รายงานผลการดำเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทำ PA Flipbook PDF

รายงานผลการดำเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทำ PA

58 downloads 99 Views 5MB Size

Story Transcript

การอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2

รายงานผลการดาเนินงาน กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ตามโครงการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2

นาตยา พรหมพันธ์ นักทรัพยากรบุคคลชานาญการ

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2

คานา รายงานผลการดาเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ตามโครงการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงาน ของครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 เป็นการ สรุปและรายงานผลการดาเนินงานการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 และผู้สนใจ การดาเนินงานตามกิจกรรมดังกล่าว เป็นการดาเนินกิจกรรมที่กาหนดในโครงการตามแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดย ใช้งบประมาณในการดาเนินงาน จากงบดาเนินงานของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พัทลุง เขต 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตามมาตรฐานตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทาข้อตกลง ในการพัฒนางาน ด้วยการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ หวังเป็ น อย่ างยิ่ งว่า รายงานผลการดาเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทา ข้อตกลงในการพัฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ผ่ านระบบออนไลน์ ตามโครงการ พัฒ นาศักยภาพการปฏิบั ติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา ส านักงานเขตพื้นที่การศึก ษา ประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสมรรถนะและเสริมสร้างศักยภาพ การปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา ต่อไป นาตยา พรหมพันธ์ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา

สารบัญ หน้า คานา



สารบัญ



บทที่ 1 บทนา ความสาคัญและที่มาของปัญหา............................................................................... วัตถุประสงค์............................................................................................................ เป้าหมาย................................................................................................................. ตัวชี้วัดความสาเร็จของกิจกรรม.............................................................................. ผลที่คาดว่าจะได้รับ.................................................................................................

1 2 3 3 3

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547........ กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561 - 2580) ........................................ นโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี 2565 ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาครู .......................................................................... แนวทางการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาแนวใหม่.................................... สมรรถนะของครูผู้สอนในศตวรรษที่ 21................................................................. การบริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21................................................................. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง.................................................................................................

6 7 9 14 18

บทที่ 3 วิธีดาเนินการ ขั้นตอนดาเนินการ................................................................................................. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล.................................................................. การวิเคราะห์ข้อมูล.................................................................................................

20 22 22

บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์...............................

23

5 5

สารบัญ

สารบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการดาเนินการ............................................................................................ อภิปรายผล............................................................................................................ ข้อเสนอแนะ.......................................................................................................... ภาคผนวก โครงการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2............................... คาสั่งสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2.............................. ภาพถ่ายกิจกรรม..................................................................................................

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

29 31 32

34 44 46



บทที่ 1 บทนา ความสาคัญและที่มาของปัญหา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 31 กาหนดให้กระทรวงศึกษาธิการ ได้ส่งเสริม และกากับดูแลการจัดการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท กาหนดนโยบาย แผนและมาตรฐานการศึกษา รวมทั้งการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษา และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2553 มาตรา 79 บัญญัติให้ผู้บังคับบัญชา ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา และมีหน้าที่พัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี คุณธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพที่เหมาะสม ในอันที่จะทาให้การปฏิบัติหน้าที่ ราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความก้ าวหน้าแก่ทางราชการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่ ก.ค.ศ.กาหนด โดยกระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายในการปฏิรูประบบการพัฒนาครู เพื่อตอบสนอง การพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ที่กาหนดให้การวางแผนเป็นรากฐานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ของประเทศอย่างเป็นระบบ โดยจาเป็นต้องมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อ ต่อการพัฒนาและ เสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ สร้างความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทยซึ่งเป็นหน่วยที่ย่อยที่สุดเพื่อให้สามารถ เป็นพลังในการขับเคลื่อนช่วยเหลือสังคม พัฒนาและยกระดับคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้ เป็น ทรัพยากรมนุษย์ที่ดี เก่ง และมีคุณภาพพร้อม ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปข้างหน้าได้อย่างเต็ม ศักยภาพ ซึ่ง “คนไทยในอนาคตจะต้องมีความพร้อมทั้ง กาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้าน และมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคม และผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จาเป็นในโลกอนาคต สามารถใช้ภาษาไทยได้ดี มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 รวมทั้งอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัย รักการเรียนรู้ และการพัฒนาตนเองอย่ างต่อเนื่องตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มี ทักษะสู ง เป็นนักพั ฒนา เทคโนโลยีระดับสูงและนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอื่น ๆ โดยมีสัมมาชีพ ตามความถนัดของตนเอง” และ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น การพัฒนาการเรียนรู้ ได้กาหนดประเด็นยุทธศาสตร์ที่เน้นทั้งการแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน และการเสริมสร้างและยกระดับการ พัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ทั้งการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการเรียนรู้ตลอดชีวิ ต โดยการ พัฒ นาระบบการเรี ย นรู้ ที่ ต อบสนองต่ อ การเปลี่ ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 มีการออกแบบระบบ การเรียนรู้ใหม่ การเปลี่ยนบทบาทครู การเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษา และการพัฒนาระบบ

บทนา

การเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้สามารถกากับการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตนเองได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะออกจากระบบการศึกษาแล้ว ควบคู่กับการส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ รวมถึงการสร้างเสริมศักยภาพผู้มีความสามารถพิเศษให้สามารถต่อยอดการประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีแผนดาเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย โดยการขับเคลื่อน การพัฒนาการศึกษาให้ยั่งยืน พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ที่หลากหลาย รวมถึงแนวโน้มของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และสอดคล้องกับการพัฒนาของประเทศ จึงได้กาหนดจุดเน้น การพัฒนาครู เพื่อให้มีมาตรฐานวิชาชีพที่สูงขึ้น โดยการเสริมสร้างศักยภาพครู เพื่อพัฒนาให้มีความพร้อม ในการจัดการเรียนการสอน สอดรับกับทักษะที่จาเป็น ในศตวรรษที่ 21 เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ของชาติให้ มีประสิ ทธิภาพ มีการบริหารจัดการโดยพัฒนาระบบบริหารงานบุ คคลให้ เป็นไปตามหลั ก ธรรมาภิบาล การพัฒนาบุคลากรในสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านการวางกลยุทธ์ องค์กรมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงานและการสร้างสุ ขในองค์กร และการพัฒนาบุคลากรในสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษา ด้านความเชื่อมโยงจากนโยบายสู่การปฏิบัติ วัฒนธรรมการให้บริการ และการสร้างเครือข่าย การทางาน และให้มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ มาตรฐานตาแหน่ง และวิทยฐานะ พัฒนาข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา ให้มีความก้าวหน้าในอาชีพ มาตรฐานตาแหน่งและวิทยฐานะ เพื่อบรรลุพันธกิจ “พัฒนาผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นมืออาชีพ” ดังนั้น สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ซึง่ เป็นหน่วยงานทางการศึกษา ตามกฎกระทรวง และมีหน้าที่บริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ จึงมีบทบาทหน้าที่ในการพัฒนา บุคลากรของหน่วยงาน ให้เป็นบุคคลผู้มีความรู้ ความสามารถ มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิช าชีพ ปฏิบัติงาน ได้ตามระดับที่คาดหวัง สามารถปรับประยุกต์ แก้ไขปัญหา ริเริ่มพัฒนา คิดค้นและปรับเปลี่ยน หรือสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการบริหารจัดการศึกษา การบริหารสถานศึกษา การจัดการเรียนรู้ และ การนิเทศการศึกษา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นบุคลากรผู้สามารถพัฒนาคุณภาพผู้ เรียน และพัฒนา กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับการศึกษา รวมถึงจัดกิจกรรมเสริมทักษะ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน มีทักษะสาหรับศตวรรษที่ 21 และเพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีขวัญกาลังใจในการปฏิบัติงาน จึ งกาหนดดาเนิ น งานโครงการพัฒ นาศักยภาพการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ขึ้น

วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

2

บทนา

เป้าหมาย เชิงปริมาณ 1. ครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ร้อยละ 100 ได้รับการพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ 2. ครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ร้อยละ 80 มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) เชิงคุณภาพ 3. ครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 มีความรู้ ความเข้าใจ มีศักยภาพในการปฏิบัติงานตามตาแหน่งหน้าที่อย่างมืออาชีพ และมีความก้าวหน้า ในวิชาชีพ

ตัวชี้วัดความสาเร็จของกิจกรรม ผลผลิต (Outputs) พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจมีศักยภาพในการปฏิบัติงาน ตามมาตรฐานตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ ผลลัพธ์ (Outcome) 1. ร้ อ ยละ 100 ของครู แ ละบุ ค ลากรทางการศึ ก ษา ส านั ก งานเขตพื้ น ที่ ก ารศึ ก ษา ประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ได้รับการพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่งและ มาตรฐานวิทยฐานะ 2. ร้อยละ 80 ของครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษา พัทลุง เขต 2 มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA)

ผลที่คาดว่าจะได้รับ ครู แ ละบุ ค ลากรทางการศึ ก ษา ส านั ก งานเขตพื้ น ที่ ก ารศึ ก ษาประถมศึ ก ษาพั ท ลุ ง เขต 2 มีความรู้ความเข้าใจ มีศักยภาพในการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

3

บทนา

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

4

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการดาเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ตามโครงการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงาน ของครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ฉบับนี้ เสนอเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 2. กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561 - 2580) 3. นโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565 4. แนวทางการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาแนวใหม่ 5. สมรรถนะของครูผู้สอนในศตวรรษที่ 21 6. การบริ ห ารสถานศึ ก ษาในศตวรรษที่ 21 7. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 พระราชบั ญ ญั ติ ร ะเบี ย บข้ า ราชการครู แ ละบุ ค ลากรทางการศึ ก ษา พ.ศ. 2547 หมวด 5 การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ มาตรา 79 ให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติตนเป็นตัวอย่าง ที่ดีแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาและมีหน้าที่พัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วิชาชีพที่เหมาะสมในอันที่จะทาให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิด ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความก้าวหน้าแก่ราชการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด และ มาตรา 80 ให้มีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้ง ให้ดารง ตาแหน่งบางวิทยฐานะ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วิชาชีพที่เหมาะสมในอันที่จะทาให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความ เจริญก้าวหน้าแก่ราชการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด

กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) คณะกรรมการจั ดทายุ ทธศาสตร์ชาติ ได้ ด าเนิ นการยกร่างกรอบยุ ทธศาสตร์ ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะ 20 ปี โดยกาหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และยุทธศาสตร์ ดังนี้

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) มี 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ความมั่นคง ยุทธศาสตร์ที่ 1.2 การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและการวิจัยและพัฒนา ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ยุทธศาสตร์ที่ 3.1 การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม ยุทธศาสตร์ที่ 3.2 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ยุทธศาสตร์ที่ 3.3 ปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงใน ศตวรรษที่ 21 ยุทธศาสตร์ที่ 3.4 การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ยุทธศาสตร์ที่ 4.1 การลดความเหลื่อมล้า สร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ ยุทธศาสตร์ที่ 6 การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ยุทธศาสตร์ที่ 6.1 ภาครัฐที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตอบสนองความต้องการ และ ให้บริการอย่างสะดวกรวดเร็ว โปร่งใส ยุทธศาสตร์ที่ 6.2 ภาครัฐบริหารงานแบบบูรณาการโดยมียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมาย และเชื่อมโยงการพัฒนาในทุกระดับ ทุก ประเด็น ทุกภารกิจ และทุกพื้นที่ ยุทธศาสตร์ที่ 6.6 ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ

นโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี 2565 ที่เกีย่ วข้องกับการพัฒนาครู ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) และแผนปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา กาหนดให้มีการพัฒนาเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัย ให้มีสมรรถนะและคุณลักษณะที่ดี สมวัยทุกด้าน โดย การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ตระหนักถึงพหุปัญญา ของมนุษย์ที่หลากหลาย มีเป้าหมายให้ผู้เรียนทุกกลุ่มวัยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน มีทักษะที่จาเป็นของโลกอนาคต สามารถแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทางานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี ประสิทธิผล มีวินัย มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต รวมทั้งเป็นพลเมืองที่ รู้สิทธิและหน้าที่ มีความรับผิดชอบ และมีจิตสาธารณะ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เป็น "การศึกษาขั้นพื้นฐานวิถีใหม่ วิถีคุณภาพ" มุ่งเน้นความปลอดภัยในสถานศึกษา ส่งเสริมโอกาสทางการ ศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม และบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกาหนดนโยบาย กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

6

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565 จานวน 4 ด้าน คือ ด้านความปลอดภัย ด้านโอกาส ด้านคุณภาพ และด้านประสิทธิภาพ ด้านที่ เกี่ยวข้องกับการ พัฒนาครู เป็นด้านคุณภาพ คือ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นครูยุคใหม่ มีศักยภาพใน การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะ มีทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ได้ดี มีความรู้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มีการพัฒนาตนเองทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีจิต วิญญาณความเป็นครู

แนวทางการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาแนวใหม่ วีระชัย จีวะชาติ กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา กาหนดยุทธศาสตร์ การพัฒนาครูแนวใหม่ ดังนี้ 1. หลักการการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 1.1 การพัฒนาต้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัวผู้เรียน 1.2 การพัฒนาต้องเกิดจากความต้องการของครูและบุคลากรทางการศึกษา 1.3 การพัฒนาต้องมุ่งเน้นลักษณะ Site Based Development หรือ School Based Development (SBD) 1.4 การพัฒนาต้องมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล 1.5 การพัฒนาต้องสอดคล้องกับภารกิจและหน้าที่ที่ปฏิบัติของครูและบุคลากรทางการศึกษา 1.6 การพัฒนาต้องดาเนินการในรูปของเครือข่ายกระจายทั่วประเทศ 1.7 การพัฒนาต้องสอดคล้องกับนโยบายและข้อกาหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 1.8 การพัฒนาต้องกระทาอย่างทั่วถึงและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอก กระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้ข้อจากัดด้านงบประมาณ 2. กลุ่มเป้าหมาย ครู และบุคลากรทางการศึกษาของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ประมาณ 640,000 คน ได้แก่ 2.1 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย 2.1.1 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1) สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 2) สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 3) สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 4) หน่วยงานในกากับของกระทรวงศึกษาธิการ 2.2 หน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย 2.2.1 สานักงานการศึกษากรุงเทพมหานคร กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

7

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

2.2.2 สานักงานการศึกษาเมืองพัทยา 2.2.3 สานักงานการศึกษาส่วนท้องถิ่น 2.3 หน่วยงานในกากับกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย 2.3.1 คุรุสภา 2.3.2 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 3. รูปแบบและวิธีการพัฒนา 3.1 การพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา มุ่งเน้นให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานตาแหน่ง และมาตรฐานวิ ชาชี พทั้ งสมรรถนะหลั ก (Core Competency) สมรรถนะการปฏิ บั ติ งาน ในหน้ าที่ (Functional Competency) และสมรรถนะเฉพาะตามกลุ่มสาระ (Specificational Competency) ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด 3.2 รูปแบบของการพัฒนามุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ สคบศ. กาหนด ให้กระจายอยู่ทั้งประเทศ เพื่อความสะดวกในการเข้ารับการพัฒนาของครู และบุคลากรทางการศึกษา ทั้งที่เป็นองค์กรเครือข่าย บุคคลเครือข่ายและเครือข่ายทางไกล 3.3 วิธีการพัฒนาต้องมีความหลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการพัฒนาของครู และ บุคลากรทางการศึกษา แต่มุ่งเน้นวิธีการพัฒนาที่ใช้โรงเรียน/หน่วยงานเป็นฐาน (School Based Development/Insite Based Development) เป็นสาคัญ 4. การประเมินการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 4.1 การประเมิ น ก่ อ นการพั ฒ นา มี จุ ด ประสงค์ เ พื่ อ ให้ ค รู แ ละบุ ค ลากรทางการศึ ก ษา ทราบความต้องการและความจาเป็นของตนที่จะต้องเข้ารับการพัฒนาแล้วจัดทาแผนพัฒนาตนเอง (Individual Development Plan : ID-Plan) โดยใช้ข้อกาหนดสมรรถนะ (Competency) ของครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่ ก.ค.ศ. กาหนดเป็น เป้าหมายในการประเมิน สาหรับกระบวนการและ ขั้นตอนการประเมินให้ดาเนินการ ดังนี้

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

8

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ผังมโนทัศน์การประเมินเพื่อการพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา 4.1 การประเมินหลังการพัฒนา มีจุดประสงค์เพื่อติดตามผลการนาความรู้ และประสบการณ์ ที่ได้รับจากการพัฒนาของครูและบุคลากรทางการศึกษา ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอน หรือในภารกิจที่ตนเองรับผิดชอบ ดังนั้น การประเมินในกรณีนี้ จึงมี 2 ลักษณะ คือ การประเมินภายในและ การประเมินภายนอก 4.1.1 การประเมินภายใน มีจุดประสงค์เพื่อติดตามดูร่อ งรอย ขั้นตอนและพฤติกรรม การสอนหรือการทางานของครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หรือประสิทธิผลของงานที่เกิดขึ้น โดยผู้บริหารสถานศึกษา/หน่วยงาน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด และ สคบศ. 4.1.2 การประเมิ น ภายนอกมี จุ ด ประสงค์ เ พื่ อ ติ ด ตามคุ ณ ภาพและประสิ ท ธิ ภ าพ ของสถานศึกษา/หน่วยงานทางการศึกษาในภาพรวม โดยหน่วยงานต้นสังกัดและองค์กรภายนอก เช่น สมศ.

สมรรถนะของครูผู้สอนในศตวรรษที่ 21 1. สมรรถนะของครูผู้สอนในศตวรรษที่ 21 ที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนด 1.1 สมรรถนะหลัก (Core Competency) 5 ประการ ได้แก่ 1.1.1 การบริการที่ดี 1.1.2 การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงาน 1.1.3 การพัฒนาตนเอง 1.1.4 การทางานเป็นทีม 1.1.5 จริยธรรมและจรรยาบรรณครู 1.2 สมรรถนะตามสายปฏิบัติงาน (Functional Competency) 6 ประการ ได้แก่ 1.2.1 การพัฒนาผู้เรียน 1.2.2 การบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ 1.2.3 การบริหารจัดการชั้นเรียน 1.2.4 การวิเคราะห์ สังเคราะห์และวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน 1.2.5 ภาวะผู้นา 1.2.6 การสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือกับชุมชน 2. ทักษะ C-Teacher ส าหรั บ ยุ ค แห่ ง เทคโนโลยี แ ละการสื่ อ สารที่ เ ต็ ม ไปด้ ว ยข้ อ มู ล สารสนเทศหลากหลาย ครูผู้สอน จึงจาเป็นต้องมีทักษะสาคัญสาหรับยุคนี้ที่เรียกว่า C-Teacher (ถนอมพร เลาหจรัสแสง) ซึ่งได้แก่ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

9

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

Content : ผู้ ส อนต้ อ งมี ค วามรู้ แ ละทั ก ษะในเรื่ อ งที่ ส อนเป็ น อย่ า งดี เพราะหากผู้ ส อน ไม่เชี่ยวชาญในเรื่องที่สอนหรือถ่ายทอด ก็ไม่สามารถทาให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้บรรลุเป้าหมาย Computer (ICT) Integration : ผู้ ส อนต้ อ งมี ทั ก ษะในการใช้ เ ทคโนโลยี ม าช่ ว ยในการ จัดการเรียนการสอน เนื่องจากกิจกรรมการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยีจะช่วยกระตุ้นความสนใจ ให้แก่ผู้เรียน ยิ่งถ้าได้ผ่านการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างมีประสิ ทธิภาพจะยิ่งช่ว ย ส่งเสริมทักษะที่ต้องการได้เป็นอย่างดี Constructionist : ผู้สอนต้องเข้าใจแนวคิดที่ว่า ผู้ เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ขึ้นได้เอง จากการเชื่อมโยงความรู้เดิมที่มีอยู่เข้ากับความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ได้รับ และได้จากการ ลงมือปฏิบั ติในกิจ กรรมต่ าง ๆ โดยครูส ามารถนาแนวคิ ดนี้ ไปใช้ ในการวางแผนการจั ด กิจ กรรม การเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนได้มีโอกาสสร้างความรู้และสร้างสรรค์ชิ้นงานต่าง ๆ ผ่านการประยุกต์ความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับจากในชั้นเรียนและจากการศึกษาด้วยตนเอง Connectivity : ผู้สอนต้องสามารถจัดกิจกรรมให้เชื่อมโยงระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ระหว่าง ผู้เรียนกับผู้สอนและระหว่างผู้สอนในสถานศึกษาเดี ยวกันหรือต่างสถานศึกษา รวมถึงความเชื่อมโยง ระหว่ า งสถานศึ ก ษาและสถานศึ ก ษากั บ ชุ ม ชนเพื่ อ สร้ า งสภาพแวดล้ อ มในการเรี ย นรู้ ที่ เ ป็ น ประสบการณ์ตรงให้แก่ผู้เรียน Collaboration : ผู้สอนมีบทบาทสาคัญในการจัดการเรียนรู้ในลั กษณะการเรียนรู้ แบบ ร่ ว มมือระหว่างผู้ เรี ย นกับ ผู้ เรี ย น และระหว่างผู้ เรียนกับผู้ ส อน เพื่อฝึ กทักษะการทางานเป็ น ที ม การเรียนรู้ด้วยตนเอง การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสารสนเทศระหว่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อการ พัฒนาผู้เรียนในด้านทักษะอาชีพและทักษะชีวิต Communication : ผู้สอนมีทักษะการสื่อสาร ทั้งการบรรยาย การยกตัวอย่างการเลือกใช้สื่อ การนาเสนอสื่อ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้เรียนได้ อย่างเหมาะสมนาไปสู่ความเข้าใจและสามารถเรียนรู้ได้บรรลุเป้าหมายที่กาหนดไว้ Creativity : ผู้สอนในศตวรรษที่ 21 จาเป็นต้องสร้างสรรค์กิ จกรรรมการเรียนการสอน ที่หลากหลาย แปลกใหม่จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยเน้นการเรียนรู้ด้วย ตนเองให้มากที่สุด ผู้สอนต้องเป็นมากกว่าผู้ถ่ายทอดความรู้โดยตรงเพียงอย่างเดียว Caring : ผู้สอนต้องมีมุทิตาจิตต่อผู้เรียน ต้องแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใยอย่างจริงใจ ต่อผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเชื่อใจส่งผลต่อการจัดสภาพการเรียนรู้ทาให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งเป็น สภาพที่ผู้เรียนจะมีความสุขในการเรียนรู้และจะเรียนรู้ได้ดีที่สุด

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

10

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ภาพทักษะครูในศตวรรษที่ 21 3. ครูมืออาชีพ ครูมืออาชีพ ตามความหมายของกรมวิชาการ ได้ให้ความหมายไว้ว่า คือครูที่มีความพร้อม ในทุ ก ๆ ด้ า นที่ จ ะเป็ น ครู คื อ มี ค วามรู้ ค วามสามารถ มี ทั ก ษะในการให้ ก ารศึ ก ษาอบรมศิ ษ ย์ ในทุก ๆ ด้าน มีความประพฤติดี วางตัวดี เอาใจใส่ดูแลศิษย์ดี มีวิญญาณของความเป็นครู และปฏิบัติ หน้าที่ด้วยจิตวิญญาณ ซึ่งจากความหมายนี้ เราจะเห็นได้ว่า ระดับของครูมืออาชีพนั้น แตกต่างจากระดับคนที่ ประกอบอาชีพครูอยู่พอสมควร ครูทุกคนถึงแม้จะมีความรู้ทางวิชาชีพทัดเทียมกัน เพราะส่วนใหญ่ต่างจบจาก สถาบันผลิตครูเหมือนๆกัน หรือจะแตกต่างกันบ้างก็ตรงชื่อของมหาวิทยาลัยที่เรียนจบ แต่เมื่อผ่านการ คัดเลือกเข้ามาบรรจุครูในสถานศึกษาของรัฐหรือได้ทางานในสถานศึกษาของเอกชน ครูทุกคนก็มีจุดเริ่มต้น ในการทางานที่แทบจะไม่ต่างกัน แต่อะไรเล่า? ที่เป็นตัววัดว่า ใครคือผู้ประกอบอาชีพครูธรรมดา ๆ และใคร ควรจะถูกเรียกว่าเป็นครูมืออาชีพสิ่งที่ทาให้ครูมืออาชีพ แตกต่างจากผู้ประกอบอาชีพครูโดยทั่วไปนั้น คือการสามารถปฏิบัติตนให้ดารงไว้ซึ่งปัจจัยที่ส่งเสริมความเป็นครูที่ดี 4 ประการ ซึ่งปรากฏในหนังสือ คู่มือเส้นทางครูมืออาชีพสาหรับครูผู้ช่วย ของสานักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติกรสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานอันได้แก่ (https://www.trueplookpanya.com/blog/content/68689/-blog-teaartedu-teaart-teaarttea-) 3.1 อุดมการณ์ของครู ส าหรั บ ครู มื อ อาชี พ จะเน้ น ในเรื่ อ งในของการด ารงไว้ ซึ่ง อุ ด มการณ์ ค วามเป็นครู มากกว่าจะคานึงถึงอามิสสินจ้าง โดยพร้อมแสดงความเมตตากรุณาต่อศิษย์ เสียสละและมุงมั่นในการ ทางานเพื่อเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนอย่างเต็มศักยภาพตามความสามารถที่ตัวเองพึงกระทาได้ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

11

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

3.2 คุณลักษณะของการเป็นครูที่ดี ครูมืออาชีพส่วนใหญ่จะมีลักษณะของการเป็นครูที่ดี ซึ่งการเป็นครูที่ดีนั้น ถ้ามองตามเกณฑ์ มาตรฐานวิชาชีพแล้วจะสามารถสรุปได้คร่าวดังนี้ คือ 3.2.1 ต้องเป็นผู้รอบรู้ในเรื่องของนโยบายการศึกษา เข้าใจในหลักสูตรและเนื้อหา วิชาที่สอน มีทักษะในการสอน วัดและประเมินผลผู้เรียนได้อย่างถูกต้อง 3.2.2 ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างสม่าเสมอ สามารถจับประเด็นและวิเคราะห์ ปัญหาต่าง ๆ ได้ 3.2.3 สามารถสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนการสอน ทั้งในเรื่องของการดูแลผู้เรียน การจัดการสื่อการเรียนการสอน และการช่วยเหลืองานสนับสนุนการจัดการในโรงเรียนต่าง ๆ เช่น งานพัสดุ หรืองานธุรการ เป็นต้น 3.2.4 มีคุณธรรมจริยธรรมตามหลักของจรรยาบรรณวิชาชีพ 3.2.5 รู้จักพัฒนาตนเองและส่งเสริมชุมชนอยู่เสมอ ซึ่งจากคุณลั กษณะการเป็ นครู ที่ดี โดยสั งเคราะห์ จากเกณฑ์ มาตรฐานวิชาชี พ จะเห็ นว่ า ครูมืออาชีพนั้นจะต้องเป็นปฏิบัติดีทั้งต่อตัวเอง ผู้เรียน โรงเรียน รวมไปถึงชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงด้วย 3.3 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบันนี้ อาชีพครูกลายเป็นอาชีพหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงในเรื่องของหนี้สินซึ่งเป็น เรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าครูจะไม่ใช่อาชีพที่ทารายได้ในระดับที่สูงมากนัก แต่รายได้ของครู ก็เพียงพอต่อการใช้สอย ถ้ามีความพอเพียงและสามารถบริหารจัดการได้ดี การมีหนีส้ ินถ้าอยู่ในระดับ ที่ดูแลจัดการได้นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่ส่วนใหญ่ที่พบมักเป็นลักษณะของการมีหนี้สิน ติดพันรุงรังจนกระทบต่อการทางาน ทาให้ครูไม่อาจทางานได้เต็มที่ กังวลกับเรื่องหนี้สินตลอดเวลา ซึ่งสาหรับครูมืออาชีพนั้น จะเป็นผู้ที่หยิบยกแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้ในการดาเนินชีวิตคือ พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน ที่ดีในตัวเอง ทาให้สามารถใช้ชีวิตในวิชาชีพครูได้เป็นแบบอย่างที่ดีและมีความสุข 3.4 คุณธรรมที่ใช้ในการปฏิบัติงาน การเป็ น ครู มืออาชีพ จะต้องยึดถือคุณธรรมในการทางาน ซึ่งคุณธรรมในการประกอบ วิชาชีพครูนั้น ตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพ จะประกอบด้วย (1) ความมีเมตตากรุณาต่อศิษย์ (2) มี ความยุติธรรม (3) มีความรับผิดชอบ (4) มีวินัย (5) ขยันขันแข็ง (6) อดทน (7) ประหยัด (8) รักและ ศรัทธา ในวิชาชีพครู (9) มีความเป็นประชาธิปไตยในการปฏิบัติงานและการดารงชีวิต สาหรับการแนวทางในการฝึ กฝน เพื่อก้าวสู่ การเป็นครูมืออาชีพนั้น จากบทความเรื่ อง คมคิด 12 ประการ สู่ความเป็นครู สควค. มืออาชีพ ของนายเดชา การรัมย์ ผู้อานวยการ โรงเรียน บ้านม่วงหนองตาด จังหวัดสุรินทร์ (ตาแหน่ง ณ ขณะนั้น) ได้เขียนไว้ในวารสาร สควค. ปีที่ 2 ฉบับที่ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

12

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

7 เมษายน - มิถุนายน 2551 นั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์และสามารถนามาเป็นแนวทางในการ ฝึกฝนและพัฒนาตนเองเพื่อก้ าวสู่ความเป็นครูมืออาชีพได้ จึงนามาเรียบเรียงใหม่ให้เหมาะสมตาม ความคิดเห็นของข้าพเจ้า ซึ่งสามารถสรุปได้เป็นแนวทาง ดังนี้ 3.4.1 ผู้สอนควรปฏิบัติตนให้มีความเหมาะสมตามหลักจรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อให้ เป็นที่ยอมรับของของบุคคลทั่วไป 3.4.2 ควรศึ ก ษาแนวทางการจั ด การศึ ก ษาของชาติ ตามนโยบายต่ า ง ๆ ของ กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม 3.4.3 ต้ อ งศึ ก ษากฎหมายและหลั ก สู ต รที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การจั ด การศึ ก ษา เพื่ อ ให้ สามารถออกแบบกระบวนการเรียนรู้อย่างเหมาะสม 3.4.4 ต้องทาความรู้จั กผู้เรียน เพื่อให้ทราบถึงอุปนิสัยใจคอ จุดเด่น และจุดที่ต้อง พัฒนาผู้เรียน สามารถ วิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลได้ ซึ่งข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ 3.4.5 จั ดทาแผนการจั ดการเรีย นรู้ ที่เน้ นผู้ เ รียนเป็น ส าคัญ เน้นทักษะการปฏิ บั ติ เพื่อส่งเสริม ให้เด็กเกิดความเข้าใจและสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยครูทาหน้าที่เป็นผู้แนะแนวทาง และให้คาปรึกษามากกว่าเป็นผู้ชี้นาในการเรียนการสอน 3.4.6 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีการบูรณาการแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในส่วนของ เนื้อหาที่สัมพันธ์กัน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีความคิดเชื่อมโยงและสามารถนาความรู้ไปใช้ได้ในชีวิตจริง 3.4.7 เลือกใช้วิธีการวัดผลการเรียนรู้อย่างหลากหลายตามสภาพที่เหมาะสมของ ผู้เรียน เพื่อให้ทราบถึงผลลัพธ์ที่ถูกต้องและแม่นยา 3.4.8 จัดกิจกรรมหรือโครงการที่เน้นให้ผู้เรียนให้เกิดความรู้ ทักษะ หรือคุณลักษณะ ที่พึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางและหลักสูตรสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง 3.4.9 ควรมีการอบรมพัฒ นาผู้ เรียนอย่างต่อเนื่อง และใช้การวิจัยในชั้นเรียนเป็น เครื่องมือในการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของผู้เรียน 3.4.10 หมั่น ศึกษาและพัฒ นาตนเองอยู่เสมอ ควรร่ว มกิจกรรมการฝึกอบรมหรือ กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนครูทั้งในและนอกโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง 3.4.11 ฝึกฝนทักษะในการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ 3.4.12 พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีกับบุคคลอื่น สามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้ จากแนวทางในการฝึกฝนเพื่อก้าวสู่การเป็นครูมืออาชีพนี้ จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยที่ จะสามารถดาเนินการให้ถึงเป้าหมายได้ในเร็ววัน ครูผู้สอนทุกคนจาเป็นต้องฝึกฝนและพัฒนาตัวเองใน ด้ า นต่ า ง ๆ อยู่ ต ลอดเวลาและสม่ าเสมอ เพื่ อ ให้ ส ามารถเติ บ โตไปที่ ล ะขั้ น ซึ่ ง ต้ อ งใช้ เ วลาและ ประสบการณ์พอสมควร แต่อย่ างไรก็ดี การเริ่มต้นนับหนึ่ง ก็นับว่าเป็นก้าวแรกที่ส าคัญ อันจะแสดง ให้เห็นว่า เราพร้อมที่จะก้าวขึ้นไปเป็นครูมืออาชีพแล้ว และถึงแม้ว่าหนทางจะอีกยาวไกลและเต็มไปด้วย กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

13

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

อุป สรรคจากทั้งภายในและภายนอกมากมาย แต่ผ มก็ห วังว่าครูทุกท่านจะมุ่งมั่นกับการเดินตาม เป้าหมายในการเป็นครูมืออาชีพนี้ เพื่อประโยชน์ของตัวเองและของผู้เรียนในภายภาคหน้าต่อไป

การบริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ศตวรรษที่ 21 กลายเป็นโจทย์สาคัญสาหรับในหลายๆ เรื่อง ทั้งนี้เนื่องจากทุกฝ่ายมองเห็นถึง ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้นจากอดีต และความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี การวางแผนการบริ ห ารจั ด การที่ ดี เพราะการก้ า วย่ า งที่ ช้ า จะท าให้ เ ราสามารถตกขบวนและ เสี ย โอกาสอีกมากมาย การจั ดการศึกษาเป็นอีกประเด็นส าคัญ ซึ่งนอกจากจะต้องก้าวทันความ เปลี่ยนแปลงแล้วยังจะต้องเป็นกลไกสาคัญเพื่อการขับเคลื่อนภาคส่วนอื่น ๆ ให้มีความพร้อมในการ เข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงด้วย (จารุวัจน์ สองเมือง, https://deepsouthwatch.org/th/node/8009 21 ตุลาคม 2562) 1. ความเปลี่ยนแปลงสาคัญทางการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ความก้าวหน้ าทางเทคโนโลยีส ารสนเทศกลายเป็นปัจจัยส าคัญในการเปลี่ยนแปลงวิ ถี ก าร ดาเนินชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งการกลับไปสู่ ห้องนอน ตัวอย่างปรากฏการณ์ความเปลี่ยนแปลง เช่น 1.1 เป็นยุคที่คนใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่รู้ตัวว่าใช้คอมพิวเตอร์ เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่เล็กลง แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและแปลงรูปทรงเป็นผลิ ตภัณฑ์เครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น นาฬิ กา แว่นตา ตู้เย็น โทรทัศน์ โทรศัพท์ ทั้งหมดสามารถประมวลผลนาเสนอเสนอได้ไม่แตกต่างจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ดังกล่าวจะเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกันอย่างสะดวกและรวดเร็ว ผู้คน สามารถเชื่อมต่อและถ่ายโอนข้อมูลจานวนมากมายได้อย่างสะดวกและเป็นอิสระ และสามารถใช้ อุปกรณ์ที่หลากหลายในการเข้าถึงข้อมูลได้ 1.2 การด าเนิ น งานในรู ป แบบดิ จิ ต อล อั น เนื่ อ งจากการเชื่ อ มต่ อ ข้ อ มู ล สารสนเทศ ทาให้ระบบดิจิตอลมีบทบาทในการดาเนินธุรกรรมต่างๆ ทั้งด้านการเงิน การสื่อสาร หรือการปฏิบัติงาน ผู้คนสามารถปฏิบัติงานหรือทาธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเวลาใดเพียงแค่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ ระบบอินเตอร์เน็ตได้เท่านั้นเอง ขณะเดียวกันการใช้อินเตอร์เน็ตก็ให้ความสาคัญ ต่อการระบุตัวตน ของผู้ใช้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อสร้างความปลอดภัยสาหรับผู้ใช้เองด้วย 1.3 ความสัมพันธ์ในระหว่างบุคคลอยู่ ในรูปแบบความสัมพันธ์เสมือนมากยิ่งขึ้น เป็นอีก สภาพการณ์ ห นึ่ ง ที่ เ กิ ด ขึ้ น ส าหรั บ ศตวรรษที่ 21 ขอบเขตทางภู มิ ศ าสตร์ ไ ม่ ส ามารถขวางการมี ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุ คคลได้ เพราะเป็นการสื่ อสารทาให้ เกิดความสั มพันธ์ผ่านสื่ อสังคมออนไลน์ แต่ทั้งนี้ผู้คนในยุคนี้จาเป็นต้องมีทักษะทางภาษาที่มากกว่าคนในยุคที่ผ่าน ๆ มา

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

14

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

1.4 การเข้าถึงแหล่งข้อมูลและการเรียนรู้ที่ไม่มีขอบเขตข้อจากัด ผู้คนสามารถเข้าถึง ข้อมูลได้ง่ายผ่านเครื่องมือที่หลากหลาย ในขณะเดียวกับแหล่งข่าวก็สามารถนาเสนอข้อมูลข่าวสาร สู่สาธารณะได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว แต่เมื่อการเข้าถึงข้อมูลไม่ใช่เรื่องยาก ความยากกลับเป็นเรื่อง ของการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร ผู้คนจาเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลมากขึ้น เพื่อให้ แน่ใจถึงความถูกต้องในข้อมูลที่ได้รับ จากกระแสความเปลี่ยนแปลงข้างต้น ทาให้ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการพูดคุยเรื่องนี้และได้มีการ พัฒนาแนวคิดเรื่อง "ทักษะแห่งอนาคตใหม่ : การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21" โดยความร่วมมือของภาคส่วนวงการ นอกการศึกษาที่ประกอบด้วย บริษัทเอกชนชั้นนาขนาดใหญ่ เช่น บริษัทแอปเปิ้ล บริษัทไมโครซอฟท์ บริษัท วอล์ดิสนีย์ องค์กรวิชาชีพระดับประเทศ และสานักงานด้านการศึกษาของรัฐ รวมตัวและก่อตั้งเป็นเครือข่าย องค์กรความร่วมมือเพื่อทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 (Partnership for 21st Century Skills) หรือเรียก ย่อ ๆ ว่า เครือข่าย P21 ซึ่งเครือข่ายเห็นว่า การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 จาเป็นต้องได้รับการพั ฒนา ทักษะที่เพิ่มเติมจากคนในศตวรรษที่ 20 และ 19 เด็กและเยาวชนจ าเป็นต้องมีทักษะการเรียนรู้ และ นวั ตกรรม ซึ่ งมี องค์ ประกอบคื อ 3R4C คื อ 3 R ได้ แก่ Reading (การอ่ าน), การเขี ยน(Writing) และ คณิ ต ศาสตร์ (Arithmetic) และ 4C ได้ แ ก่ Critical Thinking (การคิ ด วิ เ คราะห์ ) , Communication (การสื่อสาร), Collaboration (การร่วมมือ) และ Creativity (ความคิดสร้างสรรค์) รวมถึงทักษะชีวิตและอาชีพ และทักษะด้านสารสนเทศสื่อและเทคโนโลยี และการบริหารจัดการด้านการศึกษาแบบใหม่ ทั ก ษะส าคั ญ ส าหรั บ คนยุ ค ศตวรรษที่ 21 ดั ง กล่ า วจะเป็ น ต้ อ งอาศั ย การจั ด การศึ ก ษา ที่มีประสิทธิภาพ เพราะการจั ดการศึกษาในรูปแบบเดิมไม่ส ามารถใช้การสอนแบบเดิม ๆ ที่เน้น การถ่ายทอดจากครูผู้สอนได้อีกต่อไป ดังนั้นจึงการปฏิรูปการจัดการเรียนรู้จึงเป็นโจทย์สาคัญสาหรับ ทุ ก ภาคส่ ว น จ าเป็ น อย่ า งยิ่ ง ที่ จ ะต้ อ งมี ก ารด าเนิ น การปฏิ รู ป ที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ และการปฏิ รู ป การจัดการเรียนรู้จะสาเร็จได้ก็ต้องด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมรับกับความท้าทาย ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

15

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

2. ความท้าทายทางการบริหารในความเปลี่ยนแปลง เป้าหมายการจัดการศึกษาที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เน้นองค์ความรู้ที่ผู้เรียนจะต้องได้รับมาเป็น เรื่องของสมรรถนะของผู้ เรีย น การละเลยเรื่องของการปรับเปลี่ ยนกระบวนทั ศน์ด้านการบริห าร จัดการสถานศึกษาก็หมายถึงความล้มเหลวของการปฏิรูปการศึกษาในภาพรวมด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ในการปรับเปลี่ยนการบริหารสถานศึกษาจาเป็นต้องให้ความสาคัญต่อประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 2.1 สภาวะทางสังคม ประเทศไทยในศตวรรษที่ 21 มีความเป็นไปได้สูง มากที่จะเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุเช่นเดียวกับในหลายประเทศที่ได้เข้าสู่ภาวะนี้ไปแล้ว สภาวะนี้เกิดขึ้นจากการที่อัตรา การเกิดลดลง คนมีอายุยืนขึ้น สภาพดังกล่าวนี้จะส่งผลกระทบต่อการจัดการศึกษาด้วยเช่นกันอย่าง น้อยในสองประเด็น คือ 1) บุคลากรการศึกษาที่จะมีโอกาสขาดแคลน และจาเป็นต้องขยายอายุการ ทางานของบุ คลากร และ 2) การจั ดการศึกษาจาเป็นต้องออกแบบสาหรั บการจัดการศึกษาส าหรับ ผู้สูงอายุมากขึ้น เพราะเป็นคนกลุ่ มใหญ่ของสังคม และการศึกษาก็ไม่สามารถหยุดอยู่เพียง ในวัย การศึกษาหรือวัยทางาน สองประเด็นนี้เป็นโจทย์สาคัญหนึ่งสาหรับผู้บริหารในปัจจุบัน ที่จะต้องวาง แผนการจัดการที่ชัดเจนเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น 2.2 ความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคน พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนจะเปลี่ยนไป สังเกตได้ อย่างง่ายจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่ปัจจุบันการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เครือข่าย สังคมก็เข้ามามีบทบาทต่อการตัดสินใจของคนมากขึ้น ขณะเดียวกันพฤติกรรมการทางานของคนเปลี่ยนไป ต้องการความสาเร็จและการยอมรับที่เร็วมากขึ้น การยึดมั่นในองค์กรอาจจะน้อยลงไป จึงเป็นความท้า ทายของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในองค์การที่จะต้องเอื้อต่อการใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อม กับการสร้างขวัญกาลังใจให้กับบุคลากรเพื่อให้บุคลากรที่มีความสามารถอยู่กับองค์การไปนาน ๆ 2.3 การเข้าถึงเทคโนโลยี เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เด็กรุ่นใหม่จะใช้เป็น เครื่องมือในการเรียนรู้ บุคลากรในสถานศึกษาก็จาเป็นต้องเป็นคนที่สามารถนาเอาเทคโนโลยีมาใช้ใน การจั ด การเรี ย นการสอน พร้ อ มทั้ ง ใช้ เ ป็ น เครื่ อ งมื อ ในการค้ น คว้ า พั ฒ นาความรู้ ข องตนเอง ขณะเดีย วกัน ยั งจะต้ อ งสามารถน าเอาเทคโนโลยี มาใช้ใ นการบริห ารจั ดการสถานศึก ษาอี ก ด้ ว ย แต่ ทั้ ง นี้ ก ารยอมรั บ และการใช้ เ ทคโนโลยี ข องบุ ค ลากรในสถานศึ ก ษาจะมี ร ะดั บ ความสามารถ ที่แตกต่างกัน การนาเอาเทคโนโลยีมาใช้จึงจาเป็นต้องมีแผนการจัดการที่ชัดเจน เช่นเดียวกันกับการ วางโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องมีทั้งการลงทุนและการพัฒนาบุคลากรไปพร้อม ๆ กัน 2.4 ความหลากหลายและความขัดแย้งกับ ในศตวรรษที่ 21 สถานศึกษาจาเป็นต้องเป็น องค์การที่เปิดรับความหลากหลายและความแตกต่างที่มากขึ้น พร้อม ๆ กับความจาเป็นในการสร้าง ให้เกิดความเป็นเอกภาพในองค์การ เพราะเอกภาพในองค์การคือหัวใจของความสาเร็จการทางานเป็น ทีมคือเครื่องมือสาคัญในการขับเคลื่อนองค์การสู่เป้าหมาย ด้วยเหตุนี้การสร้างเอกภาพ การทาให้เกิด ทีมในการทางานจึงเป็นโจทย์สาคัญสาหรับการบริหารสถานศึกษาในศตวรรษนี้ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

16

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

2.5 ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ คนในยุคใหม่จะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ยึดติดกับที่ทางาน มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนงานใหม่ได้ตลอดเวลา และนิยมที่จะทางานแบบอิสระมากกว่า ดังนั้นการรูปแบบ การบริหารจัดการจึงเป็นอีกประเด็นสาคัญที่ท้าทายผู้บริหารในการปรับตัวให้เข้ากับทีมงานรุ่นใหม่ 3. เครื่องมือเพื่อการบริหารจัดการสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 จากความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายข้างต้น ผู้บริหารจาเป็นต้องมีเครื่องมือที่แตกต่าง จากในยุค ที่ผ่านมาเพื่อการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสาเร็จ และเครื่องมือสาคัญที่จะต้องมีการนาไปใช้มีดังนี้ 3.1 การจัดการความรู้ในองค์การ การบริหารจาเป็นต้องกระตุ้นให้คนในองค์กรพัฒนา ความรู้ สร้างนวัตกรรมในการปฏิบัติงานอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากองค์การต้องเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยให้องค์การพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังจะสามารถนาพา องค์การสู่ การเป็ น ผู้ น าได้ ซึ่งการจัดการความรู้เป็นเครื่องมือส าคัญเพื่อบรรลุ เป้าหมายดังกล่าว นอกจากนี้การจัดการความรู้ยังเป็นเครื่องมือสาคัญที่สร้างความรู้สึกร่วมของคนในองค์การ สร้างความ ภาคภูมิใจในการทางานและกระตุ้นให้คนในองค์การทางานอย่างเต็มศักยภาพที่มี 3.2 การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น อย่างรวดเร็วขึ้น องค์การที่มีโครงสร้างการทางานที่ไม่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงคือองค์การที่จะขาด ศักยภาพในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้การสร้างวัฒนธรรมองค์การและการสร้างให้องค์กรมีความ พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ใช่กระบวนการที่ทาได้ในทันทีทันใด แต่เป็นการทางานร่วมกันของคน ในองค์กร เป็นกระบวนการที่ใช้เวลาปรับเปลี่ยนคนในองค์การให้มีความเห็นร่วมกัน ทางานร่วมกันสู่ เป้าหมายเดียวกัน 3.3 การท างานอย่ า งเป็ น เครื อ ข่ า ย องค์ ก ารที่ ท างานอย่ า งโดดเดี ยวจะเป็ นองค์การ ที่ ข าดประสิ ท ธิ ภ าพในไปโดยอั ต โนมั ติ ส าหรั บ การจั ด การศึ ก ษาในศตวรรษที่ 21 สถานศึ ก ษา จาเป็นต้องสร้ างเครื อข่ายความร่ว มมือกันเพื่อการแลกเปลี่ ยนองค์ความรู้และร่วมกันทางานเพื่ อ ผลักดันการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ 3.4 ท างานร่ ว มกั บ สถานประกอบการเพื่ อ การเรี ย นรู้ ข องผู้ เ รี ย น ความต้ อ งการ การจั ด การศึ ก ษาที่ เ ปลี่ ย นไป เป็ น โจทย์ ใ ห้ ส ถานศึ ก ษาจ าเป็ น เพิ่ ม การท างานร่ ว มกั บ ภาคส่ ว น ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น ทั้งจากส่วนของผู้ปกครองของผู้เรียนที่สถานศึกษาจะต้องสนองตอบ ขณะเดียวกัน จะต้องเรียนรู้ถึงความต้องการของสถานประกอบการที่สถานศึกษาจะต้องเตรียมความพร้อมให้ กับ ผู้ เ รี ย นในการเข้ า สู่ ก ารท างาน การศึ ก ษาต่ อ ความเปลี่ ยนแปลงเป็ นสิ่ งที่ ไม่ ส ามารถหยุ ดยั้ งได้ สถานศึกษาที่เป็นหน่วยแรก ๆ ของการเตรียมคน สร้างคนเพื่อการอยู่ในความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ข้อมูลที่นาเสนอไปข้างต้นไม่ใช่สู ตร ส าเร็ จ ส าหรั บสถานศึกษา แต่เป็ น โจทย์สาหรับผู้ บริห ารสถานศึกษาที่จะนาไปสู่การวางแผนการ ขับเคลื่อนสถานศึกษาสู่ความสาเร็จในการจัดการศึกษาสาหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

17

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อรัญติตา ศรีบุญเรือง (2562, 248-259) ได้ศึกษาเรื่อง การพัฒนาแนวทางการดาเนิน งาน ป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสานักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 4 พบว่า สภาพปัจจุบันของพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ของนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาสสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต 4 โดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก แนวทางการดาเนินงานป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ พบว่า 1) โรงเรียนเฝ้าระวังติดตามนักเรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างต่อเนื่องโดยใช้ระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียน 2) จัดอบรมคุณธรรมจริยธรรม 3) ครูปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี 4) นานักเรียนทัศนศึกษา สถานที่ เช่น เรือนจา สถานบาบัดผู้ติดยาเสพติด 5) จัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนเห็นคุณค่าในตัวเอง 6) เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความสามารถในกิจกรรมต่าง ๆ 7) จัดการเรียนรู้ที่หลากหลายโดย คานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลของนักเรียน 8) การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรทางศาสนา และองค์กรอื่น ๆ 9) ส่งเสริมการมีส่ว นร่ว มของผู้ ปกครองกับโรงเรี ยน 10) หลีกเลี่ยงคา พูดที่ทาให้เกิดนักเรียนเกิดปมด้อย และ 11) ส่งเสริมให้นักเรียนทดลองทาสิ่งใหม่ ในขอบเขตที่เหมาะสม ฉลาด ปรัชญาอภิบาล (2551:98 -102) ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาการดาเนินงานแก้ไข พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนบ้านปะอาว จังหวัดอุบลราชธานี สานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 พบว่า การดาเนินงานเพื่อการแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของ นักเรียนโดยใช้กิจกรรมอบรมเพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม กิจกรรมโฮมรูม และกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการนิเทศติดตามทาให้นักเรียนเข้าใจและเกิดความตระหนักในเรื่องระเบียบวินัย และความรับผิดชอบ ต่อตนเองโดยเฉพาะด้านการเรียน สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ในทางที่ดี ภาวินี ขุนศรี (2557) ได้ศึกษาเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของครูในการบริหารโรงเรียนในสังกัด เทศบาลนครยะลา พบว่า 1) ระดับการมีส่วนร่วมของครูในการบริหารโรงเรียนสังกัดเขตเทศบาลนคร ยะลา โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง 2) ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของครูในการบริหาร โรงเรียนสังกัดเขตเทศบาลนครยะลา จาแนกตามระดับการศึกษา ประสบการณ์การทางาน และขนาด ของโรงเรียน พิจารณาโดยรวมไม่ต่างกัน 3) ปัญหาในการมีส่วนร่วมของครูในการบริหารงานโรงเรียน สังกัดเขตเทศบาลนครยะลา ทั้ง 4 ด้น พบว่า ขาดการมีส่วนร่วมในด้ านการบริหารงานบุคคลที่เกี่ยวกับ การวิเคราะห์ภาระงานและอัตรากาลังครูของโรงเรียน และด้านการบริหารงานงบประมาณ ในเรื่องที่เกี่ยวกับ การตรวสอบข้อมูลการใช้งบประมาณและไม่ได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณ นอกจากนี้ด้านการบริหารงานทั่วไป พบว่า ขาดความหลากหลายในการวางแผนและพัฒนาระบบ ข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียน การประสานงานเครือข่าย และการจัดการศึกษา

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

18

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ปิยณัฐ กุสุมาลย์ และภมรพรรณ์ ยุระยาตร์ ได้ศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาครูโดยใช้แนวคิด ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการจัดการเรียนรู้สาหรับสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 27 ผลการวิจัยพบว่า 1) องค์ประกอบและตัวชี้วัดการพัฒนาครูโดยใช้แนวคิดชุ มชน แห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการจัดการเรียนรู้ สาหรับสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 27 ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ 47 ตัวชี้วัด มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุ ด 2) สภาพปัจจุบันของการพัฒนาครูโดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการจัดการเรียนรู้ สาหรับสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27 โดยรวมอยู่ในระดับมากและเมือ่ พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน และสภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน 3) แนวทางการพัฒนาครูโดยใช้แนวคิด ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการจัดการเรียนรู้สาหรับสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 27 พบว่า มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด และมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก พิชิต ฤทธิ์จรูญ ชูชาติ พ่วงสมจิตร์ เก็จกนก เอื้อวงศ์อาจารย์ และนงเยาว์ อุทุมพร อาจารย์ ได้ศึกษาเกี่ยวกับ เรื่อง การวิจัยและพัฒนานโยบายการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้ข้อเสนอ เชิงนโยบายการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 4 ประเด็น คือ 1) จัดระบบและกลไกในการ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพสามารถจัดการเรียนการสอน การบริหารจัดการและ สนับสนุนการจัดการเรียนการสอนที่ส่งผลถึงคุณภาพผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2) พัฒนาระบบ การบริ ห ารจั ด การให้ มี ป ระสิ ท ธิภ าพที่ เ อื้ อ ต่ อ การปฏิบั ติ งานของครูแ ละบุ ค ลากรทางการศึกษา 3) จั ดระบบการส่ งเสริ ม สนั บ สนุ นการจัดการเรียนการสอนให้ เอื้อต่อการปฏิบัติงานของครูและ บุคลากรทางการศึกษา และ 4) จัดระบบการเสริมสร้างขวัญกาลังใจและความก้าวหน้าในวิชาชีพ ของครูและบุคลากรทางการศึกษา วาสนา มะณีเรือง และคณะ (บทคัดย่อ : 2559) ได้ศึกษารูปแบบการพัฒนาครูเก่งครูดีของ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) ครูเก่งมีคุณลักษณะ 5 ประการ ได้แก่ การพัฒนาตนเอง อยู่เสมอ ความสามารถในการสร้าง การพัฒนาหลักสูตรและสื่อการสอน ความสามารถในการสอน ความสามารถในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และความสามารถในการแก้ปัญหา สาหรับครูดี มีคุณลักษณะ 2 ประการ ได้แก่ การครองตน และการครองงาน 2) รูปแบบที่สามารถพัฒนาครูเก่งครูดี ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานได้มากที่สุดคือ การสร้างระบบพี่เลี้ยง รองลงมา คือ การฝึกอบรม และการ นิเทศแบบคลินิกตามลาดับ โดยรูปแบบทั้งสาม สามารถพัฒนาครูเก่งครูดี ได้ร้อยละ 65.1 3) รูปแบบ การพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ การสร้างระบบพี่เลี้ยง การฝึกอบรม และการ นิ เทศแบบคลิ นิ ก มีความเหมาะสมและมี ความเป็ น ไปได้สู ง กว่า เกณฑ์ อย่ างมีนั ยส าคัญ ทางสถิ ติ ที่ระดับ 0.01 สรุปรูปแบบที่สามารถพัฒนาครูเก่งครูดีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานได้มากที่สุด คือ การสร้างระบบพี่เลี้ยง รองลงมาคือการฝึกอบรม และการนิเทศแบบคลินิก กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

19

บทที่ 3 วิธีดาเนินการ รายงานผลการดาเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ตามโครงการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงาน ของครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ฉบับนี้ ได้เสนอวิธีการดาเนินการ เครื่องมือที่ใช้ศึกษา และการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้

ขั้นตอนดาเนินการ การดาเนินการ ได้นาวงจรคุณภาพ PDCA ของเดมิ่ง โดยมีวิธีดาเนินการ 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) 2. ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ (Do) 3. ขั้นตอนการ่วมกันประเมิน (Check) 4. ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง (Act) กาหนดนโยบาย และแนวทางในการพัฒนาครูและ บุคคลากร สพป.พัทลุง เขต 2 การวางแผน และการ เตรียมการ (Plan: P)

แต่งตั้งคณะทางานดาเนินงานอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลง ในการพัฒนางาน (PA) และประชุมคณะทางานเพื่อวางแผน กาหนด หลักสูตร และวันเวลาจัดอบรม ดาเนินการพัฒนา กิจกรรมที่ 1 การอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนา งาน (PA) ผ่านระบบออนไลน์ โดยการเผยแพร่เอกสารให้ศึกษาด้วย ตนเอง และจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ

การดาเนินการ (Do: D)

สรุปผล ประเมินผล และรายงานผลการดาเนินงาน

การตรวจสอบ และประเมินผล (Check: C)

พึงพอใจหรือไม่

พึงพอใจ

ไม่พึงพอใจ

การสะท้อนผลการปฏิบัติเพือ่ การปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จัดทารายงานโครงการและนาไปใช้

ผลการพัฒนากิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทา ข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)

ปรับปรุง การปรับปรุงพัฒนา (Act: A)

วิธีดาเนินการ

1. ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) 1.1 แต่งตั้งคณะทางานการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ และกรรมการดาเนินงานพัฒนาสมรรถนะครู และบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ประจาปี 2562 1.2 ประชุมคณะทางานเพื่อวางแผน กาหนดหลักสูตร และวันเวลาจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ 1.2.1 วางแผนการดาเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนา งาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ 1.2.2 จั ด ท าหลั ก สู ต รการจั ด ท าข้ อ ตกลงในการพั ฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ประกอบด้วย หลักสูตรการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนาสาหรับ ผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ และหลักสูตรการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานสาหรับครู 1.2.3 จัดทาเครื่องมือ และเอกสารการอบรม ประกอบด้วย แบบประเมินความพึง พอใจ แบบทดสอบ และเอกสารการอบรมหลักสูตรการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนาสาหรับผู้บริหาร สถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ และหลักสูตรการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานสาหรับครู 1.2.4 กาหนดวัน เวลา ให้ ผู้ เข้ารับการพัฒ นา ศึกษาเอกสารก่อนการอบรมเชิ ง ปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 1.2.5 กาหนดวัน เวลา อบรมเชิงปฏิบัติการ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 1.2.6 มอบหมายผู้รับผิดชอบหลัก ในการปฏิบัติงานตามคาสั่ง สานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ที่ 342/2564 สั่ง ณ วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2564 2. ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ (Do) 2.1 ดาเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 2.1.1 ผู้ เข้ารั บ การพั ฒ นา ศึกษาเอกสารการจัด ท าข้ อตกลงในการพั ฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ด้วยตนเอง จากการเผยแพร่เอกสารผ่านระบบออนไลน์ ช่องทาง https://sites.google.com/phatthalung2.go.th/dvlplg2km/dvlplg2_online/pa2564_ep1 ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 2.1.2 อบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่ า นระบบออนไลน์ ผ่ า นระบบ Zoom Meeting และ YouTube ในวั น ที่ 9 พฤศจิกายน 2564 2.2 ประชุมสรุปผลและจัดทารายงานผลการดาเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

21

วิธีดาเนินการ

3. ขั้นตอนการร่วมกันประเมิน (Check) สรุปผล ประเมินผล และรายงานผลการดาเนินงานกิจกรรมการจัดทาข้อตกลงในการ พัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ 5 บท ประกอบด้วย 3.1 บทที่ 1 บทนา 3.2 บทที่ 2 เอกสารแลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 3.3 บทที่ 3 วิธีดาเนินการ 3.4 บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน 3.5 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 4. ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง (Act) 4.1 ประชุมสรุปผลภาพรวมทั้งโครงการ พร้อมข้อเสนอแนะในการดาเนินการต่อไป 4.2 จัดทารายงานผลาการดาเนินงานกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงใน การพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ตามโครงการพัฒนาศักยภาพ การปฏิ บั ติ ง านของครู แ ละบุ ค ลากรทางการศึ ก ษา ส านั ก งานเขตพื้ น ที่ ก ารศึ ก ษาประถมศึ ก ษา พัทลุง เขต 2 แจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบและการดาเนินการต่อไป

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 1. แบบสารวจการศึกษาเอกสารการพัฒนาการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน หลักสูตรสาหรับ ผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ และหลักสูตรสาหรับครู 2. แบบทดสอบองค์ความรู้ที่ได้รับจากการพัฒนา 3. แบบประเมินความพึงพอใจ

การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสารวจ และการประเมิน ด้วยวิธีการทางสถิติ ดังนี้ 1. วิเคราะห์ข้อมูลการศึกษาเอกสารการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน หลักสูตรสาหรับ ผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ และหลักสูตรสาหรับครู โดยใช้ค่าเฉลี่ย (x̅) 2. วิเคราะห์ข้อมูลการทดสอบองค์ความรู้ที่ได้รับจากการพัฒนา โดยใช้ค่าเฉลี่ย (x̅) 3. วิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจ โดยใช้ค่าเฉลี่ย (x̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

22

บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน รายงานผลการดาเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ตามโครงการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงาน ของครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ดังนี้

กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ กิ จ กรรมการอบรมเชิ ง ปฏิ บั ติ ก ารการจั ด ท าข้ อ ตกลงในการพั ฒ นางาน ( Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ มีผลการดาเนินการ 2 ส่วน ประกอบด้วย 1. การศึกษาเอกสาร สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 เผยแพร่เอกสารการจัดทาข้อตกลงในการ พัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านสื่อออนไลน์ ช่องทาง “เครือข่ายพัฒนาวิชาชีพครู ” https://sites.google.com/phatthalung2.go.th/dvlplg2km/dvlplg2_online/pa2564_ep1 เพื่อให้ ผู้เข้ารับการพัฒนาได้ศึกษาก่อนการอบรมเชิงปฏิบัติการ ผ่านระบบออนไลน์ เป็นระยะเวลา 10 วัน ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 มีผู้เข้าศึกษาเอกสารการการจัดทาข้อตกลง ในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) จานวน 1,748 คน รายละเอียดตาม ตารางที่ 1 ตารางที่ 1 จานวนผู้ศึกษาเอกสารก่อนเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการ จาแนกประเภทตามสายงาน ประเภทสายงาน จานวน (คน) ร้อยละ ผู้บริหารการศึกษา 2 0.11 ผู้บริหารสถานศึกษา 151 8.64 ครู 1,530 87.53 ศึกษานิเทศก์ 41 2.35 บุคลากรทางการศึกษาอื่น 24 1.37 รวม 1,748 100.00 จากตารางที่ 1 พบว่า ผู้ศึกษาเอกสารก่อนเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการประเภทตามสายงานครู มากที่สุด จานวน 1,530 คน คิดเป็นร้อยละ 87.53 รองลงมาคือผู้บริหารสถานศึกษา จานวน 151 คน คิดเป็นร้อยละ 8.64 และประเภทตามสายงานผู้บริหารการศึกษาน้อยที่สุด จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 0.11

ผลการดาเนินงาน

2. การอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 กาหนดจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทา ข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) จานวน 1 วัน ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ผ่านระบบออนไลน์ 2 ช่องทาง คือ ระบบ Zoom Meeting และ YouTube แบ่งการอบรมเป็น 2 หลักสูตร ช่วงเช้า หลักสูตรสาหรับผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ มีผู้เข้าอบรม จานวน 330 คน ช่วงบ่าย หลักสูตรสาหรับครู มีผู้เข้าอบรม จานวน 2,977 คน โดยดาเนินการอบรมตามกาหนดการ ดังนี้ วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เวลา 08.00 – 08.30 น. ลงทะเบียนเข้าอบรม เวลา 08.30 – 09.00 น. พิธีเปิดการอบรมและบรรยายพิเศษ เวลา 09.00 – 12.00 น. การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน สาหรับผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ เวลา 12.00 – 13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน เวลา 13.00 – 16.00 น. การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน สาหรับครู เวลา 16.00 – 16.30 น. ประเมินองค์ความรู้และความพึงพอใจ จากการศึกษาเอกสารและการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ทาให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดความรู้ความเข้าใจในการจัดทาข้อตกลง ในการพัฒนางาน ตามมาตรฐานตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ รายละเอียดตามตาราง ดังนี้ ตารางที่ 2 ผลการอบรมเชิ ง ปฏิ บั ติ ก ารการจั ด ท าข้ อ ตกลงในการพั ฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ จาแนกตามประเภทสายงาน ดังนี้ ประเภทสายงาน ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ศึกษานิเทศก์ บุคลากรทางการศึกษาอื่น รวม

จานวน ผู้เข้าอบรม (คน) 3 297 2,853 78 76 3,307

จานวนผู้ผ่าน การทดสอบ(คน) 3 268 2,485 67 72 2,895

ร้อยละ 100.00 90.24 87.10 85.90 94.74 87.54

จากตารางที่ 2 พบว่ า ผลการอบรมเชิ ง ปฏิ บั ติ ก ารการจั ด ท าข้ อ ตกลงในการพั ฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ พบว่า โดยรวมผู้เข้าอบรมผ่านการทดสอบ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

24

ผลการดาเนินงาน

25

ร้อยละ 87.54 เมื่อพิจารณาแยกตามประเภทสายงาน ผู้บริหารการศึกษา ผ่านการทดสอบ ร้อยละ 100 ผู้ บ ริ ห ารสถานศึกษา ร้ อยละ 90.24 ครู ร้อยละ 87.10 ศึกษานิเทศก์ ร้อยละ 85.90 และ บุคลากรทางการศึกษาอื่น ร้อยละ 94.74 ตามลาดับ ตารางที่ 3 การทดสอบความรู้ความเข้าใจการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ หลักสูตรผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ จานวน จานวน ข้อคาถาม ผู้ทดสอบ(คน) ผู้ตอบถูก(คน) 1. การประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา 330 326 (หลักเกณฑ์ใหม่) จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด 2. ระบบดิจิทัลที่จะนามาใช้ในการประเมินวิทยฐานะ 330 326 เกณฑ์ใหม่มีชื่อว่าอะไร 3. ข้อตกลงในการพัฒนางานใช้สาหรับเรื่องใดบ้าง 330 329 4. ข้อใดเป็นแบบ PA สาหรับผู้รับการประเมินในตาแหน่ง 330 250 ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ 5. องค์ประกอบของ PA มีกี่ส่วน 330 307 6. ข้อใดไม่ใช่ภาระงาน ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา 330 280 7. ระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง 330 286 ที่ กคศ. กาหนด ข้อใดไม่ถูกต้อง 8. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคณะกรรมการในการประเมิน PA 330 188 9. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของผู้อานวยการสถานศึกษา เกี่ยวกับ PA 330 297 10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง 330 298

ร้อยละ 98.79 98.79 99.70 75.76 93.03 84.85 86.67 56.97 90.00 90.30

จากตารางที่ 3 พบว่า การทดสอบความรู้ความเข้าใจการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่ า นระบบออนไลน์ หลั ก สู ต รผู้ บ ริ ห ารสถานศึ ก ษาและ ศึกษานิเทศก์ พบว่า คาถามที่มีผู้ตอบถูกมากที่สุดสามลาดับแรก คือ ข้อที่ 3. ข้อตกลงในการพัฒนางาน ใช้สาหรับเรื่องใดบ้าง มีผู้ตอบถูก จานวน 329 คน คิดเป็นร้อยละ 99.70 ข้อที่ 1. การประเมินวิทยฐานะ ครูและบุคลากรทางการศึกษา (หลักเกณฑ์ใหม่) จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด และ ข้อที่ 2. ระบบดิจิทัล ที่จะนามาใช้ในการประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ใหม่มีชื่อว่ าอะไร มีผู้ตอบถูก จานวน 326 คน คิดเป็น ร้ อ ยละ 98.79 ตามล าดั บ ค าถามที่ มี ผู้ ต อบถู ก น้ อ ยที่ สุ ด คื อ ข้ อ ที่ 8. ข้ อ ใดไม่ ถู ก ต้ อ งเกี่ ย วกั บ คณะกรรมการในการประเมิน PA มีผู้ตอบถูก จานวน 188 คน คิดเป็นร้อยละ 56.97 กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

ผลการดาเนินงาน

ตารางที่ 4 การทดสอบความรู้ความเข้าใจการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ หลักสูตรสาหรับครู จานวน จานวน ข้อคาถาม ร้อยละ ผู้ทดสอบ(คน) ผู้ตอบถูก(คน) 1. การประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากร ทางการศึกษา (หลักเกณฑ์ใหม่) จะมีผลบังคับ 2,977 2,943 98.86 ใช้เมื่อใด 2. ระบบดิจิทัลที่จะนามาใช้ในการประเมิน 2,977 2,896 97.28 วิทยฐานะเกณฑ์ใหม่มีชื่อว่าอะไร 3. ข้อตกลงในการพัฒนางาน ใช้สาหรับเรื่องใดบ้าง 2,977 2,961 99.46 4. ข้อใดเป็นแบบ PA สาหรับผู้รับการประเมิน 2,977 2,611 87.71 ในตาแหน่งครูผู้สอน 5. องค์ประกอบของ PA มีกี่ส่วน 2,977 2,600 87.34 6. ข้อใดไม่ใช่ภาระงาน ตาแหน่งครู 2,977 2,608 87.60 7. ระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง 2,977 2,621 88.04 ที่ กคศ. กาหนด ข้อใดไม่ถูกต้อง 8. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคณะกรรมการในการ 2,977 2,359 79.24 ประเมิน PA 9. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของผู้อานวยการถานศึกษา 2,977 2,825 94.89 เกี่ยวกับ PA 10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง 2,977 1,761 59.15 จากตารางที่ 4 พบว่า การทดสอบความรู้ความเข้าใจการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ หลักสูตรครู พบว่า คาถามที่มีผู้ตอบถูกมากที่สุด สามลาดับแรก คือ ข้อที่ 3. ข้อตกลงในการพัฒนางานใช้สาหรับเรื่องใดบ้าง มีผู้ตอบถูก จานวน 2,961 คน คิดเป็นร้อยละ 99.46 ข้อที่ 1. การประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา (หลักเกณฑ์ ใหม่) จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด มีผู้ตอบถูก จานวน 2,943 คน คิดเป็นร้อยละ 98.86 และ ข้อที่ 2. ระบบ ดิจิทัล ที่จะนามาใช้ในการประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ใหม่มีชื่อว่าอะไร มีผู้ตอบถูก จานวน 2,896 คน คิดเป็นร้อยละ 97.28 ตามลาดับ คาถามที่มีผู้ตอบถูกน้อยที่สุด คือ ข้อที่ 10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง มี ผู้ตอบถูก จานวน 1,761 คน คิดเป็นร้อยละ 59.15

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

26

ผลการดาเนินงาน

ตารางที่ 5 ความพึงพอใจกิจ กรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ จานวน 1,368 จาแนกเป็นรายประเด็นและ ภาพรวม ระดับความพึงพอใจ ประเด็น S.D. ระดับ x̅ 1. การเข้าถึงเอกสารการอบรม 2. รูปแบบการนาเสนอเอกสารการอบรม 3. เนื้อหาเอกสารการอบรม 4. ระบบเสียง 5. ระบบภาพ/ข้อมูล 6. ความพร้อมของการจัดอบรม 7. ความเหมาะสมของเวลาอบรม 8. การตอบคาถาม 9. ความรู้ความสามารถด้านเนื้อหาการอบรม 10. วิธีการถ่ายถอดเนื้อหาการอบรม 11. เอกสารประกอบการอบรม 12. ความครบถ้วนของเนื้อหาตามหลักสูตรการอบรม รวม

4.57 4.60 4.64 4.41 4.53 4.59 4.49 4.58 4.66 4.66 4.62 4.64 4.58

.55 .54 .52 .63 .56 .53 .64 .57 .50 .49 .53 .51 0.55

มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด มาก มากที่สุด มากที่สุด มาก มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด

จากตารางที่ 5 พบว่า ความพึงพอใจกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อ ตกลง ในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ โดยภาพรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.58 และเมื่อพิจารณารายประเด็น ความพึงพอใจสี่ลาดับแรก คือ ข้อที่ 9. ความรู้ ความสามารถด้านเนื้อหาการอบรม ค่าเฉลี่ย 4.66 ข้อที่ 10. วิธีการถ่ายถอดเนื้อหาการอบรม ค่าเฉลี่ย 4.66 ข้อที่ 3. เนื้อหาเอกสารการอบรม ค่าเฉลี่ย 4.64 และ ข้อที่ 12. ความครบถ้วนของเนื้ อหา ตามหลักสู ตรการอบรม ค่าเฉลี่ย 4.64 ตามลาดับ ความพึงพอใจน้อยที่สุด คือ ข้อที่ 4. ระบบเสี ยง ค่าเฉลี่ย 4.41

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

27

บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ผลการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่ านระบบออนไลน์ ตามโครงการพัฒ นาศั กยภาพการปฏิ บัติง านของครู แ ละ บุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ เป้าหมาย วิธีดาเนินการ สรุปผลการดาเนินการ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ดังนี้

วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒ นาศักยภาพด้านการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้ ว ยการอบรม เชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบ ออนไลน์

เป้าหมาย เชิงปริมาณ 1. ครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ร้อยละ 100 ได้รับการพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ 2. ครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ร้อยละ 80 มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) เชิงคุณภาพ 3. ครูและบุคลากรทางการศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 มีความรู้ ความเข้าใจ มีศักยภาพในการปฏิบัติงานตามตาแหน่งหน้าที่อย่างมืออาชีพ และมีความก้าวหน้า ในวิชาชีพ

วิธีดาเนินการ 1. ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) ร่วมวางแผนการดาเนินงานการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่ านระบบออนไลน์ โดยการประชุมคณะทางาน เพื่อกาหนด

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

หลักสูตร วิธีการ วัน เวลาการจัดอบรม จัดทาเครื่องมือและเอกสารการอบรม พร้อมมอบหมาย ผู้รับผิดชอบหลักในการปฏิบัติงานตามคาสั่ง 2. ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ (Do) ดาเนินการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ โดยการเผยแพร่เอกสารการอบรมผ่านระบบออนไลน์ ให้ผู้เข้า อบรมได้พัฒนาตนเอง ด้วยการศึกษาเอกสารการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) และจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ด้วยระบบ Zoom Meeting และ YouTupe พร้อม สรุปรายงานผลการดาเนินกิจกรรม 3. ขั้นตอนการร่วมกันประเมิน (Check) สรุปผล ประเมินผล และรายงานผลการดาเนินงาน 4. ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง (Act) ดาเนินการประชุมสรุปผลการดาเนินงาน จัดทารายงานผลการดาเนินงาน และแจ้งผล การดาเนินงานให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ พร้อมนาข้อเสนอแนะไปใช้ในการดาเนินงานที่เกี่ยงข้อง

สรุปผลการดาเนินการ กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ดาเนินการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทา ข้อตกลงในการพัฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ผ่ านระบบออนไลน์ จานวน 1 วัน ครูและบุคลากรทางการศึกษา เข้ารับการอบรม จานวน 3,307 คน และกาหนดให้ผู้เข้ารับการพัฒนา ได้ศึกษาเอกสารก่อนการอบรมเชิงปฏิบัติการ จานวน 10 วัน ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 8 พฤศจิ ก ายน 2564 มี ผู้ เ ข้ า ศึ ก ษาเอกสารการอบรม จ านวน 1,748 คน คิ ด เป็ น ร้ อ ยละ 52.86 ผลการดาเนินการสรุปได้ ดังนี้ 1. ผลการอบรมเชิ ง ปฏิ บั ติ ก ารการจั ด ท าข้ อ ตกลงในการพั ฒ นางาน ( Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ พบว่า ผู้เข้าอบรมผ่านการทดสอบ จานวน 2,895 คน คิดเป็น ร้ อยละ 87.54 แยกตามประเภทสายงาน ผู้ บริห ารการศึกษา จานวน 3 คน คิดเป็น ร้อยละ 100 ผู้บริหารสถานศึกษา จานวน 268 คน คิดเป็นร้อยละ 90.24 ครู จานวน 2,485 คน คิดเป็น ร้อยละ 87.10 ศึกษานิเทศก์ จานวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 85.90 และบุคลากรทางการศึกษาอื่น จานวน 72 คน คิดเป็นร้อยละ 94.74 ตามลาดับ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

29

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

2. การทดสอบความรู้ ค วามเข้ า ใจการจั ด ท าข้ อ ตกลงในการพั ฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ 2.1 หลักสูตรสาหรับผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ มีประเด็นคาถาม จานวน 10 ข้อคาถาม พบว่า มีผู้ตอบถูกร้อยละ 80 ขึ้นไป จานวน 8 ข้อคาถาม ต่ากว่าร้อยละ 80 จานวน 2 ข้อคาถาม ข้อคาถามที่มีผู้ตอบถูกสุงสุดสามลาดับแรกคือ ข้อคาถามที่ 3. ข้อตกลงในการพัฒนางาน ใช้สาหรับเรื่องใดบ้าง (ร้อยละ 99.70) ข้อคาถามที่ 1. การประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา (หลักเกณฑ์ใหม่) จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด (ร้อยละ 98.79) และข้อคาถามที่ 2. ระบบดิจิทัลที่จะนามาใช้ ในการประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ใหม่มีชื่อว่าอะไร (ร้อยละ 98.79) ส่วนข้อคาถามที่มีผู้ตอบถูก ต่ากว่า ร้ อยละ 80 คือ ข้อคาถามที่ 4. ข้อใดเป็นแบบ PA ส าหรับผู้ รับการประเมินในตาแหน่งผู้ บริห าร สถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ มีผู้เข้าอบรม (ร้อยละ 75.76 ) และข้อคาถามที่ 8. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับคณะกรรมการในการประเมิน PA (ร้อยละ 56.97) 2.2 หลักสูตรสาหรั บ ครู มีประเด็นคาถาม จานวน 10 ข้อคาถาม พบว่า มีผู้ตอบถูก ร้อยละ 80 ขึ้นไป จานวน 8 ข้อคาถาม ต่ากว่าร้อยละ 80 จานวน 2 ข้อคาถาม ข้อคาถามที่มีผู้ตอบถูก สุงสุดสามลาดับแรก คือ ข้อคาถามที่ 3. ข้อตกลงในการพัฒนางานใช้สาหรับเรื่องใดบ้าง (ร้อยละ 99.46) ข้อคาถามที่ 1. การประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา (หลักเกณฑ์ใหม่) จะมีผล บั ง คั บ ใช้ เ มื่ อ ใด (ร้ อ ยละ 98.86) และข้ อ ค าถามที่ 2. ระบบดิ จิ ทั ล ที่ จ ะน ามาใช้ ใ นการประเมิ น วิทยฐานะเกณฑ์ใหม่มีชื่อว่าอะไร (ร้อยละ 97.28) ส่วนข้อคาถามที่มีผู้ตอบถูกต่ากว่าร้อยละ 80 คือ ข้อคาถามที่ 8. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคณะกรรมการในการประเมิน PA (ร้อยละ 79.24 ) และ ข้อคาถามที่ 10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง (ร้อยละ 59.15) 3. ความพึ ง พอใจกิ จ กรรมการอบรมเชิ ง ปฏิ บั ติ ก ารการจั ด ท าข้ อ ตกลงในการพั ฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ จากผู้ตอบแบบประเมิน จานวน 1,368 คน พบว่า โดยรวมมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.58, S.D. = .55) และมีความพึงพอใจ อยู่ ใ นระดั บ มากที่ สุ ด จ านวน 10 ประเด็ น ระดั บ มาก จ านวน 2 ประเด็ น ความพึ ง พอใจสู งสุ ด สี่ลาดับแรก คือ ข้อที่ 9. ความรู้ความสามารถด้านเนื้อหาการอบรม (x̅ = 4.66, S.D. = .50) ข้อที่ 10. วิ ธี ก าร ถ่ า ยถอดเนื้ อ หาการอบรม (x̅ = 4.66, S.D. = .49) ข้ อ ที่ 3. เนื้ อ หาเอกสารการอบรม (x̅ = 4.64, S.D. = .52) และ ข้อที่ 12. ความครบถ้วนของเนื้อหาตามหลักสูตรการอบรม (x̅ = 4.64, S.D. = .51) ส่วนความพึงพอใจน้อยที่สุด คือ ข้อที่ 4. ระบบเสียง (x̅ = 4.41, S.D. = .63)

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

30

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

อภิปรายผล การพัฒนาศักยภาพด้านการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการอบรม เชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ 1. กิจกรรมการศึกษาเอกสาร จากข้อมูลการเข้าศึกษาเอกสารก่อนเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลง ในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) มีผู้เข้าศึกษาเอกสารการอบรม จานวน 1,748 คน คิดเป็นร้อยละ 52.86 อาจสืบเนื่องมาจากผู้เข้ารับการอบรมบางส่วน ไม่ทราบถึงขั้นตอนการศึกษา เอกสาร โดยเฉพาะผู้เข้าอบรมสังกัดอื่น และเอกสารการอบรมเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ที่เผยแพร่ ผ่านระบบออนไลน์ การเข้าถึงเอกสารจาเป็นต้องใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์คุณภาพสูง พร้อมทั้งต้องมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ซึ่งส่งผลเกิดความยุ่งยากในการเข้าศึกษาเอกสารการอบรม 2. กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) 2.1 ผลการทดสอบความรู้ ค วามเข้ า ใจกิ จ กรรมการอบรมเชิง ปฏิบั ติ ก ารการจั ดทา ข้อตกลงในการพัฒ นางาน (Performance Agreement : PA) หลักสูตรผู้บริหารสถานศึกษาและ ศึกษานิเทศก์ มีประเด็นคาถามจานวน 10 ข้อคาถาม พบว่ามีผู้ตอบถูกร้อยละ 80 ขึ้นไป จานวน 8 ข้ อ ค าถาม แสดงว่ า ผู้ เ ข้ า รั บ การอบรมเชิ ง ปฏิ บั ติ ก ารการจั ด ท าข้ อ ตกลงในการพั ฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ มีความรู้ตามประเด็นคาถามเป็นส่วนใหญ่ อาจสืบเนื่องมาจากเป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าซึ่งเป็นผลประโยชน์ของผู้เข้ารับการอบรม ทาให้มีแรงจูงใจในการศึกษาอบรม ส่วนความรู้ตามข้อคาถามบางข้อคาถาม ที่มีผู้ตอบถูก ต่ากว่า ร้อยละ 80 จานวน 2 ข้อคาถาม คือ ข้อคาถามที่ 4. ข้อใดเป็นแบบ PA สาหรับผู้รับการประเมิน ในตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ มีผู้เข้าอบรม (ร้อยละ 75.76 ) และข้อคาถามที่ 8. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคณะกรรมการในการประเมิน PA (ร้อยละ 56.97) ผู้เข้ารับการศึกษาอบรม อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือการสื่อสารในการอบรมอาจมีปัญหา หรืออาจเป็นผู้ที่ไม่ได้ศึกษา เอกสารมาก่อน ประกอบกับเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่ได้ใช้มาก่อน ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง โดยรวมแล้วสามารถนาไปใช้ในการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานของตนเองได้ 2.2 หลักสูตรครู มีประเด็นคาถาม จานวน 10 ข้อคาถาม พบว่ามีผู้ตอบถูกร้อยละ 80 ขึ้นไป จานวน 8 ข้อคาถาม ต่ากว่าร้อยละ 80 จานวน 2 ข้อคาถาม ซึ่งสอดคล้องกับผลการทดสอบความรู้ ความเข้าใจกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA ) หลักสูตรผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ ข้อคาถามที่มีผู้ตอบถูกสุงสุด สามลาดับแรก เหมือนกับผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ คือ ข้อคาถามที่ 3. ข้อตกลงในการ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

31

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

พัฒนางานใช้สาหรับเรื่องใดบ้าง (ร้อยละ 99.46) ข้อคาถามที่ 1. การประเมินวิทยฐานะครูและ บุคลากรทางการศึกษา (หลักเกณฑ์ใหม่) จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด (ร้อยละ 98.86) และข้อคาถามที่ 2. ระบบดิจิทัลที่จะนามาใช้ในการประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ใหม่มีชื่อว่าอะไร (ร้อยละ 97.28) ส่วนข้อคาถาม ที่มีผู้ตอบถูกต่ากว่าร้อยละ 80 แตกต่างกับผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ 1 ข้อคาถาม คือ ข้อคาถามที่ 8. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคณะกรรมการในการประเมิน PA (ร้อยละ 79.24) และ ข้อคาถามที่ 10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง (ร้อยละ 59.15) โดยรวมแล้วไม่แตกต่างจากผู้บริหาร สถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ สามารถนาไปใช้ในการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานของตนเองได้ ส่วนบางประเด็นก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตนเองหรือจากผู้รู้ในหน่วยงานตนเองได้ 3. ความพึงพอใจกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) จากการประเมินความพึงพอใจในการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการ พัฒนางาน (Performance Agreement : PA) พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมมีความพึงพอใจในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.58) และเมื่อพิจารณารายประเด็น มีความพึงพอใจในเนื้อหาการอบรม และวิธีการถ่ายถอดเนื้อหาการอบรมสูงที่สุด (x̅ = 4.66) ซึ่งแสดงถึงความรู้ความสามารถของวิทยากร ผู้ให้ความรู้ และหลักสูตรการอบรมที่ตรงตามความต้องการของผู้เข้ารับการอบรม

ข้อเสนอแนะ 1. ควรจั ด ท าเอกสารการอบรม “การจั ด ท าข้ อ ตกลงในการพั ฒ นางาน (Performance Agreement : PA) ” สาหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงเอกสารการอบรมแบบออนไลน์ได้ 2. ควรประชาสัมพันธ์การศึกษาเอกสารการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการ พัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง 3. ควรกาหนดระยะเวลาให้เหมาะสมกับเนื้อหาและกิจกรรมที่ใช้ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม ได้รับการพัฒนาตามวัตถุประสงค์ของการอบรม 4. ควรให้ความรู้เพิ่มเติมในประเด็นของคณะกรรมการในการประเมิน PA และการวิเคราะห์ ความสอดคล้องเชื่อมโยงในการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน กับมาตรฐานตาแหน่ง มาตรฐาน วิทยฐานะ และภาระงานของแต่ละตาแหน่ง ควรเลือกช่องทางในการอบรมแบบออนไลน์ ให้เหมาะสม กับจานวนและขีดความสามารถของกลุ่มเป้าหมาย และเลือกใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสาร เพื่อให้การอบรมเชิงปฏิบัติการเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้การอบรม

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

32

เอกสารอ้างอิง ฉลาด ปรัชญาอภิบาล. (2551). การพัฒนาการดาเนินงานแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนบ้านปะอาว จังหวัดอุบลราชธานี สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 1. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. อรัญติตา ศรีบุญเรือง. (2561) การพัฒนาแนวทางการดาเนินงานป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ พึงประสงค์ของนักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุดรธานี เขต 4 วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหามหาสารคาม ภาวินี ขุนศรี. การมีส่วนร่วมของครูในการบริหารโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครยะลา. สืบค้นจาก http://tnrr.in.th/?page=result_search&record_id=10437140 ปิยณัฐ กุสุมาลย์ และภมรพรรณ์ ยุระยาตร์. “แนวทางการพัฒนาครูโดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการ เรียนรู้ทางวิชาชีพในการจัดการเรียนรู้สาหรับสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27.” วารสารการบริหารและนิเทศการศึกษา มหาวิทยาลัย มหาสารคาม 8, 1 (มกราคม - เมษายน 2560): 196 - 206. พิชิต ฤทธิ์จรูญ ชูชาติ พ่วงสมจิตร์ เก็จกนก เอื้อวงศ์ และนงเยาว์ อุทุมพร “การวิจัยและพัฒนา นโยบายการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา. สืบค้นจาก http://ojslib3.buu.in.th/index.php/edu/article/view/2526

ภาคผนวก

ภาคผนวก

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

35

ภาคผนวก

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

36

ภาคผนวก

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

37

ภาคผนวก

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

38

ภาคผนวก

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

39

ภาคผนวก

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

40

ภาคผนวก

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

41

ภาคผนวก

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

42

ภาคผนวก

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

43

ภาคผนวก

ภาพการดาเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนา งาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ภาพชุดที่ 1 ทีมบริหาร

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

44

ภาคผนวก

ภาพการดาเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนา งาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ภาพชุดที่ 2 คณะทางาน

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

45

ภาคผนวก

ภาพการดาเนินงานกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนา งาน (Performance Agreement : PA) ผ่านระบบออนไลน์ ภาพชุดที่ 3 การดาเนินงาน

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

46

ภาคผนวก

ภาพชุดที่ 3 การดาเนินงาน (ต่อ)

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

47

ภาคผนวก

ภาพชุดที่ 3 การดาเนินงาน (ต่อ)

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

48

ภาคผนวก

ภาพชุดที่ 3 การดาเนินงาน (ต่อ)

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

49

ภาคผนวก

ภาพชุดที่ 3 การดาเนินงาน (ต่อ)

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

50

คณะผู้จัดทา

คณะผู้จัดทา

ที่ปรึกษา นายวันชัย วงศ์ศิลป์ นายธนภัทร สิริวาส นายธวัช รัตนพันธ์ นางอาภา เวชสารศรี นางสุพัตรา สิงหเสม นายรณธิชัย สวัสดิ์

ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 ศึกษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ ศึกษานิเทศก์ชานาญการ

ผู้จัดทา นางนาตยา พรหมพันธ์

นักทรัพยากรบุคคลชานาญการ

ออกแบบปก นางนาตยา พรหมพันธ์

นักทรัพยากรบุคคลชานาญการ

กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.พัทลุง เขต 2 : DVL_plg2 Online

51

Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.