รายงานประจำปี 2564
มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย)
เป้าหมายของเรา เพื่อนบ้านของเราไร้ซึ่งความยากจนและได้รับการเคารพในสิทธิ สามารถอาศัยอยู่ร่วมกับทุกคนในชุมชนได้โดยสามารถพึ่งพาตนเองได้
หลักการพัฒนา 4 ประการ
เราช่วยเหลือเพื่อนบ้านที่กำลัง ประสบปัญหาความยากจน
เราสร้างความตระหนักรู้ในสิทธิ มนุษยชนและบทบาทของผู้ คุ้มครองสิทธิ
เราสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือ และความสามัคคี
เราเสริมสร้างขีดความสามารถให้ แก่ผู้คน
วัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ 8 ประการ
2
ผู้คนปราศจาก ความหิวโหย
เด็กทุกคนได้รับ การปกป้องคุ้มครอง
ผู้คนพึงพอใจในสิทธิ ในการได้รับการศึกษา
ผู้คนใช้สิทธิในการรักษา พยาบาล
ผู้คนอาศัยอยู่ใน สภาพแวดล้อมที่มีความยั่งยืน
ผู้คนสร้างชุมชนองค์รวม และชุมชนประชาธิปไตย
ผู้คนสัมฤทธิ์ผล ทางด้านเศรษฐกิจที่เกิด จากความร่วมแรงร่วมใจ
ผู้คนได้รับการคุ้มครอง จากภัยพิบัติ
สารบัญ
5
สาส์นจากผู้อำนวยการประเทศ
6
เราคือใคร
8
เราทำงานที่ไหน
11
การว่าจ้างผู้ช่วยครูสองภาษา
13
การฝึกอบรมจิตวิทยาเด็ก
15
ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1
21
กิจกรรมส่งเสริมความสามารถทาง ด้านการอ่านและเขียน
23
ห้องสมุดสำหรับเด็ก
25
การแบ่งปันคือการดูแลซึ่งกันและกัน
26
ค่าใช้จ่ายสำหรับแต่ละกิจกรรม
3
ภาพลักษณ์แบรนด์
ภาพลักษณ์แบรนด์ของเราแสดงถึงเอกลักษณ์ของกู้ดเนเบอร์ซที่มีต่อสาธารณชนในการดำรงชีวิตประจำวัน
ความเป็นผู้นำ
ความเป็นมืออาชีพ
ความน่าเชื่อถือ
ความโปร่งใส
ความเป็นมิตร
ความเป็นสากล
วิสัยทัศน์ พ.ศ. 2573 (Vision 2030) กู้ดเนเบอร์ซ: เสริมพลังผู้คน เปลี่ยนแปลงชุมชน
EMPOWERING PEOPLE, TRANSFORMING COMMUNITIES เราช่วยให้ผู้คนในชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในฐานะตัวแทนหลักของการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเราเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพที่ไม่ สิ้นสุด เราทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างของชุมชนโดยการเปลี่ยนวิธีการมองชุมชน ประเทศ และชุมชนโลก
การต่อยอดการพัฒนาของ GN
พันธมิตรทั่วโลก • แหล่งทรัพยากรทั่วโลก • เครือข่ายทั่วโลก
4
การปฏิบัติตาม SDGs
สาส์นจากผู้อำนวยการประเทศ มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) ได้ดำเนินโครงการการศึกษาในจังหวัดเชียงราย ภาค เหนือของประเทศไทยมาเป็นเวลาถึงห้าปี ผมอยากที่จะแบ่งปันความสำเร็จและกิจกรรมที่ สำคัญของเราในปี 2564 ให้ท่านได้รับทราบ รายงานฉบับนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและ ความพยายามของเราได้เป็นอย่างดี มูลนิธิฯ ได้ร่วมมือกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย (สพป.เชียงราย)
เขต 1 และ 3 สังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการปรับปรุงสภาพ แวดล้อมในการเรียนรู้ของเด็กในโรงเรียน 14 แห่ง ณ จังหวัดเชียงราย และสนับสนุนผู้ช่วย ครูสองภาษาเพื่อให้นักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์สามารถปรับตัวเข้ากับระบบการศึกษาของไทยได้
เป็นอย่างดี เรามีส่วนช่วยในการพัฒนาการรู้หนังสือของเด็กด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ เหมาะสมกับเด็ก โดยที่เด็กๆ สามารถสนุกสนานกับการอ่านหนังสือที่ห้องสมุดโรงเรียนที่ได้ รับการปรับปรุงใหม่ของเรา แม้จะมีการระบาดของ COVID-19 ในปี 2564 แต่เรายังคงร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและภารกิจที่เราวางไว้ ด้วยการสนับสนุน จาก Good Neighbors Global Partnership Center เราให้การสนับสนุนชุดอุปกรณ์การเรียน กระเป๋า และรองเท้าแก่เด็กราว 3,000 คน ในอนาคต มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเด็ก เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเสริมสร้างสภาพ แวดล้อมที่เอื้ออำนวยและปลอดภัย ตลอดจนแก้ไขปัญหาของเด็กในชุมชน โดยจะให้การปกป้องและคุ้มครองเด็กชาติพันธุ์ที่มีความ เสี่ยงด้วยการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชนและเครือข่ายในพื้นที่เชียงราย ด้วยวิสัยทัศน์ของเราที่ว่า 'เสริมพลังผู้คน เปลี่ยนแปลง ชุมชน (EMPOWERING PEOPLE, TRANSFORMING COMMUNITIES)' เรามุ่งมั่นที่จะทำงานเคียงข้างเด็กและชุมชนเสมอ เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณจากใจจริงต่อ สพฐ. สพป.เชียงราย เขต 1 และ 3 ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู ผู้ช่วยครูสองภาษา สมาชิกใน ชุมชนและเครือข่ายต่างๆ ที่สนับสนุนมูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) ด้วยความร่วมมือนี้ เราเชื่อว่า จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิง บวกขึ้นในชุมชน ขอขอบพระคุณครับ
ซอกจุน ฮง ผู้อำนวยการประเทศ
5
เราคือใคร กู้ดเนเบอร์ซ คือ ... องค์กรไม่แสวงหาผลกําไรที่ทํางานเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาระหว่างประเทศ ก่อตั้งขึ้นในประเทศเกาหลี เมื่อปี 2534 เพื่อทำให้โลกใบนี้ปราศจากความหิวโหยและเป็นโลกที่ผู้คนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมเกลียว
48
ประเทศเครือข่าย
184
โครงการชุมชน
กู้ดเนเบอร์ซ ดํารงอยู่เพื่อทำให้ โลกใบนี้ปราศจากความหิวโหยและเป็นโลกที่ผู้คนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมเกลียว
กู้ดเนเบอร์ซ เคารพสิทธิมนุษยชนของเพื่อนบ้านที่กำลังเผชิญกับความยากจน ภัยพิบัติ และการกดขี่ พวกเราช่วยเหลือให้ พวกเขาสามารถดํารงชีวิตอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาตนเองและสามารถกลับมามีความหวังได้อีกครั้ง
เสริมพลังผู้คน เปลี่ยนแปลงชุมชน
6
มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) คือ ... องค์กรไม่แสวงหาผลกําไรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนโครงการการศึกษาแก่ผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่ไม่มีโอกาสใน ชุมชน (หนึ่งในวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งมูลนิธิ)
"ประเทศไทยเป็นบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ถึง 70 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีภาษาเฉพาะของตัวเอง สถิติเผยว่าเด็กจำนวน มากจากชุมชนเหล่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลบริเวณชายแดน ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประสบความ สำเร็จในโรงเรียนรัฐบาลน้อยมาก เนื่องจากมีความบกพร่อง ในการใช้ภาษาไทย"
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ มูลนิธิ ฯ ตระหนักว่า มีกลุ่ม
ในปี 2556 กระทรวงศึกษาธิการพบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 จำนวน 64,000 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 32,000 คน (8% และ 4% ตามลำดับ ของการลง ทะเบียนเรียนในระดับชั้นเหล่านั้น) ไม่รู้หนังสือ"
กลุ่มชาติพันธุ์ในโรงเรียน 14 แห่ง ณ จังหวัดเชียงราย
Gerald W. Fry Education in Thailand An Old Elephant is Search of a New Mahout (หน้า 393 – 394)
การศึกษาที่มีคุณภาพซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมไปสู่การมี
ชาติพันธุ์หลายกลุ่มในจังหวัดเชียงรายที่อาศัยอยู่ใน พื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง และเด็กที่ใช้ภาษาถิ่นตั้งแต่ เกิดต้องเข้าเรียนในโรงเรียนที่ใช้แต่ภาษาไทยเท่านั้น มูลนิธิ ฯ จึงได้สนับสนุนโครงการการศึกษาแก่นักเรียน ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการเรียน รู้และช่วยให้พวกเขาบูรณาการเข้ากับการศึกษาขั้นพื้น ฐานของไทยได้ดีขึ้น
เนื่องจากเด็กทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึง
ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เราทำงานที่ไหน
มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) ทำงานในโรงเรียนบนพื้นที่สูงจำนวน 14 แห่งในจังหวัดเชียงราย
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงราย เขต 1 อำเภอเมืองเชียงราย โรงเรียนบ้านกกน้อยวิทยา โรงเรียนผาขวางวิทยา โรงเรียนบ้านห้วยแม่เลี่ยม โรงเรียนแม่มอญวิทยา โรงเรียนบ้านรวมมิตร โรงเรียนบ้านจะคือ โรงเรียนผาขวางวิทยา สาขาห้องเรียนบ้านลอบือ
8
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงราย เขต 3 อำเภอแม่ฟ้าหลวง โรงเรียนบ้านแม่หม้อ โรงเรียนบ้านจะตี โรงเรียนบ้านผาจี โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ 87 โรงเรียนบ้านห้วยอื้น โรงเรียนบ้านพญาไพร โรงเรียนโรงเรียนตชด.บ้านนาโต่ (วปรอ.344 อุปถัมภ์)
โรงเรียนในพื้นที่เขต 1 อาจดูเหมือน จะเป็นโรงเรียนที่ อยู่ในเมืองและไม่ได้ประสบปัญหาใด ๆ เช่น มีถนน สัญจรไปโรงเรียน ได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษา ที่เหมาะสม สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่มี คุณภาพ ฯลฯ
แล้ว... คนในชุมชนเหล่านี้จะ
แต่ข้อเท็จจริงคือ โรงเรียนเหล่านี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ สูง ซึ่งเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับคนเมืองในการ มาเยี่ยมโรงเรียนเหล่านี้ ในขณะที่คนในชุมชนที่อยู่ ใกล้เคียงโรงเรียนยากที่จะเข้าถึงสิ่งอำนวยความ สะดวกซึ่งมีเฉพาะในเขตเมืองเท่านั้น
อย่างไร
นอกเหนือจากพื้นที่เขต 1 แล้ว โรงเรียนจากพื้นที่เขต 3 ยังตั้งอยู่ใกล้ชายแดนประเทศพม่าด้วย
จึงเป็นนัย
สำคัญของความจำเป็นที่ต้องให้ความช่วยเหลือด้าน ภาษาเป็นอย่างมาก
อยากให้ทุกคนลองจินตนาการดูว่า เรากำลังศึกษาอยู่ใน โรงเรียนที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่
ใช้ชีวิตอย่างไร นักเรียนจะได้ รับการศึกษาที่เหมาะสมและ มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมได้
แล้ว... เราจะเข้าใจสิ่งที่ครูพูด ได้อย่างไร เมื่อมีข้อสงสัยเรา จะคุยกับครูได้อย่างไร และเรา จะเล่นกับเพื่อนได้อย่างไร ใน เมื่อไม่สามารถสื่อสารกับพวก เขาได้
หมายความว่า เด็กเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงที่จะออก จากโรงเรียนกลางคัน
9
ในปี 2564 มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) ได้ให้การ
สนับสนุน นักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ ในโรงเรียน 14 แห่ง อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ และ เราหวังว่านักเรียนในโครงการของเราจะมีความสุขกับชีวิต ในโรงเรียนเพื่อเพิ่มพูนทักษะการเรียนรู้
ในขณะที่คนใน
ท้องถิ่นที่เป็นคนกลุ่มชาติพันธุ์จะได้มีงานทำใกล้บ้านของ ตนเองโดยการทำงานเป็น โครงการที่เราสนับสนุน
10
ผู้ช่วยครูสองภาษา
ผ่าน
การว่าจ้างผู้ช่วยครูสองภาษา เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคทางภาษาที่ส่งผลต่อกระบวนการเรียนรู้ มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) ได้ว่าจ้างผู้ช่วยครู สองภาษาจำนวน 14 คนที่สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาชาติพันธุ์และภาษาไทยและคุ้นเคยกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
14
โรงเรียนในโครงการ
449
นักเรียนชาติพันธุ์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บูรณาการเข้ากับการศึกษาไทย
เราเชื่อว่าผู้ช่วยครูสองภาษาไม่เพียงแต่ช่วยนักเรียนชาติพันธุ์ ในการลดอุปสรรคทางภาษาที่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาสื่อสารกับ ครูคนไทยที่ไม่สามารถพูดภาษาของพวกเขาได้ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถแสดงออกถึงความต้องการได้
14
สมาชิกจากชุมชน ได้รับการว่าจ้าง
อย่างชัดเจน
ผู้ช่วยครูสองภาษาจะทำให้พวกเขารู้สึกเหมือน
อยู่บ้านเนื่องจากพวกเขาพูดภาษาเดียวกันและเพื่อให้นักเรียน กลุ่มชาติพันธุ์รู้สึกสนุกสนานในขณะที่พวกเขาอยู่ที่โรงเรียนที่ ใช้ภาษาไทย
11
การเข้าใจความแตกต่างของนักเรียนแต่ละคนจะช่วย ทั้งครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และผู้ช่วยครูสองภาษาใน การเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
12
การฝึกอบรมจิตวิทยาเด็ก จิตวิทยาเด็กจะช่วยให้ครูระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และผู้ช่วยครูสองภาษาเข้าใจถึงความแตกต่างในลักษณะของ นักเรียน ช่วยให้พวกเขาทราบว่าควรเริ่มต้นกระบวนการเรียนรู้อย่างไร ควรทำการจูงใจอย่างไร และควรให้ท่องจำ หรือเรียนรู้อย่างไร
เนื่องจากผู้ช่วยครูสองภาษาส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ใน ด้านการศึกษาและขาดความรู้ในการจัดการนักเรียน ดังนั้น จึงอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพวกเขาในขณะที่ช่วยเหลือ นักเรียนที่มีลักษณะที่แตกต่างกัน
ผู้ช่วยครูสองภาษา
เพื่อช่วยให้นักเรียนชาติพันธุ์ระดับชั้นป.1 ได้เข้าถึงการ ศึกษาไทย เราตระหนักว่าไม่เพียงแต่พัฒนาขีดความ สามารถของผู้ช่วยครูสองภาษาเท่านั้น แต่ครูระดับชั้น ป.1 ยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีส่วนสำคัญในกระบวนการ เรียนรู้ของนักเรียนอีกด้วย ดังนั้นเราจึงเชิญชวนให้ครู ระดับชั้นป.1 เข้ารับการอบรมด้วย
ครูประจำชั้นป.1
ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมส่วนใหญ่เป็นผู้ช่วยครูสองภาษาที่ไม่มีประสบการณ์ในด้านการศึกษาและไม่รู้ว่าจะ ช่วยเหลือเด็กอย่างไร ในการฝึกอบรม ผู้ช่วยครูสองภาษาของเราจะได้รับทักษะการจัดการเด็กเพื่อช่วย เหลือนักเรียนในห้องเรียนและช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานอย่างได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจาก นักเรียนในโรงเรียนที่เราให้การสนับสนุนนั้นเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาจต้องการการสนับสนุนมากขึ้นเมื่อ พวกเขาเผชิญกับอุปสรรคทางภาษาในโรงเรียนไทย เพื่อช่วยให้นักเรียนเหล่านี้สามารถปรับตัวเข้ากับ การศึกษาของไทยได้ โดยมูลนิธิได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประภาส ณ พิกุล อดีตอาจารย์คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มาเป็นวิทยากรให้กับการอบรมในครั้งนี้ "จากการฝึกอบรมนี้ ฉันได้เพิ่มพูนความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็ก ได้เข้าใจลักษณะเฉพาะของนักเรียนทุกคน และเรียนรู้สิ่งที่เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็ก"
นลินทิพย์ ธรรมบัณฑิต ผู้ช่วยครูสองภาษาจากโรงเรียนบ้านจะคือ
13
252
ลาหู่
147
อาข่า
20
ฮ่อ
12
ไทใหญ่ เมี่ยน
5
ลีซอ
4
กะเหรี่ยง
4
ปะหล่อง
2
จีน
2
ม้ง
1 0
100
200
เนื่องจากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดคือ ลาหู่ และ อาข่า
300
มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ
(ประเทศไทย) จึงได้จัดหาผู้ช่วยครูสองภาษาที่สามารถสื่อสารลาหู่หรืออาข่าเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและ ประเมินผลสัมฤทธิ์ต่าง ๆ เฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ 2 กลุ่มนี้เท่านั้น
14
ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบของสพฐ. (แบบทดสอบความสามารถทางวิชาการ) แบบทดสอบของสพฐ. ประกอบด้วยแบบทดสอบ 2 แบบ คือ (1) แบบทดสอบการอ่านและการเขียน ทดสอบ ระหว่างเดือนมิถุนายน – สิงหาคม พ.ศ. 2564 และ (2) แบบทดสอบการอ่าน (RT) ทดสอบในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 แบบทดสอบของสพฐ. จัดทำขึ้นเพื่อประเมินผลการเรียนของนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการอ่านและ การเขียนซึ่งเป็นรากฐานของกระบวนการเรียนรู้
2563
2564
76%
การอ่าน
75%
จากปี 2563 แม้ว่านักเรียนส่วนใหญ่จะทำแบบทดสอบการ อ่านและการเขียนได้ดี แต่จากผลการทดสอบของ RT ดู
72%
การเขียน
แผนภูมินี้แสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ลดลงจาก 1% - 13%
เหมือนว่านักเรียนจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อ
71%
พัฒนาทักษะการอ่าน 58%
RT
45% 0%
20%
40%
(RT ทำการสอบในปี 2565 แต่ถือว่าเป็นการสอบของปีการศึกษา 2564) 60%
80%
ลาหู่
จากผลการทดสอบปรากฎว่า อาข่ามีผลการสอบที่ดี กว่าลาหู่ จากการติดตามและการให้ความช่วยเหลือมา เป็นเวลา 5 ปี พบว่าลาหู่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่แยกตัว จากกลุ่มอื่น พวกเขาพูดภาษาลาหู่เมื่ออยู่ที่บ้าน ดังนั้น นักเรียนจึงได้ใช้และฝึกภาษาไทยที่โรงเรียนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นักเรียนลาหู่มีจำนวนมากกว่านักเรียน อาข่ากว่าร้อยคน จึงอาจส่งผลต่อผลการทดสอบได้ เช่นกัน
อาข่า
71% การอ่าน
80%
65%
การเขียน
77%
38%
RT
54% 0%
20%
40%
60%
80%
อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่า แบบทดสอบนี้ออกแบบมาเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในด้านทักษะทาง วิชาการและ ผู้ที่ได้รับประโยชน์ของเราในแต่ละปีนั้นแตกต่างกัน ดังนั้น ความสามารถและศักยภาพของนักเรียนแต่ละคนจึง ไม่เหมือนกัน
นักเรียนที่ได้คะแนนน้อยไม่ได้หมายความว่า อ่านหนังสือไม่ออก ในทางกลับกัน ผลการทดสอบการอ่านและการเขียนมีนัยสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าผู้ช่วยครูสองภาษาทั้ง 14 คนของ เรามีความตั้งใจและทำงานหนักเพื่อช่วยให้นักเรียนได้เข้าเรียนในการศึกษาขั้นพื้นฐานของไทย
15
การประสบผลสำเร็จในการทดสอบทางวิชาการแสดงให้เห็นว่า นักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ในวัฒนธรรมที่ใช้ ภาษาไทยในการสื่อสารเป็นหลักหรือไม่
16
ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบ GN Customized Test (ทักษะการสื่อสารภาษาไทยขั้นพื้นฐาน) แบบทดสอบนี้จัดทำ เพื่อประเมินทักษะการสื่อสารภาษาไทยขั้นพื้นฐานของนักเรียนด้วยคำศัพท์และสถานการณ์พื้นฐาน ที่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นผลการทดสอบนี้จึงไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับผลจากแบบทดสอบของ สพฐ. ได้ โดยจะดำเนินการทดสอบปีละสองครั้งด้วยแบบทดสอบก่อนเรียน (pre-test) และแบบทดสอบหลังเรียน (post-test) เพื่อดูพัฒนาการของนักเรียนในรอบปีที่ผ่านมา
ทดสอบก่อนเรียน
ทดสอบหลังเรียน
แผนภูมินี้แสดงให้เห็นว่านักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ ระดับชั้นป. 1 มีทักษะการฟังดีตั้งแต่แรก ในขณะ เดียวกันพวกเขากลับประสบปัญหาในการสอบข้อ เขียน เนื่องจาก ทักษะการเขียนต้องอาศัยความ เข้าใจในการอ่าน ความสามารถในการออกเสียง คำที่ไม่คุ้นเคย และกลุ่มคำศัพท์ ดังนั้น ผลการ ทดสอบในส่วนนี้จึงต่ำกว่าอีกสองส่วนเพราะต้อง ใช้ทักษะที่จำเป็นหลายอย่าง
55% การอ่าน
82%
19% การเขียน
60%
81% การฟัง
92% 0%
25%
50%
75%
อย่างไรก็ตาม จากผลการทดสอบหลังเรียนพบ ว่าคะแนนเพิ่มขึ้น หมายความว่านักเรียนได้พัฒนา ทักษะการเขียนนับตั้งแต่ตอนเริ่มเปิดการศึกษาที่ หนึ่งจนสิ้นสุดภาคการศึกษาที่สอง
100%
ทดสอบก่อนเรียน
ทดสอบหลังเรียน
80%
79%
76%
60%
26%
ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ในแบบ
ทดสอบ GN Customized Test ไม่มีความแตก
40%
25% 54%
50%
ต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างลาหู่กับอาข่า ซึ่งเป็น สิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มชาติพันธุ์ทั้งสอง กลุ่มสามารถที่จะสื่อสารด้วยภาษาไทยได้และยัง
20%
คงพัฒนาความสามารถอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง ปีที่ผ่านมา
0%
ลาหู่
อาข่า
17
สิ่งที่เราต้องดำเนินการ คือ การออกแบบกิจกรรมร่วม กับโรงเรียนเพื่อช่วยให้เด็กนักเรียนได้พัฒนาทักษะทาง วิชาการเพื่อให้พวกเขามีผลสัมฤทธิ์ในแบบทดสอบทาง วิชาการที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เราควรตระหนักไว้ว่ากลุ่มเป้าหมายของ เราคือเด็กและนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถือ เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาภาคบังคับ
18
1
ความสำคัญของ การรู้หนังสือ
“การขาดทักษะการรู้หนังสือที่สำคัญจะฉุดรั้งให้เกิดภาวะถดถอย ในทุกๆ ขั้นของชีวิต ตอนเป็นเด็กจะไม่สามารถที่จะเล่าเรียนได้จน จบการศึกษา เมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวก็จะไม่มีโอกาสเลือก งานในตลาดแรงงาน และเมื่อมีครอบครัวก็จะไม่สามารถสนับสนุน ช่วยเหลือการเรียนรู้ของบุตรได้ วัฏจักรจากรุ่นสู่รุ่นนี้ทำให้การ เปลี่ยนแปลงฐานะทางสังคมและความเป็นธรรมในสังคมเป็นไปได้ ยากยิ่งขึ้น” National Literacy Trust 19
ทักษะการรู้หนังสือ สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ทั้งที่ โรงเรียนและที่บ้าน
อย่างไรก็ตาม
ในบริบทของ
นักเรียนกลุ่มชาติพันธ์ุ พวกเขาไม่ได้สื่อสารหรือแทบ จะไม่ได้ใช้ภาษาไทยที่บ้านเลย
นอกจากนี้พวกเขายังมาจากครอบครัวยากจนที่พ่อ
แม่ให้ความสำคัญกับรายได้มากกว่า หมายความว่า นักเรียนมีโอกาสพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ เฉพาะที่โรงเรียนเท่านั้น
20
กิจกรรมส่งเสริมความสามารถทางด้านการอ่านและเขียน โครงการนี้ได้ดำเนินงานใน 7 โรงเรียน เพื่อช่วยให้นักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์เอาชนะอุปสรรคทางด้านภาษา พัฒนาทักษะการ อ่านออกเขียนได้ และสร้างความมั่นใจในการสื่อสารเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น
7
โรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม
1,154
นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม
เราเชื่อว่ายิ่งเด็กฝึกฝนมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งเก่งขึ้นมากเท่านั้น โรงเรียนออกแบบกิจกรรมทั้งหมดตามความต้องการของนักเรียน
แม่ฟ้าหลวง
เขต 1 1. โรงเรียนผาขวางวิทยา 2. โรงเรียนบ้านห้วยแม่เลี่ยม 3. โรงเรียนบ้านรวมมิตร 4. โรงเรียนบ้านจะคือ
เมืองเชียงราย
เขต 3 1. โรงเรียนบ้านผาจี 2. โรงเรียนบ้านพญาไพร 3. โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บำรุงที่ 87
21
ในการส่งเสริมทักษะการรู้หนังสือของเด็ก สถานที่ที่เราไม่ควรลืมคือ ห้องสมุด
ห้องสมุดที่เป็นมิตรกับเด็ก ในขณะที่โลกของเรากลายเป็นหมู่บ้านโลก (Global Village) ที่ สามารถโต้ตอบกับคนอื่น ๆ ทั่วโลกได้ และเราสามารถเข้าถึง ข้อมูลได้แบบไม่จำกัดจากทุก ๆ ที่ ดังนั้นเราจึงได้รับความรู้ อย่างไม่มีขีดจำกัด
ปัจจุบัน เด็กสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ไม่เพียงแต่ในโรงเรียน เท่านั้น แต่ยังสามารถเรียนรู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป และอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เด็กในชนบทโดยเฉพาะในพื้นที่ราบสูงซึ่งมาจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อีก ทั้งยังมีอุปสรรคด้านภาษาอีกด้วย
2
โรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม
462
นักเรียนชาติพันธุ์
เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้แห่งใหม่
ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่ปี 2563 มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) จึงช่วยสนับสนุนการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของห้องสมุด ให้ดึงดูดความสนใจและเหมาะสม เพื่อให้เด็กๆ มีแหล่งเรียนรู้และมีบรรยากาศในการค้นหาความรู้ใหม่ ๆ ในปี 2564 มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) ได้ปรับปรุงห้องสมุดจำนวน 2 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านห้วยแม่เลี่ยม และ โรงเรียนบ้านผาจี
23
การแบ่งปันคือการดูแลซึ่งกันและกัน เราเชื่อว่า ความสำเร็จในการช่วยเหลือผู้คนให้มีชีวิตที่ดี ขึ้นนั้นไม่ควรให้การสนับสนุนเฉพาะเพียงแค่การพัฒนา ด้านทักษะเท่านั้น แต่ควรจัดหาอุปกรณ์พื้นฐานเพื่อที่จะ ทำให้เกิดการพัฒนาได้อย่างมีคุณภาพ
24
การแบ่งปันคือการดูแลซึ่งกันและกัน ในปี 2564 ผู้บริจาคใจดีได้มอบสิ่งของต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ในโรงเรียน 14 แห่ง ณ จังหวัดเชียงรายได้รับการ ศึกษาอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่กระจายทั่วภูมิภาค
3,827
450
Good Neighbors USA มอบชุดอุปกรณ์การเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความสุขกับการมาเรียนมากยิ่งขึ้น
40,000
บริษัท ท็อปเท็น บิวตี้ เทรดดิ้ง จำกัด แบ่งปันความสุข และโอกาสโดยการมอบเจลแอลกอฮอล์
บริษัท เซ็นทราน อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) บริจาคหน้ากากอนามัยท่ามกลางสถานการณ์ การระบาดของ COVID-19
25
ค่าใช้จ่ายสำหรับแต่ละกิจกรรม (บาท) การแบ่งปันคือการดูแลซึ่งกันและกัน
2,595,181
การว่าจ้างผู้ช่วยครูสองภาษา
1,782,500
ห้องสมุดสำหรับเด็ก
1,757,151
การส่งเสริมความสามารถทางด้านการอ่านและเขียน
53,872
การฝึกอบรมจิตวิทยาเด็ก
14,000
รวม
การว่าจ้างผู้ช่วยครูสองภาษา 28.74%
6,202,704
ห้องสมุดสำหรับเด็ก 28.33%
การส่งเสริมความสามารถทาง ด้านการอ่านและเขียน 0.87% การฝึกอบรมจิตวิทยาเด็ก 0.22%
การแบ่งปันคือการดูแลซึ่งกันและกัน 41.84%
26
ที่ซึ่งเด็ก ๆ สามารถเติบโตได้อย่างมีความสุข ที่ซึ่งทุกคนสามารถวาดฝันถึงความหวัง
โลกที่ดีที่เราฝันใฝ่คือ โลกที่ทุกคนแบ่งปันและสามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้ มืออันอบอุ่นที่กู้ดเนเบอร์ซหยิบยื่นให้ แก่ผู้ด้อยโอกาส เป็นการทำสิ่งเล็กๆ แต่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ทั่วโลก แม้กระทั่งในตอนนี้
เราจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี แก่โลกไปพร้อม ๆ กับกู้ดเนเบอร์ซทั้งหมดทั่วโลก ด้วยความรัก ความมุ่งมั่นตั้งใจ และหัวใจอันหาญกล้า เพื่อเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ
มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) 29 อาคาร Bangkok Business Center ชั้น18 ห้อง 1805 ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
อีเมล :
[email protected] โทรศัพท์ : (+66)2 714 1718
รู้จักเราให้มากขึ้น