no zero days 2565 Flipbook PDF

no zero days 2565

60 downloads 113 Views 43MB Size

Recommend Stories


C* PERIOD DAYS
1/5 airBaltic Timetable From Riga Aalesund, Almaty, Amman, Amsterdam, Arkhangelsk, Athens, Baku, Barcelona, Beirut, Belgrade, Bergen, Berlin, Billu

Detector de pas per zero
Circuits lineals. Circuit {RLC}, RC. Senyal alterna # Circuitos. Condensador, diodos, resistencias

Story Transcript

No Zero Days 2565 EVERY DAY IS A NEW BEGINNING


เราเคยฝันเห็นอนาคตตัวเองไหม ? ว่าเราต้องการอะไร? อยากมีชีวิตแบบไหน? และเมื่อตื่นขึ้นมาจากความฝัน ถามตัวเองรึยังว่า สิ่งที่คุณจะทำ วันนี้มันคู่ควรกับความฝันของคุณ หรือยัง บทนำ


แต่กับบางอย่างที่ไม่ควรทำ เยอะก็ทำ จนเยอะเกินไป ทำ ไม่ยอมหยุด เช่น เสพติดซีรี่ย์ดูหามรุ่งหามค่ำ เป็นต้น คืออะไรที่ควรทำ ก็ไม่ยอมทำ ทั้งที่รู้ว่า ว่ สิ่งนี้เป็นสิ่ง ที่ดีเช่น ออกกำ ลังกาย ทำ ไปแล้วมีผลดีต่อสุขภาพแต่ ขี้เกียจที่จะทำ 1 เรื่อ รื่ งเทคนิคแก้ความขี้เ ขี้ กียจโดย ปัญหาของคนเรา เรียกว่า ว่ Bundel ความหมายคือ มัดรวม โดยมัดรวม 2 อย่างเข้าด้วยกัน ยกตัวอย่างสิ่งที่เราไม่ ชอบคือ ออกกำ ลังกาย เราก็เอาไปรวมกับสิ่งที่ชอบคือ ซีรี่ย์ โดยการวิ่ง วิ่ บนสายพานและเปิดจอดูซีรี่ย์ไปในขณะ ที่วิ่ง วิ่ได้พร้อมกัน เป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เลย ใครเคยใช้วิธี วิ ธี การนี้บ้างมั้ย ลองแชร์กันดู วิธี วิ ธี แก้คือ “ เอาสิ่งที่ชอบ ไปทำ กับสิ่งที่ไม่ชอบ “ 11-มีนาคม-2565


ได้หัวข้อนี้มาจากหนังสือปลุกพลังความคิดบวก โดยสรุปความได้ว่า ว่ ชีวิต วิ เป็นของคุณ ชีวิต วิ จะเป็น อย่างไร ขึ้นอยู่กับการเลือกของคุณ ดังนั้นชีวิต วิ คุณเลือก ได้ คุณเลือกที่จะยิ้มหรือหน้าบึ้งได้ คุณเลือกที่จะขยัน หรือขี้เกียจได้ คุณเลือกที่คิดบวกหรือคิดลบได้ แล้วถามว่า ว่ มีคนที่ไม่อยากเลือกมั้ย ตอบได้เลยว่า ว่ มีและเยอะด้วย ลองนึกภาพว่า ว่ ถ้าคุณยืนอยู่ตรงทางแยก ที่มีให้เลือกว่า ว่ จะไปทางซ้ายหรือทางขวาก็ได้ คุณไม่เลือก ไปเลยสักทาง ถามว่า ว่ แล้วตอนนี้คุณยืนอยู่ตรงไหน คำ ตอบคือก็ ยังยืนอยู่ที่เดิม เท่ากับคุณเลือกแล้วว่า ว่ จะยืนอยู่ที่เดิมไง 2 “ใครกำ หนดชะตาชีวิ ชี ตวิคุณ คุ ” ฉะนั้นถ้าคุณเป็นผู้เลือก คุณจะเป็นผู้ควบคุม คุณคือผู้กำ หนดชะตาชีวิต วิ คุณ หรือคุณจะไม่เลือกแต่จะ ปล่อยให้โชคชะตาเป็นผู้ลิขิตชีวิต วิ คุณเอง ตอบได้หรือยัง ว่า ว่ ใครกำ หนดชะตาชีวิต วิ คุณ 12-มีนาคม-2565


3 “หาตัวเองให้เ ห้ จอไม่เ ม่ จอ” ฟังเรื่อง “หาตัวเองให้เจอไม่เจอ” แล้วน่าสนใจเพราะ เชื่อว่า ว่ บางคนที่ส่วยใหญ่แล้วยังหาตัวเองไม่เจอว่า ว่ ตัวเองต้องทำ อะไรกันแน่หรือเกิดมาเพื่อทำ อะไรกันแน่ ซึ่งเขาแนะนำ ให้เราหา Two Calling หมายความว่า ว่ อะไรที่ ทำ แล้วเติมเต็มในสิ่งที่เราขาด ทำ แล้วรู้สึกลื่นไหล (Flow) หาความหมายนี้ในตัวเองโดยผ่านเทคนิค 5 วิธี วิ ธี 1.ให้ลงมือทำ ไปเรื่อยๆ ชอบหรือไม่ชอบยังไม่รู้ ออกไป ลองเจอ ลองทำ หลายๆอย่างดูก่อน(ก็เหมือนเรื่องที่เพิ่มจุดไง ที่เขียนไปเมื่อตอนที่แล้ว) 2.ถามตัวเองว่า ว่ อำ ไรที่เราไม่ทำ ไม่ได้แล้วเสียใจแน่นอน 3.หาสองสิ่งนี้ในตัวเราคือ หาสิ่งที่เราเก่งและชำ นาญ กับ หาช่วงเวลาที่เราทำ สิ่งใดไปแล้วรู้สึกเพลิดเพลินกับมัน 4.ท้าทายกับตัวเอง เดิมพันเรื่องอะไรก็ได้ทำ เล็กๆไปก่อน 5.อะไรคือสิ่งที่ฉุดเราขึ้นมาในเวลาที่เราทำ เรื่องไหนล้ม เหลวไม่สำ เร็จและรู้สึกท้อแท้ แต่เพราะมีสิ่งนี้ ที่ทำ ให้ฉุดเรา ขึ้นมา ตรงคำ ว่า ว่ มีสิ่งนี้ตรงนี้แหละมันคืออะไร 14-มีนาคม-2565


4-1 การสร้า ร้ งนิสัย สั ได้ฟังเรื่อง “ การสร้างนิสัย “ แล้วน่าสนใจ ถามว่า ว่ สร้าง ไปเพื่ออะไร เพื่อพัฒนาตนเองให้เกิดนิสัยใหม่ ๆ ตามที่เรา ต้องการซึ่งคำ ว่า ว่ นิสัย ก็คือพฤติกรรมที่ทำ ซ้ำ ๆ เป็นประจำ ดังนั้นถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงก็แค่เราขยันเล็กน้อยเพียงวัน วั ละ 1% ทุกวัน วั ใน 1 ปีเราจะเก่งขึ้นถึง 37 เท่า (เทียบสมการ กับ 365 วัน วั ) ซึ่งถือว่า ว่ เยอะมาก หากเราอยากสร้างนิสัยใหม่ให้ยึดหลัก 3 ข้อ 1. ให้ตั้งเป้าหมาย 2. จัดการกับอารมณ์ ระหว่า ว่ งทางของเป้าหมาย 3. สภาพแวดล้อม จัดให้เรียบง่าย 16-มีนาคม-2565


4-2 การสร้า ร้ งนิสัย สั Ex.คนที่ติดบุหรี่สูบมานานกว่า ว่ ครึ่งชีวิต วิ จนวัน วั นึงเกิด ปัญหาส่งผลต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เขาจึงคิดจะเลิกและได้ คิดว่า ว่ ปัญหาของบุหรี่มันเกิดจากความเคยชินซ้ำ ๆ ทุกวัน วั โดยจะสูบทั้งในเวลาเครียด งานสังสรรค์ เข้าห้องน้ำ จึงตั้ง เป้าหมายว่า ว่ เขาจะหยุดพฤติกรรมที่ตรงข้ามกับพฤติกรรมที่ ทำ ซ้ำ ทั้งหมด และใส่นิสัยใหม่ ซึ่งแน่นอนว่า ว่ สิ่งที่ตามมาคือความอยาก สารพัด อารมณ์จะตามมา เวลาเราไม่ได้ตอบสนองความอยากตัวเอง เราจะหงุดหงิด แต่เมื่ออดทนกับสร้างนิสัยใหม่มันจะค่อย ๆ ปรับตัว โดยระหว่า ว่ งที่กำ ลังเปลี่ยนแปลงเราก็ต้องจัดการ สภาพแวดล้อมภายนอกไปด้วยเช่น หาสิ่งอื่นที่ดึงดูดใจมา กกว่า ว่ มาทำ แทนเมื่ออยากสูบ เป็นต้น สรุป การสร้างนิสัยก็คือการสร้างตัวเองให้เกิดขึ้นมาใหม่ ด้วยการลงมือทำ สิ่งสำ คัญระหว่า ว่ งลงมือทำ เมื่อเราท้อให้ ถาม Why ทุกครั้งว่า ว่ เราต้องการเปลี่ยนนิสัยใหม่ไป เพื่ออะไร 16-มีนาคม-2565


คนเรามักต้องการให้คนอื่นเห็นด้วยกับเราทุกเรื่อง หรือไปลงแข่งวิ่ง วิ่ มาราธอนในหน้าฝนแต่ไม่ต้องการให้ ฝนตกในวัน วั แข่ง สิ่งเหล่านี้มันอาจเกิดหรือไม่เกิดตามที่ เราต้องการก็ได้ก็เพราะเราควบคุมมันไม่ได้ เรียกว่า ว่ "ความไม่แน่นอน" ในช่วงเวลาที่เรารอคอยก็จะรู้สึกไม่สบายในกระวน กระวายใจ เครียด ซึ่งปัญหาจริง ๆ มันไม่ได้อยู่ที่ความ ไม่แน่นอนแต่มันอยู่ที่ความอยากของเราอยากควบคุม ผลของสิ่งนั้น แล้วเราจะทำ ยังไงที่จะเปลี่ยนความไม่แน่นอนนี้ให้ เป็นพลังแทน ก็แค่เปลี่ยนให้มันมาเป็นความท้าทาย (Challeng)อยากลองผจญภัยสู้กับมันดูสักตั้ง 5-1 คนเรามัก มั ต้องการให้ค ห้ นอื่นเห็น ห็ ด้ว ด้ ย กับเราทุก ทุ เรื่อ รื่ ง 17-มีนาคม-2565


1. ให้คิดไว้เ ว้ สมอว่า ว่ สิ่งที่คุณวางแผนไว้จ ว้ ะไม่เป็นแบบนั้น 2. ยอมรับการผจญภัยครั้งนี้ เพราะถ้ามีแต่ความ แน่นอนก็ไม่เปป็นการผจญภัย สบายใจขึ้นมั้ย 3. ตั้งข้อสงสัยแบบเด็กแบบดีอ่ะ ว่า ว่ เหตุการณ์จะพาเรา ไปที่ไหน ไกลแค่ไหน 4. ยอมรับกับผลที่เกิดขึ้น เพราะเราควบคุมมันไม่ได้ 5. โฟกัสการผจญภัยครั้งนี้ที่กระบวนการในสิ่งที่เราทำ ไป ไม่ใช่ผลลัพธ์ 5-2 คนเรามัก มั ต้องการให้ค ห้ นอื่นเห็น ห็ ด้ว ด้ ย กับเราทุก ทุ เรื่อ รื่ ง ถ้าเราคิดแบบนี้ความรู้สึกจะเปลี่ยนไปมั้ย มาดูเทคนิคการเปลี่ยนกัน เป็นไง เพียงแค่ปรับมุมมองและเปลี่ยนวิธี วิ ธี การแค่นี้ ความไม่แน่นอนกลายเป็นพลังมั้ย รู้สึกดีขึ้นกว่า ว่ เดิมใช่มั้ย 17-มีนาคม-2565


วัน วั นี้หัวข้อนี้น่าสนใจดีและจำ ได้ว่า ว่ เคยสอนพวกเรา มาก่อน ถ้าเราจะทำ งานสักอย่างแล้วคิดว่า ว่ ไม่มีทางสำ เร็จ แน่ เราจะลงมือทำ ไหม? ก็คงไม่ เพราะมันไม่มีความหวัง วั ฉะนั้น ความหวัง วั เป็นแรงจูงใจให้ลงมือทำ สมมุติเราปลูกต้นไม้เราจะไปบีบบังคับมันได้ไหมให้ มันโตเร็ว ๆ หน่อย ไปเขย่าให้มันออกลูกเร็ว ๆ หน่อย ถ้าไปบังคับแบบนี้เราจะทุกข์มั้ย ดังนั้นเราควรจะ สร้างเหตุที่ดี อย่าไปคาดหวัง วั หรือยึดติดกับผลลัพธ์เราก็ จะไม่ทุกข์ ถ้าเราเรามั่นใจว่า ว่ พันธุ์ไม้ ที่เลือกมาปลูก นั้นดี ดินที่เราเลือกมาปลูกนั้นดี ภูมิอากาศ ตรงกับพันธุ์ไม้นี้ เราลงมือปลูกไปเลย เมื่อเหตุปัจจัยทุกอย่างถึงพร้อม ผลลัพธ์ที่ดีก็จะออกมาเอง อย่ายึดติดกับผลลัพธ์ แต่ให้ ใส่ใจกับกระบวนการในระหว่า ว่ งลงมือทำ ไง 6 หวัง วั แต่อย่า ย่ คาดหวัง วั 18-มีนาคม-2565


โดยตอบคำ ถามนี้ให้ได้เน้นต้องตอบให้ได้คือ ถ้าคุณ คุ อยากประสบความสำ เร็จ ร็ คุณ คุ 7 ต้องคิดเหมือ มื นคนที่ประสบความ สำ เร็จ ร็ 19-มีนาคม-2565 วัน วั นี้หยิบแค่ข้อคิดมาฝาก ขยี้คำ นิดหน่อยเป็นของ ดร.นโปเลียน ฮิลล์ กล่าวไว้ว่ ว้ า ว่ “ ถ้าคุณอยากประสบความสำ เร็จ คุณต้องคิดเหมือนคน ที่ประสบความสำ เร็จ คนที่จะสำ เร็จได้ต้องเริ่มจาก การ มี ความปราถนา ที่จะประสบความสำ เร็จ “ 1.ทำ ไมถึงต้องการมันจริง ๆ 2.ความสำ เร็จนี้ให้อะไรแก่เขา 3.แล้วทำ ไมเขาถึงต้องได้มันมาด้วย คำ ถามทั้ง 3 ข้อนี้เขาเรียกว่า ว่ ตะแกรงร่อนความฝัน เราว่า ว่ ใช่สิ่งที่เราต้องการมั้ย เราจะได้เดินถูกทางแล้วพา ไปสู่ความสำ เร็จไง


ฟังแล้วมีหลายข้อ แต่เลือกข้อที่น่าจะโดนมาได้ 2 ข้อ 8-1 มองไปข้า ข้ งหน้า ไม่แ ม่ ลเหลียว ลี อดีต ดี 21-มีนาคม-2565 ฟังพอสแคสต์วัน วั นี้ขอตั้งชื่อหัวข้อเองในวัน วั นี้ว่า ว่ "มองไปข้างหน้า ไม่แลเหลียวอดีต" ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ ควรให้อดีตที่ผิดพลาดมาขวางเดินไปข้างหน้า อดีตผ่าน ไปแล้วแม้จะล้มเหลวแต่สิ่งที่เราได้คือการเรียนรู้ เอามา พัฒนาไม่ให้ผิดซ้ำ อีก 1. อย่าไปโฟกัสกับสิ่งที่เราไม่มี ให้โฟกัสกับสิ่งที่เรามี เช่น นักฟุต ฟุ บอลยุโรปส่วนใหญ่ตัวสูง แต่นักฟุต ฟุ บอล บราซิล อาร์เจนติน่าตัวเตี้ย แต่ได้แชมป์โลกได้มากกว่า ว่ ประเทศในยุโรป เพราะแม้พวกเขาไม่สามารถไปทำ ให้ตัว เองสูงขึ้นมาได้ แต่เขาสามารถใช้เทคนิคตัวเล็กกว่า ว่ คล่องแคล่วกว่า ว่ ลากบอล หลบบอลเข้าไปยิงประตูได้ เปรียบเสมือนคนตัวเตี้ยไม่สามารถทำ ให้ตัวสูงขึ้นได้ แต่เขาสามารถใช้สิ่งที่ตัวเองมีคือตัวเล็ก ฝึก ฝึฝนให้มีความ คล่องแคล่วเพื่อเอาชนะผู้ที่มีรูปร่างได้เปรียบกว่า ว่ ได้


ฟังแล้วมีหลายข้อ แต่เลือกข้อที่น่าจะโดนมาได้ 2 ข้อ 8-2 มองไปข้า ข้ งหน้า ไม่แ ม่ ลเหลียว ลี อดีต ดี 21-มีนาคม-2565 2. อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดเกิดซ้ำ แล้วซ้ำ อีก เหมือน snow balll ลูกหิมะ ที่กลิ้งลงมาทับถมจนเป็น ป็ หิมะลูกใหญ่ ซึ่งหากรู้ว่า ว่ ผิดแล้วควรหยุดความผิดพลาด ตั้งสติแล้วเริ่มใหม่ หาหนทางใหม่ เพราะทางเดิมนั้นเดิน ไปผิดทางแล้ว ผิดพลาดไปแล้วคิดแต่จะเอาคืน ทำ ให้ทาง เดิมตัน ทางใหม่ไม่เกิด อยู่กับที่เดิมและถอยหลังลงคลอง


การบริหารเวลาในแต่ละวัน วั ที่ทำ ให้เรามีประสิทธิภาพ พี่ใช้ตารางเป็น ป็ ประจำ อยากรู้ว่า ว่ เราเลือกช่องไหนกันบ้าง เรียงลำ ดับช่องมาได้เลยนะ เด๋วเรามาเฉลยและแชร์กัน เพราะทุกช่องมีความหมาย การบริหารเวลาในแต่ละวัน วั ที่ทำ ให้เรามีประสิทธิภาพ พี่ใช้ตารางเป็น ป็ ประจำ อยากรู้ว่า ว่ เราเลือกช่องไหนกันบ้าง เรียงลำ ดับช่องมาได้เลยนะ เด๋วเรามาเฉลยและแชร์กัน เพราะทุกช่องมีความหมาย 9 การบริหริารเวลา 22-มีนาคม-2565 ช่องที่ 1 คือ เรื่องเร่งด่วนและสำ คัญ ช่องที่ 2 คือ เรื่องไม่ด่วนแต่สำ คัญ ช่องที่ 3 คือ เรื่องเร่งด่วนไม่สำ คัญ ช่องที่ 4 คือ ไม่เร่งด่วนและไม่สำ คัญ


9 การบริหริารเวลา 22-มีนาคม-2565


ความสำ เร็จ ได้ฟังเรื่องหนึ่งแล้วน่าสนใจมากจะสรุปให้ฟังก็กลัวว่า ว่ รีบจนอาจทำ ให้ถ่ายทอดข้อมูลไม่ดีพอ เลยขอยกเรื่องที่ จะเขียนไปในวัน วั พรุ่งนี้แต่รับรองว่า ว่ ดี ทุกคนเคยเจอมา แล้วทั้งนั้น วัน วั นี้ก็เลยหยิบ note ที่พี่พกติดตัวมากว่า ว่ 10 ปีแทนการเขียนนะครับ เชื่อว่า ว่ มันบอกเรื่องราวได้ 10 24-มีนาคม-2565 Passion เปรียบเสมือนเวลาว่า ว่ ยน้ำ แล้วโยน เหนือน้ำ เพื่อต้องการอากาศมาหายใจ ทุ่มเทกับสิ่งที่สำ คัญเท่านั้น ไม่ล้มเลิกกับสิ่งที่ต้องทำ ลงมือทำ และทำ อย่างต่อเนื่อง 1. 2. 3. 4. ความสำ เร็จ ร็


1. สถานการณ์ที่ ได้รับงานมอบหมายใหม่ , งานที่ ไม่เคยทำ มาก่อน หากพูดคำ นี้ไปเรื่องที่กำ ลังจะทำ ดู ง่ายเลย " สบายมากค่ะ / ครับ " 2. สถานการณ์ โดนหัวหน้าสั่งแก้งาน หากพูดคำ นี้ จะทำ ให้ตื่นตัวพร้อมที่จะจัดการแก้ไขทันที " ทำ ได้ครับ / ค่ะ สบายมาก " 3. สถานการณ์ ที่ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ งานใหม่ ๆ หากพูดคำ นี้จะทำ ให้มีพลังใจเต็มเปี่ยม และมีความกล้า ที่จะทำ สิ่งใหม่ ๆ " เรียนรู้ได้ค่ะ / ครับ สบายมาก " " สบายมาก " ลองพูดคำ นี้ดูแล้วจะรู้ว่า ว่ มันเสริม พลังใจจริง ๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่คุณคาดไม่ถึง หรือมีการเปลี่ยนแปลงฉับพลันทันที 11 25-มีนาคม-2565 "สบายมาก"


เป็น ป็ สวนหนึ่งของปัญหา ปกปิด หมกเม็ด กลัวโดนตำ หนด มองหาคนผิด เพื่อปัดความรับผิดชอบ ลงมือหาข้อมูลเพื่อแก้ตัว ไม่บันทึกอะไรไว้เ ว้ พราะกลัวเสียหน้า ปล่อยให้เป็น ป็ ไปแบบเดิมไม่ยุ่งยากดี 12-1 26-มีนาคม-2565 เราเป็น ส่ว ส่ นหนึ่งของปัญหา หรือ รื ส่ว ส่ นหนึ่งของทางแก้ปัญหา เป็น ป็ ส่วนหนึ่งของทางแก้ปัญหา รีบรายงานคนที่เกี่ยวข้องเพื่อ ลดความเสียหาย ถามตัวเองว่า เราเป็น ป็ สาเหตุอย่างไรบ้าง ลงมือหาข้อมูลเพื่อจัดการแก้ไข บันทึกสิ่งที่เรียนรู้เพื่อไม่ผิดซ้ำ ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำ งาน เพื่อป้อ ป้ งกัน เราจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา หรือ เป็นส่วนหนึ่ง ของทางแก้ปัญหา ความสำ เร็จของการทำ งานคือการ บรรลุเป้าหมายตามแผนงาน แต่ว่า ว่ แผนงานทุกแผนงานจะเปลี่ยนไปเมื่อลงมือ ทำ งานจริง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “ปัญหา” ที่มาทำ ให้แผนงาน ไม่เป็นไปตามแผน


12-2 26-มีนาคม-2565 เราเป็น ส่ว ส่ นหนึ่งของปัญหา หรือ รื ส่ว ส่ นหนึ่งของทางแก้ปัญหา ปัญหา มีขอบเขตแตกต่างกัน...มีทั้งแบบเล็ก ปาน กลางและแบบหนักหนา คนทำ งานและหัวหน้างานจึงมี ทางเลือกสองทางเมื่อเผชิญปัญหา คือ ก. ทำ ตัวเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ข. ทำ ตัวเป็นส่วนหนึ่งของทางแก้ปัญหา ลองดูตัวอย่างของชุดความคิดทั้งสองแบบจาก ตารางดูครับ แล้วลองทบทวนตัวเองว่า ว่ “แต่ละครั้งที่เกิดปัญหา เรามีแนวโน้มจะใช้ชุด ความคิดแบบใด”


13 28-มีนาคม-2565 เคยเป็นกันมั้ยเมื่อก่อนเคยทำ สิ่ง ๆ หนึ่งได้แต่ เพราะหยุดมันไปนานพอจะกลับมาทำ อีกครั้งหนึ่งปรากฎ ว่า ว่ ทำ ไม่ได้แล้วหรือทำ ได้ก็ไม่ดีเหมือนเมื่อครั้งก่อนที่ยัง เคยทำ ได้ ทำ ให้รู้สึกแย่กลับตัวเองเพราะจะกลับมาทำ ครั้ง นี้ไม่ง่ายเลย วัน วั นี้ได้ฟังพอสแคสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วมี วิธี วิ ธี แก้ 4 ข้อลองดู 1. เอาสิ่งที่ในอดีตเคยทำ ได้ดีหยิบมันมาดูว่า ว่ มันเคย work ตรงไหนบ้าง มองย้อนกลับไปที่กระบวนการการ นั้นว่า ว่ ทำ ไมจึงทำ สำ เร็จได้ 2. อย่าคาดหวัง วัในช่วงแรกว่า ว่ มันต้องทำ ได้แล้วไปเร่งให้ มันเกิดผลเร็วขึ้น ซึ่งยากมากที่จะสำ เร็จได้ในวัน วั เกียว เราควรค่อย ๆ ทำ ไม่โหมไปในคราวเดียว ค่อย ๆ ทำ ต่อ เนื่องสมำ เสมอ 3. ต้องเอากิจกรรมนี้มาอยู่ในกิจวัต วั รประจำ วัน วั เราให้ได้ ดัดแปลงให้มันกลมกลืนกับสิ่งที่เราทำ อยู่เป็นประจำ เพื่อ ให้มันสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมา 4. ต้องเชื่อใจและมั่นใจกับตัวเองก่อนสิ่งที่เราทำ มันจะดี แม้ยังไม่เห็นผลที่เกิดปลายทางก็ตาม ดังนั้นอะไรที่เราเคยทำ มันได้แล้ว แต่ยังไปต่อไม่จบ กลับไปหยุดซะงั้นก่อน ต้องกลับมาเริ่มใหม่ทั้งหมดเลย พูดให้เข้าใจง่ายคือ ถ้าคุณหยุดกลางทางเมื่อไร คุณจะไม่มี แรงที่จะมาเริ่มต้นใหม่ได้เลย ต้องอดทน ต่อสู้เท่านั้นจึงจะ ไปต่อได้อย่ายอมแพ้เพียงเพราะมีอุปสรรคเท่านั้น สู้ ๆ นะ ตัวเอง


14-1 30-มีนาคม-2565 ต่อยอดจากข้อ ข้ คิดเรื่อ รื่ ง “ ความสำ เร็จ ร็ “ ไป วัน วั นี้จะ ถอดเนื้อหาออกมาให้ค ห้ รบถ้วนสำ หรับ รั เรื่อ รื่ งนี้เลย โดยขอ เสนอวัน วั นี้เป็น โดยทั่วไปคนเรามักชอบพูดถึงความสำ เร็จในมุมกว้า ว้ ง ๆ แม้กระทั่งอธิษฐานขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอว่า ว่ ขอให้ ข้าพเจ้าประสบความสำ เร็จในหน้าที่การงาน แต่ไม่บอกนะงา นอ่ะงานอะไร เรื่องไหน จุดไหนบ้าง ใช่มั้ย 555 เลยไม่ค่อยจะ ตรงจุดที่ต้องการเท่าที่ควร เราจึงจำ เป็น ป็ ต้องนิยามมันไงว่า ว่ อะไรคือความสำ เร็จ ? ถ้าสังเกตุจากการอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเรื่องราวมาจากหลาย ๆ ที่เห็นว่า ว่ คนจะประสบความสำ เร็จ จะมีจุดร่วมกันอย่างน้อย 3 ข้อนี้ หรืออาจจะมากกว่า ว่ นี้ก็ได้นะ อันนี้ในมุมของพี่เองคือ 1. เชี่ยวชาญ คือเขาจะมีความรู้ มีทักษะ และมีประสบการณ์ เริ่มมากจากการศึกษา เรียนรู้แล้วฝึกฝนและขวนขวายด้วยตัว เองจนสุดทาง 2. ทำ งานหนักและต่อเนื่อง คือเขาจะทุ่มเทไปจนถึงจุดที่ ต้องการไม่ล้มเลิกง่าย ไม่ท้อง่าย ล้มแล้วรีบลุกและพัฒนามัน ไปอย่างต่อเนื่อง เอาสิ่งที่ล้มเหลวมาทบทวนแก้ไขจนพัฒนา ขึ้นไปอีก 3. มีความสุขกับสิ่งที่ทำ แน่นอนถ้าทำ แล้วไม่มีความสุขมัน จะยืนระยะไม่ได้ยาว ไปไม่ถึงจุดที่เชี่ยวชาญ หรืออาจไปถึงแต่ อาจหมดไฟไม่พร้อมไปต่อก็ได้เพราะทำ ไปก็ไม่มีความสุขไง ดังนั้นต้องมีความสุขร่วมไปกับมัน เช่น ในอดีตพี่เคยไม่ชอบ การเรียนรู้บางเรื่อง แต่ถ้าจะไปต่อ เราจำ เป็น ป็ ต้องรู้เรื่องนี้ทำ ไงล่ะ พี่ก็หลอกสมองไง แกล้งทำ เป็น ป็ รักมัน แกล้งไปแกล้งมา กลับชอบและหลงไหลมันเลย เพราะเราเรียนรู้จนเราเข้าใจมัน เลยมีความสุขกับมัน


14-2 31-มีนาคม-2565 เมื่อวานนำ เสนอจุดร่วมของความสำ เร็จ วัน วั นี้เป็น ป็ เคล็ดลับความสำ เร็จของคนทำ งานซึ่งเป็น ป็ คำ สอนของ พระพุทธเจ้าที่คือ " อิทธิบาท 4 " 1. ฉันทะ = Passion - การได้ทำ สิ่งที่ชอบได้ถือว่าโชคดีมาก แต่ในโลกของ ความจริง มันเลือกไม่ได้ ทุกคนไม่สามารถทำ ในสิ่งที่ชอบได้ เสมอไป คุณจึงจำ เป็นต้องชอบในสิ่งที่ทำ แล้วไปหาวิธีทำ ให้มัน มีความหมาย ให้มันสนุกในการลงมือทำ เหมือนพี่นำ เสนอเมื่อ วานมั้ย หลอกสมองไง 2. วิริยะ = ความพยายาม - ต้องอดทนในการลงมือทำ ล้มแล้วรีบลุก เหมือนแชมป์ มวยโลก โมฮัมหมัด อาลี พูดไว้ว่า แชมป์ไม่ใช่คนที่หมัดหนัก ที่สุด แต่อยู่ที่คนล้มแล้วลุกได้เสมอ และอดทนต่อมาคืออดทน ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ต้องเรียนรู้ให้กระจ่างแจ้ง การทำ งานซ้ำ ๆ แน่นอนทำ ให้เกิดทักษะ แต่การทำ ซ้ำ ๆ ต้องปรับปรุงไม่ให้ผล มันเหมือนเดิม ไม่ใช่ทำ ซ้ำ ๆ แต่ไม่ให้ผลก้าวหน้าเลย 3. จิตตะ = โฟกัส - ต้องอุทิศตนให้กับสิ่งนั้นไม่วอกแวกไปทางอื่น อยู่ในภาวะ ลื่นไหล ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราทุ่มเทพลังใจหรือความสนใจสู่เป้า หมาย คนที่เข้าสู่ภาวะนี้จะทำ ให้มีกำ ลังใจ 4. วิมังสา = หมั่นพิจารณา ใคร่ครวญ - คือการใช้ปัญญาพอจารณาตรวจสอบหาเหตุผล ข้อ บกพร่อง โดยต้องรู้จักทดลอง วางแผน วัดผล เพื่อให้สิ่งที่ทำ ได้ ผลลัพธ์ดี งานทุกงานต้องมีทั้ง 4 ข้อนี้ประสบผลสำ เร็จแน่นอน


14-3 31-มีนาคม-2565 ยกตัวอย่างให้ฟังทวนความเข้าใจ มีชายหนุ่มคนหนึ่งมีอาชีพตัดต้นไม้ เขาเป็นคนขยันขัน แข็งไม่มีใครเทียบ วันหนึ่งเขาไปสมัครทำ งานตัดต้นไม้ในเมือง เจ้านายรับเขาเข้าทำ งานและบอกว่าถ้าตัดต้นไม้มากก็จะได้เงิน เดือนมาก ตัดต้นไม้ได้น้อยก็ได้เงินเดือนน้อย ชายตัดไม้ดีใจ วันแรกที่เขาตัดไม้ เขาตัดต้นไม้ได้ถึง 10 ต้น วันต่อๆ มา เพิ่มขึ้นเป็น 12 ต้น 15 ต้น จนกระทั่ง 20 ต้น เจ้านายชื่นชม เพื่อนฝูงทึ่งเขา แต่คงไม่เท่ากับความภาคภูมิใจของตัวเอง เขา บอกตัวเองว่า เขาจะต้องทำ งานให้ดีที่สุด ต้องแข่งกับตัวเอง โดยต้องตัดต้นไม้ได้มากขึ้นทุกวัน… ชายตัดไม้ตื่นเช้ามากขึ้น ทำ งานจนดึกทุกวันเพื่อเพิ่มผลผลิต แต่เขาพบว่า เขาไม่เคยตัด ไม้ได้เกิน 20 ต้น อีกเลยไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน เพียงไร ชายตัดไม้ท้อแท้มาก เขาเข้าไปหาเจ้านายและบอกว่า เขาไม่ อยากทำ งานตัดไม้อีกแล้ว ทำ ไมล่ะ…เจ้านายถาม ผมไม่มีความสามารถ ดูสิ…ผมทุ่มเทเวลา กำ ลังกาย กำ ลังใจ ทั้งหมดให้กับการตัดไม้ แต่ผมกลับตัดไม้ได้น้อยลงกว่าเดิม ผม ไม่ควรตัดไม้อีกต่อไป เขาขาดอิทธิบาท 4 ข้อไหน ตอบให้ครบเด๋วพี่เฉลย เฉลยนะ เจ้านายยิ้ม…ตบไหล่เขาเบาๆ เธอไม่ได้ทำ งานได้น้อย ลงนะ แต่เธอลืมไปอย่างหนึ่งในการตัดไม้……ไปลับขวาน เสีย บ้าง….มันทื่อแล้ว….


15 1-เมษายน-2565 เรื่อ รื่ งความสำ เร็จ ร็ได้เ ด้ ขีย ขี นไปแล้ว เอาให้จ ห้ บเลย ต่อจากนี้ต้ นี้ ต้ องระวัง วั สิ่งสิ่ที่มาคอยฉุด ฉุ รั้ง รั้ ความสำ เร็จ ร็ ไม่ ให้เ ห้ ราเดินดิหน้า น้ ต่อได้คื ด้ คื อ 1. มีความเชื่อผิด ๆ ว่า ว่ อดีตเคยทำ ไม่ได้ อนาคตก็คงทำ ไม่ได้หรอก 2. ไม่มีเป้าหมายของชีวิต วิ ซึ่งมันสำ คัญมาก เราจำ เป็น ป็ ต้องหาเป้าหมายให้เจอเพราะมันจะทำ ให้ทุกลมหายใจ ของเรามีความหมาย 3. ชอบคิดว่า ว่ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำ ลงไปนั้นไม่เป็นไร หรอกแล้วสะสมมันไปเรื่อย ๆ ยกตัวอย่าง เช่นกินอาหาร ไขมันทุกวัน วั เพราะชอบกินแล้วอ้างว่า ว่ นิดหน่อยเอง พอมัน สะสมไปเรื่อย มันคือสัญญาณอันตราย เรื่องอื่น ๆ ก็คิด ทำ นองเดียวกัน 4. ไม่มีความรับผิดชอบและชอบโยนความผิดให้คนอื่น ไม่ว่า ว่ เรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน เขาเรียกว่า ว่ รับชอบแต่ไม่ รับผิด แบบนี้เจริญยาก 5. ไม่มีไอดอลหรือคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ 6. อยากเป็นโน่นเป็นนี่ แต่ไม่ลงมือทำ สักที เรียกว่า ว่ ไอ เดียบรรเจิด แต่ขี้เกียจ 7. รักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้ดี อย่าทำ ลาย ความสัมพันธ์ เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่า ว่ อนาคตอาจจะมาเจอ กันในฐานะอื่นก็ได้ ระวัง วั 7 ข้อนี้ให้ดี วัน วั นี้ก็ประมาณนี้ครับ


2-เมษายน-2565 วัน วั นี้ไม่ได้ฟังได้แต่อ่านเลยหยิบเอาเรื่องนี้ไว้ม ว้ าสะกิดเตือน ว่า ว่ ถ้าคุณรู้จักคนลักษณะแบบนี้ คุณโชคดีมาก คำ ว่า ว่ กัลยาณมิตรในทางธรรมหมายถึง บุคคล หรือสภาพ แวดล้อมที่มีส่วนเกื้อกูลให้บุคคลนั้นๆ รู้จักการใช้ปัญญา ใช้ความคิด ใช้วิจ วิ ารณญาณ อันเป็น ป็ เหตุ ให้มีวิถี วิ ถี ชีวิต วิ ที่ดีงาม เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต วิ ไปใน ทิศทางที่ประเสริฐเลิศล้ำ กัลยาณมิตรย่อมหมายรวมตั้งแต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ เป็น ป็ ต้นลงมาจนถึงคนทั่วไป ที่มีส่วนเกื้อกูลให้แต่ละบุคคลรู้จัก การพัฒนาตัวเอง โดยไม่จำ กัดอายุ พ่อแม่ พี่น้อง ก็ถือเป็น ป็ กัลยาณมิตรเช่นเดียวกัน 1.คนที่แนะนำ งานที่เราได้ใช้ศักยภาพสูงสุด 2.คนที่ฟังและเห็นใจเมื่อทำ งานผิดพลาดและอับอาย 3.คนที่เตือนเราไม่ให้อัตตาสูงเมื่อเราสำ เร็จสูง 4.คนที่กระตุ้นเราไม่ให้เราติด Comfort Zone 5.คนที่บอกว่า ว่ เราทำ ผิดในขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่พูด 6.คนที่ผลักดันเราให้ดีและเก่งมากขึ้นเรื่อยๆ 7.คนที่คอยแนะนำ ให้เราไปสอนึนอื่นให้ดีและเก่ง 16 กัลยาณมิตมิรที่เราควรมีไมี ว้บ้ ว้ า บ้ ง ปัญหา มีขอบเขตแตกต่างกัน...มีทั้งแบบเล็ก ปานกลาง และแบบหนักหนา คนทำ งานและหัวหน้างานจึงมีทางเลือกสอง ทางเมื่อเผชิญปัญหา คือ


4-เมษายน-2565 - input คือการใส่ข้อมูลลงไปในสมอง หรือ ป้อ ป้ น ข้อมูล เช่น อ่าน ฟัง - output คือการแสดงผล เช่น พูด เขียน ลงมือ ปฎิบัติ 17 input-output หนังสือเรื่อง input-output น่าจะเป็น ป็ กุญแจที่นำ ไปสู่การ พัฒนาตนเองได้ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้ยืนยันว่า ว่ คนที่สร้างผล งานได้ดีคือคนที่ให้ความสำ คัญกับ output มากกว่า ว่ input แล้ว ความหมายของ 2 คำ นี้มันคืออะไร หากอยากเปลี่ยนแปลงและพัฒนาจึงต้องพูด เขียน และ ปฎิบัติให้มาก เพราะต่อให้เรา input เข้าในสมองมากเพียงใดแต่ กลับไม่นำ มันออกมาใช้ทำ ให้สมองเราลืมได้ง่าย เพราะฉะนั้นอยากพัฒนาตนเองก็ต้องทำ input ตามด้วย output และทำ เช่นนั้นวนไปเรื่อย ๆ แต่ทั้งหมดนี้ขั้นตอนที่สำ คัญคือการ “ Feedback “ คือ การประเมินผลที่ได้จาก output แล้วใช้ผลการประเมินนั้นเพื่อ ปรับปรุง input ในครั้งถัดไป ( การมองย้อนกลับไป , การแก้ไข ข้อผิดพลาด , การปรับทิศทาง , การค้นหาสาเหตุ สิ่งเหล่านี้ล้วน เป็น ป็ Feedback ทั้งสิ้น )


คนที่จะประสบความสำ เร็จแค่มีแรงจูงใจ และความเชื่อมั่น ไม่พอ ต้องมีความมุ่งมั่นด้วย เวลาเจออุปสรรคลองหยุดถามตัว เองว่า ว่ เราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง มองความล้มเหลวเป็น ป็ เรื่องธรรมดา ล้มได้ พักได้ แต่อย่า ล้มเลิกความตั้งใจ คนที่ประสบความสำ เร็จระดับโลกแล้วลองดูว่า ว่ มีใครบ้างที่ ไม่มีแรงจูงใจ ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่มีความมุ่งมั่นไม่ ย่อท้อต่ออุปสรรค ยังไม่เคยเจอเลยสักคน ดังนั้น 5-เมษายน-2565 18 คนจะประสบความสำ เร็จ ร็ “อยากประสบความสำ เร็จ ร็ ต้องมีแรงจูงใจ ความเชื่อ ชื่ มั่น มั่ และความมุ่งมั่น มั่ ”


“ ลงมือทำ “ เป็น ป็ บทความของ อ.นภดลฯ พูดถึงคนสำ เร็จกับคนที่ยัง ไม่สำ เร็จจะมีอยู่จุดหนึ่งที่เป็น ป็ จุดแยกคือ ยังไม่กล้าที่จะเริ่ม เพราะอะไร ถึงไม่กล้าเพราะความกลัวไง กลัวล้มเหลว กลัวเสียหน้า กลัวเสียเงิน สารพัดความกลัว ความยากมันจึงอยู่ตรงนี้ ดังนั้นมาหาวิธี วิ ธี ชนะ ความกลัวกันคือ 8-เมษายน-2565 19 ลงมือ มื ทำ 1. ให้ถามตัวเองว่า ว่ ถ้าทำ แล้วไม่สำ เร็จเราจะเดือดร้อนมากหรือไม่ ถ้าประเมินแล้วเดือดร้อนมาก ก็ค่อย ๆ ทำ สิ่งเล็ก ๆ ไปก่อนยังไม่ ต้องทุ่มจนหมด แต่ถ้าไม่เดือดร้อนจะกลัวไปทำ ไม 2. ถามตัวเองอีกว่า ว่ ถ้าทำ ไม่สำ เร็จแล้วทำ ให้คนอื่นเดือดร้อนไหม ก็ใช้เหตุผลเหมือนข้อ 1 เลย ถ้า 2 ข้อนี้เราผ่านได้ก็ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่เราจะไม่เริ่มที่จะลงมือทำ เลยนะ จำ ได้มั้ยพี่เคยแนะนำ ไปแล้วว่า ว่ ถ้าทำ อะไรไม่สำ เร็จหรือล้มเหลว ให้ถามตัวเองว่า ว่ เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากสิ่งนี้ แค่เปลี่ยนจากคำ ว่า ว่ ล้มเหลวเป็น ป็ เรียนรู้ ก็เท่านั้น


9-เมษายน-2565 20 คุณ คุ มีอ มี ะไรใน 9 ข้อ ข้ นี้มั้ย มั้ 1. ล้มเลิกง่าย ความอดทนต่ำ 2. ไม่ยอมรับความเสี่ยงอะไรเลย 3. ไม่ตั้งเป้า ป้ หมาย และไม่พยายามทำ อะไรไปตามเป้า ป้ หมายที่ตั้ง 4. ล้มเหลวทีไร โทษแต่คนอื่น โทษดิน โทษฟ้า ฟ้ ไม่คิดเลยว่า ว่ เกิด จากที่ตนเองไม่พัฒนา 5. ไม่ชอบหาความรู้ แต่บ่นว่า ว่ ทำ ไมชีวิต วิ ถึงยากจัง 6. ไม่เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองว่า ว่ ผิดเพราะอะไร 7. พยายามเอาใจคนอื่น เพราะกลัวว่า ว่ คนอื่นจะไม่รับตัวเองเป็น ป็ พวก จนตัวเองไม่มีเวลา กลายเป็น ป็ ว่า ว่ ตัวเองไปรับใช้ความฝันของ คนอื่น 8. วิจ วิ ารณ์คนอื่น จ้องจับผิดแต่คนอื่น ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัว เองเลย 9. มีเป้า ป้ หมาย มีความสามารถ แต่ทำ ไม่ได้เพราะไม่มีวินั วิ นั ย คือทำ แล้วเลิก ทำ แล้วเปลี่ยน


11-เมษายน-2565 21 ทำ งานจนลืมเวลา “Floe” เคยมีอาการแบบนี้กันไหม ทำ งานจนลืมเวลา ไม่รู้สึกหิว , ทำ กิจกรรมเช่นกีฬา ดนตรี แล้วรู้สึกผ่อนคลาย ,ดูหนัง ฟังเพลง แล้วลืมตัว ออกท่าทาง ออกรสออกชาติ, ได้ทำ สิ่งใหม่ๆ แล้ว เหมือนเราหายไปอยู่ในโลกนี้แบบ 100% ถ้าเคยมีอาการเหล่านี้ ยินดีด้วยเขาเรียกว่า ว่ “Floe ” สภาวะลื่นไหล จำ ได้ไหมพี่เคยเขียน ไปในบทความก่อนๆ วัน วั นีนำ เรื่องนี้ที่นิ้วกลมพูดเอามาแปลจาก หนังสือต่างประเทศ อาการเหล่านี้มันเหมือนเคล็ดของการ ทำ งานอย่างมีความสุข เชื่อว่า ว่ ใครๆก็อยากไดุ้ามว่า ว่ สร้างได้มั้ย ตอบได้เลยว่า ว่ สร้างได้แน่นอน ก่อนอื่นเราต้องรู้องค์ประกอบที่ ทำ ให้เกิด Flow ก่อนคือ มีสาธิ จดจ่อ อย่างแรงกล้า ไม่ถูกดึงดูดความสนใจจาก ภายนอกได้ คุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ถ้าภาษาธรรมเรียกว่า ว่ ปิติ จะ เกิดกับคนที่นั่งสมาธิประจำ จะรู้สึกตัวทั่วพร้อมในตัวเอง ตลอดดำ ดิ่งในสมาธิ รู้สึกว่า ว่ ตัวเองได้หล่อหลอมรวมไปกับสิ่งที่กำ ลังทำ อยู่


11-เมษายน-2565 21 ทำ งานจนลืมเวลา “Floe” วิธี วิ ธี สร้าง Flow 1.พาตัวเองออกไปทำ สิ่งที่ท้าทายใหม่ๆ ด้วยสภาวะที่ตื่นตัว ตื่น เต้น 2.สนุกที่ได้ฝึน ฝึ ตัวเองออกไปจากความคุ้นเคยเดิมๆโดยพาตัวเอง ไปสู่จุดที่ทำ ยากขึ้นแบบยากนิดๆ ไม่ต้องถึงกับทำ ไม่ได้เลย และ เราอยากที่จะชนะมันด้วย จะยกตัวอย่างวงจรของมันให้เราเข้าใจง่ายขึ้นเช่น เวลาที่เรา ทำ งานที่นี่ใหม่ๆ เราจะรู้สึกแบบตื่นตัว อยากเรียน รู้สิ่งใหม่ๆ ทำ จนชำ นาญ จนเกิด Flow แล้วเรารู้สึกว่า ว่ ควบคุมมันได้แล้วคือเอาอยู่อ่ะ มันก็จะเกิดการผ่อนคลาย แล้วก้ รู้สึกเบื่อหน่ายแล้วเฉยชา จนทำ ไปงั้นๆหละ นี่แหละคือวงจรของ มัน สังเกตุให้ติถ้าอาการก่อนเกิด Flow ทำ แล้วมีความสุขจะมี อาการตามที่เกริ่นในบรรทัตแรกเลย แต่หลังเกิด Flow แล้วเรา จะรู้สึกว่า ว่ มันง่าย มันก็จะไม่เกิดการท้าทาย อาการ Flow ก็จะไม่ เกิด จุดที่สำ คัญคือเราต้องพาตัวเองไปทำ สิ่งใหม่ๆ ที่ท่าทาย ถ้า งานที่ทำ ประจำ เราก็แค่ใส่ความอยากเข้าไป หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ยากขึ้น เราก็จะมีอาการจดจ่อกับงานนั้นเอง


11-เมษายน-2565 22 ลักษณะคนทำ งาน 2 ประเภท ทำ งานแบบขอไปที รับมอบหมายงานแบบไม่ถาม เกิดปัญหาหาทางแก้ไขลำ พัง เมื่อต้องตัดสินใจถามหัวหน้า ส่งงานตามกำ หนดเวลา ไม่ถาม Feedback เดี๋ยวงานเพิ่ม ทำ งานแบบมืออาชีพ รับมอบหมายงานพร้อมถาม เกิดปัญหาหารือคนที่เกี่ยวข้อง เสนอทางเลือกและบทวิเ วิ คราะห์ ส่งงานก่อนเวลาพอสมควร หา Feedback เพื่อพัฒนาครั้งหน้า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ว่ คนทำ งานมีทัศนคติแบบไหน ระหว่า ว่ ง การทำ งานแบบ “ขอไปที” เทียบกับ “การทำ งานแบบมืออาชีพ” ข้อมูลชุดนี้อาจพอช่วยให้เห็นภาพได้ครับ ได้มาจากบทความ ของ อ.เกรียงศักดิ์ฯโดย ในแต่ละคู่ ตารางด้านซ้ายจะเป็น ป็ แบบ “ขอไปที” เทียบกับ ด้านขวาไปที่เป็น ป็ แบบ“การทำ งานแบบมืออาชีพ” ลองจับคู่เทียบ กันดูพร้อมคำ อธิบายถึงความแตกต่างของคน 2 ประเภท


11-เมษายน-2565 22 ลักษณะคนทำ งาน 2 ประเภท ในแต่ละคู่ ตารางด้านซ้ายจะเป็น ป็ แบบ “ขอไปที” เทียบกับ ด้านขวาไปที่เป็น ป็ แบบ“การทำ งานแบบมืออาชีพ” ลองจับคู่เทียบ กันดูพร้อมคำ อธิบายถึงความแตกต่างของคน 2 ประเภท 1.รับมอบหมายงานแบบไม่ถาม : เขาบอกอะไรมาก็ตีความไปตามที่ เข้าใจ ซึ่งบ่อยครั้งอาจะเข้าใจคลาดเคลื่อน - รับมอบหมายงานพร้อมถาม : แจกแจงให้แน่ใจ ด้วยความสุภาพ ดีกว่า ว่ เข้าใจผิดและทำ งานออกมาผิด 2.เกิดปัญหาหาทางแก้ไขลำ พัง : คิดว่า ว่ จะแก้ไขได้ จะได้ไม่โดนคน ตำ หนิ แต่หากบานปลายอาจเสียหายเยอะหรือแก้ยาก - เกิดปัญหาหารือคนเกี่ยวข้อง : อาจแก้ปัญหาได้เร็วกว่า ว่ และหาก บานปลายคนจะรู้แต่เนิ่นและเสียหายน้อยกว่า ว่ 3.เมื่อต้องตัดสินใจถามหัวหน้า : ไม่อยากใช้ความคิด วิเ วิ คราะห์ก่อน เพราะไม่มั่นใจตนเอง - เสนอทางเลือกและบทวิเ วิ คราะห์: ฝึก ฝึ คิด วิเ วิ คราะห์และแสดงความคิด ริเริ่มให้คนเห็นศักยภาพ 4.ส่งงานตามกำ หนดเวลา : เพราะคิดว่า ว่ เป็น ป็ ความรับผิดชอบ - ส่งก่อนเวลาพอสมควร: เพื่อให้คนที่จะนำ งานไปใช้มีเวลาตรวจสอบ/ เตรียมตัว/ทำ งานเขาให้เร็วขึ้น 5.ไม่ถาม Feedback เดี๋ยวงานเพิ่ม : กลัวว่า ว่ จะต้องปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ คนมักไม่ค่อยพอใจสิ่งที่ได้ - หา Feedback เพื่อพัฒนาครั้งหน้า : ทำ ให้รู้ว่า ว่ ผลงานเป็น ป็ อย่างไร และทำ ให้เราพัฒนาตนเองเก่งขึ้น


18-เมษายน-2565 23 คุณ คุ จะเสีย สี ใจกับ สิ่งสิ่ที่ไม่ไม่ ด้ทำ มากกว่า ว่ หนังสือที่นิ้วกลมเอามาแปลเรื่อง คุณจะเสียใจกับ สิ่งที่ไม่ ได้ทำ มากกว่า ว่ สิ่งที่ได้ทำ ลงไปเห็นด้วยมั้ยว่า ว่ โลกเรานี้เต็มไปด้วย ทางเลือก ตัวเลือกเยอะมากจนไม่กล้าที่เลือกเลยยืนงงๆ อยู่ตรง ทางแยกไม่รู้ว่า ว่ จะไปซ้ายหรือขวาดี หรือบางครั้งตัดสินใจเลือก ไปแล้วทางใดทางหนึ่ง ก็มักจะปิดหูปิดตาไม่สนใจกับสิ่งที่ไม่ได้ เลือกเพราะกลัวว่า ว่ จะรับไม่ได้เพราะไม่ได้เลือก คำ ถามคือ เมื่อเลือกแล้วลงมือทำ แล้วเกิดผิดพลาดกับ ไม่เลือกคือไม่ต้องลงมือทำ อันไหนจะเสียใจมากว่า ว่ 1. 2. เขาได้มีการวิจั วิ จั ยมาแล้วพบว่า ว่ คนส่วนใหญ่ในยุคคนเจน X กับ Baby Boomer จะเลือกที่ข้อ 1 เหมือนกับที่ทุดคนเลือก ไปเลือกเมื่อวานนี้ เพราะเขามองว่า ว่ ลงมือทำ ไปแล้วผิดพลาด แน่นอนอาจจะเสียใจเหมือนกับที่ทุกคนเลือกไปเมื่อวานนี้ เพราะ เขามองว่า ว่ ลงมือทำ ไปแล้วผิดพลาดแน่นอนอาจจะเสียใจแต่ ความเสียใจมันมีจุดสิ้นสุดคือจบแล้วเราก็จะไปเริ่มต้นกับสิ่ง ใหม่ๆได้ แต่ถ้าเป้น ป้ ข้อ 2 เลือกที่จะไม่ทำ มันอาจจะคาใจเราไป ตลอดเพระเรายังไม่ได้คำ ตอบว่า ว่ ถ้าตอนนั้นตัดสินใจทำ ไปผลมัน จะเป็น ป็ ยังไงบ้างมันจะเกิดคำ ถามในหัวจึงเท่ากับ เราจะมีโอกาสแบบนี้อีกหรือไม่ในชีวิต วิ นี้ ถ้าไม่มีก็ควรจะ เลือกเลย ถ้าเลือกและลงมือทำ ไปแล้วหากผิดพลาดให้เราลองประเมิน แบบเกิดเหตุเลวร้ายสุดๆ ( worst case ) ไปเลยจะเสียหาย อย่างไร เรารับได้มั้ยหรือแก้ไขได้มั้ย ขอให้เรากล้าหาญ เมื่อยืนอยู่บนทางแยก นะครับ


19-เมษายน-2565 24 5 ข้อ ข้ คิดรับ รั วัน วั ใหม่ โดยนำ มาจาก หนังสือ สื แปล 1. เขาบอกว่า ว่ แม้เราจะมีเป้า ป้ หมายและความต้องการอย่างเดียว ยังไม่พอแต่ต้องลงมือทำ ด้วย เหมือนอิทธิบาท 4 มั้ย 2. เมื่อทำ สิ่งใดผิดพลาดลงไปแล้วให้ยอมรับมัน เพื่อให้ตัวเอง ได้เรียนรู้มัน นำ มันมาเป็น ป็ บทเรียนเตือนใจเรา 3. ความสุขใคร ๆ ก็ต้องการ เพราะคนที่มีความสุขสามารถทำ สิ่งใดได้ดีกว่า ว่ คนที่ไม่มีความสุขแต่เขาบอกว่า ว่ ไม่ต้องตามหามัน หรอก เพราะมันอยู่ตรงปัจจุบัน เช่นตอนที่คุณปวดฟันมาก ๆ ทำ ให้รู้ว่า ว่ ตอนที่ไม่ปวดฟันมันมีความสุขขนาดไหน เห็นภาพมั้ย 4. ยอมรับและเข้าใจในประสบการณ์เรื่องแย่ ๆ เชื่อว่า ว่ ทุกคน เคยเจอมาทั้งนั้น เพราะมันจะทำ ให้เราแข็งแกร่งมากขึ้น มันจะ เป็น ป็ พลังและแรงขับเคลื่อนให้เราเดินต่อไปข้างหน้าได้ 5. หยุดเปรียบเทียบกับคนอื่น มันจะทำ ให้เราเสียเวลาเดินต่อ ไปไหนไม่ได้ ต้องเข้าใจว่า ว่ ทุกคนมีความสามารถไม่เท่าเทียมก่อน เราเห็นคนอื่นเขาได้ดีแต่เรารู้หรือไม่ว่า ว่ อดีตเขาต้องผ่านอะไรมา จนได้ดี ดังนั้นควรศึกษาว่า ว่ เขาทำ อย่างไรจึงจะสำ เร็จน่าจะเป็น ป็ Mind set ที่ถูกต้อง


20-เมษายน-2565 ความคืบหน้าในการที่จะประสบความ 25 สำ เร็จ ร็ในชีวิ ชี ตวิ มาเช็คความคืบหน้าในการที่จะประสบความสำ เร็จในชีวิต วิ โดยวิธี วิ ธี การตั้งคำ ถามกันกับ 5 คำ ถามอันทรงพลังที่ต้องถามตัว เองทุกวัน วั โดยบทความของคุณนภฯ 1. วัน วั นี้ทำ งานเพื่อบรรลุเป้า ป้ หมายหรือไม่ - ผู้ที่ประสบความสำ เร็จจะให้ความสำ คัญกับการกำ หนดเป้า หมาย ดังนั้นการตระหนักถึงเป้า ป้ หมายทุกวัน วั จะช่วยจัดลำ ดับความ สำ คัญของงาน 2. นิสัยไม่ดีอะไรที่ต้องเลิก? - ต้องสังเกตุว่า ว่ ตัวเรามีนิสัยอะไรที่เป็น ป็ อุปสรรคขัดขวางต่อการ เติบโตของเราในแต่ละวันเช่น ขี้เกียจ , ไถมือถือไปวัน วั ๆ ฯ ต้อง พยายามที่จะเอาชนะตัวเองให้เลิกทำ นิสัยแบบนี้ 3. อะไรเป็น ป็ แรงบันดาลใจในวันนี้ - แรงบันดาลใจเป็น ป็ พลังที่คอยผลักดันไปข้างหน้า แรงผลักดัน ภายในจะสร้างความรู้สึกแห่งความหวัง 4. วัน วั นี้ทำ ผิดพลาดอะไรไป และได้เรียนรู้อะไรจากข้อผิดพลาด บ้าง? - ความล้มเหลวครั้งไหนที่เกิดขึ้นต้องนำ มาทบทวนกับตัวเองว่า เกิดจากอะไร มีปัจจับรอบข้างอะไรบ้างและผลที่ตามมาคืออะไร เพราะจะได้เรียนรู้และเป็น ป็ ประสบการณ์เพื่อจะไม่ผิดพลาดในเรื่อง เดิมอีก 5. วัน วั นี้จะขอบคุณอะไร - ทุกคนย่อมมีวัน วั ที่แย่และดี หากในแต่ละวัน วั ไม่ว่า ว่ ตัวคุณหรือคน อื่นทำ ในสิ่งที่ส่งเสริมตัวเราในการที่จะบรรลุเป้าหมาย ทุกครั้งควร จะนึกถึงและรู้สึกขอบคุณทุกครั้ง ลองถามตัวเองด้วย 5 คำ ถามนี้ทุกวัน วั รับรองว่า ว่ เราจะได้เห็นการ เปลี่ยนแปลงของชีวิต วิ ในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ลองดูสิ


21-เมษายน-2565 26 Time “ Time “ ได้ฟังเรื่องเวลา ของ อ.ณรงค์วิท วิ ย์ฯ ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน เราเคยรู้มั้ยว่า ว่ เวลามีค่าขนาดไหน มีต้นทุนยัง ไง ให้ความสำ คัญกับเวลาแค่ไหน และเชื่อว่า ว่ เราทุกคนก็เคย ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ได้ทำ อะไรเลย มาลองดูกันว่า ว่ จะทำ ยังไงให้ชีวิต วิ เรามีกำ ไรเรื่องเวลา 1. ใช้เวลาให้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ป็ เช่นเวลาต้องทำ งานหรือ กิจกรรมเราก็ทำ ให้เสร็จก่อนกำ หนด ส่วนเวลาที่เหลือก็คือกำ ไร เสมือนเอาเวลาเป็น ป็ ต้นทุน เมื่อลดต้นทุนได้เท่ากับได้กำ ไรกลับมา เอากำ ไรก็คือเวลานี้ไปเติมเต็มสิ่งที่เราขาด หรือสิ่งที่เราอยากให้ ความสำ คัญ 2. ใช้เวลาเท่าเดิมแต่ได้ผลตอบแทนเกินคุ้ม หมายถึงทุ่มเททำ เต็มที่ กับสิ่งที่เรากำ ลังทำ อยู่ แน่นอนเมื่อทำ เต็มที่สิ่งที่ตามมาคือผล ตอบแทนที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีชีวิต วิ ที่ดีขึ้นและประสบความสำ เร็จได้ไม่ ยากเลย 3. เอาเวลาของเราแค่ 1 ส่วนเล็ก ๆ ของเราไปทำ สิ่งดี ๆ ให้กับคน อื่นเช่น ให้วิธี วิ ธี เดินลัดไปสู่ความสำ เร็จได้เร็วขึ้น , ให้ความรู้ , สร้าง แรงบันดาลใจ , ให้คำ ปรึกษาแล้วคนอื่นมีชีวิตดีขึ้น ง่ายขึ้น นี่ก็คือ กำ ไรเช่นกัน ข้อนี้เหมือนใครเอ่ย 4. ทำ อะไรก่อนถึงเวลาเท่ากับเราได้ทำ ก่อนคนอื่นเพราะเราได้ทำ ไปแล้ว 1 ครั้ง ถึงเวลาทำ จริงเราก็จะใช้เวลาที่น้อยลง นี่คือ 4 วิธี วิ ธี ที่สร้างกำ ไรเรื่องเวลา ใครมีวิธี วิ ธี อื่นอีกหรือเคยทำ มาบ้าง ช่วยแชร์กันหน่อย


25-เมษายน-2565 27 เวลา มาต่อกันที่บทความเกี่ยวกับ “ เวลา” กันต่อ ความจริงเรามี เวลามากพอที่จะเริ่มต้นทำ สิ่งที่เราต้องการได้เพียงแต่เราไม่รู้จักใช้มัน อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้มันไปกับเรื่องไร้สาระ ถ้าเราอยากใช้เวลาที่ มีอย่างมีประสิทธิภาพต้องทำ ยังไง 1.ลดเวลาการทำ อย่างอื่นที่ไม่สำ คัญในชีวิตลง - ชีวิต วิ เราคงไม่น่าจะมีเรื่องสำ คัญตลอด 24 ชั่วโมง เลยใช่มั้ย มี 2 แนวคือ ลดทำ สิ่งที่ไม่สำ คัญหรือเลือกสิ่งที่สำ คัญต่อเราจริงๆ สิ่งสำ คัญก็คือสิ่งที่ทำ ไปแล้วเข้าใกล้เป้าหมายเราอ่ะ เข้าใจมั้ยเนี่ย เพราะถ้าเราบริหารเวลาโดยไม่ จัดลำ ดับความสำ คัญก็ไม่ต่างจากการยิงฟุตบอลมั่วซั่ว 2.หยุดให้ความสำ คัญกับทุกสิ่งมากเกินไป - จงรู้ไว้น ว้ ะว่า ว่ เป้า ป้ หมายสำ คัญมีเพียง 1 เรื่อง จากสมมุติมี 10 เรื่อง แม้อีก 9 เรื่องก็สำ คัญแต่ 1 เรื่องที่เราเลือกทำ นั้นต้องสำ คัญที่สุด ข้อนี้เราก็แค่ไป จัดลำ ดับความสำ คัญเองไง 3.เลิกใช้ช่วงเวลาที่สำ คัญไปกับเรื่องไร้สาระ - อย่าลืมนะเรามีเวลา 24 ชั่วโมงต่อวันก็จริง แต่เราไม่ได้มีแรงตลอด 24 ชั่วโมงนะจ๊ะ ผู้เชี่ยงชาญด้านสมองเขาบอกว่าคนเราจะทำ งานได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ มีเพียงแค่วัน วั ละ 3-5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง นอกเหนือจากนี้ พลังงานและสมาธิก็จะลดลงเพราะฉะนั้นเอาเวลา 3-5 ชั่วโมงไปทำ สิ่งที่ สำ คัญเท่านั้นนะ 4.หากเรารู้แล้วว่า ว่ เป้าหมายของเราคืออะไรแต่ไม่รู้ว่าขั้นตอนต่อไปต้องทำ อะไรก็ให้ถามตัวเอง ครับว่า ว่ “ อะไรคือ 1 สิ่งที่เราทำ แล้วจะทำ ให้สิ่งอื่นๆ ง่ายขึ้น ” เมื่อเจอแล้วก็จดมัน ลงไปบน To Do List เลยเอาตาราง 4 ช่องที่พี่เคยทำ เป็นตัวอย่างไว้ให้ใน ตอนก่อนๆ อ่ะ มาดูประกอบโดย ใส่ความสำ คัญกับกำ หมดเวลาเส้นตาย ไว้ ด้วย ( Date Line ) ยากมั้ยแค่ 4 ข้อนี้น่าจะช่วยให้เราบริหารเวลาทำ สิ่งที่สำ คัญได้ แน่นอน กระซิบ พี่ทำ อยู่เป็น ป็ ประจำ ที่สำ คัญพี่เป็น ป็ คนมีวินั วิ นั ยด้วยนะจะ บอกให้


26-เมษายน-2565 26 ข้อ ข้ คิดในการมองปัญหา วัน วั นี้ขอให้ข้อคิดในการมองปัญหาที่ผ่านเข้ามากเข้ามา ของ อ.เกรียงศักดิ์ฯ เชื่อว่า ว่ ทุกคนเคยผ่านเรื่องราวทั้งดีและไม่ดี ซึ่งเวลามันเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมันจะทำ ให้เรามีความทุกข์ หากเรา คิดลบ ก็จะรู้สึกลบ และยิ่งทุกข์มากขึ้น เราจะรู้สึกหดหู่ใจ ไม่คิด หาทางจัดการหรือแก้ไขในแต่ละเรื่อง งอมืองอเท้าปล่อยมันไป ตามยถากรรม ไม่คิดต่อสู้ แต่ถ้าเรามองให้มันเป็น ป็ บวก เพื่อให้มีกำ ลังใจ มองว่าก็ใน เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว จะไป undo แบบ computer ก็คงไม่ได้ ดังนั้น เราต้องยอมรับความจริง แล้วมองไปข้างหน้า เพื่อให้เกิดกำ ลังใจ จัดการฝ่า ฝ่ ฟันมันต่อไป ขอแถมนะให้ตระหนักในใจเสมอว่า “ อะไรที่ เกิดขึ้นดีเสมอ “


28-เมษายน-2565 27 Passion เคยเห็นนักกีฬาระดับโลกหรือระดับชาติเวลาเขาได้รับ เหรียญทองส่วนใหญ่ก็ได้ไม่เกิน 1 เหรียญ แต่ถามว่า ว่ มีไหมเคยได้ เกิน 1 เหรียญทอง ก็อาจจะมีบ้างแต่น้อยมาก หรือที่ได้รับเกิน 1 เหรียญ อาจเป็น ป็ กีฬาประเภทเดียวกันแต่คนละรุ่น เช่น ยกน้ำ หนัก มวยสากล ฯลฯ เหตุผลก็คือหากนักกีฬาพยายามจะคว้าเหรียญ ทองจากหลายประเภท เขาก็จะไม่มีเวลาฝึก ฝึ ซ้อมให้เพียงพอใน กีฬาประเภทใดประเภทหนึ่ง หากเขาทำ เช่นนั้นเขาจะเป็น ป็ นักกีฬา ที่เล่นได้กลางๆ ในทุกประเภท นอกจากจะไม่ได้เหรียญทองแล้ว เขาอาจจะไม่ได้รางวัล วั สักประเภทเลยด้วยซ้ำ ที่ยกตัวอย่างนี้เพื่อจะให้มาเชื่อมกับบทความในวัน วั นี้ที่ เราจะมาคุยกันเรื่อง Passion กันอีกครั้งซึ่งมันจะไปสัมพันธ์กับ เรื่องเป้า ป้ หมายโดยหยิบมาจากหนังสือของ อ.นภดลฯ พูดถึงเรื่อง การค้นหาสิ่งที่เรารักว่ามีวิธีการอย่างไร และเมืองเจอแล้วควร ต้องทำ อย่างไรต่อไป เขาให้เรา Focus ครับ


28-เมษายน-2565 27 Passion 1.ค้นหาตัวเองในช่วงแรก โดยลงทำ หลายๆอย่าง 2.เมื่อพบสิ่งที่เรารักหรือชอบแล้ว 3.Focus และทำ สิ่งนั้นให้ดีจนถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญ ถ้าครบ 3 ข้อสำ เร็จแน่นอน yes yes yes เห็นมั้ยไม่ว่า ว่ กี่สำ นึกก็จะต้องมีเรื่องเกี่ยวกับ passion บ้าง focus บ้าง มันสำ คัญจริงๆ กับการใช้ชีวิต วิ ในการทำ งานเพื่อที่จะ ประสบความสำ เร็จในวันหน้า เพียงแต่ก่อนที่เราจะ focus จำ เป็นที่ เราต้องเรียกรู้ให้หลากหลายก่อน หมายความว่า ว่ ในช่วงต้นๆของ ชีวิต วิ ควรที่จะลองทำ หลายๆอย่างดูก่อน เพราะถ้าไม่ลองเราก็จะไม่รู้ เลยว่า ว่ ในช่วงต้นๆของชีวิต ควรที่จะลองทำ หลายๆอย่างดูก่อน เพราะถ้าไม่ลองเราก็จะไม่รู้เลยว่าอะไรกันแน่ที่เราชอบหรือทำ ได้ดี (เหมือนบทความที่พี่เคยบอกมั้ยเรื่องต่อจุดของ Steve Jobs) เมื่อ เราพยายานทดลองทำ อะไรหลายๆอย่างในช่วงแรกๆแล้วค้นหาสิ่งที่ เรารักเจอ ก็ทำ สิ่งนี้ให้ดีโดยการ Focus กับสิ่งนั้นทำ อยู่บ่อยๆ จน เกิดทักษะ ความเชี่ยวชาฐก็จะเกิดขึ้นกับเราทันที โอกาศที่จะประสบ ความสำ เร็จก็จะสูงตาม ทวนนะ


2-พฤษภาคม-2565 28 4 สิ่งสิ่ต้องทำ เพื่อ พื่ บรรลุเ ลุ ป้า ป้ หมาย 1. เมื่อตั้งเป้า ป้ หมายแล้วต้องยึดไว้ เป็นกรอบ วิสั วิ สั ยทัศน์ / ท้าทาย / เป้า ป้ นี้ต้องสร้างแรงบันดาลใจด้วย /วางแผนแต่ละขั้นอย่างไรโดย สอดคล้องกับเป้า ป้ หมาย อันนี้เพิ่มของพี่ให้ใช้กฎ smart มาช่วยด้วย ถ้าใครอยากรู้พิมพ์ถามมา เด๋วมาขยี้ให้ต่ออีกวัน วั ถ้าไม่ถามถือว่ารู้ แล้ว 2. อย่าไปโฟกัสที่ตัวเป้า ป้ หมาย/ผลลัพธ์ มุ่งเน้นพฤติกรรมมากกว่า ผลลัพธ์ /คือกระบวนการไง ที่พี่เคยพูดไว้ว่า ว่ ไม่ต้องสนใจ resault ให้สนใจ process 3. ให้หลงรักในพฤติกรรม/ระบบที่เราทำ /สร้าง/กระบวนการ อดทนมากกว่า ว่ คนอื่น ไม่ท้อก่อน 4. ให้คิดถึง วัน วั นี้ พรุ่งนี้ไปเรื่อย ๆ / ถามตัวเองว่า ว่ วัน วั นี้คุณต้องทำ อะไรบ้างที่เข้าใกล้เป้า ป้ หมายบ้าง / พรุ่งนี้คุณจะทำ อะไรได้บ้างที่จะพา เข้าใกล้เป้า ป้ หมายได้บ้าง / สิ่งที่ทำ ในสัปดาห์นี้คุณทำ อะไรให้เข้าใกล้ เป้า ป้ หมายได้มากขึ้น / ถ้าตรงไหนยังห่างก็ค่อย ๆ ปรับแก้ ลองเอาไปใช้กันดูนะ สิ่งเรานี้มันจำ เป็นต้องอยู่กับเรา หากเราปราถ นาความสำ เร็จ ประมาณนี้นะ


3-พฤษภาคม-2565 29 ความสุข สุ ในการทำ งาน ความสุขในการทำ งานนั้นเป็นสิ่งสำ คัญสำ หรับการทำ งาน ในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะทำ ให้เรามีความสุขและรู้สึกอยาก ทำ งานแล้ว ยังทำ ให้งานที่ออกมานั้นมีคุณภาพอีกด้วย วัน วั นี้เรามาดู วิธี วิ ธี การมองหาความสุขในการทำ งาน ของอาจารย์เกด คือ 1. มองหาความสุขจากสิ่งธรรมดารอบตัว เราสามารถสัมผัสความ สุขได้จากสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่า ว่ จะเป็น ป็ การได้เห็นธรรมชาติ การ ได้พูดคุยกับเพื่อนฝูง ฝู สิ่งเหล่านี้ก็สามารถเป็น ป็ ความสุขของเราได้ใน แต่ละวัน วั เพียงแค่เราลองปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสิ่งต่างๆ เราก็จะ พบกับความสุขเอง 2. เห็นคุณค่าในงานที่ทำ บางครั้งสิ่งที่เราทำ อาจมีคุณค่าและเป็น ประโยชน์ต่อผู้อื่น หากเราสามารถรับรู้ได้ว่า ว่ ผู้อื่นได้รับประโยชน์ อย่างไรบ้างจากสิ่งที่เราทำ เราก็จะสามารถมีความสุขในการทำ งาน ได้ แม้เราจะไม่ชอบในงานที่ทำ ก็ตาม สรุป Mind set เป็น ป็ เรื่องสำ คัญในการปรับมุมมอง พี่ว่า ว่ เรื่อง Mind set มันเอามาใช้ได้เกือบทุกเรื่อง ลองดูวิธี วิ ธี นี้กันดูครับจะได้ไม่เครียด เกินไป


4-พฤษภาคม-2565 30 8 วิธีวิห ธี า passion 1. ทำ ตัวมนุษย์ต่างดาว เข้ามาสิงในร่างเรา โดยไม่รู้อะไรเลย เพราะ เราถูกสิง เริ่มจากศูนย์ ไม่สนใจคนอื่น ทำ ให้ดึงความฝันออกมาได้ ไม่ ต้องกลัวโน่นกลัวนี่ 2. ให้เริ่มต้นเลย ทำ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ ไปเรียนรู้เลย ทั้งที่ลังเล ให้ทำ ไปเลย ทำ แล้วถามตัวเองว่า ว่ ทำ แล้วชอบมั้ยล่ะ ถามตัวเองดู 3. เมื่อทำ แล้ว ก็ทำ เต็มที่ ใส่เต็ม ทำ ทุกวัน วั เด๋วรู้เองว่า ว่ ดีมั้ย ถ้าใส่ เต็มแล้วผลลัพธ์ไม่ดี ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะได้ทำ มันแล้ว ได้เรียนรู้แล้ว พัฒนาตนเอง 4. เรียนรู้จากคนที่เขาทำ แล้ว มันจะเป็น ป็ ทางลัด ไม่ต้องไปเรียนรู้เอง เพราะอาจผิดวิธีแล้วรีบเลิกไปก่อนก็ได้ ไปถามคนที่เชี่ยวชาญด้านนี้ ศึกษาว่าเขาทำ อย่างไร ถ้าทำ ไปแล้วไม่ใช่ เลิกก็ไม่เสียเวลา 5. ต้องอดทนให้พอ อย่ารีบเลิกก่อนทั้งที่ยังไม่ใช้ความพยายามมาก พอ อยู่กับมันให้นานพอ ปรับปรุงไปเรื่อย ๆ วัน วั หนึ่งมันจะพาไปสู่สิ่ง นั้น ทำ อย่างต่อเนื่อง 6. ฟังหัวใจตัวเอง ว่า ว่ เราชอบอะไร 7. เลิกมีข้ออ้าง ถามหาโอกาส 8. รักตัวเองให้มาก ๆ เหมือนมีเราอยู่คนเดียว เพราะอาจได้ยิน ความต้องการของตัวเองมากขึ้น สรุปอย่าไปกำ หนด passion ก่อน อาจหาไม่เจอได้ ควรทำ ไปเรื่อย ๆ ก่อนจนเก่ง แล้วเราจะค่อย ๆ ชอบมันไปเอง ต้องทุ่มเท สรรพกำ ลังทำ ไปก่อน จนเก่ง แล้วมันถึงจะชอบ หลงใหล ทำ ทีไรก็สนุก รู้เรื่อง อยู่ที่เราจะเลือกเรียนแบบไหน มันเกิดจากการบ่มเพาะ ทำ แล้ว ดีขึ้นเรื่อย ๆ


5-พฤษภาคม-2565 31 สิ่งสิ่ที่ทำ ในวัน วั นี้ เพื่อ พื่ วัน วั พรุ่ง รุ่ นี้ เป็น ป็ บทความของ อ.เกตุฯที่เขียนถึง ณ ปัจจุบัน เป็น ป็ ช่วง เวลาเดียวที่เราสามารถทำ อะไรก็ได้ตามใจ หรือจัดการสิ่งต่างๆ ให้เป็น ป็ ไปแบบที่เราคิดได้ เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ผ่านมาแล้วใน อดีตได้ หรือไม่ก็เราไม่สามารถเร่งเวลาไปดูอนาคตของเราได้ว่า ว่ ตัวเราจะเป็น ป็ อย่างไรทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกกำ หนดขึ้นมาจาก ปัจจุบันตอนนี้ หรือเดี๋ยวนี้แทบจะทั้งนั้นฉะนั้น เราจะทำ อย่างไร กับเวลา ณ ปัจจุบัน เพื่อที่เราจะได้ออกแบบอนาคตในแบบที่เรา วาดหวัง วัไว้ เพราะไม่มีใครรักษาช่วงเวลาในปัจจุบันได้ดีที่สุดเท่า ตัวเราอีกแล้ว !! !! เริ่มลงมือทำ อะไรบางอย่างที่เราต้องการ now now now !! !!


9-พฤษภาคม-2565 32 “ สิ่งสิ่ใดเกิดขึ้น ขึ้ สิ่งสิ่นั้น นั้ ดีเสมอ “ คำ พูดใดที่ดูถูกดูแคลน อย่าเครียด อย่าท้อ ให้คิดว่า ว่ เป็น ป็ แรงผลักดันให้ต่อสู้ลบล้างคำ ดูถูก เพราะบางสิ่งที่เราคิดว่า ว่ เลว ร้ายในวัน วั นี้ บางทีสิ่งนั้นกำ ลังสร้างสรรค์อะไรบางอย่างให้เรา เติบโตต่อไปได้ คำ พูดใดที่อาจฝากรอยแผลทางใจ ฝากรอยทางของความ ทรงจำ อันหนาวเหน็บ ทว่า ว่ สิ่งนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็น ป็ สิ่งล้ำ ค่าเมื่อ เวลาผ่านไปก็ได้ บทเรียนจากการที่ได้มองคน ๆ หนึ่งผิดไปจากที่เราเชื่อว่า ว่ เด็กน้อยเด็กดีคนหนึ่งเมื่อเติบโตขึ้นจะเปลี่ยนไปเป็น ป็ อีกคนหนึ่ง ที่สวนทางและตรงข้ามกับความเชื่อเรา แต่ทว่า ว่ เราเชื่อมั่น ศรัทธาอย่างแรงกล้าว่า ว่ สุดท้ายแล้วสิ่งที่เรากำ ลังพบเจอย่อมนำ บทเรียนล้ำ ค่าสูงสุดมาให้เพื่อนำ พาเราไปสู่เส้นทางชีวิต วิ ที่งดงาม กว่า ว่ เคย แค่เราพูดกับตัวเองว่า ว่ “ สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นดีเสมอ “ เป็น ป็ วลีของ อ.พศินฯ ที่ใช้คำ มีความหมายมากจริง ๆ ทั้ง 3 วรรคข้างต้นเราจะเห็นได้ว่า ว่ ช่วงต้นจะเป็น ป็ เรื่องลบ แต่แค่เราเปลี่ยนมุมมองว่า ว่ ทุก ๆ ปัญหา ทุก ๆ ความโหดร้าย มัน ให้ประสบการณ์และทักษะในการแก้ไขปัญหาทำ ให้ความคิดเรา คมขึ้น ชัดขึ้นเสมอ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันจึงดีเสมอไง อย่า Drama นะขอร้อง 5555555


10-พฤษภาคม-2565 33 จิ๊กจิ๊ซอว์ ถอดบทความจากคลิปของ อ.ณรงค์วิท วิ ย์ฯ พูดถึงเรื่องจิ๊กซอว์ เวลาต่อจิ๊กซอว์แ ว์ ต่ละชิ้นเพื่อให้มันเป็น ป็ ภาพใหญ่ที่เราต้องการ เราต้องหยิบมันออกมาเพื่อดูว่า ว่ มันเป็น ป็ ชิ้นส่วนไหนของภาพ ใหญ่ เปรียบเทียบกับชีวิต วิ เราก็ไม่ต่างจากจิ๊กซอว์ เพราะทุกครั้งที่ หยิบมันออกมาแต่ละชิ้นมันมักจะมีปัญหา เพราะต้องหาว่า ว่ มันอยู่ ตรงไหน ถ้าหาเจอก็ต้องหยิบชิ้นต่อไปเพื่อหาต่อ ถ้าหาไม่เจอก็ต้อง วางมันไว้ก่ ว้ ก่ อนเพื่อไปประกอบส่วนอื่นก่อน เปรียบเหมือนกับเวลาเรา เจอปัญหาที่ยากหากยังแก้ไม่ได้ก็ต้องวางไว้ก่ ว้ ก่ อนค่อย ๆ หาวิธี วิ ธี จนพบ มุมมองจากเรื่องนี้คือ 1. ทดลอง คือนำ จิ๊กซอว์แ ว์ ต่ละชิ้นที่แยกส่วนไปวางอยู่ในตำ แหน่ง ของมัน หาไปเรื่อย ๆ 2. หาตำ แหน่งไม่เจอ วางมันไว้ก่ ว้ ก่ อน ไปทำ ปัญหาอื่นก่อน 3. ไม่สามารถวางจิ๊กซอว์ค ว์ รั้งเดียวทีเดียวได้เลย ดังนั้นทุกครั้งที่เจอปัญหา ให้คิดว่า ว่ มันก็คือจิ๊กซอว์ 1 ชิ้นที่เป็น ป็ องค์ ประกอบความสำ เร็จของภาพเราในอนาคต


11-พฤษภาคม-2565 33 งานยาก งานยากจะเป็น ป็ การพิสูจน์คน ยิ่งคนต้องการความท้าทายไต่เต้า ท้าทายความสามารถตัวเองให้มีตำ แหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้นยิ่งต้อง พิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงเห็น เพราะสิ่งแรกที่เขาจะนำ มา พิจารณาคือดูว่า ว่ คน ๆ นี้เคยผ่านงานยากมาระดับไหนบ้าง เพราะ ฉะนั้นอย่าหนีงานยาก เรามาดูมุมมองกันมี 5 วิธี วิ ธี ดังนี้ 1. เขาบอกว่า ว่ งานยากจะเป็น ป็ ตัวช่วยลดอีโก้ เพราะเมื่อคนที่รับงาน ยากมาแล้วเขาจะเตรียมใจว่า ว่ มีโอกาสล้มเหลวสูงกว่า ว่ ความสำ เร็จ จึง ทำ ให้เขายอมเปิดใจที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ จนลืมความล้มเหลวไป 2. งานยากเปรียบเสมือนเชือกที่ดึงศักยภาพตัวเราว่า ว่ มีแค่ไหนเช่น คะแนนเต็ม 10 คะแนน เราทำ ได้ 9 คะแนน แสดงว่า ว่ มีศักยภาพถึง 9 คะแนน 3. คนทำ งานยากนั้นอยู่ในสายตาหัวหน้าแน่ ๆ อย่างน้อยก็ได้ คะแนนจากหัวหน้าแน่ ๆ แล้ว 1 คะแนน มันคือเครดิต เพราะหัวหน้า ก็รู้อยู่แล้วว่า ว่ มันยาก 4. งานยากทำ ให้รู้ว่า ว่ เรายังอ่อนจุดไหน เพื่อนำ จุดนี้ไปพัฒนาต่อ 5. งานยากเปรียบเสมือนสเป็ค ป็ ล่วงหน้าของคนที่จะได้รับการ โปรโมตให้เลื่อนตำ แหน่ง คือต้องสร้างผลงานก่อนได้รับตำ แหน่ง เพื่อให้ผู้อื่นยอมรับในการได้รับการเลื่อนขั้น เห็นมั้ยครับ งานยากคือโอกาส ต้องรีบคว้า ว้ มันท้าทาย เพราะอยู่ ๆ หัวหน้าจะมอบหมายงานที่ยากให้กับคนที่ไม่มีฝีมื ฝี มื อ ไม่ใช่แน่นอน


12-พฤษภาคม-2565 ม ี นิทานอยเู่ร ื่องหน่ึ งอ่านจบแลว ้ ข ้ึ นอยกู่บัมุมมองเราวา่จะมองมุมไหน มาดูกัน ในหมู่บา ้ นเล ็ ก ๆ แห่งหน่ึ ง ม ี ชายแก่คนหน่ึ งซ่ึ งม ี ช ื่อวา่ ลุงโชค ลุงมีนาผืนเล็กเช่นเดียวกับคนอื่น และลูกชายอายุยี่สิบปี ช่วยลุงท านา มีวัวสองตัวในคอกหน้าบ้าน คืนหนึ่งลุงเผลอลืมปิ ดประตูคอกวัว ในตอนเช้าวันถัดมาก็มีม้าป่ าหลงฝูงพลัดเข้ามาในคอกวัว ลุงต ื่นมาพบจ ึ งปิดคอกไวแ ้ ลว ้ ย ึ ดมา ้ป่าน ้ นั ไวเ ้ป็ นเจา ้ ของ เพื่อนบ้านของลุงต่างตื่นเต้นและพูดกับลุงว่า “ลุงนี่โชคดีสมชื่อ อยู่ดี ๆ ได้ม้ามาฟรี” ลุงแกก็บ่นพึมพ าอย่างไม่สนใจใยดีกับค าพูดของชาวบ้านว่า “โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้” วันถัดมาปรากฏว่ามีชาวบ้านบางคนอิจฉาลุง จึงมาปล่อยม้าออกจากคอกของลุงไป เม ื่อต ื่นข ้ึ นมาก ็ปรากฏวา่ชาวบา ้ นต่างมามุงหนา ้ บา ้ นลุงแลว ้ ก ็ พูดวา่ “ลุงโชคนี่โชคร้ายจริงน่าสงสารจัง” ลุงก็บ่นแบบเดิมว่า “โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้” บ่ายวนัน ้ นั ปรากฏวา่มา ้ป่าตวัน ้ นักลบัมาพร ้ อมพาฝงูมา ้ป่ามาอ ี กหา ้ ตวัมาดว ้ ย เหล่าเพื่อนบ้านของลุงต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่และพูดกับลุงว่า


“ลุงน ี่โชคกลบัมาเขา ้ ขา ้ งแลว ้ ละคราวน ้ ีไดม ้ า ้ มาเพิ่มอ ี กต ้ งัหลายตวั” แกพึมพ าแบบเดิมว่า “โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้” เยน ็ วนัน ้ นัลูกชายลุงลองหดัข ี่มา ้ป่าดูบา ้ ง ปรากฏว่าม้าพยศจนลูกชายตกลงจากหลังม้า ท าให้หลังเคล็ด ต้องช่วยกันหามเข้ามานอนพัก ชาวบ้านก็พูดกันว่า “ลุงโชคร้ายอีกแล้ว คราวน ้ ี ลูกชายคงตอ ้ งนอนพกัอ ี กหลายวน ั ลุงคงต้องท านาด้วยตัวเองโดยขาดแรงงานลูกชายซะแล้ว” ลุงพูดแบเดิมว่า“โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ ” อีกสองวันมีกองทหารมาเกณฑ์เด็กหนุ่มในหมู่บ้านไปเป็ นทหารเพื่อท าสง


Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.