการทา Irregular Verbs Key chain พวงกุญแจกริยา 3 ช่อง ดังนี  ให้นักเรียนเขียนคากริยา 3 ช่องจากเพลงลงในใบกิจกรรม Irregular Verbs Key chain  ตกแต่งให้ส่วยงามและนาไปตัดตามรูปทรงให้เรียบร้อย  นาแต่ละชินงานย่อยมาเรียงลาดับคาตามเพลง  เจาะรูเพื่อคล้องสายหรือห่วง ขั้นสรุป ครูให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมและกลับไปทาต่อเป็นการบ้านสุดสัปดาห์ และเน้นยาให้นักเรียนทบทวนเพลง Irregular Verbs เป็นประจา 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 เกณฑ์การผ่าน วิธีการและเครื่องมือ จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล ในการวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนผัน Irregular verbs และบอก ตรวจการทาชินงาน Irregular Verbs ร้อยละ 80 ความหมายได้ (K,P) Key chain 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ (A) นับการส่งชินงานที่สาเร็จตามเวล ร้อยละ 80 าที่กาหนด 5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) Irregular Verbs Key chain จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนผัน Irregular verbs นักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 และบอกความหมายได้ (K,P) สามารถผันกริยา และร้องเพลง Irregular Verbs บอกความหมายได้ถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ (A) นักเรียนชันประถมศึกษาปีที 6 ร้อยละ 95 นักเรียนส่วนน้องทาไม่สมบูรณ์ ทาชินงานสาเร็จแลพส่งตามเวลากาหนด เช่นเรียงคาผิดลาดับเพลง ไม่มี สายหรือห่วงคล้องมาส่ง ไม่ ตกแต่งหรือตกแต่งไม่ครบ 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Irregular Verbs Key chain ในคาบนีพบว่า - จุดเด่น นากิจกรรมชินงานเสริมการช่วยจาที่สามารถพกไปอ่านได้ทุกที่ทาให้นักเรียนมีคลังคาศัพท์ไปใช้แต่งประโยค

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 16 เรื่อง I’m Perfect จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 16 วันที่ 6 – 10 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐานที่ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด 2 อ่านออกเสียงข้อความนิทานและบทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน สาระแกนกลาง ข้อความนิทาน หลักการอ่านออกเสียง เช่น การออกเสียงพยัญชนะต้นคาและพยัญชนะท้ายคา การออกเสียงเน้นหนัก-เบาในคาและกลุ่มคา การออกเสียงตามระดับสูง-ต่าในประโยค การออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ในข้อความ สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน ตัวชี้วัดที่ 1. พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว สาระแกนกลาง ประโยคและข้อความที่ใช้ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐานที่ ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตัวชี้วัดที่ 1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา สาระแกนกลาง การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope, Honest, Hospitality

2

จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C3 ทักษะความร่วมมือและการทางานเป็นทีม ภาวะผู้นา C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความนิทานได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนบอกข้อมูลของตนเองโดยใช้ since กับ for ได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความ มุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Hello! Present Perfect. 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความนิทานได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : Conversation in Daily Life 3. https://wheelofnames.com/ 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Listen and say กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 กระบวนการอ่านแบบที่ 2  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูให้นักเรียนอ่าน สะกด ออกเสียงคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ จานวน 5 คา พร้อมกัน โดยครูให้นักเรียนฟังและอ่านตามในรอบแรก จากนั้นจึงให้นักเรียนฝึกอ่านพร้อมกันด้วยตนเอง 1. ขั้นสังเกต/ รับรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเรื่องราวต่างๆรอบตัวเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวหรือการกระทาใดใดที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีต มาจนถึงปัจจุบันและอาจสืบเนื่องไปอนาคต ครูยกตัวอย่างประโยคดังนี้  Let’s guess! How long have I taught at SHC? หากมีนักเรียนตอบได้ครูตอบกลับด้วยคาตอบแบบ Yes/No answer และขยายความด้วยประโยค  Actually, I have been an English teacher for 13 years.  I have taught here since 2013. 1.3 ครูขึ้นประโยคบนกระดานให้นักเรียนช่วยกันสังเกตโครงสร้างประโยคว่ามีโครงสร้างอย่างไร เคยเห็นหรือไม่ แล้ว นักเรียนคิดว่าโครงสร้างนี้ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ลักษณะเวลาใด หากมีคนนักเรียนตอบได้ครูปรบมือและกล่าวชมเชย แต่หากไม่มีใครตอบได้ครูบอกนักเรียนว่า ประโยคเหล่านี้คือโครงสร้างของ Present Perfect Tense ที่พูดถึง เหตุการณ์ที่ดาเนินต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอาจต่อไปถึงอนาคต. 2. ขัน้ การเข้าใจสาร/ ประโยคที่อา่ น 2.1 ครูให้นักเรียนศึกษาบทเรียน โดยใช้บทสนทนาสื่อ Power Point Presentation เป็นสื่อประกอบการเรียนรู้ โดยครูเปิด Audio sound ให้นักเรียนฝึกฟังในรอบแรก ในรอบ 2 ให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม เมื่อจบรอบที่ 2 ครู แนะนาให้นักเรียนฟังอย่างตั้งใจและสังเกตเสียงในแต่ละประโยคว่ามีเสียงใดเกิดขึ้นระหว่างการเชื่อมคาหรือไม่ โทน เสียงท้ายประโยคเป็นอย่างไร และครูเปิด Audio รอบที่ 3 ให้นักเรียนฟังและพูดตามอีกครั้ง รอบสุดท้ายให้นักเรียน อ่านออกเสียงบทสนทนาด้วยตัวเอง

4

3. การตอบสนองต่อสารเมื่อเข้าใจสาระ 3.1 ครูให้นักเรียนจับคู่ฝึกสนทนา ครูให้เวลานักเรียนฝึกซ้อมประมาน 5 นาที (ตามความเหมาะสม) จากนั้น ครูหาอาสาสามัครเป็นคู่ตัวแทนออกมาอ่านบทสนทนาหน้าชั้นเรียน (หากมี) ครูสุ่มคู่นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้น โดยใช้โปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com/ สร้างความตื่นตัวทางการเรียน ประมาน 3-5 คู่ (ตามความ เหมาะสม) ครูกล่าวชมเชยและนาปรบมือเมื่อแต่ละคู่ทากิจกรรมสาเร็จ และให้เพื่อนๆในชั้นเรียนร่วมกันประเมินการ นาเสนอเพื่อนๆโดยใช้ท่าทางประกอบ 3 ท่าทาง ดังนี้ = พอใช้ = ดี = ดีมาก 4. การบูรณาการความคิด 4.1 ครูมอบหมายให้นักเรียนทบทวนบทเรียน โดยทาแบบฝึกหัดเติมคาในบทสนทนาในหนังสือแบบฝึกหัด 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 เกณฑ์การผ่าน วิธีการและเครื่องมือ จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล ในการวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความนิทานได้ ฟังการออกเสียงอ่าน นักเรียนร้อยละ 70 ถูกต้องตามหลักการอ่าน (K,P) อ่านได้อย่างถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) นับจานวนแบบฝึกหัดที่ส่ง นักเรียนร้อยละ 70 ส่ง แบบฝึกหัดตามเวลากาหนด 5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Hello! Present Perfect. 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเสียง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ ข้อความนิทานได้ถูกต้องตามหลักการ 80 สามารถอ่านออกเสียงคา วลี อ่าน (K,P) ประโยคได้อย่างถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 95 สามารถทางานเสร็จและส่ง 5 ทางานไม่ทันตามเวลา ครูให้ติดตาม ทันเวลาที่กาหนด ส่งในช่วงพักเบรค

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Hello! Present Perfect. ในคาบนี้พบว่า - อุปสรรค นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 บางคนอ่านคาศัพท์บางคาไม่ออก และไม่มีความมั่นใจในการพูด - จุดเด่น ใช้โปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com/ สร้างความตื่นตัวทางการเรียน - วิธีการเสริมแรง กล่าวชมเชย ปรบมือให้กาลังใจ และให้นักเรียนร่วมทาท่าทางส่งกาลังใจให้กันและกัน

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

5

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย since and for 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนบอกข้อมูลของตนเองโดยใช้ since กับ for ได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความ มุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 since and for 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : Since and For 3. Toy Museum จากสื่อ Power Point Presentation 4.ใบกิจกรรม since and for train 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 since and for กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ Plearn Model by Ms.Ja วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูนานักเรียนเรียนรู้คาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ประจาโรงเรียนด้วยการอ่านออกเสียงตาม 1 รอบ และอ่านพร้อมกันด้วยตนเองอีก 1 รอบ พร้อมแจ้งให้นักเรียนร่วมกิจกรรม S.H.C Morning Vocabulary Activity 1. Play 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูเริ่มบทเรียนเรื่อง Since and For ด้วยกิจกรรมตอบคาถามประเมินความรู้พื้นฐานก่อนเรียน โดยใช้สื่อเกมออนไลน์ Vonder go จานวน 10 ข้อ ในแต่ละข้อครูกดหยุดหลังจากเกมเฉลยให้นักเรียนอ่านประโยค ที่ถูกต้องตามทุกครั้งโดยไม่พูดอธิบายเหตุผลก่อนเริ่มบทเรียนเพื่อให้นักเรียนคิดด้วยตนเอง ซึ่งในแต่ละประโยคครู อาจจะชี้ที่รูปภาพเพื่อสื่อความหมายของประโยคด้วย 2. Learn Grammar Lesson ครูพูดถึงเนื้อหา Since and For เป็นคาที่ใช้บอกเวลาที่เกิดขึ้นว่าใช้ระยะเวลายาวนานแค่ไหน  For มักจะใช้ลงท้ายประโยคเพื่อขยายว่าเหตุการณ์นี้ใช้เวลานานเท่าไร เป็นการบอก “ช่วงเวลา” ที่เกิดขึ้น มี ความหมายว่า “เป็นเวลา” เช่น for 3 hours, for 2 weeks, for a year เป็นต้น  Since มักใช้เพื่อบอกจุดเริ่มต้นของเวลา มีความหมายว่า “ตั้งแต่” ใช้บอกเหตุการณ์ที่เริ่มต้นตั้งแต่อดีต ดาเนินมาจนถึงปัจจุบัน เช่น since 2001, since yesterday, since April, since I was young เป็นต้น

6

3. Explore ครูยกตัวอย่างประโยคเพิ่มเติม ครูนาเสนอบทความ Toy Museum จากสื่อ Power Point Presentation ให้นักเรียนอ่านและช่วยกันหา since กับ for ในประโยค เมื่อนักเรียนหาเจอครูทาสัญลักษณ์ไว้ เมื่อครบครูชวน นักเรียนสังเกตุการใช้แต่ละตัว พร้อมทั้งให้พูดตาม 4. Active thinking Grammar Practice ครูจัดกิจกรรม ladder to leader แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 5 – 6 กลุ่ม จากนั้นครูให้ นักเรียนออกมาเติมคา since and for ที่ขึ้นบรรได คาละ 1 ขั้น เมื่อสิ้นสุดเวลา ทีมใดได้ขั้นบันไดสูงสุดเป็นทีมที่ ชนะ ครูกล่าวคาชมเชยและให้จับสุ่มรางวัล 5. Notice 5.1 ครูให้นักเรียนช่วยกันตรวจทานคาตอบบนกระดานพร้อมกัน 5.2 ครูแจกใบกิจกรรม since and for train สรุปบทเรียนรายบุคคลให้นักเรียนทาทบทวนเป็นการบ้าน 5.3 ครูขออาสาสมัค รนั กเรียนร่วมแสดงความคิ ดความรู้และสิ่ง ที่ได้เรีย นรู้จ ากบทเรี ยนและกิจ กรรมในคาบนี้ ครูกล่าวชมเชยนักเรียนที่ร่วมแสดงความคิดเห็น 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 เกณฑ์การผ่าน วิธีการและเครื่องมือ จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล ในการวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกข้อมูลของตนเองโดยใช้ ตอบคาถามจากกิจกรรมในชั้นเรียน ร้อยละ 75 since กับ for ได้ (K,P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความ มุ่งมั่นในการทางาน (A) ร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน ร้อยละ 80 5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 since and for 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนบอกข้อมูลของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ตนเองโดยใช้ since กับ for ได้ (K,P) บอกความแตกต่างของ since and for ได้ และตอบคาถามในกิจกรรมได้ถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนมีความ มุ่งมั่นในการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 95 ทางาน (A) ร่วมกิจกรรมในชั้นเรียนด้วยความตั้งใจ 5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง since and for ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น - วิธีการเสริมแรง

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

7

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Let’s Talk. Have you ever? 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิตสาธารณะ (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart TV 2. www.wheelofnames.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Let’s Talk. Have you ever? กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 3 กระบวนการสร้างเจตคติ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ วิธีการสอนรูปแบบเกม  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Read aloud ครูให้นักเรียนอ่าน สะกด ออกเสียงคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ ทบทวนคาในสัปดาห์พร้อมกัน โดยครูให้นักเรียนฟังและอ่านตามในรอบแรก จากนั้นจึงให้นักเรียนฝึกอ่านพร้อมกันด้วยตนเอง  ครูจัดกิจกรรม Dictation เขียนตามคาบอก 1. ขั้นสังเกต/ รับรู้ 1.1 ครูทักทายนักเรียน ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good / Same as always/ ………. Thank you. How’s it going? S : I’m …………… thank you 1.2 ครูชี้แจงกิจกรรมทบทวนบทเรียนโดยใช้กิจกรรมเกม Find someone who………. ให้นักเรียนพูดภาษาอังกฤษ โดยใช้ประโยคในบทเรียน Find someone who has ever ……(V.3)…..เชื่อมโยงกับสถานที่ในบทเรียนและจาก ประสบการณ์ โดยครูใส่รูปแบบประโยคและรูปภาพสถานที่ไว้ในโปรแกรมสุ่ม https://wheelofnames.com สาหรับเป็นแนวทางในการพูด จากนั้นครูชี้แจงวิธีการเล่น ดังนี้  สารวจที่นั่ง ให้นักเรียนนั่งในที่ของตนเอง หากมีเก้าอี้ใดว่างให้ทาการยกขึ้นเก็บหรือเอาออกชั่วคราว ให้ที่ จานวนที่นั่งมีจานวนเท่ากับผู้เล่น  ครูคือผู้เล่นตัวอย่างในครั้งแรก ครูทาการสุ่มรูปแบบประโยคเพื่อพูด เช่น เมื่อสุ่มได้รูป Italian Food ครู จะนาคานั้นมาแต่งประโยค Find someone who has ever eaten Italian Food.  ผู้ร่วมเล่นเมื่อนฟังประโยคแล้วเริ่มวิเคราะห์ หากเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองได้ทาไปจริง ให้สลับ/หาที่นั่งใหม่ รวมทั้งครูด้วย ผู้เล่มคนใดหาที่นั่งไม่ทันจะต้องออกมาเป็นคนต่อไป 2. ขั้นวิเคราะห์ 2.1 ดาเนินกิจกรรมประมาน 10 - 15 นาที (ตามความเหมาะสม) โดยครูร่วมเล่นด้วยเพื่อให้ที่นั่งเต็ม 2.2 ครูคอยสังเกตการณ์การทากิจจกรรมของนักเรียนเพื่อให้คาแนะนาช่วยเหลือนักเรียน ดังนี้ - นักเรียนกลุ่มเก่ง (พูดได้ มีความกล้าแสดงออก) ครูสบตาและยิ้มให้กาลังใจเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มกลาง (พูดได้ อาจไม่คล่อง และไม่ค่อยมั่นใจ) ครูยืนช่วยข้างๆพร้อมกล่าวคาชมเชยเป็นระยะ - นักเรียนกลุ่มอ่อน (พูดไม่ค่อยได้ เขินอาย ขาดความมั่นใจ) ครูให้พูดประโยคที่ให้พูดตามและยืนช่วยข้างๆ

8

3. ขั้นสรุป 3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และคุณธรรมที่ได้จากกิจกรรมนี้ เช่น ความซื่อสัตย์ในการเล่นตามกติกา หรือซื่อสัตย์ต่อคาตอบตรามความจริงของตนเอง เป็นต้น โดยขออาสาสมัครในการตอบ 3-5 คน 3.2 ครูให้นักเรียนทากิจกรรม Find someone ลงสมุด โดยครูกาหนดกรอบประโยคและรูปแบบตารางให้นักเรียน ไปฝึกแต่งประโยค Present Perfect Tense : S. + has/have + ever/never + V.3 จากคาที่กาหนดให้และให้ ไปสัมภาษณ์ใครก็ได้นอกชั้นเรียนและทาการบันทึกชื่อคนมีคาตอบตรงกับประโยค จานวน 5 ข้อ 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้ (P) 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีจิต สาธารณะ (A)

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล พูดสื่อสารทากิจกรรมในชั้นเรียน นับจานวนนักเรียนที่ทากิจกรรม ตามกติกา

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Let’s Talk. Have you ever? 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน สามารถแต่งประโยค เพื่อใช้ในกิจกรรมได้ ห้องเรียนได้ (P) อย่างถูกต้องและมั่นใจ 2. เพื่อให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริต นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 90 และมีจิตสาธารณะ (A) เล่นกิจกรรมตามกติกา

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยะล 75 ร้อยละ 75

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม -

-

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 3 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Let’s Talk. Have you ever? ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น ให้นักเรียนนาความรู้ไปขยายต่อนอกชั้นเรียนเพื่อฝึกการใช้ภาษาจริง - วิธีการเสริมแรง ครูคอยช่วยเหลือนักเรียนในการแต่งประโยค หรือช่วยออกเสียง ให้นักเรียนเกิดความมั่นใจ

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

1

แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ.16101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 17 เรื่อง My Long Vacation จานวน 3 คาบ : สัปดาห์ สอนสัปดาห์ที่ 17 วันที่ 13 - 17 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 3 คาบ/ชั่วโมง

1. สาระ (Strand) มาตรฐาน (Standard) ตัวชี้วัด (Indicators) และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัดที่ 1 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ การใช้เครื่องหมาย วรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระแกนกลาง ความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆของเจ้าของภาษากับของไทย การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Learners’ Key Competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จุดเน้นเพิ่มเติมของ ร.ร. (8H, จุดเน้นกลุ่มสาระ, พฤกษศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, ทักษะในศตวรรษที่ 21ฯลฯ) 8H – Hope, Honest จุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  อ่านถูกต้อง Read aloud อ่านออกเสียงคาศัพท์ก่อนเริ่มบทเรียน  เขียนถูกต้อง กิจกรรม Dictation  พูดคล่องตามวัย Speak out สนทนาภาษาอังกฤษในคาบเรียน ทักษะสาคัญในศตวรรษที่ 21 3Rs - Reading อ่านออก, (w)Riting เขียนได้ 8Cs : C5 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและการสื่อสาร C7 ทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C8 ความมีเมตตา วินัย คุณธรรมและจริยธรรม

2

2. จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย (ระบุให้ครบ KPA ในแต่ละคาบ) คาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้างประโยคบอกเล่า Present Perfect Tense ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคบอกเล่า Present Perfect ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Perfect Tense ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคปฏิเสธPresent Perfect ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) คาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้างประโยคคาถาม Present Perfect Tense ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคคาถามPresent Perfect ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

3

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 หน่วยย่อย Present Perfect with Positive 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 1 1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้างประโยคบอกเล่า Present Perfect Tense ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคบอกเล่า Present Perfect ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : Present Perfect with Positive 3. www.youtube.com/watch?v=FyCKCG580BA&list=PLZwW_qLBE48Y0BCxZtj4O2BVf0fTNqfxF&index=5 4. www.bamboozle.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Present Perfect with Positive กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ กระบวนการปฏิบัติ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นสังเกต 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูชี้แจงเรื่องที่จะเรียนในคาบนี้เรื่อง Present Perfect Tenseและ เริ่มบทเรียนให้นักเรียนดูคลิปวิดีโอจากสื่อ www.youtube.com/watch?v=FyCKCG580BA&list=PLZwW_qLBE48Y0BCxZtj4O2BVf0fTNqfxF&index=5 โดยครูจะไม่อธิบายแทรกการดู ให้นักเรียนสังเกตและศึกษาด้วยตนเองก่อน 1.3 ครูถามนักเรียนถึงความรู้และสิ่งที่นักเรียนเข้าใจจากคลิปบทเรียนนี้คืออะไร หากมีนักเรียนอาสาสมัครตอบได้ ครู กล่าวชมเชยทุกครั้ง 1.4 ครูนานักเรียนเข้าสู่บทเรียนเรื่อง Present Perfect with Positive โดยใช้สื่อ Power Point Presentation และ อธิบายหลักการใช้ดังนี้ Present Perfect Tense เป็น Tense เป็นเหตุการณ์ในอดีตที่มีผลต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

4

โครงสร้างบอกเล่าของ Present Perfect Tense Subject + has / have + V3 หลักการใช้ Present Perfect Tense คือ 1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งจบไป หรือเพิ่งจบลงใหม่ ๆ มักจะมีคาว่า just, already หรือ yet ในประโยค เช่น 2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตและมีผลหรือยังคงสภาพจนถึงปัจจุบัน แต่เหตุการณ์นั้นได้จบลงไปแล้ว โดยส่วน ใหญ่จะมีคาว่า since, for, ever since, so far อยู่ในประโยค เช่น 3. ใช้ในการเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะมีคาว่า never, ever, once, twice รวมอยู่ด้วย เช่น 4. ใช้ในโครงสร้าง If-clause แบบที่ 1 ในส่วนของเงื่อนไขที่แสดงว่าถ้าทาเหตุการณ์หนึ่งเสร็จแล้วอีกเหตุการณ์จะเกิดขึ้น 2. ขั้นทาตามแบบ ครูยกตัวอย่างประโยค ให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โครงสร้างประโยคและเรียนรู้คาศัพท์ ดังนี้  Daniel has just informed us where to meet tomorrow.  I’ve known her for years.  Wendy has lived here ever since.  She has been to Japan twice.  The children can go out, if they have finished their homework. 3. ขั้นให้ทาเองโดยไม่มีแบบ ครูให้นักเรียนฝึกแต่งประโยคบอกเล่าตามโครงสร้าง ลงสมุด 5 ข้อ 4. ขั้นฝึกให้ชานาญ ครูให้นักเรียนเล่นเกมทบทวนบทเรียน โครงสร้างบอกเล่าของ Present Perfect Tenseจากสื่อเกมออนไลน์ https://www.baamboozle.com/search?param=perfect+present+tense&language=&sort_by=featured&r esults_from=all&filter_questions_min=10 เมื่อสิ้นสุดกลุ่มดั้ได้รับคะแนนสูงสุดจะได้สุ่มจับรางวัล 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้างประโยคบอกเล่า Present Perfect Tense ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคบอกเล่า Present Perfect ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

ตรวจแบบฝึกหัดในสมุดและตอบ คาถามจากกิจกรรม ตรวจแบบฝึกหัดในสมุดและตอบ คาถามจากกิจกรรม นับจานวนสมุดงานที่ส่งตามกาหนด

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 75 ร้อยละ 75 ร้อยละ 75

5

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Present Perfect with Positive 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ประโยคบอกเล่า Present Perfect สามารถแยกโครงสร้างประโยคจาก Tense ได้ (K) กิจกรรมในชั้นเรียนได้ถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคบอกเล่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 Present Perfect ได้ถูกต้องตาม สามารถแต่งประโยคได้ถูกต้องตาม โครงสร้าง (P) โครงสร้าง Present Perfect Tense 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ทางาน (A) ทางานสมุดเสร็จและส่งตามเวลาที่กาหนด

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางส่วนยังจา past participle ไม่ได้ ครูให้ทบทวน ด้วยเพลง Irregular verb song นักเรียนบางส่วนยังจา past participle ไม่ได้ ครูให้ทบทวน ด้วยเพลง Irregular verb song -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Present Perfect with Positive ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น ใช้กิจกรรมและสื่อเกมเข้ามาช่วยสอนไวยกรณ์ ทาให้นักเรียนเข้าใจได้ง่ายและสนุกกับการเรียนรู้ - วิธีการเสริมแรง กล่าวคาชมเชย และให้รางวัล

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

6

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 หน่วยย่อย Present Perfect with Negative 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 2 1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Perfect Tense ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคปฏิเสธ Present Perfect ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 1. Smart TV 2. https://www.youtube.com/watch?v=givOTZa9TQY 3. www.kahoot.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Present Perfect with Negative กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ กระบวนการปฏิบัติ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 2 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นสังเกต 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูชี้แจงเรื่องที่จะเรียนในคาบนี้เรื่อง Present Perfect Tenseในรูปแบบประโยคปฏิเสธและ เริ่มบทเรียนให้ นักเรียนดูคลิปวิดีโอจากสื่อ https://www.youtube.com/watch?v=givOTZa9TQY โดยครูจะไม่อธิบายแทรกการดู ให้นักเรียนสังเกตและศึกษาด้วยตนเองก่อน 1.3 ครูถามนักเรียนถึงความรู้และสิ่งที่นักเรียนเข้าใจจากคลิปบทเรียนนี้คืออะไร หากมีนักเรียนอาสาสมัครตอบได้ ครู กล่าวชมเชยทุกครั้ง 1.4 ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกโครงสร้างประโยคปฏิเสธจากคลิปวิดีโอที่ดูไป จากนั้นครูเขียนไว้บนกระดานให้นักเรียน เอาไว้สังเกตตลอดคาบ เมื่อมีการแต่งประโยค Subject + has / have + not + V3

7

2. ขั้นทาตามแบบ 2.1 ครูอธิบายเพิ่มเติมถึงรู ปปฏิเสธของ Present Perfect Tense : เติม not หลัง have/has เป็น haven’t /hasn’t เช่น We haven’t seen him today. 2.2 ครูยกตัวอย่างประโยคปฏิเสธนอกเหนือจากในคลิปวิดีโอ ให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โครงสร้างประโยปฏิเสธิและ เรียนรู้คาศัพท์ ดังนี้  She hasn’t studied English since July.  He’s not worked in the garden since 8 o’clock.  It hasn’t rained for three hours.  A boy has not played football since 3 o’clock.  I’ve never drunk beer.  You’ve never got up late.  We have never eaten rice.  They haven never washed the car. พวกเขาไม่เคยล้างรถเลย 3. ขั้นให้ทาเองโดยไม่มีแบบ ครูให้นักเรียนฝึกแต่งประโยคบอกเล่าตามโครงสร้าง ลงสมุด 5 ข้อ 4. ขั้นฝึกให้ชานาญ ครูให้นักเรียนเล่นเกมทบทวนบทเรียน โครงสร้างปฏิเสธของ Present Perfect Tenseจากสื่อเกมออนไลน์ www.kahoot.com เมื่อสิ้นสุด นักเรียนที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับจะได้สุ่มจับรางวัล 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Perfect Tense ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคปฏิเสธ Present Perfect ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

ตรวจแบบฝึกหัดในสมุดและตอบ คาถามจากกิจกรรม ตรวจแบบฝึกหัดในสมุดและตอบ คาถามจากกิจกรรม นับจานวนสมุดงานที่ส่งตามกาหนด

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 75 ร้อยละ 75 ร้อยละ 75

8

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 2 Present Perfect with Negative 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ประโยคปฏิเสธ Present Perfect สามารถแยกโครงสร้างประโยคจาก Tense ได้ (K) กิจกรรมในชั้นเรียนได้ถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคปฏิเสธ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 Present Perfect ได้ถูกต้องตาม สามารถแต่งประโยคได้ถูกต้องตาม โครงสร้าง (P) โครงสร้าง Present Perfect Tense 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ทางาน (A) ทางานสมุดเสร็จและส่งตามเวลาที่กาหนด

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางส่วนยังจา past participle ไม่ได้ ครูให้ทบทวน ด้วยเพลง Irregular verb song นักเรียนบางส่วนยังจา past participle ไม่ได้ ครูให้ทบทวน ด้วยเพลง Irregular verb song -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 2 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Present Perfect with Negative ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น ใช้กิจกรรมและสื่อเกมเข้ามาช่วยสอนไวยกรณ์ ทาให้นักเรียนเข้าใจได้ง่ายและสนุกกับการเรียนรู้ - วิธีการเสริมแรง กล่าวคาชมเชย และให้รางวัล

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

9

3. การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 หน่วยย่อย Present Perfect with Question 3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ในคาบที่ 3 1. เพื่อให้นักเรียนบอกโครงสร้างประโยคคาถาม Present Perfect Tense ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคบอกเล่า Present Perfect ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A) 3.2 สื่อการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 1. Smart TV 2. Power Point Presentation : Present Perfect with Question 3. https://www.youtube.com/watch?v=cYo4ovOoYqo 4. www.blooket.com 3.3 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 1 Present Perfect with Question กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ กระบวนการปฏิบัติ วิธีการสอนที่ใช้ในคาบที่ 1 คือ Active Learning  กิจกรรมก่อนการเรียนรู้ตามจุดเน้นกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ  Speak out ครูนาเสนอแบบประโยคสนทนาถามตอบประจาสัปดาห์ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงและฝึกพูด สนทนาระหว่างสัปดาห์ ด้วยการฝึกพูดกับครูในโรงเรียนและให้เซนหลักฐานกากับต่อการพูด 1 ครั้ง  Dictation ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก เพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานด้านคาศัพท์ภาษาอังกฤษ 1. ขั้นสังเกต 1.1 ครูทักทาย/พูดคุยกับนักเรียนด้วยบทสนทนาทักทายสั้นๆก่อนเริ่มบทเรียน เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคาสั่ง ของหัวหน้าห้องในการนาทาความเคารพครู และการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ดังนี้ T : Good morning/afternoon, class. Class rep : Everyone please stand up and welcome teacher. S : Good morning/afternoon, teacher. How are you? T : I’m good, great, same as always, etc. Thank you. How about you? S : I’m …………… thank you T : Sit down ,please S : Thank you, teacher. 1.2 ครูชี้แจงเรื่องที่จะเรียนในคาบนี้เรื่อง Present Perfect Tenseและ เริ่มบทเรียนให้นักเรียนดูคลิปวิดีโอจากสื่อ https://www.youtube.com/watch?v=cYo4ovOoYqo โดยครูจะไม่อธิบายแทรกการดู ให้นักเรียนสังเกตและ ศึกษาด้วยตนเองก่อน 1.3 ครูถามนักเรียนถึงความรู้และสิ่งที่นักเรียนเข้าใจจากคลิปบทเรียนนี้คืออะไร หากมีนักเรียนอาสาสมัครตอบได้ ครู กล่าวชมเชยทุกครั้ง 1.4 ครูนานักเรียนเข้าสู่บทเรียนเรื่อง Present Perfect with Question โดยใช้สื่อ Power Point Presentation และ อธิบายหลักการใช้ดังนี้ Present Perfect Tense เป็น Tense เป็นเหตุการณ์ในอดีตที่มีผลต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

10

โครงสร้างคาถามของ Present Perfect Tense 1. Yes/No Question : Has/Have + S. + V.3 ? 2. Wh-Question : Wh-Q + has/have + S. +V.3 ? 2. ขั้นทาตามแบบ 2.1 ครูยกตัวอย่างประโยค ให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โครงสร้างประโยคและเรียนรู้คาศัพท์ ดังนี้  Has it rained for three hours? Yes, it has./ No, it hasn’t.  Has a boy played football since 3 o’clock? Yes, a boy has./ No, a boy hasn’t.  Have I drunk water? Yes, you have. / No, you haven’t.  Who has studied English since July? Jane has.  Where has he worked since 8 o’clock? He has worked in the garden. เขา  How long has it rained? It has rained for three hours? 3. ขั้นให้ทาเองโดยไม่มีแบบ ครูให้นักเรียนฝึกแต่งประโยคคาถามแบบ Yes/No Question และ Wh-Question ตามโครงสร้าง ลงสมุด 6 ข้อ 4. ขั้นฝึกให้ชานาญ ครูให้นักเรียนเล่นเกมทบทวนบทเรียน โครงสร้างค าถามของ Present Perfect Tenseจากสื่อเกมออนไลน์ www.blooket.com สิ้นสุดกลุ่มดั้ได้รับคะแนนสูงสุดจะได้สุ่มจับรางวัล 4. การวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้

วิธีการและเครื่องมือ ในการวัดผลและประเมินผล

1. เพือ่ ให้นักเรียนบอกโครงสร้างประโยคคาถาม Present Perfect Tense ได้ (K) 2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคคาถาม Present Perfect ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน (A)

ตรวจแบบฝึกหัดในสมุดและตอบ คาถามจากกิจกรรม ตรวจแบบฝึกหัดในสมุดและตอบ คาถามจากกิจกรรม นับจานวนสมุดงานที่ส่งตามกาหนด

5. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ในคาบที่ 3 Present Perfect with Question 5.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (KPA) จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. เพื่อให้นกั เรียนบอกโครงสร้าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ประโยคคาถาม Present Perfect สามารถแยกโครงสร้างประโยคจาก Tense ได้ (K) กิจกรรมในชั้นเรียนได้ถูกต้อง

เกณฑ์การผ่าน การวัดผลและประเมินผล ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ร้อยละ 75 ร้อยละ 75 ร้อยละ 75

ปัญหา/วิธีแก้/วิจัย/นวัตกรรม นักเรียนบางส่วนยังสับสนรูปแบบ คาถาม Wh กับ Yes/No

11

2. เพื่อให้นักเรียนแต่งประโยคคาถาม Present Perfect ได้ถูกต้องตาม โครงสร้าง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ ทางาน (A)

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 สามารถแต่งประโยคได้ถูกต้องตาม โครงสร้าง Present Perfect Tense นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ทางานสมุดเสร็จและส่งตามเวลาที่กาหนด

นักเรียนบางส่วนยังสับสนรูปแบบ คาถาม Wh กับ Yes/No -

5.2 ผลสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในคาบที่ 1 (อุปสรรค / จุดเด่น / วิธีการการเสริมแรง) จากการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Present Perfect with Question ในคาบนี้พบว่า - จุดเด่น ใช้กิจกรรมและสื่อเกมเข้ามาช่วยสอนไวยกรณ์ ทาให้นักเรียนเข้าใจได้ง่ายและสนุกกับการเรียนรู้ - วิธีการเสริมแรง กล่าวคาชมเชย และให้รางวัล

ลงชื่อ………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………..

(นางสาวเรืองอุไร กุหลาบวงษ์)

(……………………….…………….)

ครูผสู้ อน

กลุ่มงานวิชาการ

……/……/…….

……/……/…….

Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.