สื่อการเรียนรู้การสอบใบอนุญาตขับรถ Learning materials for driving license exam Flipbook PDF

สื่อการเรียนรู้การสอบใบอนุญาตขับรถ Learning materials for driving license exam

95 downloads 120 Views

Story Transcript

E-Book

1

สื่อการเรียนรู้การสอบใบอนุญาตขับรถ Learning materials for driving license exam

ผู้จัดทา ว่าที่ร้อยตรี พงษ์อนันต์ ผิวผ่อง ผลงานโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ ปีการศึกษา 2564

2

คานา (Introduction) ผู้จัดทำได้จัดทำสื่อกำรเรียนรู้ “สื่อกำรเรียนรู้กำรสอบใบอนุญำตขับรถ” ฉบับนี้ขึ้น เพื่อใช้เป็นสื่อในกำรสร้ำงควำมรู้ให้แก่บุคคลทั่วไป ให้มีควำมมั่นใจใน กำรติ ด ต่ อ รำชกำรเพื่ อ ขอรั บ ใบอนุ ญ ำตขั บ รถตลอดจนให้ เ ป็ น สื่ อ ในกำ ร ประสำนงำนสร้ำงควำมโปร่งใสช่วยลดควำมขัดแย้งที่อำจเกิดขึ้นในกำรปฏิบัติงำน รวมทั้งช่วยลดกำรตอบคำถำม โดยสื่อกำรเรียนรู้นี้จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับ หลั ก เกณฑ์ วิธี ก ำร ขั้ น ตอน ระยะเวลำ ค่ ำ ใช้ จ่ ำ ย เอกสำรหรื อ หลั ก ฐำนที่ ใช้ ประกอบคำขอ สถำนที่ให้บริกำร เพื่อลดต้นทุนในกำรไปติดต่อขอรับบริกำรด้ำน กำรขอรับใบอนุญำตขับรถของประชำชน โดยจัดทำให้มีควำมน่ำสนใจ น่ำติดตำม มีตัวอย่ำงประกอบ เป็นปัจจุบันและไม่ล้ำสมัย ซึ่งถือเป็นกำรให้บริกำรประชำชน ตำมหลักกำรบริหำรกิจกำรบ้ำนเมืองที่ดี สื่ อ กำรเรี ย นรู้ ในเนื้ อ หำฉบั บ นี้ ท่ ำ นผู้ ได้ อ่ ำ นจะได้ รั บ สำระควำมรู้ ต่ ำ งๆ เกี่ยวกับขั้นตอนกำรดำเนินกำรด้ำนกำรขอรับใบอนุญำตขับรถ ควำมรู้เกี่ยวกับ กฎหมำยจรำจร ท่ำทดสอบขับรถ ที่ถูกต้อง มำรยำทในกำรปฏิบัติ ฯลฯ เพื่อให้ ท่ำนผู้อ่ำนสำมำรถผ่ำนกำรทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญำตขับรถยนต์และรถจักยำน ยนต์ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อปฏิบัติตำมจะส่งผลให้เกิดสำนึกกำรขับขี่อย่ำงปลอดภัย เคำรพกฎจรำจร มีวินัย เอื้อเฟื้อ แบ่งปันน้ำใจ ห่วงใย เกรงใจ และอภัยให้กันและ กันในกำรขับขี่บนท้องถนนในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สถิติกำรเกิด อุบัติเหตุของประเทศไทยลดลงได้ ผู้จัดทำหวังไว้เป็นอย่ำงยิ่งว่ำสื่อกำรเรียนรู้ฉบับ นี้จะได้ถูกนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประชำชนและผู้ใช้บริกำรต่อไป ผู้จัดทำ ว่ำที่รอ้ ยตรี พงษ์อนันต์ ผิวผ่อง

3

สารบัญ (Contents) หัวข้อที่

หน้าที่

1. กำรขอดำเนินกำรเกีย่ วกับใบอนุญำตขับรถ 2. กำรขอรับใบอนุญำตขับรถ 3. กำรยื่นคำขอพร้อมด้วยหลักฐำนประกอบคำขอ 4. กำรแต่งกำยสำหรับวันทดสอบขับรถ 5. สถำนที่รับกำรอบรมและทดสอบ 6. กฎหมำยที่ต้องรู้กอ่ นกำรสอบใบอนุญำตขับรถ 7. มำรยำทในกำรขับรถและกำรขับรถอย่ำงปลอดภัย 8. กำรบำรุงดูแลรักษำรถ 9. กำรทดสอบสมรรถภำพของร่ำงกำย 10. กำรเข้ำรับอบรมควำมรู้ต่ำงๆ เกี่ยวกับกำรขับรถ 11. ทดสอบข้อเขียนผ่ำนระบบ Electronic Examination (E-exam) 12. ขั้นตอนกำรทดสอบขับรถ 13. ขั้นตอนกำรชำระค่ำธรรมเนียม/ถ่ำยรูปและรับใบอนุญำต 14. บรรณำนุกรม

4 5 6 7 8 9-38 39-42 43-48 49-51 52 53-90 89-95 96 97-98

4

การขอดาเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถ ให้ยื่นคำขอต่อนำยทะเบียนตำมแบบที่กรมกำรขนส่งทำงบก กำหนด ณ สำนักงำนขนส่งกรุงเทพมหำนคร พื้นที่ 1 - 5 สำนักงำน ขนส่งจังหวัด และสำขำอำเภอ หรือสถำนที่อื่นที่อธิบดีกำหนด ใบอนุญำตขับรถตำมกฎหมำยแบ่งออกเป็น 11 ชนิดซึ่งมีอำยุ กำรใช้งำนและค่ำธรรมเนียมดังนี้ ชนิดของใบอนุญาต

อายุ (ปี)

ค่า รรมเนียม (บาท)

1) ใบอนุญำตขับรถชั่วครำว ได้แก่ (ก) ใบอนุญำตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วครำว (ข) ใบอนุญำตขับรถยนต์สำมล้อส่วนบุคคลชั่วครำว (ค) ใบอนุญำตขับรถจักรยำนยนต์ส่วนบุคคลชั่วครำว

2 2 2

200 100 100

2) ใบอนุญำตขับรถยนต์ส่วนบุคคล

5

500

3) ใบอนุญำตขับรถยนต์สำธำรณะ

3

300

4) ใบอนุญำตขับรถยนต์สำมล้อส่วนบุคคล

5

250

5) ใบอนุญำตขับรถยนต์สำมล้อสำธำรณะ

3

150

6) ใบอนุญำตขับรถจักรยำนยนต์ส่วนบุคคล

5

250

7) ใบอนุญำตขับรถจักรยำนยนต์สำธำรณะ

3

150

8) ใบอนุญำตขับรถบดถนน

5

250

9) ใบอนุญำตขับรถแทรกเตอร์

5

250

10) ใบอนุญำตขับรถชนิดอื่นนอกจำก ( ) ถึง ( )

5

100

11) ใบอนุญำตขับรถตำมควำมตกลงระหว่ำงประเทศที่ประเทศไทย เป็นภำคี

1

500

5

การขอรับใบอนุญาตขับรถ สามารถดาเนินการได้ 2 กรณี คือ 1. สมัครเข้ำรับอบรมและทดสอบกับโรงเรียนสอนขับรถ 2. สมัครเข้ำรับอบรมและทดสอบกับกรมกำรขนส่งทำงบก ก่อนเข้ารับการอบรมเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถ ต้องมีคุคณ ุ สมบัติ ให้ครบถ้วน ดังนี้ 1. ผู้ ขอรับใบอนุ ญ ำตต้ องมี อำยุ ไม่ ต่ ำกว่ำ 18 ปี บริ บู รณ์ (ยกเว้น สำหรับรถจักรยำนยนต์ควำมจุกระบอกสูบขนำดไม่เกิน 90 ซีซี ต้องมี อำยุไม่ต่ำกว่ำ 15 ปีบริบูรณ์) 2. มีควำมรู้ควำมสำรถในกำรขับรถ มีควำมรู้ในข้อบังคับกำรเดินรถ ตำมกฎหมำยว่ำด้วยรถยนต์ และกฎหมำยว่ำด้วยกำรจรำจรทำงบก 3. ไม่เป็นผู้มีร่ำงกำยพิกำรจนเป็นที่เห็นได้ว่ำไม่สำมำรถขับรถได้ 4. ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรมเห็นว่ำอำจเป็น อันตรำยขณะขับรถ 5. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน 6. ไม่มีใบอนุญำตขับรถชนิดเดียวกันอยู่แล้ว 7. ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่ำงถูกยึดหรือเพิกถอนใบอนุญำตขับรถ 8. ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญำตขับรถซึ่งมิใช่จำกเหตุขำดคุณสมบัติ เรื่องอำยุของผู้ขอใบอนุญำตขับรถ เว้นแต่ได้พ้นกำหนด 3 ปีไปแล้ว นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญำตขับรถ โดยให้อธิบดีกำหนดเงื่อนไขใน กำรพิจำรณำกำรออกใบอนุญำตขับรถไว้ด้วย

6

การยื่นคาขอพร้อมด้วยหลักฐานประกอบ คาขอ การขอรับใบอนุญาตขับรถ รถ 1. บัตรประจำตัวประชำชน ในกรณีผู้ขอเป็นคนต่ำงด้ำวตำมกฎหมำย ว่ำด้วยคนเข้ำเมือง ให้ยื่นเอกสำรหรือหลักฐำน ดังนี้ 2. ใบส ำคั ญ ประจ ำตั วคนต่ ำงด้ ำวหรือ หนั งสื อ เดิ น ทำง (PASSPORT) หรือเอกสำรที่ใช้แทนหนังสือเดินทำงพร้อมด้วยภำพถ่ำย 3. ใบรับรองแพทย์ซึ่งแสดงว่ำ ไม่มีโรคประจำตัวหรือไม่มีสภำวะของ โรคที่ผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรมเห็นว่ำ อำจเป็นอันตรำยขณะขับรถตำมที่ แพทย์ ส ภำก ำหนด และไม่ เป็ น บุ ค คลวิ ก ลจริ ต หรื อ จิ ต ฟั่ น เฟื อ น โดย ใบรับรองแพทย์ให้มีอำยุใช้ได้ตำมที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด เว้นแต่ในกรณี ที่ใบรับรองแพทย์ ไม่ได้กำหนดอำยุไว้ ให้ใช้ได้ไม่เกินหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ ออกใบรับรองแพทย์

7

การแต่งกายสาหรับวันทดสอบขับรถ กำรแต่ งกำยสุ ภำพ เรี ยบร้ อย เหมำะสมกั บกำลเทศะเป็ นกำร เคำรพและให้ เกี ยรติ สถำนที่ และผู้ ที่ ท่ ำนไปติ ดต่ อรำชกำรด้ วย ซึ่งจะ ส่งผลให้ผู้พบเห็นเคำรพและให้เกียรติท่ำนเช่นกัน นอกจำกนี้เมื่อท่ำน สอบผ่ำนแล้วต้องมีกำรบันทึกภำพถ่ำยไว้ในใบอนุญำตซึ่งจะอยู่กับท่ำน ตลอดอำยุของใบอนุญำต ตัวอย่ำง กำรแต่งกำยสุภำพ หญิง/ชำย เสื้อ > ไม่ควรสวมเสื้อแขนกุด สำยเดี่ยวหรือบำงมำก กระโปรง/กำงเกง > ควำมยำวเหมำะสมไม่สั้นเกินไป รองเท้ำหุ้มส้นหรือมีสำยรัด > ไม่ควรสมรองเท้ำแตะ

มำก่อนเวลำนัด 30 นำที หำกไม่มำติดต่อภำยในเวลำที่กำหนดถือ ว่ำท่ำนสละสิทธิ์และต้องจองคิวใหม่ ควรเตรียมสภำพร่ำงกำยและจิตใจ ให้พร้อม เช่น นอนหลับให้เพียงพอ จิตใจผ่อนคลำย มีสมำธิ เพื่อให้มี ควำมพร้อมในกำรอบรมและทดสอบอย่ำงเต็มที่

8

สถานที่รับการอบรมและทดสอบ 1) หน่วยงำนของกรมกำรขนส่งทำงบก(สำนักงำนขนส่งกรุงเทพมหำนคร พื้นที่ 1-5 สำนักงำนขนส่งจังหวัดและสำนักงำนขนส่งสำขำอำเภอ 2) โรงเรียนสอนขับรถที่ กรมกำรขนส่งทำงบกให้ กำรรับรองโดยสำมำรถ สอบถำมตำแหน่งที่ตั้งและหมำยเลขโทรศัพท์ได้ที่ โทร 1584 หรือค้นหำ ข้อมูลได้ที่ www.dlt.go.th กำรขออบรมจำกกรมกำรขนส่ ง ทำงบก ก่ อ นเข้ ำ รั บ กำรอบรม ท่ ำ นต้ อ งจองที่ นั่ ง หรื อ คิ ว อบรมล่ ว งหน้ ำ กำรอบรมและทดสอบโดย สำมำรถดำเนินกำรได้ 3 ช่องทำง ดังนี้ 1. จองคิ ว ด้ วยตนเอง เจ้ ำหน้ ำที่ จ ะกรอกข้ อ มู ล เข้ ำระบบให้ ท่ ำน เมื่ อ ดำเนินกำรเสร็จเรียบร้อยจะออกใบนัดให้กับท่ำนเพื่อให้มำเข้ำรับกำรอบรม ตำมวัน เวลำ ที่ระบุในใบนัด 2. จองคิวทำงโทรศัพท์ เจ้ำหน้ำที่จะแจ้งกำหนดวันเข้ำรับกำรอบรมให้ท่ำน ทรำบโดยทันทีภำยหลังกำรจองคิว 3. จองคิ ว ผ่ ำ นระบบออนไลน์ ที่ เว็ บ ไซต์ http://ebooking.dlt.go.th/ booking-training/ กรอกข้ อ มู ล ให้ ค รบถ้ ว นทุ ก ช่ อ ง เมื่ อ กรอกข้ อ มู ล เรี ย บร้ อ ยแล้ ว ระบบจะแสดงผลข้ อ มู ล กำรจอง ท่ ำนควรจดหรื อพิ ม พ์ ticket ID หมำยเลขที่ จองไว้ เพื่ อใช้ ในกำรติดต่อกับเจ้ำหน้ำที่ในวันที่ มำ อบรมและทดสอบหำกท่ำนต้องกำรเปลี่ยนแปลงวัน เวลำอบรมให้ไปที่เมนู แก้ไขข้อมูลกำรจองที่นั่งอบรมโดยอนุญำตให้แก้ไขได้ก่อนวันนัดอบรม 2 วัน

9

ข้อมูลที่ต้องรู้ก่อนการสอบใบอนุญาตขับรถ การสอบใบอนุญ าตขับรถผู้เข้าอบรมไม่เพี ยงแต่มีค วามพร้อม ทางร่างกายยังต้องมีความรู้ในกฎหมาย การมีมารยาทในการขับรถ และการบารุงดูแลรักษารถอีกด้วย จึงมีหัวข้อหลักๆที่ควรรู้ดังต่อไปนี้ 1. พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 2. พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 3. มารยาทในการขับรถและการขับรถอย่างปลอดภัย 4. การบารุงดูแลรักษารถ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ 1. ลักษณะรถที่ห้ามนามาใช้ในทาง - รถที่มีสภำพไม่มั่นคงแข็งแรง หรืออำจเกิดอันตรำย - รถที่มิได้ติดแผ่นป้ำยเลขทะเบียน - รถที่ ผู้ ขั บ ขี่ ไม่ อ ำจแลเห็ น ทำงพอแก่ ค วำมปลอดภั ย มำใช้ ใน ทำงเดินรถ

10

2. การใช้ไฟของรถ การใช้ไฟของรถที่ถูกต้องควรมี 2 ขั้นตอน หลักดังนี้ 1. ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถในทำงต้องเปิดไฟ หรือใช้แสงสว่ำง ในเวลำที่ มีแสงสว่ำงไม่เพียงพอที่จะมองเห็นคน รถหรือสิ่งกีดขวำงในทำงได้โดย ชัดแจ้งภำยในระยะไม่น้อยกว่ำ 150 เมตร 2. ใช้แสงสว่ำงตำมประเภท ลักษณะ และเงื่อนไขที่กำหนดใน กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2522) 3. การใช้เสียงสัญญาณของรถ กำรใช้ เสี ย งสั ญ ญำณ ผู้ ขั บ ขี่ จ ะใช้ ไ ด้ เฉพำะเมื่ อ จ ำเป็ น หรื อ ป้องกันอุบัติเหตุเท่ำนั้น แต่จะใช้เสียงยำวหรือซ้ำเกินควรไม่ได้ โดยรถ แต่ ล ะชนิ ด ที่ ใช้ในทำงเดิ น รถ ผู้ขั บขี่ ต้ องใช้ เสี ยงสัญ ญำณโดยเฉพำะ ดังต่อไปนี้ 1. เสียงแตรสำหรับรถยนต์หรือรถจักรยำนยนต์ และให้ได้ยินได้ ในระยะไม่น้อยกว่ำ 60 เมตร 2. เสียงระฆัง สำหรับรถม้ำ และให้ได้ยินได้ในระยะไม่น้อยกว่ำ 30 เมตร 3. สียงกระดิ่ง สำหรับรถจักรยำน และให้ได้ยินได้ในระยะไม่ น้อยกว่ำ 3 เมตร

11

4. รถฉุกเฉิน เมื่อคนเดินเท้ำ ผู้ขับขี่ หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์เห็นรถฉุกเฉินในขณะ ปฏิบัติหน้ำที่ใช้ไฟสัญญำณแสงวับวำบ หรือได้ยินเสียงสัญญำณไซเรน หรือ เสียงสัญญำณอย่ำงอื่นตำมที่ผู้บัญชำกำรตำรวจแห่งชำติกำหนดไว้ คนเดิน เท้ำ ผู้ขับขี่ หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์ต้องให้ รถดับเพลิง และรถพยำบำลของ รำชกำรบริหำรส่วนกลำง รำชกำรบริหำรส่วนภูมิภำค และรำชกำรบริหำร ส่วนท้องถิ่น หรือรถอื่นที่ได้รับอนุญำตจำกผู้บัญชำกำรตำรวจแห่งชำติให้ใช้ ไฟสัญญำณแสงวับวำบ หรือให้ ใช้เสียงสั ญญำณไซเรนหรือเสียงสัญญำณ อย่ำงอื่นตำมที่จะกำหนด ให้ไปก่อน โดยปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1. สำหรับคนเดินเท้ำต้องหยุดและหลบให้ชิดขอบทำง หรือขึ้น ไปบนทำงเขตปลอดภัย หรือไหล่ทำงที่ใกล้ที่สุด 2. ส ำหรั บ ผู้ ขั บ ขี่ ต้ อ งหยุ ด รถหรือ จอดรถให้ อ ยู่ ชิ ด ขอบทำง ด้ำนซ้ ำย หรือ ในกรณี ที่ มี ช่ อ งเดิ น รถประจ ำทำงอยู่ท ำงด้ ำนซ้ำยสุด ของ ทำงเดินรถ ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดช่องเดินรถประจำทำง แต่ห้ำม หยุดรถหรือจอดรถในทำงร่วมทำงแยก 3. สำหรับผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์ต้องบังคับสัตว์ให้หยุดชิ ดทำง แต่ห้ำมหยุดในทำงร่วมทำงแยก

12

5. การขับรถ ในขณะขับรถในทำงเดินรถ ผู้ขับขี่ต้อง มีใบอนุญำตขับขี่อยู่กับตัวและต้องแสดงต่อเจ้ำ พนักงำนจรำจรเมื่อขอตรวจ ทั้งนี้ หำกผู้ขับขี่ แสดงใบอนุ ญ ำตขั บ ขี่ ด้ ว ยวิ ธี ก ำรทำงข้ อ มู ล อิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนำภำพถ่ำยใบอนุญ ำต ขับขี่ต ำมที่กรมกำรขนส่งทำงบกกำหนด ก็ให้ ถือว่ำผู้ขับขี่มีใบอนุญำตขับขี่อยู่กับตัวแล้ว 6. การขับแซงและผ่านขึ้นหน้า หำกผู้ขับขี่ประสงค์จะขับรถแซงเพื่อขึ้น หน้ ำ รถอื่ น ในทำงเดิ น รถ ซึ่ ง ไม่ ไ ด้ แ บ่ ง ช่ อ ง ทำงเดินรถไว้ ต้องให้สัญญำณโดยกระพริบไฟ หน้ำหลำยครั้ง หรือให้ไฟสัญญำณยกเลี้ ยวขวำ หรือให้เสียงสัญญำณดังพอที่จะให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับ รถคันหน้ำให้สัญญำณตอบ คือ ยื่นแขนขวำตรง ออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่ และโบกมือไป ทำงข้ำงหน้ำหลำยครั้ง หรือให้ไฟสัญ ญำณยก เลี้ ย วสี เ หลื อ งอ ำพั น หรื อ ให้ ไ ฟ สั ญ ญ ำณ กระพริบสีแดงหรือสีเหลืองอำพันที่ติดอยู่ท้ำย รถทำงด้ำนซ้ำ ยของรถ และเมื่อเห็นว่ำไม่เป็น กำรกีดขวำงรถอื่นที่กำลังแซงแล้ว จึงจะแซงขึ้น หน้ำได้

13

7. เมาไม่ขับ สุรำทำให้เกิดอุบัติเหตุจรำจรสูงถึงร้อยละ 50 % คนไทยเสียชีวิต จำกอุบัติเหตุเฉลี่ย ชั่วโมงละ 2 คน สูญเสียทำงด้ำนเศรษฐกิจกว่ำ หนึ่งแสน ล้ำนบำทต่อปี และยังเป็นสำเหตุกำรตำยอันดับ 1 ของกำรขับขี่ ซึ่งทั้งหมด เกิดจำกกำรขับขี่รถขณะมึนเมำสุรำ การตรวจระดับแอลกอฮอล์ในเลือดตรวจได้อย่างไร 1. ตรวจทำงลมหำยใจ โดยกำรใช้ เครื่ องตรวจแอลกอฮอล์ แบบ พกพำ 2. ตรวจในเลือดโดยตรง 3. ตรวจในปัสสำวะ ในประเทศไทยได้กำหนดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ในคนขับรถไว้ที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ผู้ฝ่ำฝืนมีโทษตำมพระรำชบัญญัติจรำจรทำงบก พ.ศ. 2522 ตำมมำตรำ 43 (2) จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับ 2,000-10,000 บำท ซึ่งหลักเกณฑ์และวิธีกำรตรวจวัดปริมำณแอลกอฮอล์นั้นกำหนด ใน กฎกระทรวง ฉบับที่ 16 (พ.ศ. 2537)

14

8. หมวกนิรภัย ผู้ขับขี่รถจักรยำนยนต์และคนโดยสำรรถจักรยำนยนต์ต้ องสวม หมวกที่จัดทำขึ้นโดยเฉพำะเพื่อป้องกันอันตรำยในขณะขับขี่และโดยสำร รถจั ก รยำนยนต์ ห้ ำ มมิ ให้ ผู้ ขั บ ขี่ ร ถจั ก รยำนยนต์ ต ำมวรรคหนึ่ งขั บ ขี่ รถจั กรยำนยนต์ ในขณะที่ คนโดยสำรรถจั กรยำนยนต์ มิ ได้ สวมหมวกที่ จัดทำขึ้นโดยเฉพำะเพื่อป้องกันอันตรำยโดยลักษณะและวิธีกำรใช้หมวก เพื่อป้องกันอันตรำยตำมวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง อย่ำงไรก็ตำมกรณีดังกล่ำวมิให้ใช้บังคับแก่ภิกษุ สำมเณร นักพรต นักบวช หรือผู้นับถือลัทธิศำสนำอื่นที่ใช้ผ้ำหรือสิ่งอื่นโพกศีรษะตำมประเพณีนิยม นั้น หมวกนิรภัย มี 3 แบบ (กฎกระทรวง ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522) ดังนี้ 1. หมวกนิรภัยแบบปิดเต็มหน้ำ เป็นหมวกเต็มใบเปิดช่วง หน้ำ ตรงตำแหน่งตำเท่ำนั้นมีส่วนป้องกันปำกและคำงด้ำนหน้ำ 2. หมวกนิรภัยแบบเต็มศีรษะ เป็นรูปทรงกลมปิดด้ ำน ข้ำงและ ด้ำนหลังเสมอแนวขำกรรไกรและต้นคอด้ำนหลัง ด้ำนหน้ำเปิดเหนือคิ้ว ลงมำถึง ปลำยคำงและมีสำยรัดคำง 3. หมวกนิรภัยแบบครึ่งศีรษะเป็นรูป ครึ่งทรงกลม ปิดด้ำนข้ำง และด้ำนหลังเสมอระดับหูคลุมได้ครึ่งศีรษะ มีสำยรัดคำงหมวก ชนิดนี้ สำมำรถป้องกันได้เฉพำะศีรษะส่วนบนเท่ำนั้น

1

2

3

15

9. เข็มขัดนิรภัย อุ บั ติ เหตุ จ รำจรทำงบกเป็ น ปั ญ หำส ำคั ญ ที่ ท ำให้ เกิ ด กำร บำดเจ็บ กำรสูญเสียชีวิต ร่ำงกำยและทรัพย์สิน ตลอดจนเศรษฐกิจ โดยรวมของประเทศชำติ อันตรำยจำกกำรประสบอุบัติเหตุมีตั้งแต่ แผลถลอก แผลฉีกขำด กระดูกหัก เลือดตกในช่องท้อง อวัยวะภำยใน ช่องท้องฉีกขำด เป็นต้น ดั งนั้ น มำตรกำรป้อ งกั น ไม่ ให้ ผู้ ขั บ ขี่ รถยนต์ และผู้ โดยสำร รถยนต์เป็นอันตรำยด้วยกำร คำดเข็มขัดนิรภัยในขณะขับขี่รถยนต์ เพื่ อ ช่ ว ยป้ อ งกั น ไม่ ใ ห้ ศี ร ษะและล ำตั ว ถู ก เหวี่ ย งไป กระแทกกั บ พวงมำลั ย หรื อ กระจกรถยนต์ จะช่ ว ยลดควำมรุ น แรงอั น เกิ ด จำก อุบัติเหตุได้เมื่อเกิด กำรชนของรถ ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสำรที่นั่งหน้ำจะถูก เหวี่ยงให้กระแทกกับพวงมำลัย กระจก หน้ำ หลังคำ หรือประตูรถ แรงของกำรชนขึ้น อยู่กับควำมเร็วของรถ โอกำสที่ เกิด อุบัติ เหตุขึ้ น ภำยใน 0.004 วินำที แรงกระแทกที่เกิดขึ้นประมำณ 1,400 กิโลกรัม อำจทำให้เกิดกำรบำดเจ็บต่ออวัยวะต่ำงๆ ของร่ำงกำย เช่น ศีรษะ คอ หน้ำอก ช่องท้อง และกระดูกเชิงกรำน

16

ผู้ ขั บ ขี่ ร ถยนต์ จึ ง ต้ อ งรั ด ร่ ำ งกำยด้ ว ยเข็ ม ขั ด นิ ร ภั ย ไว้ กั บ ที่ นั่ ง ในขณะขับขี่รถยนต์ และต้องจัดให้คนโดยสำรรถยนต์รัดร่ำงกำยไว้กับที่ นั่งด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสำรรถยนต์ และคนโดยสำรรถยนต์ดังกล่ำว ต้องรัดร่ำงกำยด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะโดยสำรรถยนต์ด้วย ฝ่ำ ฝื น มี โทษปรั บ ไม่ เกิ น 500 บำท ตำม มำตรำ 148 และผู้ ขั บ ขี่ จ ะมี ควำมผิดเสมอหำกตนเองและหรือคนโดยสำรไม่รัดเข็มขัดนิรภัย หรือรัด ไม่ถูกวิธี กล่ำวคือ ผู้ขับขี่ไม่รัดเข็มขัดนิรภัยก็จะมีควำมผิดส่วนหนึ่งและ จะมีควำมผิดอีกส่วนหนึ่ง หำกคนโดยสำรที่นั่งตอนหน้ำแถวเดียวกับผู้ขับ ขี่ไม่รัดเข็มขัดนิรภัยหรือรัดไม่ถูกวิธี (เป็นควำมผิด ต่ำงกรรม ต่ำงวำระ) ซึ่งจะมีโทษปรับรวมแล้วไม่เกิน 1,000 บำท 10. การขับขี่รถให้ปลอดภัย ในกำรขับรถผู้ขับขี่ต้องขับรถในทำงเดินรถด้ำนซ้ำยและต้องไม่ ล้ ำกึ่ งกลำงของทำงเดิ น รถเว้น แต่ ก รณี ต่ อ ไปนี้ ที่ ผู้ ขั บ ขี่ ส ำมำรถขั บ ล้ ำ กึ่งกลำงของทำงเดินรถหรือขับเข้ำไปในทำงเดินขวำได้ ดังตัวอย่ำง ด้ำนซ้ำยของทำงเดินรถมีสิ่งกีดขวำง หรือถูกปิดกำรจรำจร

17

11. ห้ามผู้ขับขี่ขับรถในกรณี ดังต่อไปนี้ - ในขณะหย่อนควำมสำมำรถในอันที่จะขับ

- ในขณะเมำสุรำหรือของมึนเมำอย่ำงอื่น

- ในลักษณะกีดขวำงกำรจรำจร

18

- โดยประมำทหรือน่ำหวำดเสียว

อันอำจเกิดอันตรำยแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน หรือ ในลักษณะ ที่ผิดปกติวิสัยของกำรขับรถตำมธรรมดำ โดยไม่คำนึงถึงควำมปลอดภัย หรือควำมเดือดร้อนของผู้อื่น เช่น กำรขับรถยนต์บรรทุกพ่วงซึ่งเป็นรถ ขนำดใหญ่บรรทุกหินเต็มคันรถด้วยควำมเร็วสูงในทำงแคบ ถือได้ว่ำเป็น กำรขั บ รถโดยป ระม ำท ห รื อ น่ ำห วำด เสี ย ว (ค ำพิ พ ำกษ ำฎี กำ ที่ 6450/2558) เป็นต้น - ขับรถคร่อมหรือทับเส้นหรือแนวแบ่งช่องเดินรถ

19

- ขับรถบนทำงเท้ำโดยไม่มีเหตุอันสมควร เว้นแต่รถลำกเข็น สำหรับทำรก คนป่วยหรือคนพิกำร

- ใ น ข ณ ะ ใ ช้ โ ท ร ศั พ ท์ เค ลื่ อ น ที่ เว้ น แ ต่ ก ำ ร ใ ช้ โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับกำรสนทนำโดยผู้ขับขี่ไม่ ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น

20

12. สัญญาณจราจรและเครื่องหมายจราจร ผู้ ขั บ ขี่ ต้ อ งปฏิ บั ติ ใ ห้ ถู ก ต้ อ งตำมสั ญ ญ ำณ จรำจรและ เครื่ อ งหมำยจรำจรที่ ได้ ติ ด ตั้ ง ไว้ ห รื อ ท ำให้ ป รำกฏในทำงหรื อ ที่ เจ้ ำ พนักงำนจรำจรแสดงให้ทรำบ ผู้ขับขี่ต้อปฏิบัติให้ถูกต้องตำมสัญญำณจรำจรและเครื่องหมำย จรำจรที่ ได้ ติ ด ตั้ ง ไว้ ห รื อ ท ำให้ ป รำกฏในทำง เช่ น สั ญ ญ ำณ ไฟ จรำจร สั ญ ญำณไฟจรำจร โดยทั่ วไปประกอบด้ วยสั ญ ญำณไฟสำมสี ติดตั้งตำมทำงแยกต่ำง ๆ เพื่อควบคุมกำรจรำจรตำมทำงแยก โดยทั้งสำมสี ได้แก่ สีแดงให้รถหยุด สีเหลืองให้รถระวัง เตรียมหยุด และสีเขียวคือให้รถ ไปได้ สำหรับสัญญำณไฟจรำจรพิเศษอำจมีสีเหลืองเพียงสีเดียวจะกะพริบ อยู่ ใช้สำหรับทำงแยกที่ไม่พลุกพล่ำน หมำยถึง ให้ระมัดระวังว่ำมีทำงแยก และดูควำมเหมำะสมในกำรออกรถได้เอง หรือ สัญญำณไฟจรำจรสำหรับ กำรข้ำมถนน หรือ สัญญำณไฟจรำจรไว้สำหรับเปลี่ยนเลน เป็นต้น และ ป้ ำยจรำจร โดยป้ ำยจรำจรเป็ นป้ ำยทำงกำรควบคุ มกำรจรำจร แบ่ ง ออกเป็ น สำมประเภท คื อ ประเภทแรกเครื่ อ งหมำยจรำจร ป้ ำ ย บังคับ มักจะมีพื้นสีขำว ขอบสีแดง เป็นป้ำยกำหนด ต้องทำตำม เช่น ห้ำม เลี้ ยวขวำ ประเภทสองเครื่องหมำยจรำจร ป้ ำยเตื อน มั กจะมี พื้ นสีขำว ขอบสี ด ำ จะเป็ น ป้ ำ ยแจ้ งเตื อ นว่ ำ มี อ ะไรอยู่ ข้ ำ งหน้ ำ ประเภทสำม เครื่องหมำยจรำจร ป้ำยแนะนำ เป็นป้ำยที่แนะนำกำรเดินทำงต่ำง ๆ อำทิ ทำงลัด ป้ำยบอกระยะทำง ส่วนกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตำมที่ เจ้ ำพนั กงำนจรำจรแสดงให้ ท รำบ เช่ น กำรที่ เจ้ ำหนั กงำนจรำจรเป่ ำ นกหวีด หรือทำสัญญำณมือแขน เป็นต้น ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตำมสัญญำณจรำจรและเครื่องหมำย จรำจรที่ ได้ ติ ดตั้ งไว้ หรือท ำให้ ปรำกฏในทำงหรือที่ เจ้ ำพนั กงำนจรำจร แสดงให้ทรำบดังป้ำยต่ำงๆดังนี้

ประเภทป้ายจราจรประเภทป้ายบังคับ

21

หยุ ด : รถทุ ก ชนิ ด ต้ อ งหยุ ด เมื่ อ เห็ น ว่ ำ ปลอดภั ย แล้ ว จึ ง ให้ เคลื่อนรถต่อไปได้ด้วยระมัดระวัง ให้ทาง : รถทุกชนิดต้องระมัดระวังและให้ทำงแก่รถ และ คนเดินเท้ำในทำงขวำงหน้ำผ่ำนไปก่อนเมื่อเห็นว่ำปลอดภัย และไม่เป็นกำรกีดขวำงกำรจรำจรที่บริเวณทำงแยกนั้นแล้ว จึงให้เคลื่อนต่อไปได้ด้วยควำมระมัดระวัง ให้ ร ถสวนทางมาก่ อ น : ให้ ร ถทุ ก ชนิ ด หยุ ด รถตรงป้ ำ ย เพื่ อ ให้ รถที่ กำลังสวนทำงมำก่อ น ถ้ำมีข้ำงหน้ ำหยุด รออยู่ ก่อน ก็ให้หยุดรถถัดต่อกันตำมลำดับ เมื่อรถที่สวนทำงมำได้ ผ่ำนหมดแล้วจึงให้รถที่หยุดรอตำมป้ำยนี้เคลื่อนไปได้ ห้ามแซง : ห้ำมมิให้ขับรถแซงขึ้นหน้ำรถคันอื่นใน เขตทำงที่ติดตั้งป้ำย ห้ามเข้า : ห้ำมมิให้รถทุกชนิดเข้ำไปในเขตทำงที่ติดตั้งป้ำย

22

ห้ามเลี้ยวซ้าย : ห้ำมมิให้เลี้ยวรถไปทำงซ้ำย ห้ามกลับรถไปทางขวา : ห้ำมกลับรถไปทำงขวำ ห้ามเลี้ยวซ้ายหรือกลับรถ : ห้ำมมิให้เลี้ยวรถไปทำงซ้ำย หรือห้ำมกลับ ห้ามเลี้ยวขวาหรือกลับรถ : ห้ำมมิให้เลี้ยวรถไปทำงขวำ หรือห้ำมกลับ ห้ามเลี้ยวซ้ายหรือกลับรถ : ห้ำมมิให้เลี้ยวรถไปทำงซ้ำย หรือห้ำมกลับ ห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางขวา : ห้ำมให้เปลี่ยนช่อง เดินรถ หรือช่องจรำจรไปทำงขวำ ห้ามใช้เสียง : ห้ำมให้ใช้เสียงสัญญำณ หรือทำให้เกิดเสียง ที่ก่อกำรรบกวนด้วยประกำรใดๆ ในเขตที่ติดตั้งป้ำย ห้ามรถยนต์ : ห้ำมรถยนต์ทุกชนิดผ่ำนเข้ำไปในเขตทำงที่ ติดตั้งป้ำย จักรยานยนต์ : ห้ำมรถจักรยำนยนต์ สำมล้อ และ รถจักรยำนยนต์ผ่ำนเข้ำไปในเขตทำงที่ติดตั้งป้ำย ห้ามรถพ่วง : ห้ำมรถพ่วงหรือรถกึ่งพ่วงทุกชนิดผ่ำนเข้ำไป ในเขตทำงที่ติดตั้งป้ำย

23

ห้ามรถยนต์สามล้อ : ห้ำมรถยนต์สำมล้อผ่ำนเข้ำไปใน เขตทำงที่ติดตั้งป้ำย ห้ามรถสามล้อ : ห้ำมรถสำมล้อเข้ำไปในเขตทำงที่ติดตัง้ ป้ำย ห้ามรถจักรยาน : ห้ำมรถจักรยำนผ่ำนเข้ำไปในเขตทำง ที่ตั้งป้ำย ห้ามล้อเลื่อนลากเข็น : ห้ำมล้อเลื่อนลำกเข็นผ่ำนไปใน เขตทำงที่ติดตั้งป้ำย ห้ามรถยนต์ที่ใช้ในการเกษตร : ห้ำมรถยนต์ที่ใช้ในกำรเกษตร ทุกชนิดผ่ำนเข้ำไปในเขตทำงที่ติดตั้งป้ำย ห้ามรถแทรกเตอร์ : ห้ำมรถแทรกเตอร์ผ่ำนเข้ำไปในเขต ทำงที่ติดตัง้ ป้ำย ห้ามเกวียน : ห้ำมเกวียนทุกชนิดผ่ำนเข้ำไปในเขตทำงที่ ติดตั้งป้ำย ห้ามรถจักรยานยนต์และรถยนต์ : ห้ำมรถจักรยำนยนต์ และรถยนต์ผ่ำนเข้ำไปในเขตทำงที่ติดตั้งป้ำย หยุดตรวจ : ให้ผู้ขับรถหยุดรถที่ป้ำยนี้ เพื่อให้เจ้ำหน้ำที่ตรวจ และเคลื่อนรถต่อไปได้ เมื่อได้รับอนุญำตจำกเจ้ำหน้ำที่ผู้ตรวจ แล้วนั้น

24

ห้ามจอด : ห้ำมให้จอดรถทุกชนิดระหว่ำงแนวนั้น เว้นแต่ กำรหยุดรับส่งคนหรือสิ่งของชั่วขณะซึ่งต้องกระทำโดยมิ ชักช้ำ จากัดความเร็ว : ห้ำมมิให้ผู้ขับรถทุกชนิดใช้ควำมเร็วเกินกว่ำ ที่กำหนดเป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมงตำมจำนวนตัวเลขในแผ่นป้ำย นั้นๆ ในเขตทำงที่ติดตั้งป้ำยจนกว่ำจะพ้นที่สุดระยะที่จำกัด ควำมเร็วนั้น ห้ามหยุด : ห้ำมให้หยุดหรือจอดรถทุกชนิดตรงแนวนั้นเป็น อันขำด ห้ามรถสูงเกินกาหนด : ห้ำมมิให้รถทุกชนิดที่มีควำมสูงเกิน กว่ำที่กำหนด ที่กำหนดไว้เป็น “เมตร” ตำมจำนวนตัวเลข ในป้ำยนั้นๆ เข้ำไปในเขตทำงที่ติดตั้งป้ำย ห้ามรถกว้างเกินกาหนด : ห้ำมให้รถทุกชนิดที่มีควำมกว้ำง เกินกำหนด เป็น “เมตร” ตำมจำนวนตัวเลขในป้ำยนั้นๆ เข้ำ ไปในเขตทำงที่ติดตั้งป้ำย ให้ใช้ความเร็ว : ให้ผู้ขับรถทุกชนิดใช้ควำมเร็วไม่ต่ำกว่ำที่ กำหนดเป็นกิโลเมตร ให้รถเดินทางเดียวไปข้างหน้า : ให้ขับรถตรงไปตำมทิศทำง ที่ป้ำยกำหนด

25

ทางเดินรถทางเดียวไปทางซ้าย : ให้ขับรถไปทำงซ้ำยแต่ ทำงเดียว ทางเดินรถทางเดียวไปทางขวา : ให้ขับรถไปทำงขวำแต่ ทำงเดียว ให้ชิดซ้าย : ให้ขับรถผ่ำนไปทำงด้ำนซ้ำยของป้ำยรถทุก ชนิดต้องหยุดเมื่อเห็นว่ำปลอดภัยแล้วจึงให้เคลื่อนรถต่อไป ได้ด้วยระมัดระวัง ให้ชิดขวา : ให้ขับรถผ่ำนไปทำงด้ำนขวำของป้ำยรถทุก ชนิดต้องหยุดเมื่อเห็นว่ำปลอดภัยแล้วจึงให้เคลื่อนรถต่อไป ได้ด้วยระมัดระวัง ให้รถไปทางซ้ายหรือทางขวา : ให้ขับรถผ่ำนไปทำงด้ำนซ้ำย หรือทำงด้ำนขวำของป้ำย ให้เลี้ยวซ้าย : ให้ขับรถเลี้ยวไปทำงซ้ำยแต่ทำงเดียว ให้เลี้ยวขวา : ให้ขับรถเลี้ยวไปทำงซ้ำยแต่ทำงเดียว ให้เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา : ให้ขับรถเลี้ยวไปทำงซ้ำย หรือ ไปทำงขวำ ให้ตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย : ให้ขับรถตรงไป หรือเลี้ยวไปทำงซ้ำย

26

ให้ตรงไปหรือเลี้ยวขวา : ให้ขับรถตรงไป หรือเลี้ยวไป ทำงซ้ำย วงเวียน : ให้รถทุกชนิดเดินวนทำงซ้ำยของวงเวียนและรถที่ จะเริ่มเข้ำสู่ทำงร่วมบริเวณวงเวียนต้องหยุดให้สิทธิแก่รถที่ แล่นอยู่ในทำงรอบวงเวียนผ่ำนไปก่อน ห้ำมขับรถแทรก หรือ ตัดหน้ำรถที่อยู่ในเขตทำงรอบบริเวณวงเวียน ช่องดินรถประจาทาง : ช่องเดินรถที่ติดตั้งป้ำยเป็นบริเวณที่ กำหนดให้เป็นช่องเดินรถประจำทำง ช่องเดินรถมวลชน : ช่องเดินรถที่ติดตั้งป้ำยเป็นบริเวณที่ กำหนดให้เป็นช่องเดินรถมวลชนที่มีคนนั่งไม่น้อยกว่ำตัวเลข ที่ปรำกฏ ช่องเดินรถจักรยานยนต์ : ช่องเดินรถที่ติดตั้งป้ำยเป็น บริเวณที่กำหนดให้เป็นช่องเดินรถจักรยำนยนต์ ช่องเดินรถจักรยาน : ทำงที่ได้จัดทำไว้สำหรับรถจักรยำน เฉพาะคนเดิน : บริเวณที่ติดตั้งป้ำยเป็นบริเวณที่กำหนดให้ เฉพำะคนเดินเท่ำนั้น สุดเขตบังคับ : พ้นสุดระยะที่บังคับตำมควำมหมำยของ ป้ำยบังคับที่ติดตั้งไว้ก่อนชั่วโมงตำมจำนวนตัวเลขในแผ่น ป้ำยนั้น

ประเภทป้ายเตือน

ทางโค้งซ้าย : ทำงข้ำงหน้ำโค้งไปทำงซ้ำย ให้ขับรถให้ช้ำลง พอสมควร และเดินรถชิดด้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง ทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวซ้าย : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงโค้งรัศมี แคบไปทำงซ้ำย ให้ขับรถให้ช้ำลงพอสมควร และเดินรถชิด ด้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง ทางโค้งขวา : ทำงข้ำงหน้ำโค้งไปทำงขวำ ให้ขับรถให้ช้ำ ลงพอสมควร และเดินรถชิดด้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง ทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวขวา : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงโค้งรัศมี แคบไปทำงขวำ ให้ขับรถให้ช้ำลงพอสมควร และเดินรถชิด ด้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง ทางโค้งกลับ เริ่มซ้าย : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงโค้งไปทำงซ้ำย แล้วกลับ ให้ขับรถให้ช้ำลงพอสมควร และเดินรถชิดด้ำนซ้ำย ด้วยควำมระมัดระวัง ทางโค้งกลับรัศมีแคบ เริ่มซ้าย : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงโค้ง รัศมีแคบไปทำงซ้ำยแล้วกลับให้ขับรถให้ช้ำลงพอสมควร และเดินรถชิดด้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง

27

28

ทางโค้งกลับ เริ่มขวา : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงโค้งไปทำงขวำ แล้วกลับ ให้ขับรถให้ช้ำลงพอสมควร และเดินรถชิดด้ำนซ้ำย ด้วยควำมระมัดระวัง ทางโค้งกลับรัศมีแคบ เริ่มขวา : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงโค้ง รัศมีแคบไปทำงขวำแล้วกลับ ให้ขับรถให้ช้ำลงพอสมควร และเดินรถชิดด้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง ทางคดเคี้ยว เริ่มซ้าย : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงคดเคี้ยว โดยเริ่ม คดไปทำงซ้ำย ให้ขับรถให้ช้ำลงพอสมควร และเดินรถชิด ด้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง ทางคดเคี้ยว เริ่มขวา : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงคดเคี้ยว โดยเริ่มคดไป ทำงขวำ ให้ขับรถให้ช้ำลงพอสมควร และเดินรถชิดด้ำนซ้ำยด้วย ควำมระมัดระวัง ทางเอกตัดกัน : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงแยกตำมลักษณะ สัญลักษณ์ ซึ่งอำจแสดงลักษณะสัญลักษณ์ทำงเอกใหญ่กว่ำ ทำงโท ให้ขับรถให้ช้ำลง และเดินรถด้วยควำมระมัดระวัง ทางเอกตัดกัน รูปตัววาย : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงแยกรูป ตัววำย ให้ขับรถด้วยควำมระมัดระวัง ทางเอกตัดกัน รูปตัวที : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงแยกรูปตัวที ให้ขับรถด้วยควำมระมัดระวัง

29

ทางโทแยกทางเอก ทางขวา : ทำงข้ำงหน้ำมีทำงโท แยกไปทำงขวำ ให้ขับรถด้วยควำมระมัดระวัง ทางโทแยกทางเอก ทางซ้าย : ทำงข้ำงหน้ำมีทำงโทแยก ไปทำงซ้ำย ให้ขับรถด้วยควำมระมัดระวัง ทางโทแยกทางเอกเยื้องกัน เริ่มขวา : ทำงข้ำงหน้ำมีทำง โทแยกไปทำงขวำ และหลังจำกนั้นมีทำงโทแยกไปทำงซ้ำย ให้ขับรถด้วยควำมระมัดระวัง ทางโทเชื่อมทางเอกจากขวา : ทำงข้ำงหน้ำมีทำงโทเข้ำมำ เชื่อมด้ำนขวำ ให้ขับรถด้วยควำมระมัดระวัง ทางโทเชื่อมทางเอกจากซ้าย : ทำงข้ำงหน้ำมีทำงโทเข้ำ มำเชื่อมด้ำนซ้ำย ให้ขับรถด้วยควำมระมัดระวัง ทางโทแยกทางเอกทางซ้าย รูปตัววาย : ทำงข้ำงหน้ำมีทำง โทแยกจำกทำงเอกไปทำงซ้ำยรูปตัววำย ให้ขับรถด้วยควำม ระมัดระวัง ทางโทแยกทางเอกทางขวา รูปตัววาย : ทำงข้ำงหน้ำมีทำง โทแยกจำกทำงเอกไปทำงขวำรูป ตัววำย ให้ขับรถด้วยควำม ระมัดระวัง ทางแคบลงทั้งสองด้าน : ทำงข้ำงหน้ำแคบลงกว่ำทำงที่กำลัง ผ่ำนทั้งสองด้ำน ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้ำลง และเพิ่มควำม ระมัดระวังยิ่งขึ้น ขณะที่รถผ่ำนทำงแคบ ผู้ขับรถจะต้องระวังมิ ให้รถชนหรือเสียดสีกัน

30

ทางแคบด้านซ้าย : ทำงข้ำงหน้ำด้ำนซ้ำยแคบลงกว่ำทำงที่ กำลังผ่ำน ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้ำลง และเพิ่มควำม ระมัดระวังยิ่งขึ้น ทางแคบด้านขวา : ทำงข้ำงหน้ำด้ำนขวำแคบลงกว่ำทำงที่ กำลังผ่ำน ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้ำลง และเพิ่มควำม ระมัดระวังยิ่งขึ้น สะพานแคบ : ทำงข้ำงหน้ำมีสะพำนแคบ รถเดินหลีกกัน ไม่ได้ ให้ขับรถให้ช้ำลง และระมัดระวังอันตรำยจำกรถที่ สวนมำอีกฟำกหนึ่งของสะพำน ถ้ำมีป้ำยอื่นติดตั้งอยู่ให้ ปฏิบัติตำมป้ำยนั้นๆ ด้วย วงเวียนข้างหน้า : ทำงข้ำงหน้ำจะเป็นทำงแยกมีวงเวียน ให้ขับรถให้ช้ำลงและขับรถเข้ำสู่วงเวียนด้วยควำม ระมัดระวัง ห้ำมมิเลี้ยวรถไปทำงขวำ หรือห้ำมกลับ ช่องจราจรปิดด้านซ้าย : ช่องทำงจรำจรข้ำงหน้ำจะปิดงด กำรสัญจรในทำงด้ำนซ้ำย ให้ผู้ขับรถเปลี่ยนใช้ช่องทำงที่ เหลืออยู่ด้วยควำมระมัดระวัง ช่องจราจรปิดด้านขวา : ช่องทำงจรำจรข้ำงหน้ำจะปิดงด กำรสัญจรในทำงด้ำนขวำ ให้ผู้ขับรถเปลี่ยนใช้ช่องทำงที่ เหลืออยู่ด้วยควำมระมัดระวัง

31

ทางข้ามทางรถไฟ ไม่มีเครื่องกั้นทาง : ทำงข้ำงหน้ำมีทำงรถไฟ ตัดผ่ำน และไม่ มีเครื่องกั้นทำงให้ขับรถให้ ช้ำลง ให้มำก และ สังเกตดูรถไฟทั้งทำงขวำและทำงซ้ำย ถ้ำมีรถไฟกำลังจะ ผ่ำนมำ ให้ หยุ ดรถ ให้ ห่ ำงจำกรถไฟ อย่ ำงน้ อย 5 เมตร แล้ วรอคอย จนกว่ำรถไฟนั้นผ่ำนพ้นไป และปลอดภัยแล้วจึงเคลื่อนรถต่อไป ได้ ห้ำมให้ขับรถตัดหน้ำรถไฟในระยะที่อำจเกิดอันตรำยได้เป็น อันขำด ทางข้ามทางรถไฟ ติดทางแยก : ทำงข้ำงหน้ ำทีทำงข้ำมทำง รถไฟอยู่ ติ ดทำงแยกตำมลั กษณะสั ญลั กษณ์ ควรขั บรถด้ วย ควำมระมั ดระวั ง ก่ อนข้ ำมทำงรถไฟควรมองด้ ำนซ้ ำยและ ด้ำนขวำตำมแนวทำงรถไฟ เมื่อเห็นว่ำปลอดภัยจึงขับรถต่อไป ในกรณีที่มีเครื่องกั้นทำงควรปฏิบัติตำมสัญญำณเครื่องกั้นทำง ทางข้ามทางรถไฟ มีเครื่องกั้นทาง : ทำงข้ำงหน้ำมีทำงรถไฟ ตัดผ่ำน และมีรั้ว หรือมีเครื่องกีดขวำงกั้นทำง ก่อนที่จะขับรถ ผ่ำนป้ำยนั้นให้ขับรถให้ช้ำลง และพร้อมที่จะหยุดรถได้ เมื่อมี เสียงสัญญำณของเจ้ำหน้ำที่ดังขึ้น หรือเจ้ำหน้ำที่ได้กั้นทำงหรือ มีเครื่องกั้นทำงปิดกั้น ถ้ำมีรถข้ำงหน้ำหยุดรออยู่ก่อน ก็ให้หยุด รอถัดต่อมำตำมลำดับ เมื่อเปิดเครื่องกั้นทำงแล้วให้รถที่หยุดรอ เคลื่อนตำมกันไปได้ ทางแคบ : ทำงข้ำงหน้ำแคบลงกว่ำทำงที่กำลังผ่ำนมีขนำด ตำมตัวเลขเป็น “เมตร”ที่ แ สดงไว้ที่ ป้ำยนั้ น รถที่ มีขนำด กว้ำงไม่เกินจำนวนตั วเลขที่บอกไว้ในป้ำยให้ผ่ำนเข้ำไปได้ แต่ให้ขับรถให้ช้ำลง และเพิ่มควำมระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้ำ มีป้ำยอื่นติดตั้งไว้ก็ให้ปฏิบัติตำมป้ำยนั้นๆ ด้วย

32

ทางลอดต่า : ทำงข้ำงหน้ำจะต้องลอดช่องลอดต่ำ มีขนำดตำม ตัวเลขเป็ น “เมตร” ที่แสดงไว้ป้ำยนั้น รถที่มีควำมสูงรวมทั้ ง สิ่งของที่บรรทุกสูงไม่เกินจำนวนตัวเลข ที่บอกไว้ในป้ำยให้ผ่ำน เข้ ำไปได้ แต่ ให้ ขั บรถให้ ช้ ำลง และเพิ่ มควำมระมั ดระวังเป็ น พิเศษ ถ้ำมีป้ำยอื่นติดตั้งไว้ก็ให้ปฏิบัติตำมป้ำยนั้นๆ ด้วย ทางลงลาดชัน : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงลำดชันลงเขำ หรือลง เนิน มีควำมลำดชันตำมตัวเลขเป็น “ร้อยละ” ตำมที่ปรำกฏใน ป้ ำย ให้ ขั บรถช้ ำลงและเดินรถใกล้ ขอบทำงด้ ำนซ้ำยให้ มำก และผู้ขับรถไม่ควรปลอดเกียร์ หรือดับเครื่องยนต์เป็นอันขำด ในกรณี ที่เป็นทำงลงเขำหรือเป็นที่ชันมำกให้ใช้เกียร์ต่ำ เพื่ อ ควำมปลอดภัย ทางขึ้นลาดชัน : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงลำดชันขึ้นเขำหรือขึ้น เนินสันเขำหรือสันเนินมีควำมลำดชันตำมตัวเลขเป็น “ร้อยละ” ตำมที่ปรำกฏในป้ำย อำจกำบังสำยตำ ไม่ให้มองเห็นรถที่สวน มำให้ขับรถ ให้ช้ำลง และเดินรถให้ใกล้ขอบทำงด้ำนซ้ำยให้มำก กับให้ระมัดระวังอันตรำยจำกรถที่สวนทำงมำ รถกระโดด : ทำงข้ ำงหน้ ำเปลี่ ยนระดั บอย่ ำงกะทั นหั น เช่ น บริเวณคอสะพำน ทำงข้ำมท่อระบำยน้ำ และคันชะลอควำมเร็ว เป็ นต้ น ผู้ ขั บรถจะต้ องขั บรถให้ ช้ ำลง และเดิ นรถด้ วยควำม ระมัดระวัง ผิวทางขรุขระ : ทำงข้ำงหน้ำขรุขระมำกมีหลุม มีบ่อ หรือเป็น สั นติ ดต่ อกั น ให้ ขั บรถให้ ช้ ำลง และเพิ่ มควำมระมั ดระวังเป็ น พิเศษ

33

ทางลื่น : ทำงข้ำงหน้ำลื่นเมื่อผิวทำงเปียกอำจเกิดอุบัติเหตุ ได้ง่ำย ให้ขับรถให้ช้ำลงให้มำก และระมัดระวังกำรลื่นไถล อย่ำให้ห้ำมล้อโดยแรงและทันที กำรหยุดรถ กำรเบำรถ หรือ เลี้ยวรถในทำงลื่นต้องกระทำด้วยควำมระมัดระวังเป็นพิเศษ ทางเป็นแอ่ง : ทำงข้ำงหน้ำเปลี่ยนระดับลงกะทันหัน หรือ แอ่ง ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้ำลง และเพิ่มควำมระมัดระวัง ผิวทางร่วน : ทำงข้ำงหน้ำมีวัสดุผิวทำงหลุดกระเด็น เมื่อ ขับรถด้วยควำมเร็วสูง ให้ขับรถให้ช้ำลง และระมัดระวัง อันตรำยอันเกิดจำกวัสดุผิวทำง ระวังหินร่วง : ทำงข้ำงหน้ำอำจจะมีหินร่วงลงมำในผิวทำง ทำ ให้กีดขวำงกำรจรำจร ให้ขับรถ ให้ช้ำลง และระมัดระวังอันตรำย เป็นพิเศษ ให้เปลี่ยนช่องทางจราจร : ให้เปลี่ยนช่องทำงจรำจร หรือเปลี่ยน ทำงเดิ น รถ ตำมสั ญ ลั กษณ์ ในป้ ำย ให้ ขั บรถให้ ช้ ำลง และ ระมัดระวังอันตรำยเป็นพิเศษ สะพานเปิ ดได้ : ทำงข้ำงหน้ ำจะต้ องผ่ ำนสะพำนที่ เปิดให้ เรือ ลอด ให้ ขั บรถให้ ช้ ำลง และระมั ดระวั งในกำรหยุ ดรถ เมื่ อ เจ้ำหน้ำที่จะปิดกั้นทำงเพื่อเปิดสะพำน ให้เรือผ่ำน เพื่อมิให้เกิด อันตรำยต่อรถข้ำงหน้ำ และรถข้ำงหลัง

34

ออกทางขนาน : ทำงหลักข้ำงหน้ำ จะมีช่องเปิดออกทำงขนำน ผู้ขับรถบนทำงหลักที่จะออกทำงขนำนให้เตรียมตัวเพื่ออกทำง ขนำน และสำหรับผู้ขับรถบนทำงขนำนให้ระมัดระวังรถที่จะ มำร่วมในทิศทำงเดียวกันด้วย ทางเข้าทางหลัก : ทำงขนำนข้ำงหน้ำจะมีช่องเปิดเข้ำทำงหลัก ผู้ขับรถบนทำงขนำนที่จะเข้ำทำงหลักให้เตรียมตัวเพื่อเข้ำทำง หลั ก และส ำหรั บผู้ ขั บรถบนทำงหลั กให้ ระมั ดระวั งรถที่ จะ มำร่วมในทิศทำงเดียวกันด้วย สิ้นสุดทางคู่ : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงร่วมที่ไม่มีเกำะ หรือสิ่งอื่น ใดแบ่งกำรจรำจร ให้ ขับรถให้ช้ำลง และชิดด้ำนซ้ำยของทำง และเพิ่มควำมระมัดระวังยิ่งขึ้น ทางร่ วม : ทำงข้ ำงหน้ ำจะมี รถเข้ ำมรร่ วมในทิ ศทำงเดี ยวกั น จำกทำงซ้ำยหรือทำงขวำ ตำมลักษณะสัญลักษณ์ในป้ำย ผู้ขับรถ จะต้องขับรถให้ช้ำลง และเดินรถด้วยควำมระมัดระวัง จุดกลับรถ : ทำงข้ำงหน้ำจะมีที่กลับรถ สัญญาณจราจร : ทำงข้ำงหน้ำมีสัญญำณไฟจรำจร ให้ขับ รถให้ช้ำลง และพร้อมที่จะปฏิบัติตำมสัญญำณไฟจรำจร ทางเดินรถสองทาง : ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงเดินรถสองทำง ผู้ ขั บ รถจะต้ อ งขั บ รถให้ ช้ ำ ลง และเดิ น รถใกล้ ข อบทำง ด้ำนซ้ำยกับให้ระมัดระวังอันตรำยจำกรถที่สวนทำงมำ

35

หยุดข้างหน้า : ทำงข้ำงหน้ำมีเครื่องหมำยหยุดติดตั้งอยู่ ให้ ผู้ขับรถเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถได้ทันที เมื่อขับรถถึงป้ำย หยุด ให้ทางข้างหน้า : ทำงข้ำงหน้ำมีป้ำยให้ทำงติดตั้งอยู่ให้ผู้ขับรถ เตรียมควำมพร้อมที่จะให้ทำงทันที เมื่อขับรถถึงป้ำยให้ทำง ให้ ขับรถให้ช้ำลง และเดินรถด้วยควำมระมัดระวัง โรงเรียน ระวังเด็ก : ทำงข้ำงหน้ำมีโรงเรียนตั้งอยู่ข้ำงทำง ให้ ขับรถให้ ช้ำลงและระมัดระวังอุบัติเหตุ ซึ่งอำจจะเกิดขึ้นแก่ เด็กนักเรียน ถ้ำเด็กนักเรียนกำลังเดินข้ำมถนน ให้หยุดรถให้ เด็กนักเรียนข้ำมถนนไปได้โดยปลอดภัย ถ้ำเป็นเวลำที่โรงเรียน กำลังสอน ให้งดใช้เสียงสัญญำณและห้ำมให้เกิดเสียงรบกวน ด้วยประกำรใดๆ ระวังคนข้ ามถนน : ทำงข้ำงหน้ ำมีทำงสำหรับคนข้ำมถนน หรือมี หมู่ บ้ ำนรำษฎรอยู่ ข้ ำงทำง ซึ่งมี คนเดิ นข้ ำมไปมำอยู่ เสมอ ให้ขับรถให้ช้ำลงพอสมควร และระมัดระวังคนข้ำมถนน ถ้ำมีคนกำลังเดินข้ำมถนนให้หยุดให้คนเดินข้ำมถนนไปได้โดย ปลอดภัย ระวังสัตว์ : ทำงข้ำงหน้ำอำจมีสัตว์ข้ำมทำง ให้ขับรถให้ช้ำ ลงและระมัดระวังอันตรำยเป็นพิเศษ ระวังเครื่องบินบินต่า : ทำงข้ำงหน้ำเข้ำใกล้สนำมบินและอำจ มี เครื่ องบิ นบิ นลงในระดั บต่ ำ ให้ ขั บรถให้ ช้ ำลง หำกเห็ น เครื่ องบิ นก ำลั งขึ้ นหรื อลงผ่ ำนทำงข้ ำงหน้ ำ ให้ หยุ ดรถให้ เครื่องบินผ่ำนไปได้โดยปลอดภัย

36

เขตห้ามแซง : (ใช้ติดตั้งด้ำนขวำของทำง) ใช้ติดตั้งด้ำนขวำของ ทำง หมำยควำมว่ำ ทำงช่วงนั้น มีระยะมองเห็นจำกัด ผู้ขับรถ ไม่สำมำรถมองเห็นรถที่สวนมำในระยะที่จะแซงรถอื่นๆ ได้ ระวังอันตราย : ทำงข้ำงหน้ำมีอันตรำย เช่น เกิดอุบัติเหตุ ทำงทรุด เป็นต้น ให้ขับรถให้ช้ำลงให้มำก และระมัดระวัง อันตรำยเป็นพิเศษ เตือนแนวทางต่างๆ : ทำงตอนนั้นมีกำรเปลี่ยนแปลงแนวทำง ตำมทิศทำงที่ชี้ไป ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้ำลงและเดินรถด้วย ควำมระมัดระวัง สลั บกั นไป : ทำงข้ ำงหน้ ำจ ำนวนช่ องจรำจรลดลงผู้ ขั บรถ จะต้องขับรถให้ช้ำลง และให้ขับรถสลับกันไปด้ำนละคันอย่ำง ระมัดระวัง

เตื อ นแนวทางต่ างๆ : ทำงตอนนั้ นมี กำรเปลี่ยนแปลง แนวทำง ตำม ทิ ศ ทำงที่ ชี้ ไป ผู้ ขั บ รถจะต้ อ งขั บ รถให้ ช้ ำลง และเดิ น รถด้ วยควำม ระมัดระวัง

37

ประเภทป้ายเตือนงานก่อสร้าง

คนทำงำน

ทำงเบี่ยงขวำ

เครื่องจักรกำลังทำงำน

งำนก่อสร้ำง

ทำงเบี่ยงซ้ำย

สำรวจทำง

เตือนแนวทำงต่ำงๆ

เบี่ยงเบนกำรจรำจร

38

ประเภทป้ายแนะนา

เริ่มทำงด่วน (ทำงหลวงพิเศษ)

สิ้นสุดเริ่มทำงด่วน (ทำงหลวงพิเศษ)

บอกจุดหมำยปลำยทำง

บอกสถำนที่

แนะนำล่วงหน้ำ

ทำงเข้ำทำงออกทำงด่วน

39

มารยาทในการขับรถและการขับรถอย่างปลอดภัย

มีน้าใจต่อเพื่อนร่วมทาง ถนนเป็ นของสำธำรณะที่ ถู กสร้ำงขึ้ นมำ เพื่ อให้ ทุ กคนใช้ ร่วมกั น ฉะนั้น คุณในฐำนะผู้ขับขี่คนหนึ่งควรแสดงน้ำใจต่อผู้ที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน อำทิ ไม่จอดแช่เลนขวำ ไม่ขับรถแซงคิวแทรกเข้ำตรงเชิงสะพำน ลดควำมเร็ว เมื่อเข้ำเขตชุมชน (หมู่บ้ำน/ตลำด/โรงเรียน) ไม่จอดรถในที่ห้ำมจอด หรือจอด รถกีดขวำงกำรจรำจร และที่สำคัญ ไม่ควรเร่งเครื่อง เมื่อเห็นว่ำมีคนรอข้ำม ทำงม้ำลำย ใช้ไฟสูงหรือไฟตัดหมอก เมื่อมีความจาเป็น ผู้ ขั บ ขี่ ไม่ ค วรเปิ ด ไฟสู งโดยไม่ จ ำเป็ น เนื่ อ งจำกแสงไฟจะไป รบกวนเพื่อนร่วมท้องถนน ส่วนช่วงเวลำที่ควรใช้ไฟสูงนั้น ควรเป็นตอนที่ ขับรถเข้ำสู่ถนนหรือเส้นทำงที่มีแสงสว่ำงไม่พอ ขณะที่ไฟตัดหมอกนั้น ควรเปิดใช้ในกรณีที่มีห มอกหรือฝนตก หนัก จนทำให้ทัศนะวิสัยในกำรมองเห็นของผู้ขับขี่ต่ำลงเท่ำนั้น แต่หำก พลั้งเผลอเปิดไฟตัดหมอกโดยไม่จำเป็น แสงไฟอำจไปแยงตำผู้ขับขี่ที่ขับ รถสวนเลนมำ จนนำไปสู่อุบัติเหตุ เพรำะแสงไฟตัดหมอก มีประสิทธิภำพ ควำมสว่ำงจำกกว่ำกำรเปิดไฟสูง

40

ไม่ควรเหยียบเบรกบ่อย เนื่ องจำกสภำพกำรจรำจรที่ คั บคั่ งในเมื องกรุง ประกอบกั บ ปริมำณรถที่เพิ่มขึ้น ทำให้รถยนต์ต้องค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปทีละนิด ส่งผล ให้รถหลำยครั้งต้องคอยแตะเบรกตลอด ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ต่ำงไป จำกปฏิกิริยำลูกโซ่ เพรำะเมื่อรถคันหนึ่งเหยียบเบรก รถที่ขับตำมมำก็ ต้องเหยียบเบรกด้วยเช่นกันและพฤติกรรมเหยียบเบรกบ่อย ๆ ยังอำจทำ ให้ระบบเบรกของรถคุณเสื่อมสภำพเร็วกว่ำปกติ เป็นผลให้รถของคุณมี ควำมเสี่ยงจะ “เบรกแตก” สูงตำมไปด้วย

ไม่ควรขับรถจี้ท้ายรถคันหน้า กำรขับรถแบบจี้ท้ำยคันหน้ำ เสี่ยงต่อกำรชนท้ำยเป็นอย่ำงมำก และหำกเกิดขึ้นผู้ที่ขั บรถชนท้ำยมักจะเป็นฝ่ำยผิด ฉะนั้น คุณควรเว้น ระยะห่ำงจำกรถคันหน้ำตำมระยะเบรกที่ปลอดภัย โดย “ระยะเบรกที่ ปลอดภัย” นั้น อำจพิจำรณำตำมสภำพแวดล้อมก็ได้ รู้จักขอบคุณและขอโทษเพื่อนร่วมทาง เมื่อเจอเพื่อนร่วมทำงที่มีน้ำใจต่อเรำ ไม่ว่ำจะช่วยให้ทำงหรือ ช่วยหรี่ไฟสูงลงมำ ก็ควรแสดงควำมขอบคุณด้วยกำรโค้งศีรษะและยิ้มให้ หรือจะใช้วิธีเปิดไฟกระพริบฉุกเฉินก็ได้ ในทำงกลั บ กั น เมื่ อมี รถหยุ ดให้ คุ ณ เดิ น ข้ ำมถนน ก็ ค วรโค้ ง ศีรษะขอบคุณเช่นกัน แม้กำรแสดงควำมขอบคุณกับเพื่อนร่วมทำงอำจดู เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็สำมำรถสร้ำงควำมรู้สึกดี ๆ บนท้องถนนได้

41

แล้วถ้ำเป็นกรณี ที่เรำเผลอทำพฤติกรรมที่ไม่ดี อย่ำงเปลี่ยนเลน กะทันหัน ขับรถตัดหน้ำรถคันอื่น หำกเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ควรทำเพื่อลดควำม ตึงเครียดที่อำจนำไปสู่กำรทะเลำะวิวำท คือ กำรโค้งศีรษะ ยกมือ หรือเปิด ไฟกระพริบ เพื่อขอโทษเพื่อนร่วมทำง แต่หำกบังเอิญรถของคุณติดฟิล์มดำ มืดจนมองไม่เห็นว่ำ มีใครอยู่บนรถบ้ำง ก็อำจใช้วิธีเปิดกระจกเพื่อขอบคุณ หรือขอโทษก็ได้ เปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง เมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ผู้ขับขี่หำกจะเลี้ยวซ้ำย เลี้ยวขวำ หรือเปลี่ยนเลน ก็ต้องเปิดไฟ เลี้ยวก่อนทุกครั้ง เพื่อให้รถคันอื่นๆ ชะลอให้รถเข้ำไปยังเส้น ทำงที่ต้องกำร ลดกำรเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ต่อเพื่อนร่วมทำงที่ใช้รถใช้ถนน ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร ผู้ขับ ขี่ควรปฏิ บั ติต ำมกฎจรำจรอย่ำงเคร่งครัด ไม่ก ลับรถในที่ ห้ ำมกลับ รถ หรือ เบี่ ยงจำกช่ องทำงหลัก เข้ำช่ องคู่ ข นำน ทั้ งๆ ที่ รู้ว่ำ จุ ด ดังกล่ำวมีเครื่องหมำยจรำจรระบุให้ รถที่วิ่งในช่องคู่ขนำนสำมำรถเบี่ยง เข้ำช่องทำงหลักเท่ำนั้น หำกมี พ ฤติ ก รรมฝ่ ำฝื น กฎจรำจรเหล่ ำนี้ จะเสี่ ย งเกิ ด อุ บัติ เหตุ และหำกเกิดเหตุขึ้นจริง นอกจำกเจ็บตัว รถพัง เจอทั้งโทษจำคุกหรือปรับ และถ้ำร้ำยแรงมำก ก็อำจถึงขั้นเสียชีวิต (อำจเป็นคุณ/คู่กรณี) ได้

42

เมาแล้วขับ “เมำแล้วขับ” เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่จะนำพำเรื่องเลวร้ำยต่อ ตัวคุณ ครอบครัว และเพื่อนร่วมทำงได้ง่ำยดังนั้น หำกรู้ตัวว่ำ “เมำ” ก็ ควรใช้บริกำรรถสำธำรณะในกำรเดินทำง หรือโทรให้คนที่ไว้ใจมำรับแทน กำรขับรถเองก็ได้ เล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ กำรเล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ไม่ว่ำจะเป็นช่วงที่ติดไฟแดง หรือ รถติ ด เพรำะมี อุ บั ติ เหตุ กี ด ขวำงกำรจรำจร ล้ วนเสี่ ย งเกิ ด อุ บั ติ เหตุ ทั้ ง สิ้ น เนื่ อ งจำกสมำธิ ที่ ค วรเพ่ ง อยู่ กั บ กำรขั บ รถ ถู ก ย้ ำ ยไปอยู่ กั บ โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ แทน เพื่ อ ป้ อ งกั น กำรเกิ ด อุ บั ติ เ หตุ คุ ณ ควรงดเล่ น โทรศัพท์มือถือ แต่หำกมีควำมจำเป็นต้องใช้งำนโทรศัพท์มือถือจริง ๆ ก็ให้ หำจุดที่ปลอดภัยเพื่อจอดรถเสียก่อน ขับรถคร่อมเลน กำรขับรถคร่อมเลนกินพื้นที่จรำจร จะไปซ้ำย ก็ไม่ซ้ำย จะไปขวำ ก็ไม่ขวำ พฤติกรรมแบบนี้ไม่น่ำรอดจำกกำรโดนด่ำ หรือไปรบกวนกำรขับ ของรถคันอื่น

43

การบารุงดูแลรักษารถ

รถยนต์มีควำมจำเป็นที่ใช้ในกำรเดินทำงเพื่อควำมควำมปลอดภัยไม่ ควรลื มที่ จะดู แลรั ก ษำรถยนต์ ให้ อยู่ ในสภำพดี พร้ อมใช้ งำนอยู่ เสมอ ก็สำมำรถช่วยลดค่ำใช้จ่ำยในกำรซ่อมแซมรถและยืดอำยุรถให้ใช้งำนได้ อย่ำงมีประสิทธิภำพยำวนำนได้นั่นเอง หลักกำรตรวจเช็คหลักๆดังนี้ ตรวจเช็คลมยาง วิธีดู แลยำงนั้ นสำมำรถท ำได้ ง่ำยๆ หมั่ น เช็ ค และเติ ม ลมยำงให้ ส ม่ ำเสมอ อย่ำงน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เติ มลมให้ พอดี แค่ นี้ ก็ ช่ วยป้ องกั น กำรสึ กหรอของยำงได้ ดี และเป็ น กำร ดู แลรั กษำรถยนต์ ให้ คงสภำพเหมื อน ใหม่ นอกจำกจะช่ วยในเรื่ อ งควำม ปลอดภัยในกำรขับขี่แล้วยังช่วยประหยัด น้ำมันได้

44

ตรวจเช็คของเหลวในเครื่อง

ควรเช็คอย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำเดือนละครั้ง ถ้ำหำกว่ำทำกำรเช็ค แล้วพบว่ำ ระดับของเหลวต่ำงๆ ไม่ว่ำจะเป็น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำยำแอร์ และน้ำมันหล่อลื่น อยู่ในระดับที่ต่ำกว่ำที่ควรจะเป็น ควรที่ จะเติมให้เรียบร้อยไม่ควรปล่อยไว้นำนจนแห้ง หมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อป้องกันครำบตะกอนต่ำงๆ ที่ฝัง อยู่ภำยใน เป็นวิธีดูแลรถยนต์ที่ เรำควรท ำในทุกๆ ปีหรือทุ ก ๆ ระยะที่ กำหนดไว้ของแต่ละน้ำมันเครื่องที่ใช้ เพรำะกำรเปลี่ยนถ่ำยน้ำมันเครื่อง และไส้กรอง คือกำรดูแลรักษำรถยนต์ ซึ่งช่วยยืดระยะกำรใช้งำน เช่น 3 ข้อดังนี้ 1. น้ ำมั น เครื่ อ งธรรมดำ ก ำหนดกำรเปลี่ ย นถ่ ำ ย 7,000–7,500 กิโลเมตร 2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเครำะห์ 10,000–15,000 กิโลเมตร 3. น้ำมันเครื่องสังเครำะห์ 15,000–20,000 กิโลเมตร หมั่นเช็ครอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่ำงๆ ใต้ท้องรถที่แม้จะ มีโอกำสเกิดขึ้นได้น้อย เพื่อป้องกันปัญหำในอนำคต

45

ตรวจเช็คแบตเตอรี่เป็นประจา

สังเกตว่ำมีขี้เกลือขึ้นแบตเตอรี่หรือไม่ หำกแบตเตอรี่ไม่สะอำด มีครำบขำว ๆ ซึ่งเกิดจำกขั้วแบตเตอรี่หลวม ชำรุด น้ำกลั่นล้น หรือ เกิด จำกกำรขันตัวล็อคขั้วไม่แน่น รวมทั้งสำยไฟเสื่อม กำรดูแลรักษำรถยนต์ ที่ มี ครำบขี้เกลือขึ้น ให้เอำน้ ำอุ่นรำด บริเวณที่เป็นขี้เกลือ ค่อยๆ รำดลงไปอย่ำงระวังมือและใช้แปรงสีฟันขัด จำกนั้นใช้ผ้ำแห้งมำเช็ด ห้ำมทิ้ งครำบน้ำเหลือเพรำะอำจจะท ำให้เกิด สนิมได้ ปิดท้ำยด้วยกำรทำจำระบีเคลือบ ตรวจเช็คหัวเทียน รถสตำร์ ต ติ ดยำก ในกำรขั บ รถไปได้ 48,000 – 64,000 กิ โลเมตรแล้ วแต่ รุ่นรถ ควร จะมี กำรเช็ คสภำพของหั วเที ยน หำกพบว่ ำมี ปัญหำอย่ำรอช้ำทำกำรเปลี่ยนโดยทันที แล้ ว จะมี อ ำกำรรถยนต์ เป็ น หลั ก เช่ น เครื่องยนต์สะดุด ดั บเบำ หรือเร่งไม่ค่ อยขึ้ นมี อำกำรสั่นๆ ชัดเจนว่ำมีปัญหำเรื่องหัวเทียน

ตรวจเช็คสายพาน กำรดู แลสำยพ ำน รถยน ต์ สำมำรถเช็ คได้ ด้ วยกำรใช้ นิ้ วมื อกด สำยพำนเบำๆ ซึ่งสำยพำนจะต้ องไม่ เปื่ อ ย ไม่ แ ตกลำยงำ โดยปกติ แ ล้ ว สำยพำนหน้ำเครื่องรถยนต์แต่ละเส้น จะมีอำยุกำรใช้งำน 50,000 กิโลเมตร หรือใช้ 2-3 ปีก็ต้องเปลี่ยน

46

ล้างรถและทาความสะอาดห้องโดยสาร อย่างน้อยเดือนละครั้ง กำรล้ ำ งรถช่ ว ยให้ ตั ว รถดู ส ะอำดน่ ำ ใช้ พร้ อ มกั บ ช ำระล้ ำ งสิ่ ง สกปรกที่อำจมีฤทธิ์กัดกร่อนและฝังอยู่ในร่องหลืบที่เรำมองไม่เห็น ควร ทำควำมสะอำดภำยในห้องโดยสำร โดยเฉพำะเบำะรถยนต์ซึ่งมักเป็นที่ เก็บกักฝุ่นและแหล่งสะสมเชื้อโรคควรทำควำมสะอำดครำบสกปรกด้วย กำรนำเบำะไปซัก ดูดฝุ่น แล้วบำรุงอีกด้วยกำรใช้น้ำยำขัดหรือเคลือบให้ เบำะรถดูสะอำดและใหม่อยู่เสมอ พรมปูพื้นควรนำออกมำล้ำงและตำก แดดเป็นครั้งครำวเพื่อไม่ให้เกิดสิ่งหมักหมมและเป็นอันตรำยต่อทำงเดิน หำยใจ ไม่ควรลื มลงแว็กซ์รถให้ทั่วเพื่อรั กษำคุณภำพสีของรถสวยเงำ งำม

47

ใช้ผ้าคลุมรถเมื่อไม่ได้ใช้งาน

กำรใช้ผ้ำคลุมรถทุกครั้งขณะจอดไว้เฉยๆ จะช่วยปกป้องรถจำกฝุ่น ขี้นก รวมไปถึงเศษหินหรือกิ่งไม้ต่ำงๆ ที่อำจมำกระแทกจนทำให้เกิด รอยได้ โดยเลือกใช้ผ้ำที่มีเนื้อเหนียวทนทำนและไม่แข็งกระด้ำงจนขูดสี รถ ควรใช้ผ้ำคลุมรถที่มีคุณภำพ เหมำะสมกับลักษณะกำรใช้งำน เพื่อ ป้องกันควำมเสียหำยที่จะเกิดกับตัวรถ - ไม่ควรใช้ผ้ำคลุมรถในบริเวณที่มีลมแรง เพรำะแรงลมอำจทำให้ ผ้ำคลุมเกิดกำรสะบัดไปเสียดสีกับตัวรถจนเป็นรอยได้ - ไม่ใช้ผ้ำคลุมรถเมื่อรถยังไม่ได้ล้ำงหรือทำควำมสะอำด - ไม่ควรใช้ผ้ำคลุมรถหำกต้องจอดรถกลำงแดดจัดเป็นเวลำนำนๆ - ควรนำผ้ำคลุมมำล้ำงทำควำมสะอำดบ้ำง เก็บในภำชนะปิดทุกครั้ง

48

สารวจพฤติกรรมของตัวเอง ไม่กำรจอดรถทิ้งไว้กลำงแดดร้อน ส่งผลให้เครื่องยนต์เสื่อมสภำพ เร็วขึ้นไปอีก ไม่บรรทุกของหนักบ่ อยๆ อำจทำให้ต้องเจอกับปัญหำยำงเสื่อม โช้คพังเร็วกว่ำที่ควร

49

การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย หลังจำกตรวจสอบเอกสำรหลักฐำนเรียบร้อยแล้ว ผู้ประสงค์ขอรับ ใบอนุญำตขับรถทุกคนจะต้องเข้ำรับกำรทดสอบสมรรถภำพร่ำงกำยตำมที่ กรมกำรขนส่งทำงบกกำหนดต่อไปนี้ ทดสอบการสายตาบอดสี ทดสอบกำรสำยตำบอดสี ให้ผู้เข้ำรับกำรทดสอบดูสีเขียว สีแดง สี เหลืองจำกเครื่องทดสอบ โดยอยู่ห่ำงจำกเครื่องทดสอบในระดับสำยตำไม่ น้อยกว่ำ 3 เมตร แล้วบอกสีตำมที่เจ้ำหน้ำที่กำหนดสีละ 3 ครั้ง หำกบอก ถูกต้อง 2 ใน 3 ครั้ง ถือว่ำผ่ำนกำรทดสอบ

50

ทดสอบการมองเห็นสี ทดสอบกำรมองเห็นสี ให้ผู้เข้ำรับกำรทดสอบดูสีเขียว สีแดง สี เหลืองจำกเครื่องทดสอบ โดยอยู่ห่ำงจำกเครื่องทดสอบในระดับสำยตำ ไม่น้อยกว่ำ 3 เมตร แล้วอ่ำนตัวเลขสีตำมที่เจ้ำหน้ำที่กำหนด สีละ 3 ครั้ง หำกอ่ำนถูกต้อง 2 ใน 3 ครั้ง ถือว่ำผ่ำนกำรทดสอบ

ทดสอบสายตาทางลึก ทดสอบสำยตำทำงลึก เป็นกำรทดสอบกำรมองเห็นในระยะ 2.50 3.50 เมตร รวม 3 ครั้ง โดยจะมีแท่งไม้ 2 แท่ง แห่งหนึ่งตั้งอยู่กับที่อีกแห่ง หนึ่งสำมำรถเคลื่อนที่ไปด้ำนหน้ำหรือหลังได้ให้ผู้ทดสอบกดปุ่มให้แท่งไม้ เลื่อนไปมำ จนอยู่ในระดับเดียวกัน หำกผลกำรทดสอบห่ำงจุดที่กำหนดไม่ เกิน 1 นิ้ว 2 ใน 3 ครั้งถือว่ำผ่ำนกำรทดสอบ

51

ทดสอบสายตาทางกว้าง ทดสอบสำยตำทำงกว้ำง ผู้เข้ำรับกำรทดสอบต้องสำมำรถมองเห็น ทั้งด้ำนซ้ำยและด้ำนขวำเป็นมุมกว้ำง ข้ำงละ 75 องศำ โดยผู้เข้ำทดสอบ ต้องมองตรงไปข้ำงหน้ำและบอกสีสัญญำณไฟที่ปรำกฏอยู่ทำงขวำและ ซ้ำยให้ถูกต้อง หำกบอกถูก 2 ใน 3 ครั้ง ถือว่ำผ่ำนกำรทดสอบ

ทดสอบปฏิกิริยาเท้า ทดสอบปฏิ กิ ริ ย ำเท้ ำ ผู้ เข้ ำรั บ กำรทดสอบต้ อ งท ำกำรทดสอบ ควำมสำมำรถในกำรใช้ เบรกเท้ ำรวม 3 ครั้ง โดยให้ ผู้ ทดสอบเหยี ยบ คันเร่ง ไฟเขียวจะปรำกฏขึ้นเมื่อเหยียบคันเร่งต่อไปจะมีไฟแดงปรำกฏ ขึ้น ผู้ทดสอบต้องเหยีย บเบรกทันที ที่ เห็นไฟแดง หำกสำมำรถเหยี ยบ เบรกได้ในระยะเวลำน้อยกว่ำหรือเท่ำกับ 0.75 วินำที 2 ใน 3 ครั้ง ถือว่ำ ผ่ำนกำรทดสอบ

52

เข้ารับการอบรม 1 ชั่วโมง หลังจำกผู้เข้ำรับกำรทดสอบผ่ำนเกณฑ์กำรทดสอบสมรรถภำพ ร่ำงกำยทั้ง 4 ด้ำนแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือกำรเข้ำอบรมควำมรู้ต่ ำ งๆ เกี่ยวกับกำรขับรถ เช่น (1) พระรำชบัญญัติจรำจรทำงบก พ.ศ. 2522 (2) พระรำชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 (3) กฎหมำยที่เกี่ยวข้อง (4) มำรยำทในกำรขับรถและกำรขับรถอย่ำงปลอดภัย (5) กำรบำรุงดูแลรักษำรถ

53

ทดสอบข้อเขียนผ่านระบบ Electronic Examination (E-exam) เพื่อยกระดับมำตรฐำนใบอนุญำตขับรถให้มีควำมปลอดภัย กำร สอบข้ อ เขี ย นจะเน้ น เนื้ อ หำเกี่ ย วบกำรเพิ่ ม ทั ก ษะกำรขั บ ขี่ อ ย่ ำ ง ปลอดภัยโดยจำนวนข้อสอบมีทั้งหมด 50 ข้อ ผู้เข้ำรับกำรสอบข้อเขียน จะต้องทำข้อสอบให้ผ่ำน 90 % หรือ 45 ข้อขึ้นไปจึงจะสอบผ่ำนเมื่อ สอบผ่ำนข้อเขียนแล้ว เจ้ำหน้ำที่จะแจ้งผลให้ท่ำนทรำบพร้อมกับนัด หมำยให้ไปเข้ำรับกำรทดสอบขับรถ โดยส่วนใหญ่จะนัดในวันทำกำร ถั ด ไปแต่ ต้ อ งไม่ เกิ น 90 วัน เพรำะหำกเกิ น จะต้ อ งเริ่ม ขั้ น ตอนใหม่ ทั้งหมด

ตัวอย่างข้อสอบ ในการทดสอบข้อเขียนผ่านระบบ Electronic Examination (E-exam)

54

เครื่องหมายจราจรบนพื้นทางและขอบทาง 1. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถชะลอควำมเร็วรถลงและให้รถและคนที่ขวำงหน้ำไป ก่อน 2. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ รถที่อยู่ในทิศทำงของเส้นประแซงได้ แต่เส้นทึบห้ำมแซง 3. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ สำมำรถแซงได้และสำมำรถเปลี่ยนช่องกำรจรำจรได้

55

4. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ข้ำลง ให้ทำงแก่คนและรถที่อยู่ในทำงขวำงหน้ำ 5. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ให้หยุดรถก่อนถึงเส้นแนวหยุดหรือเส้นให้ทำง ให้คนเดิน เท้ำข้ำมทำงผ่ำนไปก่อน 6. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถภำยในช่องจรำจร ห้ำมแซงห้ำมขับรถผ่ำนหรือคร่อม เส้นโดยเด็ดขำด

56

7. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถในช่องกำรจรำจร ห้ำมคร่อมเส้นแต่แซงได้ 8. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ให้หยุดรถก่อนถึงแนวเส้นขวำงทุกครั้ง 9. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ รถยนต์ทุกชนิดห้ ำมหยุดทับเส้น ทแยงสีเหลืองเทคนิ ค กำรขับรถอย่ำงปลอดภัย

57

เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย 10. ขณะฝนตกใหม่ๆ รถมักลื่นไถล เพรำะเหตุใด ตอบ น้ำฝนจะกลำยเป็นฟิล์มรองรับระหว่ำงยำงกับพื้นถนน 11. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก ตอบ เบรกรถอย่ำงรุนแรงและรวดเร็ว 12. หลั ง จำกขั บ รถลุ ย น้ ำ ผ้ ำ เบรกเปี ย กมี วิ ธี แ ก้ ไ ขให้ แ ห้ ง ได้ อย่ำงไร ตอบ ขับรถช้ำ ๆ เหยียบเบรกเบำๆ แล้วปล่อยหลำย ๆ ครั้ง 13. กำรขับรถผ่ำนบริเวณน้ำท่วม ควรปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ขับข้ำ 1 ตำมหลังรถคันหน้ำในระยะห่ำงพอสมควร 14. หลังจำกขับรถผ่ำนบริเวณน้ำท่วม ควรทดสอบระบบใดก่อน ขับรถต่อไป ตอบ ระบบเบรก 15. ข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทำงถนนมำกที่สุด ตอบ ผู้ขับขี่รถ 16. ก่อนออกรถจำกไหล่ทำงด้ำนซ้ำย ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร ให้ปลอดภัยมำกที่สุด ตอบ มองกระจกมองข้ำงด้ำนขวำ เปิดไฟเลี้ยวขวำ พร้อมกับทัน ศีรษะมองข้ำมไหล่ขวำไปทำงด้ำนหลังก่อนออกรถ

58

17. ภำยหลังออกรถไปประมำณ 3 ถึง 4 เมตร ควรทดสอบ ระบบใด ตอบ ระบบเบรก 18. ขณะขับรถเครื่องยนต์เกิดควำมร้อนสูง ควรปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ หยุดรถในที่ปลอดภัย แล้วปล่อยให้เครื่องเย็นก่อน 19. ในกำรขับรถทำงไกล ผู้ขับขี่ควรเตรียมควำมพร้อมของ ร่ำงกำยอย่ำงไร ตอบ พักผ่อนให้เพียงพอ 20. กำรขับรถในลักษณะใดที่ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลี้ยว ตอบ ทำงบังคับเลี้ยว 21. กำรขับ รถผ่ำนทำงร่วมทำงแยก ไม่ควรเปิดสัญ ญำณไฟ ชนิดใด ตอบ ไฟฉุกเฉิน 22. ก่อนขับรถเข้ำโค้ง หรือมุมเลี้ยว ควรใช้ควำมเร็วอย่ำงไร ตอบ ควบคุมควำมเร็วของรถให้เหมำะสมกับโค้งหรือมุมเลี้ยว 23. ขับรถลงทำงลำดชันควรใช้เกียร์ต่ำ เพื่ออะไร ตอบ เพื่อหน่วงควำมเร็วของรถ 24. ลมยำงล้อหน้ำอ่อน จะมีผลต่อกำรขับขี่อย่ำงไร ตอบ ยำงล้อหน้ำสึกหรอและรถกินน้ำมันมำกขึ้น

59

25. กำรเปิดไฟสูงในสถำนกำรณ์ใดถูกต้อง ตอบ เปิดไฟสูงขณะที่ไม่มีรถสวนทำง 26. กำรตรวจลมยำงควรตรวจเมื่อใด ตอบ ขณะที่ยำงยังเย็นอยู่ 27. ข้ อ ใดที่ ท ำให้ ก ำรหยุ ด รถต้ อ งใช้ ร ะยะทำงมำกขึ้ น จึ ง สำมำรถหยุดรถได้ ตอบ น้ำหนักบรรทุกเพิ่มมำกขึ้น 28. ข้อใดไม่ควรใช้เบรกมือ ตอบ ขับรถลงทำงลำดชันกฎหมำยจรำจร 29. กำรขับรถผ่ำนทำงร่วมทำงแยกต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ปฏิ บั ติ ต ำมสั ญ ญำณไฟจรำจร หรื อ กฎจรำจรอย่ ำ ง เคร่งครัด 30. สถำนที่ใดห้ำมใช้สัญญำณแตร ตอบ โรงพยำบำล โรงเรียน 31. ผู้ขับขี่ต้องกำรเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทำงเลี้ยวไม่น้อยกว่ำ 30 เมตร 32. กำรหยุดรถบริเวณทำงแยก ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ หยุดหลังเส้นแนวหยุด

60

33. บริเวณใดห้ำมแซง ตอบ ทำงโค้งรัศมีแคบ 34. กำรจอดรถต้องจอดให้ห่ำงจำกขอบทำงไม่เกินกี่เซนติเมตร ตอบ ห่ำงไม่เกิน 25 เซนติเมตร 35. กำรขับรถแซงรถกันหน้ำต้องแซงด้ำนขวำมือ ยกเว้นกรณี ใดที่สำมำรถแซงด้ำนซ้ำยมือได้ ตอบ เมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวำ หรือให้สัญญำณว่ำจะเลี้ยว ขวำ 36. บริเวณใดห้ำมกลับรถ ตอบ เขตปลอดภั ย บริ เวณที่ คั บ ขั น หรื อ ที่ ที่ มี ก ำรจรำจร พลุกพล่ำน บนสะพำนหรือในระยะ 100 เมตร จำกเชิงสะพำนและบริเวณ ทำงร่วมทำงแยก 37. "เขตปลอดภัย" หมำยควำมว่ำอย่ำงไร ตอบ พื้นที่ในทำงเดินรถที่มีเครื่องหมำยแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจน ทุกเวลำสำหรับให้คนเดินเท้ำที่ข้ำมทำงหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้นหรือลง จำกรถหยุดรอก่อนจะข้ำมทำงต่อไป 38.สัญญำณจรำจรไฟสีแดงที่ทำเป็นรูปกำกบำทเฉียงอยู่เหนือ ช่องเดินรถ ห้ำมมิให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่ำงไร ตอบ ขับรถในช่องเดินรถนั้น

61

39. เมื่อพนักงำนจรำจรยืนและเหยียดแขนำยออกไปเสมอระดับไหล่ ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมำจำกทำงด้ำนไหนของพนักงำนจรำจรจะต้องหยุดรถ ตอบ ด้ำนหลัง 40. เมื่อพนักงำนจรำจรยืนและเหยียดแขนขวำท่อนล่ำงตั้งฉำกกับขน ท่อนบนและตั้งฝ่ำมือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมำจำกทำงด้ำนไหนของพนักงำน จรำจรจะต้องหยุดรถ ตอบ ด้ำนหน้ำ 41. กำรขับรถผ่ำนทำงร่วมทำงแยงที่มีสัญญำณจรำจรไฟกะพริบสี แดง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่ำปลอดภัยและไม่เป็นกำร กีดขวำงกำรจรำจรจึงให้ขับรถต่อไปด้วยควำมระมัดระวัง 42. กำรจับรถผ่ำนทำงร่วมทำงแยกที่มีสัญญำณจรำจรไฟกะพริบสี เหลือง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ลดควำมเร็ วของรถลงและผ่ ำนทำงเดิ นรถนั้ นไปด้ วยควำม ระมัดระวังรถ 43. ผู้จับขี่ต้องขับรถในทำงเดินรถด้ำนซ้ำย ยกเว้นกรณีใดสำมำรถ เดินรถทำงขวำ หรือล้ำกึ่งกลำงของทำงเดินรถได้ ตอบ ด้ำนซ้ำยของทำงเดินรถมีสิ่งกีดขวำง

62

44. กำรให้สัญญำณด้วยแขน โดยผู้ขับขี่ยื่นแขนขวำตรงออกไปนอกตัว รถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลำยครั้ง หมำยถึงผู้ขับขี่นั้นต้องกำร อะไร ตอบ จะลดควำมเร็วของรถ 45. ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่ำงจำกรถคันหน้ำเท่ำไร ตอบ ในระยะที่จะสำมำรถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อมีควำมจำเป็น 46. ผู้ขับขี่ต้องกำรจะเลี้ยวซ้ำยต้องขับรถในช่องเดินรถด้ำนซ้ำยก่อน ถึงทำงเลี้ยวกี่เมตร ตอบ ไม่น้อยกว่ำ 30 เมตรผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้ำ หรือไฟท้ำยรถให้รถ กันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่ำเท่ำใด 47. ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้ำ หรือไฟท้ำยรถให้รถกันอื่นเห็นได้ในระยะ ไม่น้อยกว่ำเท่ำใด ตอบ 150 เมตร 48. ในกำรขับรถสวนทำงกัน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ให้ขับรถชิดด้ำนซ้ำย 49. ห้ำมมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อข้นหน้ำรถคันอื่นขณะที่มีหมอก ฝุ่นฝน หรือควัน จนไม่อำจเห็นทำงข้ำงหน้ำได้ในระยะเท่ำใด ตอบ 60 เมตร

63

50. เมื่ อผู้ ขั บขี่ พบเครื่ องหมำย "เลี้ ยวซ้ ำยผ่ ำนตลอด"ผู้ ขั บขี่ ควร ปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ หยุดรอให้คนข้ำมถนนและรถที่มำจำกทำงด้ำนขวำมือขับผ่ำน ไปก่อนแล้วจึงเลี้ยวซ้ำยผ่ำนไป 51. ผู้ใดไม่มีหน้ำที่ให้สัญญำณจรำจรตำมพระรำชบัญญัติจรำจร ทำงบก พ.ศ. 2522 ตอบ คนเดินเท้ำ 52. เมื่อจะเปลี่ยนช่องทำงหรือแซงรถทุกครั้งต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ต้องให้สัญญำณไฟหรือสัญญำณแตร 53. เมื่ อถึ งทำงรถไฟและมี รถไฟก ำลั งแล่ นผ่ ำนผู้ ขั บขี่ต้ องปฏิ บั ติ อย่ำงไร ตอบ หยุดรถให้ห่ำงจำกทำงรถไฟไม่น้อยกว่ำ 5 เมตร 54. เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่หลบหนีจะมีผลอย่ำงไร ตอบ ให้สันนิษฐำนว่ำผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด 55. สัญญำณเสียงแตรใช้ได้เมื่อใด ตอบ ใช้ได้เมื่อจำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ 56. ขณะขับขี่รถต้องเว้นระยะห่ำงรถคันหน้ำเท่ำใด ตอบ ในระยะที่ปลอดภัย

64

57. ผู้ ขั บ รถที่ ดื่ ม สุ ร ำเมื่ อ วั ต ระดั บ แอลกอฮอล์ ในลมหำยใจ จะต้องไม่เกินเท่ำใด ตอบ ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ 58. ขณะขั บ รถตรวจพบแอลกอฮอล์ ในร่ ำ งกำยเกิ น กว่ ำ ที่ กฎหมำยกำหนดมีโทษอย่ำงไร ตอบ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5000 ถึง 20000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ 59. ในเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยำ หรือเขตเทศบำลต้องขับรถ ด้วยควำมเร็วเท่ำไร ตอบ ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 60. นอกเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยำ หรือเขตเทศบำลต้องขับ รถด้วยควำมเร็วเท่ำไร ตอบ ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 61. ในกำรให้สัญญำณไฟเลี้ยว จะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ใน ระยะเท่ำไร ตอบ ไม่น้อยกว่ำ 60 เมตร 62. ก่อนเลี้ยวรถต้องเข้ำช่องทำงที่จะเลี้ยวและเปิดไฟเลี้ยวก่อน เลี้ยวรถไม่น้อยกว่ำกี่เมตร ตอบ 30 เมตร

65

63. บริเวณทำงร่มทำงแยกและมีเครื่องหมำยห้ำมกลับรถแต่เจ้ำ พนักงำนจรำจรอนุญำตให้กลับรถได้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ กลับรถได้ 64.ผู้ขับขี่ต้องกำรกลับรถต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ดูป้ำยจรำจรที่อนุญำตให้กลับรถและเข้ำช่องทำงให้ถูกต้อง กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ 65. ในขณะขับรถผู้ขับขี่ต้องมีเอกสำรใดใช้คู่กับใบอนุญำตขับรถ ตอบ สำเนำภำพถ่ำยใบคู่มือจดทะเบียนรถ 66. ผู้ขับรถกระทำผิดตำมกฎหมำยจรำจรทำงบกและได้รับใบสั่ง จำกเจ้ำพนักงำนจรำจรต้องไปติดต่อชำระค่ำปรับภำยในกี่วัน ตอบ 7 วัน 67. เมื่อใบอนุญำตขับรถสูญหำย หรือชำรุดต้องยื่นขอรับใบแทน ต่อนำยทะเบียนภำยในกี่วัน ตอบ 15 วัน 68. ใบอนุญำตขับรถชนิดชั่วครำวมีอำยุกี่ปี ตอบ 2 ปี 69. ผู้ขับรถใช้ใบอนุญำตขับรถที่สิ้นอำยุมีควำมผิดอย่ำงไร ตอบ ปรับไม่เกิน 2,000 บำท

66

70. รถที่ไม่เสียภำษีประจำปีภำยในกำหนดจะต้องเสียเงินเพิ่ม เท่ำใด ตอบ ร้อยละ 1 ต่อเดือน 71. กำรโอนรถต้องแจ้งต่อนำยทะเบียนกำยในที่วัน ตอบ 15 วัน 72. กำรเปลี่ยนสีรถต้องแจ้งต่อนำยทะเบียนกำยในที่วัน ตอบ 7 วัน 73. กำรต่ออำยุใบอนุญำตขับรถส่วนบุคคล (5 ปี) สำมำรถต่อ ก่อนล่วงหน้ำได้เท่ำใด ตอบ 3 เดือน 74. รถยนต์ที่มีอำยุครบกี่ปีต้องนำไปตรวจสภำพรถก่อนเสียภำษี ประจำปี ตอบ 7 ปี กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ 75. จำกภำพผู้ขับขี่รถคัน ก ต้องกำรขับรถตรงไปจะต้องปฏิบัติ อย่ำงไร

ตอบ หยุดรอให้รถคัน ข ขับผ่ำนไปก่อน

67

76. จำกภำพผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ห้ำมหยุดห้ำมจอดรถทุกชนิด 77.จำกภำพผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ หยุดรอให้รถคัน ค ขับผ่ำนไปก่อน 78. จำกภำพผู้ขับขี่รถคันนี้จะต้องปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ หยุดรถและรอให้รถในทำงขวำงหน้ำขับผ่ำนไปก่อน 79. จำกภำพผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ หยุดรถและรอให้รถในทำงขวำงหน้ำขับผ่ำนไปก่อน

68

80. จำกภำพรถคันใดมีสิทธิ์ขับผ่ำนไปได้ก่อน

ตอบ รถคัน B 81. จำกภำพเครื่องหมำยแบ่งช่องจรำจรบนพื้นทำงหมำยควำม ว่ำอย่ำงไร

ตอบ ห้ำมผู้ขับขี่แซงเข้ำไปในทำงเดินรถทำงขวำ 82. ในทำงร่วมทำงแยกที่ไม่มีสัญญำณไฟ ถ้ำขับรถมำถึงพร้อม กันรถคันใดมีสิทธิ์ขับผ่ำนไปได้ก่อน

ตอบ รถ ข 83. จำกภำพ รถคัน ก จะต้องปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ หยุดรถเพื่อให้รถจำกทำงด้ำนซ้ำยขับผ่ำนไปก่อน

69

84. จำกภำพผู้ขับขี่รถคันใดสำมำรถขับรถแซงผ่ำนขึ้นหน้ำรถคันอื่นได้

ตอบ รถ ข 85. ผู้ขับ ขี่ต้องกำรเสี้ยวขวำและมีรถทำงตรงวิ่งสวนมำ จะต้อง ปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ หยุดรอให้รถทำงตรงสวนมำก่อนจึงเลี้ยวขวำได้ เครื่องหมายจราจรประเภทต่างๆ 86. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ให้ขับรถช้ำลง และให้ขับรถชิดด้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง เครื่องหมำยจรำจรประเภทต่ำงๆ

70

87. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ข้ำลง ทำงข้ำงหน้ำเป็นทำงโค้งรัศมีแคบไปทำงขวำ 88. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลงและเดินรถด้วยควำมระมัดระวัง 89. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถด้วยควำมระมัดระวัง ทำงข้ำงหน้ำมีท ำงโทแยกไป ทำงซ้ำย

71

90. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถด้วยควำมระมัดระวัง ทำงข้ำงหน้ำมีทำงโทแยกไปทำงขวำ 91. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลงและระมัดระวังอันตรำยจำกรถที่สวนมำอีก ฝั่งหนึ่งของสะพำน 92. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลง และสังเกตดูรถไฟทั้งทำงขวำและทำงซ้ำย หำกมี รถไฟก ำลังจะผ่ ำน ให้ ห ยุ ด รถห่ ำงจำกทำงรถไฟอย่ ำงน้ อย 5 เมตร

72

93. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำคง พร้อมที่จะหยุดรถ เมื่อมีเครื่องกั้นทำงปิดกั้น 94. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลงและเพิ่มควำมระมัดระวัง รถมีขนำดกว้ำง ไม่เกิน 2.50 เมตร ผ่ำนได้ 95. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ข้ำลงและเพิ่มควำมระมัดระวัง รถสูงเกิน 2.50 เมตร ห้ำมผ่ำน

73

96. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ข้ำลง ให้เพิ่มควำมระมัดระวังเพรำะทำงขึ้นลำดชัน 97. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลง เพิ่มควำมระมัดระวัง ทำงข้ำงหน้ำขรุขระ มำกมีหลุม มีบ่อ 98. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ข้ำลงให้มำกและระมัดระวังเป็นพิเศษ ทำงข้ำงหน้ำ เป็นทำงลื่น

74

99. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ข้ำลงและระมัดระวัง ทำงข้ำงหน้ำมีวัสดุผิวทำง หลุดกระเด็น 100. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขั บ รถให้ ข้ ำ ลงและเพิ่ ม ควำมระมี ต ระวังเป็ น พิ เศษทำง ข้ำงหน้ำอำจจะมีหินร่วง 101. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ผู้ขับรถในทำงขนำน เตรียมตัวเข้ำทำงหลักและให้ทำงแก่ รถที่อยู่ในทำงหลักผ่ำนไปก่อน

75

102. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ข้ำลงและระมัดระวัง ทำงข้ำงหน้ำมีทำงร่วม ด้ำนซ้ำย 103. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ข้ำลงและระมัดระวัง ทำงข้ำงหน้ำมีทำงร่วม ด้ำนขวำ 104. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถชิดไปต้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง ทำงข้ำงหน้ำ เป็นทำงคู่มีเกำะแบ่งกำรจรำจรเป็นสองทำง

76

105. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ทำงข้ำงหน้ำจะมีที่กลับรถด้ำนขวำ 106. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลงและให้ชิดซ้ำย ทำงข้ำงหน้ำมีรถสวนทำงมำ 107. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลงและพร้อมที่จะปฏิบัติตำมสัญญำณไฟจรำจร 108. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ให้ผู้ขับรถเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถได้ทันทีเมื่อถึงป้ำยหยุด ในทำงข้ำงหน้ำ

77

109. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขั บ รถให้ ข้ ำ ลงและเตรี ย มพร้ อ มที่ จ ะให้ ท ำงแก่ ร ถ ด้ำนหน้ำเมื่อถึงป้ำยให้ทำง 110. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขั บ รถให้ ข้ ำ ลงและเตรี ย มพร้ อ มที่ จ ะให้ ท ำงแก่ ร ถ ด้ำนหน้ำเมื่อถึงป้ำยให้ทำง 111. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ข้ำลง ระวังเด็กนักเรียน ถ้ำเป็นเวลำที่โรงเรียน กำลังสอนควรงดใช้เสียงสัญญำณ

78

112. เมื่อพบเครือ่ งหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับ รถให้ ช้ำลงและระมั ดระวัง ทำงข้ำงหน้ ำอำจมีสัต ว์ ข้ำมทำง 113. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลงและระมัดระวัง เป็นพิเศษ ทำงข้ำงหน้ำมี อันตรำย เช่น ทำงทรุด 114. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลง มีสิ่งกีดขวำงทำงจรำจร สำมำรถผ่ำนไปได้ ทั้งทำงซ้ำยและทำงขวำ

79

115. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับ รถให้ข้ำลงและขับรถไปตำมทำงคดเคี้ยวเริ่มขวำด้วย ควำมระมัดระวัง 116. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ให้ขับรถข้ำลงและระมัดระวังคนงำนกำลังซ่อมทำง 117. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ชีลงและเพิ่มควำมระมัดระวัง ทำงช้ำงหน้ำมีงำน สำรวจทำง

80

118. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขั บ รถให้ ชั ก ลงและเพิ่ ม ควำมระมั ด ระวัง ทำงข้ ำงหน้ ำ มี เครื่องจักรกำลังทำงำน 119. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลงและเพิ่มควำมระมัดระวัง ทำงข้ำงหน้ำต้องใช้ ทำงเบี่ยงด้ำนขวำ 120. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับรถให้ช้ำลงและเพิ่มควำมระมัดระวัง ทำงข้ำงหน้ำต้องใช้ ทำงเบี่ยงด้ำนซ้ำย

81

121. เครื่องหมำยนี้ หมำยควำมอย่ำงไร

ตอบ เริ่มต้นทำงด่วน (ทำงหลวงพิเศษ) 122. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถเพื่อให้คนข้ำมถนน 123. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ห้ำมขับรถแรงรถคันหน้ำ ในเขตที่มีเครื่องหมำยนี้ 124. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ห้ำมขับรถทุกชนิดเข้ำไปในเขตที่ติดตั้งป้ำย

82

125. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ห้ำมกลับรถไปทำงขวำ 126. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ขับ รถทุ ก ชนิ ด เดิ น วนทำงซ้ำยของวงเวีย น หำกเข้ ำวง เวียนต้องให้สิทธิ์รถที่ขับในวงเวียนด้ำนขวำไปก่อน 127. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ ห้ำมแซงดำเข้ำไปในช่องเดินรถประจำทำง 128. เมื่อพบเครื่องหมำยนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่ำงไร

ตอบ รถมีคนนั่งไม่น้อยกว่ำ 3 คน สำมำรถใช้ช่องเดินรถนี้ได้

83

จิตสานึกความปลอดภัย 129. สำนวนใดที่เตือนใจผู้ขับขี่เพื่อให้เกิดควำมปลอดภัย ตอบ ควำมประมำทเป็นบ่อเกิดแห่งควำมตำย 130. กำรปลูกฝังจิตสำนึกควำมปลอดภัยในกำรใช้รถใช้ถนน ควรกระทำที่บุคคลในข้อใดมำกที่สุด ตอบ บุคคลทุกคน 131. เมื่อเกิดอุบัติเหตุและมีผู้บำดเจ็บ ผู้ขับขี่ควรคำนึงถึงสิ่งใด เป็นอันดับแรก ตอบ กำรช่วยเหลือผู้บำดเจ็บ 132. กำรขับรถทิ้งระยะห่ำงจำกรถคันหน้ำมำกเกินไป จะมีผล อย่ำงไร ตอบ เกิดปัญหำกำรจรำจรติดขัด 133. ข้อใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ ตอบ ขับรถด้วยควำมเร็วสูงในที่ที่มีกำรจรำจรพลุกพล่ำน 134. กำรเปลี่ยนช่องทำงจรำจร ควรปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ดูกระจกมองข้ำง เปิดสัญญำณไฟแล้วเปลี่ยนช่องทำงเมื่อ เห็นว่ำปลอดภัย 135. มำรยำทที่ดีในกำรจอดรถ ควรปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ จอดโดยไม่กีดขวำงผู้อื่นและไม่ฝ่ำฝืนกฎจรำจร

84

136. กำรใช้ไฟสูงหรือไฟขอทำง เนื้อใส่รถคับหน้ำแสดงว่ำผู้ขับที่ขำด สิ่งใด ตอบ มำรยำทในกำรขับขี่ 137. สำเหตุใดที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมำกที่สุด ตอบ ขับรถเร็วเกินอัตรำที่กฎหมำยกำหนด การบารุงรักษารถ 138. ถ้ำขั้วแบตเตอรี่มีครำบกรด ข้อใดเป็นวิธีกำรแก้ไขที่ดีที่สุด ตอบ ใช้น้ำอุ่นล้ำงและทำจำระบี 139. ในกำรถอดขั้วแบตเตอรี่ควรถอดขั้วใดก่อน ตอบ ขั้วลบ 140. น้ำที่ใช้เติมในแบตเตอรี่ควรใช้น้ำชนิดใด ตอบ น้ำกลั่น 141. กำรตรวจสอบลมยำงที่ถูกต้องควรปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ใช้เครื่องวัดลมยำง 142. กำรเดิมน้ำในถังพักหม้อน้ำควรอยู่ในระดับใด ตอบ อยู่ระหว่ำงเกณฑ์สูง-ต่ำ ที่กำหนดไว้ข้ำงถังพักน้ำ 143. ควรเปลี่ยนถ่ำยนำมันเครื่อง (น้ำมันเครื่ องทั่วไป เมื่อใช้รถ ไปได้ในระยะทำงเท่ำไร ตอบ 3,000 - 5,000 กิโลเมตร

85

144. เหตุใดจึงไม่ควรเมนำในถังผักหม้อนำให้เต็มถัง ตอบ เพรำะสำรองเนื้อที่กำรขยำยตัวของน้ำเมื่อเกิดควำมร้อน 145. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของน้ำมันหล่อลื่น ตอบ ช่วยระบำยควำมร้อนของหม้อน้ำ 146. กำรตรวจสอบระดั บ น้ ำมั น เครื่ อ งในเครื่ อ งยนต์ ควร ตรวจสอบเมื่อใดดีที่สุด ตอบ หลังดับเครื่องยนต์อย่ำงน้อย 10 นำที กฎหมายจราจร (รถจักรยานยนต์) 147. ข้อใดปฏิบัติถูกต้อง ตอบ รถจักรยำนยนต์ต้องขับในช่องเดินรถด้ำนซ้ำยสุด 148. ในช่ อ งทำงเดิ น รถตั้ งแต่ ส องช่ อ งทำงขึ้ น ไปในทิ ศ ทำง เดียวกันผู้ขับขี่รถจักรยำนยนต์ ต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ต้องขับรถชิดด้ำนซ้ำยสุด 149. ผู้ใดได้รับยกเว้น ไม่ ต้องสวมหมวกนิรภั ยขณะโดยสำร รถจักรยำนยนต์ ตอบ ภิกษุ สำมเณร กฎหมายจราจร (รถยนต์) 150. ข้อใดเปิดไฟฉุกเฉินได้ถูกต้อง ตอบ รถเสียหรือรถเกิดอุบัติเหตุ

86

151. ในกำรบรรทุกสิ่งของ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้ำนหลังไม่เกิน 2.50 เมตร 152. กำรลำกจงรถที่ไม่สำมำรถใช้พวงมำลัยหรือเบรกได้ควรทำ อย่ำงไร ตอบ ใช้วิธีกำรยกหน้ำหรือยกท้ำยลำกไป 153. รถที่มีควำมเร็วข้ำ ผู้ขับขี่จะต้องปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ ขับรถชิตขอบด้ำนซ้ำย เทคนิคขับรถอย่างปลอดภัย (รถยนต์) 154. กำรขับรถขณะฝนตก สิ่งใดที่ผู้ใบที่ไม่ควรปฏิบัติ ตอบ เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทำง 155. เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่ำงไร ตอบ นำรถจอดเข้ำข้ำงทำง เปิดไฟฉุกเฉิน 156. สัญญำณไฟเตือนบนแผงหน้ำปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรำกฏ ขณะขับรถ ตอบ สีแดง 157. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติ อย่ำงไร ตอบ ถอนคันเร่ง จับพวงมำลัยให้มั่นประคองรถต่อไป 158. ขณะขับรถ ถ้ำกระจกปังลมหน้ำรถแตกร้ำว ควรปฏิบัติ อย่ำงไร ตอบ ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน ลดควำมเร็ว จอดรถข้ำงทำง

87

159. เพื่อควำมปลอดภัยในกำรขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบ อุปกรณ์ ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลำดับแรก ตอบ ที่ปัดน้ำฝน 160. กำรหมุนพวงมำลัยรถ ขณะจอดรถอยู่กับที่จะมีผลอย่ำงไร ตอบ ดอกยำงสึกเร็วกว่ำปกติ 161. กำรหยุดรถอย่ำงกะทันหัน (รถไม่ใช้เบรก ABS)ควรปฏิบตั ิ อย่างไร ตอบ เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย้ำเบรกช้ำๆ 162. รถที่ขับมำด้วยควำมเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่ำงกะทันหัน (รถไม่ใช้เบรก ABS) จะมีผลอย่างไร ตอบ ล้อจะล็อค และรถจะหมุน 163. ขณะขับรถยำงรถแตก จะมีอำกำรอย่ำงไร ตอบ พวงมำลัยจะหนัก รถจะเอียง 164. ในขณะขั บ รถ ยำงรถแตกหรื อ ระเบิ ด ผู้ ขั บขี่ ค วรปฏิ บั ติ อย่ำงไร ตอบ คุมสติ บังคับพวงมำลัย ลดควำมเร็วลงและไม่ควรเหยียบ เบรกกะทันหัน 165. ข้อใดเป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร ตอบ ตัดกระแสไฟ หรือหำทำงงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน 166. กำรปรับระดับที่นั่งคนขับห่ำงเกินไป จะมีผลอย่ำงไร ตอบ บังคับพวงมำลัยลำบำก ใช้อุปกรณ์ต่ำง ๆ ไม่สะดวก เกิด เหตุฉุกเฉินไม่สำมำรถใช้คลัทช์และเบรกได้

88

167. ถ้ ำรถเสี ยหลั ก ลื่ น ไถลพร้อ มเสี ยกำรทรงตั ว ควรปฏิ บั ติ อย่ำงไรเป็นลำดับแรก ตอบ ลดควำมเร็ว จับพวงมำลัยให้มั่น 168. กำรจอดรถชิดขอบทำง ล้อหน้ำควรอยู่ในลักษณะใด ตอบ ตรงและขนำนกับขอบทำงหรือฟุตบำต 169. กำรเข้ำเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่ำงไร ตอบ เข้ำเกียร์ยำกและทำให้เกียร์เสียเร็วกว่ำปกติ 170. กำรจับพวงมำลัยขณะขับรถทำงตรง มือซ้ำยและขวำของ ผู้ขับขีค่ วรอยู่ในตำแหน่งลักษณะใดของหน้ำปัดนำฬิกำ ตอบ ตำแหน่งเลข 2 และเลข 10 171. กำรตรวจสอบควำมตึง -หย่อ นของสำยพำนเครื่องยนต์ เบื้องต้น ควรตรวจสอบอย่ำงไร ตอบ ใช้นิ้วมือกดสำยพำนเครื่องยนต์ 172. กำรตรวจสอบระบบไฟฟ้ำในรถยนต์ควรตรวจสอบอะไรบ้ำง ตอบ ไฟเลี้ยวซ้ำย-ขวำและไฟหน้ำสูงต่ำ-ไฟหรี่ ไฟเบรก-ไฟส่อง ป้ำยทะเบียนรถ 173. กำรจับพวงมำลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด ตอบ นิ้ ว มื อ ทั้ งท้ ำ จั บ พวงมำลั ย ให้ ก ระชั บ สำมำรถหมุ น ได้ คล่องตัว

89

ขั้นตอนทดสอบขับรถ ขั้นตอนต่อไปคือ กำรทดสอบขับรถ ถ้ำผู้ทดสอบท่ำนใดสอบไม่ ผ่ำนสำมำรถสอบแก้ตัวใหม่ โดยต้องเว้นระยะ 3 วัน ทั้งนี้เ พื่อให้ผู้ ทดสอบได้ ก ลั บ ไปฝึ ก ฝนกำรขั บ ขี่ ที่ ถู ก ต้ อ งให้ ได้ ก่ อ น ขอให้ ไปถึ ง สถำนที่ทดสอบก่อนเวลำ กำรทดสอบจะเริ่มตั้งแต่เวลำ 9.00 น. เป็น ต้นไป ควรแต่งกำยให้สุภำพ เหมำะสมและมีควำมคล่องตัวในกำรขับ ขี่ทุกอิริยำบถ ทุกกำรเคลื่อนไหว การทดสอบขับรถยนต์ ให้ทดสอบจำนวน 3 ท่ำ ดังนี้ ท่าที่ 1 การขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า

1. ผู้เข้ำรับกำรทดสอบต้องขับรถเดินหน้ำ ตั้งแต่เริ่มขับรถอย่ำง ต่อเนื่องไปจนถึงจุดทดสอบที่กำหนดให้หยุดรถ โดยให้หยุดรถได้เพียง ครั้งเดียว ณ จุดที่กำหนดให้หยุดเท่ำนั้น 2. ด้ำนซ้ำยของรถต้องขนำนขอบทำงและห่ำงจำกขอบทำงไม่ เกิน 25 เซนติเมตร 3. กันชนหน้ำ หรือล้อหน้ำสุด หรือขอบล้อสำหรับรถที่ไม่มีกัน ชนหน้ำต้องไม่ล้ำจุดหยุดรถข้ำงทำง และต้องอยู่ห่ำงจำกจุดหยุดรถ นั้นไม่เกิน 1 เมตร 4. ต้องไม่ขับรถปีนทำงเท้ำ หรือขอบทำ

90

ท่าที่ 2 การขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง เป็นท่าบังคับ

1. ให้ ขั บ รถเดิ น หน้ ำ และถอยหลั งออกโดยตลอดช่ อ งเดิ น รถ ซึ่ ง ประกอบด้วยแนวเส้นที่กำหนดหรือ หลักที่ตั้งไว้ในแนวตรงขนำนกัน 1 แถว มี ค วำมยำวประมำณ 10-12 เมตร หลั ก แต่ ล ะหลั ก ในแถวเดี ย วกั น มี ระยะห่ำง 1.5 เมตร ส่วนควำมกว้ำงของช่องเดินรถเท่ำกับควำมกว้ำงสุดของ ตัวรถรวมกระจกมองข้ำงบวกเพิ่มอีก 0.5 เมตร 2. ต้องไม่ขับรถชน หรือเบียดหลัก ล้ำเส้น หรือล้ำแนวเส้นที่กำหนด 3. ให้ขับรถเดินหน้ำ หรือถอยหลังได้เพียงครั้งเดียว 4. เครื่องยนต์ต้องไม่ดับในระหว่ำงทดสอบ

91

ท่าที่ 3 การขับรถถอยหลังเข้าจอดและออกจากช่องว่างด้านซ้าย

1. ให้ขับรถถอยหลังเข้ำจอดในช่องว่ำงด้ำนซ้ำยซึ่งประกอบด้วย หลัก เส้นหรือแนวเส้นที่กำหนด หำกเป็นหลักต้องไม่น้อยกว่ำ 9 หลัก เป็นช่องกว้ำงเท่ำกับควำมกว้ำงของรถรวมกระจกมองข้ำงบวกเพิ่มข้ำง ละ 0.5 เมตร ควำมยำวของช่องจอดเท่ำกับควำมยำวของตัวรถบวกเพิ่ม อีก 2.5 เมตร 2. ตั้งแต่เริ่มเข้ำเกียร์ขับรถถอยหลังเข้ำจอด จนกระทั่งขับออก จำกช่องว่ำงด้ำนซ้ำยต้องเข้ำเกียร์ หรือเปลี่ยนเกียร์ไม่เกิน 7 ครั้ง 3. ต้องไม่ชนหรือเบียดหลัก ล้ำเส้น หรือล้ำแนวเส้นที่กำหนด 4. ตัวรถต้องขนำนกับขอบทำงหรือทำงหลัก เส้นหรือแนวเส้นที่ กำหนดด้ำนซ้ำย โดยไม่เบียดหลักขอบทำง หรือทับเส้น หรือทับแนวเส้น ที่กำหนด

92

การทดสอบขับรถจักรยานยนต์ ให้ทดสอบจานวน 3 ท่า ดังนี้ ท่ ำ ที่ 1 เป็ น ท่ ำ บั ง คั บ และเลื อ กทดสอบอี ก 2 ท่ ำ ตำมควำม เหมำะสมของสนำมทดสอบ (ส่วนใหญ่จะเป็นท่ำที่ 2 กับท่ำที่ 4) อย่ำลืม สวมหมวกนิรภัยในกำรขับขี่ และหำกสวมถุงมือซึ่งจะช่วยซับเหงื่อ ในขณะ ขับขี่ สวมเสื้อแขนยำว กำงเกงขำยำว รองเท้ำทุ้มส้นหรือผ้ำใบ จะช่วยให้ ท่ำนมีควำมปลอดภัยในกำรขับขี่ยิ่งขึ้น ท่าที่ 1 การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร

1. ให้ผู้เข้ำรับกำรทดสอบปฏิบัติตำมเครื่องหมำยจรำจรไม่น้อยกว่ำ 5 เครื่องหมำย คือ ป้ำยหยุด ห้ำมเลี้ ยวซ้ำย หรือห้ำมเลี้ยวขวำ ให้เลี้ยวซ้ำย หรือให้เลี้ยวขวำ ห้ำมหยุดรถ ห้ำมเข้ำ 2. ต้องให้สัญญำณไฟตำมจุดต่ำงๆได้ถูกต้องทุกแห่ง คือ ให้สัญญำณ ไฟเมื่อจะเลี้ยวขวำ ให้สัญญำณไฟเมื่อจะเลี้ยวซ้ำย ให้สัญญำณไฟเมื่อจะ หยุดรถ

93

ท่าที่ 2 การขับรถทรงตัวบนทางแคบ

1. ต้ อ งขั บ ขี่ โดยทรงตั ว บนอุ ป กรณ์ ที่ ใช้ ไม้ ก ระดำนกว้ ำ ง 30 เซนติ เมตร ยำว 15 เมตร หรือใช้คอนกรีต เทเป็น แนวเส้น ตรงตำม ขนำดดังกล่ำวให้สูงประมำณ 2-3 เซนติเมตร โดยให้กำหนดจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดห่ำงจำกไม้กระดำนหรือแนวคอนกรีต 8 เมตร 2. ต้ อ งขั บ ผ่ ำ นตลอดตั้ ง แต่ ต้ น จนจบใช้ เวลำไม่ น้ อ ยกว่ ำ 10 วินำที และเริ่มนับเวลำเมื่อล้อหลังขึ้นอยู่บนอุปกรณ์ และสิ้นสุดเมื่อล้อ หน้ำลงจำกอุปกรณ์ 3. ในระหว่ำงขับ เท้ำต้องไม่หลุดจำกที่พักเท้ำ ล้อต้องไม่ตกหรือ ลื่นไถลจำกอุปกรณ์ ใช้ควำมเร็วอย่ำงเหมำะสม และเครื่องต้องไม่ดับ ระหว่ำงทดสอบ

94

ท่าที่ 3 การขับรถผ่านทางโค้งรั งรัศมีแคบรูปตัวแซด

1. ให้ ขั บ รถในทำงโค้ ง รั ศ มี แ คบที่ ใช้ ห ลั ก หรื อ กรวย หรื อ ใช้ คอนกรีตเทเป็นรูปตัวแซด (2) ที่มีช่องเดินรถกว้ำง 2 เมตร กรวยหรือ หลัก ห่ำงกัน 1.5 เมตร ฐำนบนและฐำนล่ำงของตัวแซดยำว 16 เมตร 2. ให้ ขับรถข้ำ ใช้เกียร์ต่ำ และสำมำรถควบคุมรถขับเลี้ยวขวำ และเลี้ยวซ้ำยไปได้ตลอด ห้ำมลื่นไถลหรือรถล้ม 3. ต้องไม่ขับรถชนกรวย หรือคอนกรีตเทเป็นรูปตัวแซด (Z) 4. เครื่องยนต์ต้องไม่ ดับในระหว่ำงทดสอบ 5. ไม่ใช้เท้ำแตะพื้น

95

ท่าที่ 4 การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง

1. ให้ขับรถด้วยควำมเร็วที่ 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับรถ หลบหลี ก กรวยยำงที่ ตั้ ง ไว้ ส ำหรั บ ทดสอบ ไปทำงด้ ำ นซ้ ำ ยและ ด้ำนขวำในลักษณะสลับพันปลำ ซึ่งกรวยยำงตั้งบนพื้นที่มีควำมกว้ำง 3.5 เมตร จำนวน 5 อัน เป็นเส้นตรงบริเวณกึ่งกลำงของพื้นที่ที่ใช้ทำ กำรทดสอบ โดยให้กรวยยำงแต่ละอันมีระยะห่ำง 5 เมตร โดยให้ จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดมีระยะห่ำงจำกกรวยยำง ในระยะที่เหมำะสม ให้สำมำรถตั้งตัวรถและระยะเบรกหยุดรถได้โดยปลอดภัย 2. ในระหว่ำงขับรถต้องสำมำรถควบคุมรถได้ดี ไม่เสียหลัก ลื่น ไถลไม่เฉี่ยว หรือชนสิ่งกีดขวำง หรือขอบทำง 3. เครื่องยนต์ต้องไม่ดับในระหว่ำงทดสอบ

96

ขั้นตอนการชาระค่า รรมเนียม/ถ่ายรูปและรับใบอนุญาตดังนี้

ตารางอัตราการชาระค่า รรมเนียม

ยื่นเอกสำรตำมรำยละเอียดข้ำงต้น พร้อมชำระค่ำธรรมเนียมดัง ตำรำง อัตรำกำรชำระค่ำธรรมเนียม แล้วรับบัตรคิวเรียกชื่อถ่ำยรูป เป็นอันเสร็จสิ้นในกำรขอใบอนุญำตขับรถ

แบบทดสอบ Google Form สื่อกำรเรียนรู้กำรสอบใบอนุญำตขับรถ

97

บรรณานุกรม 1. พระรำชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 2. พระรำชบัญญัติจรำจรทำงบก พ.ศ. 2522 3. ระเบียบกรมกำรขนส่งทำงบก ว่ำด้วยกำรดำเนินกำรเกี่ยวกับใบอนุญำตขับรถและบัตรประจำตัว คนขับรถตำมกฎหมำยว่ำด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2564 4. ศูนย์สอนขับรถและพัฒนำศักยภำพผู้ขับรถยนต์ กรมกำรขนส่งทำงบก 5. กลุม่ สื่อสำรเพื่อควำมปลอดภัย สำนักสวัสดิภำพกำรขนส่งทำงบก กรกำรขนส่งทำงบก 6. บัตรประจำตัวประชำชน แหล่งที่มำ : https://library.mju.ac.th/pr/?p=10534 7. หนังสือเดินทำง (PASSPORT ) แหล่งที่มำ : https://www.sanook.com/travel/1400969/ 8. ใบรับรองแพทย์ แหล่งที่มำ : shorturl.asia/tJdkG 9. ลักษณะรถที่ห้ำมนำมำใช้ในทำง แหล่งที่มำ : shorturl.asia/1LYBC 10. กำรใช้ไฟของรถ แหล่งที่มำ : shorturl.asia/0Uyir 11. กำรใช้เสียงสัญญำณของรถ แหล่งที่มำ : https://bit.ly/3CGhw2y 12. รถฉุกเฉิน.2021 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/hs6AE 13. ใบอนุญำตขับขี่.2020 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/kHwM1 14. กำรขับแซงและผ่ำนขึ้นหน้ำ แหล่งที่มำ : https://www.shorturl.asia/aV8NR 15. ป้ำยทำงโค้งอันตรำย.2017 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/kZKHu 16. ทำงข้ำม ทำงร่วมทำงแยก.2014 แหล่งที่มำ : http://shorturl.asia/qVA5l 17. ทำงมีหมอก ฝน ฝุ่นหรือควัน.2020 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/E1Lre 18. คับขันหรือเขตปลอดภัย.2019 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/ig452 19. เมำไม่ขับ.2019 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/TA1Oh 20. กำรตรวจระดับแอลกอฮอล์ในเลือดตรวจ.2019 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/RHm4k 21. หมวกนิรภัย แหล่งที่มำ : shorturl.asia/yYbHM 22. เข็มขัดนิรภัย.2020 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/rG9sn 23. ด้ำนซ้ำยของทำงเดินรถมีสิ่งกีดขวำง หรือถูกปิดกำรจรำจร แหล่งที่มำ : http://shorturl.asia/kjrC2 24. ทำงเดินรถนั้นเจำพนักงำนจรำจรกำหนดให้เป็นทำงเดินรถทำงเดียว แหล่งที่มำ : shorturl.asia/KVpQh

98 25. ห้ำมขับในขณะหย่อนควำมสำมำรถในอันที่จะขับ.2017 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/IV3t5 26. ห้ำมขับในลักษณะกีดขวำงกำรจรำจร.2018 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/lj1ZX 27. ห้ำมขับโดยประมำทหรือน่ำหวำดเสียว แหล่งที่มำ : shorturl.asia/vWuL6 28. ห้ำมขับคร่อมหรือทับเส้นหรือแนวแบ่งช่องเดินรถ แหล่งที่มำ : shorturl.asia/vhVGj 29. ห้ำมขับบนทำงเท้ำโดยไม่มีเหตุอันสมควร แหล่งที่มำ : shorturl.asia/TZlJA 30. ห้ำมขับในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ แหล่งที่มำ : shorturl.asia/z5EaJ 31. ป้ำยจรำจรประเภทป้ำยบังคับ แหล่งที่มำ : https://bit.ly/3FwYpKj 32. ป้ำยจรำจรประเภทเตือน แหล่งที่มำ : shorturl.asia/5dysc 33. ป้ำยเตือนประเภทงำนก่อสร้ำง แหล่งที่มำ : shorturl.asia/Xygum 34. ประเภทป้ำยแนะนำ แหล่งที่มำ : shorturl.asia/v7Wf6 35. มำรยำทในกำรขับรถและกำรขับรถอย่ำงปลอดภัย.2018 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/kYahw 36. กำรบำรุงดูแลรักษำรถ แหล่งที่มำ : shorturl.asia/xsL6n 37. ตรวจเช็คลมยำง แหล่งที่มำ : shorturl.asia/jcX9b 38. ตรวจเช็คของเหลวในเครื่อง.2018 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/HYykd 39. ตรวจเช็คแบตเตอรี่เป็นประจำ แหล่งที่มำ : shorturl.asia/OSzBb 40. ตรวจเช็คสำยพำน.2021 แหล่งที่มำ : shorturl.asia/pLi5U 41. ตรวจเช็คหัวเทียน แหล่งที่มำ : shorturl.asia/txyT6 42. ล้ำงรถและทำควำมสะอำดห้องโดยสำร อย่ำงน้อยเดือนละครั้ง แหล่งที่มำ : shorturl.asia/avzom 43. กำรใช้ผ้ำคลุมรถ แหล่งที่มำ : shorturl.asia/kzjJ1 44. กำรจอดรถทิ้งไว้กลำงแดดร้อน และไม่บรรทุกของหนักบ่อยๆ แหล่งที่มำ : shorturl.asia/LWSsR

99

Get in touch

Social

© Copyright 2013 - 2024 MYDOKUMENT.COM - All rights reserved.